เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 323 (II) มาถึง
Sign in Buddha’s palm 323 (II) มาถึง
“เกือบจะคุ้นเคยกับพลังหลังจากการทะลวงขอบเขตแล้ว รักษาเสถียรภาพของขอบเขตได้แล้วต่อไปคงจะถึงเวลาไปจัดการกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้า”
ดวงตาของซูฉินนั้นลึกล่ำก้าวขาออกไปหนึ่งก้าว หายตัวไปจากโถงพระราชวังสูงตระหง่านสีด่าไปยืนอยู่บนท้องฟ้าเหนือเมืองฉางอัน
“นิกายเทพเจ้าสายฟ้า….”
ซูฉินเบิกเนตรดวงตาแห่งสัจจะ ทันใดนั้นฟ้าดินก็กลายเป็นเหมือนกับภาพลวงตาแสดงพลังที่ทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอนับไม่ถ้วนไอพลังทั้งใกล้และไกลปรากฏขึ้นในสายตา
หลังจากก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี ทิพยอํานาจดวงตาแห่งสัจจะก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เช่นกัน แม้ว่าจะมันจะห่างไกลออกไปเป็นระยะทางนับแสนลี้แต่ก็ยังสามารถจับตําแหน่งของนิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้
ท้ายที่สุดเป็นเพราะซูฉันเคยเห็นศิษย์นิกายเทพเจ้าสายฟ้ามาก่อนหลังจากที่ศิษย์เหล่านั้นกลับไปยังนิกายเทพเจ้าสายฟ้าพวกเขาต่างก็กลายเป็น “ตัวบอกตําแหน่งให้กับซูฉินในการจับพิกัดของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า
ในเวลาเดียวกัน
ด้านนอกเกาะเทพเจ้าสายฟ้า ขุมกําลังในต่างดินแดนจํานวนมากกําลังมารวมตัวกัน
หลังจากที่ซูฉินสังหารเหลยเฉียนจือ เขาก็ได้กล่าวต่อหน้าสาธารณชนว่าเขาจะเดินทางไปยังนิกายเทพเจ้าสายฟ้าด้วยตนเองเมื่อข่าวนี้ออกมา มันก็ทําให้คนในนิกายเทพเจ้าสายฟ้าตื่นตระหนก แต่สําหรับขุมกําลังอื่นที่ไม่ใช่นิกายเทพเจ้าสายฟ้า มันย่อมเป็นการต่อสู้ที่หาได้ยากยิ่งในรอบพันปีอย่างแน่นอน
ไม่รู้ว่ามีผู้ฝึกยุทธกคนต่อกี่คนที่รวมตัวกันอยู่นอกเกาะเทพเจ้าสายฟ้า อยากจะเห็นซูฉินลงมือด้วยตาของตนเอง
สุดท้ายแล้วเป็นเพราะชื่อเสียงของซูฉินนั้นยิ่งใหญ่เกินไป ไม่เพียงแต่เป็นเซียนเทพปฐพีซึ่งหายากในรอบพันปีแต่ยังสังหารตัวตนไร้เทียมทานอย่างเซียนเทพปฐพี่เหลยเฉียนจือด้วย
และนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็มิใช่อ่อนแอ เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอดนับตั้งแต่สืบทอดมรดกมาจากยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด
ผู้ที่ไร้เทียมทานกับผู้ที่เจริญรุ่งเรืองมานับหมื่นปีทุกคนล้วนต้องการทราบผลของการต่อสู้ครั้ง
แม้แต่นิกายใหญ่แห่งอื่นๆ อย่าง สํานักผู้วิเศษ สํานักเอกะวิถี และนิกายอื่นๆ ที่อยู่ใกล้กับนกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ล้วนมาถึงบริเวณนอกเกาะเทพเจ้าสายฟ้าแล้ว
“ทําไมที่นี่คนเยอะเช่นนี้……”
จอมยุทธหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนเกาะที่มีขนาดไม่กี่ลี้ มองดูตํานานยุทธที่เหาะเหินเดินอากาศลงมาอยู่ใกล้ๆ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยออกไปสองสามค่า
เขารีบมาที่นี่เพราะได้ยินประมุขพรรคของตนกล่าวว่าจะเกิดเหตุการณ์สําคัญในรอบหมื่นปีที่เกาะเทพเจ้าสายฟ้า
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังต้องการจะลงมือปราบปรามนิกายเทพเจ้าสายฟ้าและพวกเราสามารถสังเกตการลงมือของมนุษย์สวรรค์ได้ แม้จะอยู่ห่างไกลแค่ไหนแต่ใครบ้างจะไม่รีบมา”
ชายวัยกลางคนที่มีสีหน้าเย็นชาด้านข้างก็กระซิบออกมา
“มนุษย์สวรรค์อาณาจักรถัง…..”
รูม่านตาของจอมยุทธหนุ่มหดตัวลงเล็กน้อย เป็นธรรมดาที่เขาจะรู้จักซูฉิน ดินแดนโพ้นทะเลในปัจจุบันซูฉันเป็นหนึ่งในตัวตนที่อหังการและไม่ควรยั่วยุที่สุด
“ข้าไม่รู้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะสามารถป้องกันพลังของมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังได้หรือไม่”จอมยุทธที่มีริ้วรอยบนใบหน้าถอนหายใจออกมาเล็กน้อยมองไปยังเกาะเทพเจ้าสายฟ้าจากระยะไกล
ในตอนนี้ แม้หน้าฉากของเกาะเทพเจ้าสายฟ้าจะดูสงบราบเรียบ แต่หากมองให้ลึกเข้าไปจะเห็นว่าเกาะเทพเจ้าสายฟ้ามีความผันผวนเล็กน้อยเนื่องจากการทํางานของค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่
เพื่อต่อต้านซูฉิน เห็นได้ชัดว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะต้องใช้ค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่ทั้งหมดและภูมิหลังทั้งหลายก็ต้องเผยออกมาจนหมดสิ้น
“จะปิดกั้นได้หรือไม่?”
“หากนิกายเทพเจ้าสายฟ้ารักษาตําแหน่งนี้โดยไม่หนีไปไหน แม้มนุษย์สวรรค์จะลงมือจนสะเทือนฟ้านิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็คงจะไม่เป็นอะไร”
“อย่างไรเสีย ในส่วนลึกของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า ก็มีสมบัติล่ำค่าถึงขีดสุดอยู่เมื่อสมบัติล่ำค่าตื่นขึ้นใครเล่าจะหยุดมันได้?”
ชายชุดชาวที่มีประกายปัญญาในดวงตากล่าวขึ้นอย่างช้าๆ
อะไรคือรากฐานที่สําคัญที่สุดที่นิกายใหญ่ระดับสูงอย่างนิกายเทพเจ้าสายฟ้าสํานักผู้วิเศษและสํานักเอกะวิถีสืบทอดต่อมาตั้งแต่ยุคเฟื่องฟูกระแสปราณฉีครั้งล่าสุด?
ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่?หรือเซียนเทพปฐพี?
ล้วนไม่ใช่ทั้งคู่
ครึ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตเซียนเทพปฐพี่สามารถปกป้องนิกายเทพเจ้าสายฟ้าได้เท่านั้น ส่วนเซียนเทพปฐพีแม้จะทําให้นิกายเทพเจ้าสายฟ้ารุ่งเรืองในดินแดนโพ้นทะเลได้แต่ก็อยู่ได้แค่พันปี
เพราะท้ายที่สุดแม้แต่เซียนเทพปฐพีก็มีช่วงชีวิตเพียงพันปีเท่านั้น
แต่มรดกนิกายเทพเจ้าสายฟ้ามีมาเป็นหมื่นปี
ด้วยระยะเวลายาวนานเช่นนี้ นิกายเทพเจ้าสายฟ้าอาศัยพลังยับยั้งของ สมบัติล่ำค่า
เฉพาะสมบัติล่ำค่าจากผู้ทรงพลังถึงขีดสุดเท่านั้นที่สามารถปกป้องนิกายเทพเจ้าสายฟ้าจนเจริญรุ่งเรืองมาได้ถึงทุกวันนี้
เซียนเทพปฐพีนั้นมีวันแก่ชราและตกตาย แต่สมบัติล่ำค่านั้นไม่มี
หรือบางทีสมบัติล่ำค่าก็อาจจะมีวันเสื่อมสลาย แต่ระยะเวลาของมันคงจะเป็นหลายหมื่นปีอย่างแน่นอน
“สมบัติล่ำค่า….”
จอมยุทธคนอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ เมื่อได้ยินคํากล่าวนั้น สีหน้าของพวกเขาก็ตึงขึ้นมา
ยืนหยัดอยู่ในดินแดนโพ้นทะเลมานับหมื่นปี มีเซียนเทพปฐพี่กําเนิดขึ้นมากกว่าสิบ และมีเหตุการณ์เมื่อหลายพันปีก่อน มีเซียนเทพปฐพี่มาเยือนนิกายเทพเจ้าสายฟ้าด้วยตนเอง
อย่างไรก็ตาม ในตอนสุดท้าย เหล่าบรรพชนนิกายเทพเจ้าสายฟ้าทั้งหมดต่างตื่นขึ้นมาพร้อมกันร่วมกันใช้ทักษะลับของนิกายเทพเจ้าสายฟ้า พันสายฟ้าฉุดกระชากเรียกสายฟ้ารัศมีนับ หมื่นเมตรใส่สมบัติล่ำค่าสร้างพลังให้กับสมบัติล่ำค่าจนเซียนเทพปฐพี่ที่บุกเข้ามานั้นต้อง สะเทือน
ในเวลานั้น รัศมีของสมบัติล่ำค่ากว้างใหญ่และทรงพลังจนเกือบจะบดบังท้องฟ้าและผืนดินเซียนเทพปฐพี่ที่มีเรื่องกับนิกายเทพเจ้าสายฟ้าก็ถอยหนีจากไปในทันที
“หากนิกายเทพเจ้าสายฟ้าปลุกสมบัติล่ำค่าขึ้นมาจริงๆ ก็มีโอกาสอย่างมากที่จะสกัดกั้นมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังได้…”
จอมยุทธส่วนใหญ่พยักหน้าเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างเห็นด้วย
แม้ว่าซูฉินจะสังหารเซียนเทพปฐพี่อย่างเหลยเฉียนจือได้แต่สมบัตินั้นถูกทิ้งไว้โดยผู้ทรงพลังถึงขีดสุดแม้ว่ามันจะฟื้นพลังขึ้นมาได้เพียงน้อยนิดแต่พลังที่ปลดปล่อยออกมาย่อมเหนือกว่าเซียนเทพปฐพทั่วไป
“แม้ว่านิกายเทพเจ้าสายฟ้าจะกระตุ้นสมบัติล่ำค่า อย่างมากที่สุดก็คงทําได้เพียงป้องกันตนเองเท่านั้น ไม่ควรเป็นปัญหาสําหรับมนุษย์สวรรค์อาณาจักรถังที่จะล่าถอยกลับไป”
ชายผู้มีประกายปัญญาในดวงตาก็พลันกล่าวต่อไป
“มิผิด”
“สมบัติล่ำค่านั้นทรงพลังอย่างแน่นอน แต่นิกายเทพเจ้าสายฟ้าในตอนนี้ไม่มีแม้แต่เซียนเทพปฐพีแม้ว่าสมบัติล่ำค่าจะถูกผืนปลุกให้ตื่นขึ้น มันจะใช้พลังออกมาได้มากแค่ไหนเชียว?”
“แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น ก็ไม่เพียงจะได้เห็นมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังลงมือเท่านั้นแต่ยังได้เห็นพลังของสมบัติล่ำค่าด้วย การเดินทางมาในครั้งนี้ต้องคุ้มค่าอย่างแน่นอน”
จอมยุทธทั้งหลายต่างกล่าวออกด้วยเสียงเบา แต่ในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
นี่เป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาจึงเดินทางไกลมาจากทั่วทุกมุมโลก เซียนเทพปฐพี่ยังเป็นตัวตนที่ยากจะเจอในรอบพันปี นับประสาอะไรกับสมบัติล่ำค่า?
“ถ้าสามารถเรียนรู้บางอย่างได้จากพลังของสมบัติล่ำค่า เกรงว่ามันจะเป็นประโยชน์ไปชั่วชีวิต….
จอมยุทธที่มีใบหน้าอ่อนโยนกล่าวออกด้วยน้ําเสียงที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
“เรียนรู้?”
“นิกายเทพเจ้าสายฟ้าครอบครองสมบัติล่ำค่ามากว่าหมื่นปี ยังไม่เห็นจะเรียนรู้อะไรเลยแค่มองดูเฉยๆ จะเข้าใจอะไรได้หรือ?”
แววดูถูกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของตํานานยุทธ แต่แล้วร่องรอยการดูถูกนั้นก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นความคลั่งไคล้
“ข้ามารอที่นี่เพื่อได้พบมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถัง หากเป็นมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังแล้วล่ะก็ต่อให้ถูกจับไปเป็นทาสก็คงจะได้รับผลประโยชน์ไปตราบชั่วชีวิต……”
ตํานานยุทธคนที่กล่าวออกมานี้เป็นตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่ห้า ในอดีต ผู้เยี่ยมยุทธระดับนี้เพียงพอที่จะมองข้ามทุกสิ่งในต่างดินแดนแล้ว แต่ในเวลานี้เขากลับเต็มใจที่จะกลายเป็นทาส
อย่างไรก็ตาม
จอมยุทธคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านข้าง พวกเขาไม่เพียงไม่รู้สึกแปลกใจ แต่ดวงตาของพวกเขากลับเป็นประกายไปด้วย
แม้ว่าพลังของสมบัติล่ำค่าจะสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน แต่จะเป็นไปได้หรือที่จอมยุทธเหล่านี้ซึ่งไม่ได้เป็นแม้แต่เซียนเทพปฐพี่จะเข้าใจมันได้?
แต่ซูฉินนั้นต่างออกไป
หากได้เป็นคนรับใช้ของเซียนเทพปฐพีจริงๆ มันย่อมเป็นโอกาสที่ดีอย่างแน่นอน
สิ่งที่ตกหล่นออกมาจากมือของเซียนเทพปฐพี ก็เพียงพอที่จะช่วยเหลือพวกเขาต่อไปได้ตลอดชีวิตแล้ว
ยิ่งกว่านั้น นี่เป็นเพียงกรณีของการเป็นทาสรับใช้ หากมนุษย์สวรรค์แห่งอาณาจักรถังจู่ๆ ก็ตั้งใจจะรับศิษย์ สําหรับจอมยุทธจํานวนมากในพื้นที่แห่งนี้ มันคงเป็นโอกาสที่หาได้ยากในรอบพันปีหมื่นปี
การเป็นทาสของเซียนเทพปฐพี่ก็ทําให้ได้รับประโยชน์มากมายแล้ว นับประสาอะไรกับศิษย์สาวก?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ จอมยุทธในที่แห่งนี้ก็พากันตาร้อนผ่าว ไม่ใช่แค่ต้องการให้ซูฉินปรากฏตัวในตอนนี้ยังอยากจะแสดงให้เห็นด้วยว่าพวกเขานั้นเก่งกาจแค่ไหนต่อหน้าซูฉิน
เวลาผ่านเลยไปอย่างช้าๆ
ไม่กี่วันก็ผ่านไปในพริบตา
ท่ามกลางการตั้งหน้าตั้งตารอคอยของจอมยุทธนับไม่ถ้วนจากต่างดินแดน ท้องฟ้าพลันมืดลงทันใดนั้นละอองฝนก็โปรยปรายลงมา
“ฝนตก?”
จอมยุทธบางคนมองขึ้นไปบนท้องฟ้า
โลกยุทธภพต่างดินแดนนั้นมีทะเลและมหาสมุทรอยู่ทั่วไป ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ฝนจะตกลงมา
ทันใดนั้น จอมยุทธจํานวนมากในที่แห่งนี้ก็โคจรกําลังภายใน บ่อยครั้งที่หยาดฝนสามารถทําให้แห้งระเหยไปได้ด้วยกําลังภายในก่อนที่มันจะตกลงสู่ร่างกาย
“ไม่ถูกต้อง
“ไม่ใช่ฝนตก”
“เป็นมนุษย์สวรรค์ที่มาถึงที่นี่แล้ว”
ตํานานยุทธระดับนภาชั้นที่หกดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงบางอย่าง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันใดและมองไปยังทิศทางหนึ่งด้วยอาการเคร่งขรึม
เช่นเดียวกับตัวตนอันแข็งแกร่งคนอื่นๆ ต่างก็มองไปในทิศทางเดียวกัน
เห็นเมฆดําค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามา บดบังท้องฟ้าไปครึ่งหนึ่ง
ภายใต้เมฆดํามีพายุรุนแรง และในกลุ่มพายุทั้งหลายนี้ มีเส้นสีขาวเล็กๆโผล่ออกมาอย่างช้าๆ
หากมองดีๆ จะเห็นว่าเส้นสีขาวนี้เป็นคลื่นน้ําขนาดใหญ่ ยาวหลายร้อยลี้ คลื่นลูกใหญ่นี้ซัดสาดไปทั่วราวกับอานุภาพแห่งสวรรค์
“นั่นคือ?”
ดูเหมือนทุกคนจะค้นพบบางสิ่ง ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปมาก ต่างกําลังตกตะลึง
เห็นชายร่างสูงเพรียวยืนอยู่บนคลื่นยักษ์ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยล์ ข้ามผืนฟ้าผืนทะเลราวกับเทพเจ้ามังกรผู้ควบคุมมหาสมุทรและลมพายุ
มือทั้งสองไพล่ไปด้านหลัง กลิ่นอายนั้นไม่อาจหยั่งถึงราวกับขุมนรกไร่กันบึงและดูเหมือนจะมีดวงตะวันขนาดมหึมาอยู่ลึกลงไปในม่านตาของเขา ส่องแสงราวกับดวงอาทิตย์บนฟากฟ้า