เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล - ตอนที่ 293 (II) ตัดสังหาร
Sign in Buddha’s palm 293 (II) ตัดสังหาร
บรรพบุรุษเหลยสิ่งและบรรพชนนิกายเฮยหยวนจ้องเขม็งไปที่ทะเลสายฟ้ารัศมีพันเมตร
แม้ว่าทั้งคู่จะมั่นใจในพันสายฟ้าฉุดกระชากแต่ความแข็งแกร่งของซูฉินนั้นน่ากลัวเกินไปไม่ว่าจะเป็นบรรพบุรุษเหลยสิ่งหรือบรรพชนนิกายเฮย หยวนต่างก็มีร่องรอยความกังวลอยู่ในใจ
เพื่อใช้ทักษะฆ่าตัวตายนี้ บรรพบุรุษเหลยสิงถึงกับต้องยอมเสียร่างกายไป หากยังไม่สามารถจัดการกับซูฉินได้อีกพวกเขาก็ไม่รู้จะทําอย่างไร แล้วจริงๆ
ในตอนนั้นเอง
ทะเลสายฟ้าพันเมตรเริ่มสั่นคลอนและบิดเบี้ยว
ร่างผอมเพรียวเดินออกมาจากทะเลสายฟ้าโดยไม่รีบร้อน
แน่นอนว่านั่นคือซูฉิน
ในตอนนี้ ซูฉินดูสุขสบาย ราวกับทะเลสายฟ้ารัศมีพันเมตรอันน่ากลัวนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเขาเลย
“เป็นไปได้อย่างไรกัน?!”
บรรพบุรุษเหลยสิ่งและบรรพชนนิกายเฮยหยวนเมื่อเห็นฉากนี้ก็ต่างหน้าเปลี่ยนสี
พวกเขาคาดเดาฉากจบเอาไว้ คิดไว้แล้วว่าซูฉินอาจจะรอดมาจากท่าไม้ตายอย่างพันสายฟ้าดกระชากแต่ต้องเป็นสภาพที่บาดเจ็บสาหัส เป็น ไปได้อย่างไรที่จะสามารถเดินเหินไปยังที่ต่างๆได้เช่นนี้?
“ข้าก็ได้บอกไปแล้ว”
“สายฟ้านั้นไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า”
ซูฉินสายศีรษะอีกครั้ง
ทันทีหลังจากนั้น
ท่ามกลางสายตาที่ตื่นตะลึงของทุกคน
ซูฉินก็เผยอริมฝีปากออกเล็กน้อยสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ฉับพลัน ทะเลสายฟ้ากว้างนับพันเมตรที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มสั่นคลอนบิดเบี้ยว และในที่สุดทั้งหมดก็กลายเป็นคลื่นสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวพุ่ง เข้าไปในปากของซูฉิน
ทะเลสายฟ้าพันเมตรที่บรรพบุรุษเหลยสิ่งต้องจ่ายออกด้วยร่างกายกลับถูกซูฉินสูบกินไม่มี เหลือ
“อีกนิดเดียว”
หลังจากที่ซูฉินกลืนทะเลสายฟ้าพันเมตร เข้าไปในคําเดียวเขาก็สัมผัสถึงมันอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดสีหน้าของเขาก็ดูเสียใจ
หากใช้ทะเลสายฟ้าขนาดพันเมตรแบบนี้อีกสักสิบหรือยี่สิบแห่งเพื่อฝึกฝนห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าและใช้พลังของห้าหมัดสายฟ้าเทพเจ้าเพื่อ ขัดเกลาร่างกายก็อาจจะทําให้ร่างกายบรรลุถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งที่เจ็ดได้ กลายเป็นร่างกายแห่งธรรมชาติที่แท้จริง
“สัตว์ประหลาด”
“เจ้ามันสัตว์ประหลาด”
เมื่อบรรพบุรุษเหลยสิ่งเห็นทะเลสายฟ้าถูกซูฉินกลืนเข้าไปหมด คลื่นลมก็ปะทุขึ้นมาในใจทันที่
พลังสายฟ้าเป็นสัญลักษณ์แห่งการทําลายล้างแม้จะเป็นนิกายใหญ่อย่างนิกายเทพเจ้าสายฟ้าซึ่งเชี่ยวชาญในด้านสายฟ้าแต่ก็ต้องเกรงกลัวกับ การสัมผัสสายฟ้าอยู่บ้างไม่ต้องกล่าวถึงการกลืนสายฟ้าเข้าไปเลย
รู้หรือไม่ว่าร่างกายของจอมยุทธนั้นแข็งแกร่งแต่อวัยวะภายในยังคงเปราะบางอยู่มากเป็นไปได้อย่างไรที่จะทนต่อพลังของสายฟ้าได้?
แต่ซูฉินกลับกลิ่นทะเลสายฟ้าพันเมตรได้อย่างง่ายดาย…
พฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าร่างกายของซูฉินนั้นแกร่งเกินจินตนาการไปอย่างสมบูรณ์และแม้แต่อวัยวะภายในก็ยังถูกขัดเกลาราวกับเพชรเจียระไนไม่สนใจพลังสายฟ้าจากสวรรค์แม้ แต่น้อย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ บรรพบุรุษเหลยสิ่งและบรรพชนนิกายเฮยหยวนก็รู้สึกสิ้นหวังในทันที
ซูฉินสามารถกลืนสายฟ้าได้ แม้ว่าจะยืนอยู่นิ่งๆแล้วปล่อยให้พวกเขาโจมตี พวกเขาก็คงไม่สามารถทําให้บาดเจ็บได้และหากซูฉินโจมตีสวนกลับมา คงเป็นพวกเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งสองฝ่ายไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ที่เท่าเทียมกันเลย
ซูฉินนั้นอยู่ยงคงกระพันโดยแท้และตราบใดที่พวกเขาผิดพลาดเพียงครั้งเดียว พวกเขาคงไม่อาจรอดชีวิต…
“วิ่ง!!!”
บรรพบุรุษเหลยสิ่งและบรรพชนนิกายเฮยหยวนมองหน้ากันทันใดนั้นร่างของทั้งคู่ก็วูบไหวหลบหนีไปยังทิศทางที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
บรรพบุรุษเหลยสิงในตอนนี้เป็นเพียงจิตวิญญาณแรกกําเนิดเท่านั้น ปราศจากเนื้อหนังคอยพันธนาการความเร็วเกือบจะถึงขีดสุดพริบตาเดียวเขาก็ปรากฏตัวห่างออกไปหลายสิบลี้และบรรพชนนิกายเฮยหยวนเองก็กลายร่างเป็นรูปแบบฝันร้ายด้วยมองไม่เห็นไร้ตัวตนไม่ได้ช้าไปกว่าบรรพบุรุษเหลยสิ่งเลย
“ต้องการที่จะไป?”
“ก็ดูว่าจะไปได้ไหม?”
ซูฉินเยาะเย้ย เหยียดแขนขวาออกคว้าไปยังส่วนลึกของความว่างเปล่า เห็นมีดรูปร่างแปลกๆคล้ายเคียวโค้งเป็นวงดั่งดวงจันทร์ถูกดึงออกมา
มันคือคมมีดเทพเจ้าปีศาจ
สิ่งนี้ได้มาจากการลงชื่อเข้าใช้ที่โลกถปีศาจคมมีดเทพเจ้าปีศาจที่ทรงพลังได้เปรียบนี้น่าสงสัยว่าจะเกี่ยวข้องกับเทพเจ้าปีศาจในส่วนลึกของโลกถ้ําปีศาจ และในเวลานี้มันค่อยๆปลดปล่อยแสงสีดําออกมาราวกับขุมนรก
ฉีก
ทันใดนั้น ฟ้าดินก็กลายเป็นมืดมิดมีเพียงแสงคมมีดสีดําที่ประหนึ่งเป็นช่องว่างมิติถูกตัดผ่านอากาศออกไป
คมมีดเทพเจ้าปีศาจนั้นรวดเร็วมากอยู่แล้วประกอบกับความแข็งแกร่งของซูฉินในตอนนี้ มันก็ พุ่งห่างออกไปหลายสิบลี้ตามไปปรากฏที่ด้านหลังของบรรพบุรุษเหลยสิ่งในทันที
ราวกับบรรพบุรุษเหลยสิ่งสังเกตเห็นบางสิ่งจงกระตุ้นจิตวิญญาณแรกกําเนิดในทันทีสร้างกําแพงขึ้นมาหลายสิบชั้นที่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม
ด้วยคมมีดเทพเจ้าปีศาจเกราะคุ้มกันที่เกิดจากพลังจิตวิญญาณแรกกําเนิดเหล่านี้ก็เป็นราวกับกระดาษแผ่นบางๆฉีกขาดเป็นชิ้นๆเมื่อถูกสัมผัสในที่สุดต่อหน้าสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวสยดสยองของบรรพบุรุษเหลยสิ่ง ร่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดก็ถูกตัดออกเป็นสองส่วน
จิตวิญญาณแรกกําเนิดนั้นไร้รูป
หลังจากถูกตัดออกจากกันจิตวิญญาณแรกกําเนิดของบรรพบุรุษเหลยสิ่งยังคงต้องการดิ้นรนกลับสู่สภาพเดิมแต่น่าเสียดายที่นอกจากความคมที่มีดเทพเจ้าปีศาจมีแล้ว มันยังสามารถปล่อยกลิ่นอายจากขุมนรกมีพลังกัดกร่อนได้สารพัดสิ่งเป็นเคราะห์ร้ายของร่างลวงตาอย่างจิตวิญญาณแรกกําเนิดโดยแท้
ฉีกฉีก
พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่โหยหวน จิตวิญญาณแรกกําเนิดค่อยๆสลายกลายเป็นความว่างเปล่า
“บรรพบุรุษเหลยสิงตายแล้ว?”
ตํานานยุทธหลายคนที่เห็นฉากนี้พลันรู้สึกตาพร่ามัวและไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เห็น
บรรพบุรุษเหลยสิงจากดินแดนโพ้นทะเลจะตกตายง่ายดายเพียงนี้เชียวหรือ?
ขณะที่บรรพชนนิกายเฮยหยวนใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อออกห่างจากซูฉิน เขาก็ได้หนีไปหลายร้อยลี้แล้ว
แม้ว่าคมมีดเทพเจ้าปีศาจจะคมกริบแต่ก็ไม่สามารถเพิกเฉยเรื่องระยะทางได้
ภายในระยะร้อยล้ํา คมมีดจากมีดเทพเจ้าปีศาจจะสามารถรักษาพลังสูงสุดไว้ได้ แต่เมื่อเกินระยะร้อยไปแล้วพลังจะลดลงไปมาก
“ปลอดภัยแล้ว”
บรรพชนนิกายเฮยหยวนสังเกตเห็นว่าบรรพบุรุษเหลยสิ่งตกตายไปแล้ว แม้เขาจะหวาดกลัวก็ตามแต่ในเวลานี้กลับโล่งใจมากกว่า
ในเวลานี้ เขาหลบหนีมาได้หลายร้อยลี้แล้วในระยะทางเท่านี้แม้ฉันจะตวัดมีดเล่มนั้นอีกทีเขาก็คงไม่สามารถไล่ตามมาได้ทันไม่ต้องพูดถึง เรื่องตามมาสังหารเลย
อย่างไรก็ตาม
ช่วงเวลาต่อมา
ซูฉันลืมตาตื่นขึ้น โยนคมมีดเทพเจ้าปีศาจกลับเข้าไปในพื้นที่ระบบและหันไปมองทางบรรพชนนิกายเฮยหยวนที่หลบหนี
ครู่เดียวหลังจากนั้น
ซูฉินก็ก้าวเท้าไปข้างหน้า ยื่นมือควานไปมาในอากาศ
หวิ่ง!!
ประกายแสงจํานวนมากมารวมตัวกัน
ฉับพลัน ประกายแสงในอากาศก็ก่อตัวเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์รูปโค้งยาวอยู่ภายในมือของซูฉิน
ช่วงเวลาต่อมา
มือขวาของเขาถือตัวคันธนู ถือซ้ายทาบไปตามเส้นเชือก
ปิด!
ง้างโค้งออกดั่งดวงจันทร์
ซูม!!!
พลังฟ้าดินในรัศมีหลายสิบลี้โดยรอบพลันปั่นป่วนก่อตัวเป็นคลื่นพลังก้อนมหึมาพุ่งเข้าหาซูฉินอย่างต่อเนื่อง
พูดให้ถูกคือ มันกําลังไปรวมกันที่คันธนูเก้าประกายในมือของซูฉิน
เป็นฉากที่ทําให้รู้สึกใจสั่นสะเทือนเป็นที่ยิ่ง
ไอพลังอันน่าสยดสยองกระจายไปทั่วทุกทิศทางในทันที
ตํานานยุทธทุกคนรับรู้ได้ถึงพลังที่กดขี่ข่มเหง
“นั่นคือ?”
ห่างออกไปหลายร้อยลี้ บรรพชนนิกายเฮยหยวนที่แอบดีใจอยู่เงียบๆ ก็พลันหน้าซีดลง
ในตอนนี้เขารับรู้ได้ถึงจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวตรึงเป้าหมายมายังตัวเขาแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น?”
บรรพชนนิกายเฮยหยวนดูตกใจตัวสั่นไปทั้งตัว
ไม่เพียงแต่บรรพชนนิกายเฮยหยวนเท่านั้นแต่ตํานานยุทธที่อยู่โดยรอบต่างรู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ถึงขนาดสามารถเขย่าโลกได้เลย
หนังศีรษะของบรรพชนนิกายเฮยหยวนชาวาบไปทั่ว
เขาหันหน้ากลับมามองทางซูฉินโดยไม่รู้ตัว
แต่เมื่อหันกลับมา เขาก็ได้เห็นฉากที่จะไม่มีวันลืมได้ลง
มือขวาของซูฉินถือคันธนูที่ประกอบขึ้นจากแสงศักดิ์สิทธิ์มือซ้ายกําลังง่างสายธนูจนสุดบังเกิดแสงเจิดจ้าพลังงานฟ้าดินอันไร้ที่สิ้นสุดเข้ามารวมตัวกันก่อตัวเป็นลูกศรมายาบนคันธนูเก้าประกาย
ทันทีที่ลูกศรก่อตัวสําเร็จ พวกมันก็เปลี่ยนจากภาพมายากลายเป็นวัตถุที่มีอยู่จริงอย่างรวดเร็วร่องรอยจิตสังหารระเหยออกมาจากลูกศรนั้นระเบิดแสงสว่างวาบน่ากลัวยิ่งกว่าสายฟ้าฟาด
จากนั้น
ต่อหน้าสายตาตกตะลึงของบรรพชนนิกายเฮยหยวนซูฉินก็ปล่อยมือซ้ายที่รั้งสายธนูเอาไว้
ฟีด!
แสงศักดิ์สิทธิ์ที่แสนน่ากลัวได้ทะลวงผ่านระยะทางนับพันล้ําในทันที
บรรพชนนิกายเฮยหยวนเมื่ออยู่ต่อหน้าลําแสงศักดิ์สิทธิ์ที่สะเทือนโลกหล้าเช่นนี้ร่างวิญญาณของเขาก็กลับคืนสู่ความว่างเปล่าไปในทันที