บทที่ 184 เข้าสู่เมืองโบราณครั้งแรก
หลังจากความเงียบชั่วครู่ในสายโทรศัพท์ เสียงทุ้มลึกก็ดังขึ้นว่า [เป็นผู้หญิงควรรักนวลสงวนตัวให้มากกว่านี้]
หานสาวชะงักไปครู่หนึ่ง เธอหันโทรศัพท์มาดูแล้วรีบอธิบายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย “คุณพ่อคะ ฟังหนูอธิบายก่อน หนูคิดว่าเป็นโทรศัพท์ของหวังเหมย หนูแค่แกล้งแหย่เธอน่ะค่ะ…”
[ไม่ต้องอธิบายแล้ว ลูกโตแล้ว หลายเรื่องลูกตัดสินใจเองได้” เสียงอันทรงอำนาจในสายโทรศัพท์หยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดช้า ๆ ว่า “รายการครั้งนี้ของลูกอันตรายอยู่บ้าง ระวังตัวด้วย ถ้ามีเวลาว่าง กลับมากินข้าวที่บ้านด้วยกันนะ]
หานสาวถือโทรศัพท์ไว้ อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก พูดอย่างหงุดหงิดว่า “แย่แล้ว กลับบ้านคราวนี้ต้องโดนคุณแม่ว่าแน่ ๆ”
เหอเจ๋อยักไหล่ พูดด้วยสีหน้าช่วยอะไรไม่ได้ “ใครใช้ให้เธอปากไวล่ะ ไม่ดูให้ชัดก่อนว่าเป็นใครก็พูดเลย”
หานสาวเอาผ้าห่มคลุมหัว สีหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยาก
หลังจากรู้ว่าในห้องมีเครื่องดักฟัง ทั้งสองคนก็ระมัดระวังมาก ปากก็พูดหยอกล้อกันไป ส่วนเหอเจ๋อก็รีบเขียนเรื่องราวที่พบเห็นในเมืองโบราณโหลวอี้ลงบนกระดาษอย่างรวดเร็ว
……
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว คงเพราะการเสียเงินสองล้านเป็นบทเรียนให้กับจ้าวอิ๋ง เขาจึงเรียบร้อยขึ้น ไม่เล่นลูกไม้อะไรอีก จัดการเรื่องการถ่ายทำรายการอย่างปกติ ถ้าไม่ใช่เพราะเครื่องดักฟังที่ยังทำงานอยู่ใต้โต๊ะ คงคิดว่าเขาเป็นแค่ผู้จัดการธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
สำหรับแฟนรายการวาไรตี้มากมาย วันนี้ก็เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง การแข่งขันรอบที่สามเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และในรอบนี้ก็จะได้ผู้ชนะเลิศด้วย
อาจเพราะรู้ว่าเป็นวันสำคัญ ฟ้าก็เป็นใจ แสงอาทิตย์ยามเช้าสดใสเป็นพิเศษ ส่องกระทบกำแพงทรายเป็นประกายระยิบระยับ ราวกับสวมชุดเกราะทองคำ
เนื่องจากสภาพแวดล้อมในเมืองโบราณซับซ้อนเกินไป จึงติดตั้งกล้องจำนวนมากไว้ล่วงหน้า ทีมถ่ายทำก็ไม่ได้ติดตามถ่ายตลอดเวลาเหมือนก่อน แต่แบ่งย่อยออกเป็นส่วน ๆ แต่ละคนรับผิดชอบพื้นที่หนึ่ง ใช้วิธีส่งไม้ต่อแบบนี้เพื่อลดความกดดันในการถ่ายทำ
ทีมของเหอเจ๋อไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นทีมที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตอนนี้ นอกจากหนุ่มหล่อสาวสวยแล้ว ยังมีข่าวลือเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ดึงดูดแฟนคลับข่าวซุบซิบมากมายให้จ้องตาไม่กะพริบ รอชมฉากเร่าร้อน
หวังซีในฐานะราชินีเพลง มีความเป็นผู้ใหญ่และมั่นคง เสียงเพลงของเธอเคยอยู่เคียงข้างผู้คนมากมายในวัยเยาว์ ความสามารถในการดึงดูดความสนใจก็สูงมาก ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นวัยกลางคน
สองทีมนี้ดึงดูดผู้ชมวัยรุ่นและวัยกลางคนไปเกือบหมด เหลือแค่ซากาตะ ทาคาโยชิที่เรตติ้งน่าเศร้ามาก ไม่ถึงเศษเสี้ยวของอีกสองทีม แต่แบบนี้กลับตรงใจเขาพอดี
บนข้อมือของเขามีนาฬิกาสีดำธรรมดา ๆ เรือนหนึ่ง แต่มีเพียงมินะที่อยู่ใกล้ ๆ เท่านั้นที่เห็นว่าบนหน้าปัดไม่มีเข็มนาฬิกาหรือตัวเลข แต่เป็นแผนที่ที่ละเอียดมาก
“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้โง่เหอเจ๋อนั่นยังคิดจะสู้กับฉันอีกเหรอ ช่างไม่รู้จักประมาณตัวเสียจริง ถ้าฉันไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ จะมาพนันกับนายเหรอ ช่างไร้เดียงสาเสียจริง”
ภายใต้การนำทางของแผนที่ราคาแพง ซากาตะ ทาคาโยชิแทบไม่ได้เดินผิดทางเลย เขาเดินหน้าอย่างรวดเร็ว
ทีมของเหอเจ๋อก็เคลื่อนที่ได้เร็วไม่แพ้กัน ในสามวันที่ผ่านมาพวกเขาสองคนไม่ได้อยู่เฉย ๆ เลย อาจพูดได้ว่าทำงานสองทางพร้อมกัน
เหอเจ๋อวิ่งเข้าออกในเมืองโบราณกับทีมถ่ายทำทุกวัน ด้วยความจำอันแกร่งกล้าที่ฝึกมาจากการท่องตำรายาสมัยเด็ก เขาจดจำอย่างหนักจนสามารถหาเส้นทางได้หลายเส้นทาง
หานสาวอยู่ในโรงแรมใช้ชื่อเสียงของตัวเองคุยกับพนักงานบริการหลายคนอย่างสนิทสนม ล้วงข้อมูลเกี่ยวกับเมืองโบราณโหลวอี้จากปากพวกเขาได้ไม่น้อย
สองคนร่วมมือกัน แม้จะไม่ชัดเจนเท่าดูแผนที่ แต่ก็ไม่ถึงกับหลงทางในเมืองโบราณ พวกเขาเจอเบาะแสที่ทีมงานจัดเตรียมไว้อย่างรวดเร็ว และเดินหน้าต่อไป
ส่วนทีมของหวังซีนั้นค่อนข้างลำบาก ทั้งสองคนเหมือนแมลงวันไร้หัวชนไปมาในเขาวงกต โชคดีที่ยังพอมีดวง เดาถูกทางไปได้บ้าง เดินโซเซไปข้างหน้า
ในทันทีที่พวกเขาเข้าสู่เมืองโบราณโหลวอี้ จ้าวอิ๋งที่หายไปจากสายตาผู้คนแล้วก็แอบย่องกลับมาที่ห้องใต้ดิน
“ตรวจจับทุกพื้นที่ในเมืองได้หรือยัง?”
เจ้าหน้าที่เทคนิคจ้องหน้าจอด้วยสมาธิเต็มที่ ตอบอย่างจริงจัง “ทุกความเคลื่อนไหวของทุกคนอยู่ในการควบคุมของเราแล้วครับ”
“ดีมาก!”
จ้าวอิ๋งตบขา พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ปล่อยให้พวกเขาต่อสู้กันเองก่อน เราจะได้ประโยชน์โดยไม่ต้องลงแรง แจ้งทีมปฏิบัติการพิเศษให้พร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ!”
……
ซากาตะ ทาคาโยชิภายใต้การนำทางของแผนที่ เป็นคนแรกที่มาถึงเขตที่อยู่อาศัย เขาไม่ได้หยุดพักนาน แต่รีบผ่านบ้านเรือนที่พังทลายจำนวนมาก มุ่งหน้าต่อไปยังใจกลางเมืองโบราณ
หลังจากเขาจากไปไม่นาน เหอเจ๋อก็ตามมาถึงที่นี่
ในทะเลทรายแห้งแล้ง การเดินทางอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงต่อเนื่องทำให้พลังงานของหานสาวลดลงอย่างรวดเร็ว ลมทรายที่พัดมาปะทะเหมือนมีดเล็ก ๆ กรีดผิวของเธอ
“พักสักหน่อยไหม?”
เหอเจ๋อชำเลืองมองเธอ ส่งกระติกน้ำที่พกติดตัวมาให้
หานสาวรับไปแล้วดื่มทันที
“ในทะเลทรายน้ำมีค่ามาก อย่าดื่มแบบนั้น แค่ทำให้ริมฝีปากชุ่มชื้นก็พอ”
เหอเจ๋อหยิบกระติกน้ำขึ้นมา แตะริมฝีปากเบา ๆ พูดอย่างใจเย็น
ดวงตาของหานสาววาบไปด้วยความกระวนกระวาย เธอส่ายหน้าแล้วพูดเสียงเบา “ช่างภาพที่เราเจอระหว่างทางเมื่อกี้เป็นแฟนคลับของฉัน ฉันมีรหัสลับกับเขา เขาบอกว่ามีทีมหนึ่งผ่านไปแล้ว เราไม่มีเวลาชักช้าแล้ว ต้องรีบไล่ตามให้ทัน”
พลังของไอดอลนั้นไร้ขีดจำกัด แม้ว่าช่างภาพทุกคนจะเซ็นสัญญารักษาความลับไว้ล่วงหน้า การเปิดเผยข้อมูลจะถูกไล่ออกและต้องจ่ายค่าเสียหายมหาศาล แต่ก็ยังมีคนที่ไม่กลัว
เหอเจ๋อขมวดคิ้ว เขารู้ดีว่าสมรรถภาพร่างกายของทีมหวังซีไม่มีทางเร็วขนาดนั้น ดังนั้นคงเป็นซากาตะ ทาคาโยชิแน่นอน
สามวันนี้เขาวิ่งไปวิ่งมาตามทีมอยู่ตลอด กินทรายเข้าไปไม่รู้เท่าไหร่ถึงได้คุ้นเคยกับภูมิประเทศ ส่วนไอ้หมอนั่นนอนหลับสบายอยู่ในโรงแรมทุกวัน แต่กลับวิ่งนำหน้าพวกเขาได้ คำอธิบายเดียวก็คือ…
“ฮึ! ไอ้เฒ่าจ้าวอิ๋งนี่ เสือไม่แผดเสียงคิดว่าฉันเป็นแมวป่วยรึไง คราวนี้ออกไปฉันต้องไปคิดบัญชีกับเขาแน่!”
จ้าวอิ๋งที่อยู่หน้าจอมอนิเตอร์เห็นสีหน้าโกรธจัดของเหอเจ๋อ ก็รู้สึกสะใจมาก ในที่สุดก็ได้แก้แค้นที่ถูกต้มสองล้านแล้ว
“ไอ้หนู นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ข้างหน้ายังมีอะไรอีกเยอะที่รออยู่”
เมื่อตระหนักว่าอารมณ์กำลังจะเสียการควบคุม เหอเจ๋อก็บังคับตัวเองให้สงบลงทันที สถานการณ์ตอนนี้ก็เสียเปรียบอยู่แล้ว ถ้าเขายังปล่อยให้ตัวเองสับสนอีก ก็จะแพ้แน่นอน
MANGA DISCUSSION