บทที่ 77 คุณอาของคุณ เขามีลูกสืบสกุลหรือเปล่า
“ซวงเอ๋อร์ การเดินทางครั้งนี้ลำบากหลานแล้ว” เย่หงเทาเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เสียงดังฟังชัด แสดงถึงพลังภายในที่ล้ำลึก
เขาเป็นน้องชายแท้ ๆ เพียงคนเดียวของเย่เฉิน ผู้เป็นประมุขตระกูล ในยามที่คนในตระกูลมีจำนวนน้อยลง เขาก็กลายเป็นเสาหลักอีกคนหนึ่ง
เย่ซวงพยักหน้ารับ หลังจากกลับถึงบ้านแล้ว เธอก็ดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด จึงแนะนำ “คุณอา นี้คือคุณเหอเจ๋อ ไม่เพียงแต่เป็นยอดฝีมือขั้นพลังชี่เท่านั้น แต่ยังเชี่ยวชาญด้านการแพทย์อีกด้วย ฉันถูกลมปราณพิษทำร้าย ต้องอาศัยฝีมือการรักษาของเขา จึงรอดชีวิตกลับมาได้”
เย่หงเทามองเหอเจ๋อด้วยความประหลาดใจ ยอดฝีมือขั้นพลังชี่อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ล้วนได้รับการยกย่องให้เป็นแขกผู้มีเกียรติ ยิ่งเชี่ยวชาญการแพทย์ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เขาจึงรีบยื่นมือออกไปพร้อมกล่าวอย่างกระตือรือร้น “ฉันชื่อเย่หงเทา ขอบคุณมากที่มาช่วยเหลือตระกูลเย่ในยามวิกฤตอย่างนี้”
เหอเจ๋อยื่นมือออกไปจับมือทักทาย ใบหน้าของเขาพลันนิ่งขึง คิ้วขมวดมุ่นราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเล
เย่หงเทาเองก็เป็นยอดฝีมือขั้นพลังชี่งเช่นกัน จึงรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เขาจึงเอ่ยถาม “คุณเหอ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เหอเจ๋อเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวอย่างสุภาพว่า “คุณอาเย่ หากคุณมีเวลาว่าง เชิญมาพบผมได้ ผมอาจช่วยแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คุณได้”
เย่หงเทาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนที่แววตาจะฉายแววดีใจอย่างสุดซึ้ง เขาสูดหายใจลึก พยายามสะกดกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้ “ดี! ดีมาก เหล่าเจิ้ง ไปจัดห้องพักที่ดีที่สุดให้คุณเหอ มีหมอเทวดาเช่นนี้คอยช่วยเหลือ จะไปกลัวตระกูลเฉินทำไม!”
การสนทนาเริ่มต้นอย่างราบรื่น พวกเขาพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ หลังจากกันได้สักพัก เย่หงเทาก็ได้รับโทรศัพท์และขอตัวออกไปก่อน
เมื่อเขาจากไป เย่ซวงซึ่งรอคอยโอกาสนี้มานาน ก็อดรนทนไม่ไหว เธอขยับเข้ามาใกล้ ๆ และถามด้วยเสียงเบาว่า “อาของฉันป่วยเป็นอะไรเหรอ”
เหอเจ๋อมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังและกระซิบว่า “คุณอาของคุณ… หลายปีมานี้ เขามีลูกสืบสกุลหรือเปล่า”
เย่ซวงเป็นคนฉลาด เธอเข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ทันที เธอรู้สึกกระจ่างแจ้งและพูดว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง มิน่า ป้าของฉันถึงได้อยู่ต่างประเทศตลอด”
เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัว เหอเจ๋อจึงไม่สะดวกที่จะพูดมาก เขาได้รับการจัดการจากพ่อบ้านเจิ้งให้พักที่ลานเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลเย่
แม้ลานบ้านจะเล็ก แต่ก็มีครบทุกอย่าง ภายในลานมีแปลงดอกไม้และต้นไม้ที่ได้รับการดูแลอย่างดี มีสระน้ำขนาดเล็ก มีเนินหินเทียมและศาลาเล็ก ๆ ด้วย
มองจากภายนอก บ้านหลังนี้ดูเก่าแก่ แม้แต่ประตูห้องก็ยังคงเป็นประตูไม้แบบโบราณ แต่เมื่อเข้าไปข้างใน บรรยากาศกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นทันสมัย ทั้งโซฟา โต๊ะกาแฟ มีครบครัน บนผนังมีโทรทัศน์จอแบนแขวนอยู่ แม้แต่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปก็ยังมี เทียบกับโรงแรมห้าดาวทั่วไปแล้วก็ไม่แตกต่างกัน
“ห้องน้ำอยู่ในห้องนอนนะครับ คุณเหอมีอะไรต้องการบอกผมได้เลย เดี๋ยวผมจะให้คนเอาไปให้”
เหอเจ๋อพึงพอใจกับการจัดการเป็นอย่างมาก เขาพยักหน้าและกล่าวอย่างสุภาพว่า “ขอบคุณครับ ลุงเจิ้ง”
“ไม่เป็นไรครับ คุณเหอพักผ่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวช่างตัดเสื้อจะมาวัดตัวคุณเพื่อตัดชุดให้” พ่อบ้านเจิ้งพูดพร้อมกับยิ้ม จากนั้นเขาก็เปิดประตูและจากไป
เหอเจ๋อทิ้งตัวลงนอนบนโซฟานุ่มสบายอย่างผ่อนคลาย พลางพึมพำกับตัวเองว่า “มีเงินนี่มันดีจริง ๆ”
เพิ่งจะล้มตัวลงนอนได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งที่ยังสะลึมสะลือ
“ใครน่ะ” เหอเจ๋อถามอย่างเฉื่อยชา ขณะลืมตาขึ้น
“คุณหมอเหอ ผมเอง” เสียงของเย่หงเทาตอบกลับมาจากด้านนอกประตูด้วยท่าทีนอบน้อม
หลังจากกลับไปแล้ว เย่หงเทารู้สึกกระสับกระส่าย ในใจคันยุบยิบเหมือนโดนหนูกัด จนทนไม่ไหว จึงรีบกลับมาทันที
เหอเจ๋อลุกขึ้นไปเปิดประตู เขาเข้าใจความรู้สึกของเย่หงเทาดี เมื่อเข้ามาแล้ว เย่หงเทาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบเข้าประเด็นเรื่องอาการป่วยของตัวเองทันที
เดิมทีเรื่องน่าอายแบบนี้ เย่หงเทาไม่อยากปริปากบอกคนนอก แต่เหอเจ๋อกลับจับสังเกตด้ไตั้งแต่ตอนจับมือกัน ทำให้เขาทั้งทึ่งและมีความมั่นใจขึ้นมาก จึงยอมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างหมดเปลือก
เรื่องมันมีอยู่ว่า ตอนที่เขายังเด็ก เขาเคยโดนลอบทำร้าย เขาพยายามต่อสู้สุดชีวิต สุดท้ายต้องกระโดดลงไปในแม่น้ำจึงรอดมาได้
ตอนนั้นเป็นฤดูหนาว แม้จะรอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด แต่การแช่อยู่ในน้ำเย็นเป็นเวลานาน ทำให้เขาสูญเสียสมรรถภาพทางเพศ เขาจึงมีลูกไม่ได้มาตลอดหลายปี แม้จะไปหาหมอมานับครั้งไม่ถ้วน ก็ไม่เคยได้ผล นี่จึงกลายเป็นความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในใจของเขามาตลอด
หลังจากฟังจบ เหอเจ๋อก็นิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง บังเอิญที่ก่อนหน้านี้ เขาเคยอ่านเจอตำราโบราณเล่มหนึ่ง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวของชายหญิง และมีอาการที่ตรงกับโรคนี้ รวมถึงวิธีการรักษาด้วย
“งั้นเอาอย่างนี้นะ ผมจะเขียนใบสั่งยาให้ แม้ว่าตัวยาหลักจะมีราคาแพงไปหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลรวดเร็วทันใจแน่นอน”
เมื่อได้ยินว่าพอจะมีทางรักษา เย่หงเทาก็ไม่คิดมาก พยักหน้ารับปากราวกับลูกไก่จิกข้าวสาร
สิบนาทีต่อมา เขาก็เดินออกไปพร้อมกับสีหน้ายิ้มแย้ม แม้ว่าสมุนไพรในใบสั่งยาจะแพงมาก แต่เขาก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ประกอบกับคราวนี้เย่ซวงช่วยซื้อของมาเยอะแยะ ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมง ยาก็ถูกปรุงเสร็จและยกมาเสิร์ฟถึงห้องทำงานของเขา เป็นซุปยาสีดำขมที่ส่งกลิ่นคล้าย ๆ เสื่อกกผุ ๆ
ตั้งแต่เริ่มรักษามา เย่หงเทามีโอกาสกินยาแปลก ๆ ยิ่งกว่านี้มานักแล้ว ครั้งนี้จึงไม่นับว่าแปลกประหลาดอะไร เขาสูดหายใจลึก ๆ กลั้นลมหายใจ แล้วดื่มมันลงไปจนหมดภายในอึกเดียว
หลังจากดื่มยา เขาก็รู้สึกอบอุ่นไปทั่วร่างกาย จากนั้นหน้าผากก็เริ่มมีเหงื่อผุดออกมา ในเวลาไม่นาน ร่างกายของเขาก็เปียกชุ่มราวกับพึ่งขึ้นจากน้ำ
เย่หงเทาไม่เพียงแต่ไม่ตกใจ กลับมีสีหน้าดีใจขึ้นมา ไอเย็นที่เกาะกินอยู่บริเวณท้องน้อยของเขากำลังค่อย ๆ สลายไป เพียงแค่ซุปยาชามเดียว อาการป่วยก็หายไปกว่าครึ่ง คาดว่าอีกไม่นานก็คงหายขาดเป็นแน่
เขานั่งครุ่นคิดอยู่ในห้องทำงาน เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว บางเรื่องเขาก็ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ตกเย็น ครอบครัวเย่ก็จัดงานเลี้ยงต้อนรับเหอเจ๋ออย่างยิ่งใหญ่ เย่หงเทาดูอารมณ์ดี ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มบ่อยครั้ง ความหดหู่ที่อัดอั้นอยู่ในใจมาหลายปีก็มลายหายสิ้น
“หมอเหอนี่เป็นแพทย์มหัศจรรย์ชัด ๆ ผมได้แจ้งพี่ใหญ่ไปแล้ว ขอให้เขาลงจากเขามารักษาตัวกับคุณพรุ่งนี้” เย่หงเทากล่าวพร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นคำนับ
เหอเจ๋อตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง “การรักษาคนป่วยเป็นหน้าที่ของแพทย์อยู่แล้ว วางใจได้เลยครับ”
ขณะที่บรรยากาศในงานเลี้ยงกำลังคึกคัก ก็มีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามา
“คุณอาเย่ ซวงเอ๋อร์ สวัสดีตอนเย็นครับ!” ซุนไห่หมิงเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้าง ทักทายทุกคนอย่างกระตือรือร้น
ทุกคนต่างชะงัก บรรยากาศที่ครื้นเครงเมื่อครู่พลันเงียบงันลง ความขัดแย้งระหว่างตระกูลเฉินและตระกูลเย่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างเงียบเชียบ เช่น ตระกูลซุนที่เคยเป็นพันธมิตรกับตระกูลเย่ บัดนี้กลับกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญแทน
MANGA DISCUSSION