บทที่ 63 ช่วยปรับลำดับการประมูล
จางจื่อหัวสามารถดูแลส่วนงานภายนอกของตระกูลจางได้ทั้งหมด เขามีไหวพริบเป็นเลิศ เพียงครู่เดียวก็คาดเดาความคิดของเหอเจ๋อได้ เขาแย้มยิ้มเอ่ยว่า “น้องชายเหอ นายคงกำลังกังวลเรื่องโสมร้อยปีอยู่ใช่ไหม”
เหอเจ๋อไม่ปิดบัง พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่แล้ว ผมมีญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยรออยู่ หากไม่ได้มาคงแย่”
จางจื่อหัวครุ่นคิด ตั้งแต่ได้พบกับเหอเจ๋อครั้งก่อน เขาก็รู้สึกทึ่งในฝีมือการแพทย์อันเฉียบแหลมของชายหนุ่มผู้นี้ จึงคิดอยากดึงตัวเข้าร่วมด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้วางงานทุกอย่างแล้วรีบมาทันทีเพียงเพราะแค่สายโทรศัพท์เหอเจ๋อคนนี้ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เป็นแบบนี้หรอก ตำแหน่งผู้อำนวยการจางผู้นี้ไม่ได้ว่างขนาดนั้น
แม้ว่าตระกูลจางจะมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ยังไปไม่ถึงขั้นที่หนึ่งในใต้หล้า ยังมีคู่แข่งที่แข็งแกร่งอีกมากมาย จางจื่อหัวนอกจากจะจัดการเรื่องจุกจิกภายนอกของตระกูลแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการผูกมิตรกับคนหนุ่มสาวมากความสามารถ และดึงตัวคนเก่ง ๆ เข้ามาร่วมงานด้วย
เขาชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนกัดฟันพูดว่า “ฉันไม่มีอำนาจที่จะจัดการให้นายได้โดยตรง แต่สามารถช่วยปรับลำดับการประมูลให้ได้ ตามราคาที่ฉันบอกไปก่อนหน้านี้ โชคดียังไม่มีปัญหาอะไร”
เหอเจ๋อที่อาศัยอยู่ในเมืองหลินอันมากว่ายี่สิบปี ไม่เข้าใจความหมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น ดวงตาฉายแววสงสัย
จางจื่อหัวแย้มยิ้มแล้วกล่าวว่า “โดยทั่วไปการประมูลมักจะนำของล้ำค่ามาไว้ที่ช่วงต้นและช่วงท้าย เพราะช่วงแรก คนมักจะมีเงินทุนเหลือเฟือ จึงง่ายต่อการดันราคาให้สูงขึ้น ส่วนช่วงท้ายก็ไม่ต้องกลัวว่าจะมีของดีออกมาอีก จึงทุ่มสุดตัวได้”
เหอเจ๋อเข้าใจในทันที ถ้าหากวางตำแหน่งการประมูลโสมร้อยปีไว้ตรงกลาง ช่วงแรกผู้คนต่างก็ซื้อของไปบ้างแล้ว ช่วงหลังก็จะให้ความสนใจกับของชิ้นเอกที่จะออกมาเป็นลำดับสุดท้าย แรงกดดันในการแข่งขันช่วงกลางก็จะน้อยลง เขาก็จะประมูลได้ง่ายขึ้น
“ขอบคุณมากครับพี่ใหญ่จาง”
หลังจากคิดทบทวนเรื่องราวทั้งหมดแล้ว เขาเอ่ยด้วยความรู้สึกขอบคุณ
จางจื่อหัวโบกมือ ปฏิเสธอย่างนอบน้อมว่า “เรื่องเล็กนิดเดียว ไม่ต้องพูดถึงหรอก”
ทั้งสองคนล้วนเป็นหมอมาก่อน ขณะที่พูดคุยกันไปโดยไม่รู้ตัว หัวข้อสนทนาก็เริ่มเป็นเรื่องการแพทย์
นับตั้งแต่ เหอเจ๋อเริ่มรู้ความ ในขณะที่คนอื่นเรียนรู้ตัวหนังสือจากหนังสือสามอักษร เขากลับเรียนรู้จากตำราสมุนไพร คนอื่นท่องบทกวีสามร้อยบทของราชวงศ์ถัง เขากลับท่องบทร้องเพลงเกี่ยวกับยา เมื่อพูดถึงเรื่องการแพทย์ ในบรรดาคนรุ่นเดียวกัน เขาโดดเด่นอย่างปฏิเสธไม่ได้ มีความคิดเห็นที่เฉียบแหลมเป็นพิเศษในหลาย ๆ เรื่อง
ยิ่งฟังจางจื่อหัว ยิ่งรู้สึกชื่นชม เขาเชื่อมั่นอย่างมากว่า ความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของชายหนุ่มคนนี้ แม้จะอยู่ในตระกูลจาง ปรมาจารย์แห่งการแพทย์ที่เต็มไปด้วยคนเก่ง ก็ยังคงสามารถครองพื้นที่ของตัวเองได้
หลังจากที่กวนหลิงถ่ายภาพข้อมูลที่ต้องการเสร็จแล้ว เมื่อเธอกลับมา เห็นทั้งสองคนสนิทสนมกันเหมือนพี่น้อง เธอก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยในใจ หรือว่าช่วงที่เธอไม่อยู่นั้น เกิดเรื่องราวอะไรขึ้นหรือเปล่า?
ตกดึก คืนนั้นในโรงแรมหรูหราหลายแห่งในเมืองกว่างหนานถูกจองจนเต็ม แม้กระทั่งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทแย่งห้องพักกันหลายครั้ง โชคดีที่ทางการเมืองกว่างหนานได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า จึงรีบรุดไประงับเหตุได้ทันท่วงที ไม่ได้ก่อเรื่องวุ่นวายอะไรมาก
ภายในห้องสวีทสุดหรู ชั้นบนสุดของโรงแรมไห่เทียน พ่อบ้านผมหงอกร่างสูงในชุดทักซิโด้สีดำ กำลังรายงานด้วยความหวาดกลัว “คุณหนู เป็นความผิดของผมเองครับ งานประมูลครั้งนี้มีคนมามากเกินไป ห้องพักเลยเต็มจริง ๆ ผมเพิ่งทราบว่าห้องข้าง ๆ เป็นแขกของตระกูลเฉิน”
บนโซฟาในห้องนั่งเล่น มีหญิงสาวผมสั้น อายุราว ๆ ยี่สิบต้น ๆ นั่งอยู่ ใบหน้าของเธอจัดว่าดูดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แต่รูปร่างกลับเซ็กซี่อย่างมาก หากจะให้อธิบายขนาดหน้าอกของเธอตามคำพูดของผู้ชายมากประสบการณ์ คงต้องบอกว่าเป็นแบบที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ ‘ก้มมองไม่เห็นปลายเท้า’
อาจเป็นเพราะเธอออกกำลังกายเป็นประจำ ผิวของเธอจึงมีสีแทนสุขภาพดี เมื่อต้องแสงไฟ ยิ่งขับเน้นให้เงามีเสน่ห์ไปอีกแบบ
“ไม่เป็นไรหรอก พวกตระกูลเฉินล้วนเรื่องมาก เอาแต่ใจ ขยะแขยงชะมัดที่หล่อนไม่ใช่ฉัน คงจะพานเหวี่ยงวีนแตกอยู่แน่ ๆ”
หลังจากที่เธอพูดจบ ก็มีเสียงด่าทอโกรธเคืองเล็ดลอดมาจากห้องข้าง ๆ จริง ๆ ด้วย
พ่อบ้านถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะพูดอย่างนอบน้อมว่า “คุณหนูครับ นั่งเครื่องมาทั้งบ่ายแล้ว เชิญคุณหนูพักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้ยังต้องไปร่วมงานประมูลอีก”
เย่ซวงพยักหน้า แต่เธอก็ไม่ได้ลุกไปไหน เธอนั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามว่า “เงินเตรียมพร้อมหรือยัง”
“เอ่อ…” เขาในฐานะพ่อบ้านแอบคำนวณในใจอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะรายงานอย่างจริงจังว่า “เงินทุนที่พอจะหมุนได้ ผมเอามาหมดแล้วครับ แถมยัง…”
“แถมยังอะไรอีกล่ะ” เธอถาม
“ผมทำตามคำสั่งของคุณหนูแล้วครับ ขายธุรกิจบางส่วนในราคาถูก แล้วเอาเงินมาให้คุณหนูทั้งหมดแล้ว”
เย่ซวงเห็นสีหน้าเสียดายของพ่อบ้าน เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ลุงเจิ้งคะ ฉันรู้ว่าลุงเสียดาย แต่ช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับตระกูลเฉินแย่ลงทุกที อาจจะเกิดเรื่องบาดหมางกันเมื่อไหร่ก็ได้ พอถึงตอนนั้น ยาสมุนไพรพวกนี้อาจช่วยชีวิตเราได้นะคะ”
พ่อบ้านเจิ้งได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เขาก็รู้ดี แต่คนแก่ ๆ อย่างเขาก็ผูกพันกับของพวกนี้ ไม่อยากขายออกไป
“แต่มีแต่สมุนไพรก็คงไม่ได้ ต้องหาหมอด้วย” เย่ซวงเคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบา ๆ แล้วถามว่า “วันนี้ลุงไปพบหมอหวังคนนั้นมาเป็นไงบ้างคะ”
ก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่ในเมืองหลินอันมานาน ครั้งแรกที่ค้นพบว่าแท้จริงแล้วยอดฝีมือที่ฝึกฝนวรยุทธ์โบราณมีจำนวนมากมายขนาดนี้ แต่ส่วนใหญ่ล้วนอยู่ในขั้นเบิกยุทธ์ ยอดฝีมือที่อยู่ในขั้นทวียุทธ์มีจำนวนเพียงน้อยนิด ส่วนขั้นพลังชี่นั้นหายากยิ่งกว่าขนนกฟีนิกซ์เสียอีก
MANGA DISCUSSION