บทที่ 57 ถือว่าเป็นสินสอดก็แล้วกัน
“เอาละ ๆ เรื่องแค่นี้เอง อาจารย์ยังจะเอาจริงเอาจังอีก” เหอเจ๋อทนดูไม่ไหวเลยพูดแทรกเพื่อช่วยถานเหว่ยซ่ง “เป็นเพื่อนเก่าของพวกเขาเอง เล่นจนหมดตัว กำลังสำนึกผิดอยู่ ไม่ใช่ติดการพนันหรอก”
พอหวงเทียนเหยาได้ยิน ความโกรธในใจก็ค่อย ๆ จางหายไป มองดูถานเหว่ยซ่งที่มีสีหน้าเสียใจ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าโทษที่พ่อโมโห พ่อแค่กลัวน่ะ คนแก่แล้วไม่ได้คิดอะไรมาก ขอแค่พวกแกไม่หลงผิดอีก พ่อก็พอใจแล้ว”
ถานเหวยซ่งน้ำตาไหลพราก ชี้นิ้วสาบานต่อฟ้าดินว่า “อาจารย์วางใจเถอะ ผมกับพี่จะไม่เล่นการพนันอีกแล้วในชีวิตนี้!”
ร่างกายของหวงเทียนเหยาอ่อนแออยู่แล้ว หลังจากโกรธจัดไปคราวหนึ่งก็ทนไม่ไหว มองอะไรไม่เห็น ขาสั่น โชคดีที่เหอเจ๋อตาไวคว้าตัวเขาไว้ได้ทัน
“แก่แล้วก็อย่าคิดมากเลย”
เหอเจ๋อบ่น พลางพยุงหวงเทียนเหยาเข้าไปในบ้านด้วยความช่วยเหลือของหวงจิงจิง หยิบเข็มเงินออกมา ช่วยเขาปรับลมปราณที่หน้าอก จนค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้น
“สองสามวันนี้อย่าโกรธอีกนะ ระวังอาการกำเริบ รออีกสองวันประมูลรากโสมพันปีได้ ค่อยรักษาโรคเรื้อรังนี่ให้หายขาด ถึงตอนนั้นอยากจะโกรธยังไงก็ได้”
เหอเจ๋อพูดปลอบใจด้วยวิธีเฉพาะตัวไปพลางเก็บเข็มเงินไปพลาง
หวงจิงจิงก็ร้องไห้น้ำตาคลอ พูดด้วยความน่าสงสารว่า “คุณปู่ อย่าโกรธเลยนะ ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”
หวงเทียนเหยาลืมตาที่ขุ่นมัวขึ้น ตบมือเธอเบา ๆ ถอนหายใจว่า “มีหลานสาวที่ดีอย่างแก เป็นบุญของปู่แล้ว”
“คุณปู่ พูดอะไรอย่างนั้น…”
หวงเทียนเหยาโบกมือ หันไปมองเหอเจ๋อที่อยู่ข้าง ๆ พูดอย่างจริงจังว่า “เสี่ยวเหอ น้ำใจของแกตาแก่คนนี้ซาบซึ้ง แต่เงินสิบล้านนั้นแกก็เก็บไว้เถอะ ไม่ต้องเอามาเสียไปกับคนแก่ใกล้ตายอย่างฉันหรอก”
เหอเจ๋อเห็นเขาดื้อดึงขึ้นมาอีกแล้ว จึงกลอกตา คิดแผนการเดิมออกมาข่มขู่ด้วยความดุร้ายว่า “อาจารย์ตายไปไม่มีใครปกป้องหวงจิงจิงหรอกนะ ฉันจะรังแกเธอ”
หวงจิงจิงมองเขาอย่างโกรธเคืองก้มหน้าลง ไม่พูดอะไร
เห็นดังนั้น หวงเทียนเหยายิ่งไม่สบอารมณ์ พูดอย่างเซ็ง ๆ ว่า “ลูกสาวโตแล้วก็ทิ้งพ่อไป เธอคงอยากจะเอาใจใส่แกอยู่ฝ่ายเดียว ฉันจะอยู่หรือตายก็คงไม่มีอะไรต่างกัน พูดอีกอย่าง ถึงรักษาหาย ฉันก็อยู่ได้อีกไม่กี่ปีหรอก เงินสิบล้านนี้คงใช้หนี้ไม่หมด ฉันหวงเทียนเหยาไม่เคยติดหนี้ใคร ตายไปก็จะไม่ติดหนี้ใคร เงินนี้ฉันไม่เอาเด็ดขาด”
ที่จริงในใจเขายังมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้นอีก ล้อเล่นกันน่ะล้อเล่น แต่เขาหวังว่าเรื่องแต่งงานนี้จะสำเร็จ จึงไม่ยอมรับเงินสิบล้านนี้
ความคิดชายเป็นใหญ่แบบดั้งเดิมฝังรากลึกในตัวเขามานาน คิดว่าผู้หญิงแต่งงานไปต้องลำบาก ถูกเอารัดเอาเปรียบ กลัวว่าเรื่องของตัวเองจะทำให้หวงจิงจิงเสียเปรียบ โดนแม่ผัวรังแกจนไม่กล้าพูดอะไร
เหอเจ๋อไหนเลยจะเข้าใจความคิดซับซ้อนในใจเขา พอได้ยินคำพูดของเขาก็โกรธขึ้นมาทันที ไอ้เราก็เสี่ยงชีวิต หาเงินมาด้วยความยากลำบาก แต่กลับจะยอมแพ้ไม่รักษาตัวเอง?
“อาจารย์หวง สมองไม่ใช่ผิดปกติไปแล้วเหรอ? ใครใช้ให้คืนเงินนี้กัน ถือว่าเป็นเงินบริจาคผู้สูงอายุของผมก็แล้วกัน”
“ไม่ได้ ฉันไม่เคยรับความช่วยเหลือจากคนอื่นในชีวิตนี้ แก่แล้วจะมาทำให้เสียชื่อเสียงไม่ได้!”
เห็นท่าทางแบบนี้ หวงจิงจิงที่นิสัยอ่อนโยนก็ทนไม่ไหว รีบพูดด้วยความร้อนใจว่า “คุณปู่ ไม่ต้องห่วง ฉันจะคืนเงินสิบล้านนี้เอง ฉันยังเด็ก ต้องหาคืนได้แน่ ๆ!”
หวงเทียนเหยา พอได้ยินก็ส่ายหัวแรงกว่าเดิม พูดอย่างแน่วแน่ว่า “ฉันก็อยู่ได้อีกไม่กี่วัน จะให้มาเป็นภาระแกไปตลอดชีวิตได้ยังไง”
หวงจิงจิงไม่ยอมแพ้ พูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า “แต่ถ้าเห็นคุณปู่ไม่ยอมรักษา ฉันจะรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
ตอนนี้ เหอเจ๋อก็เข้าใจแล้ว ปกติหวงจิงจิงดูอ่อนโยน แต่ลึก ๆ แล้วก็เป็นคนเดียวกับหวงเทียนเหยา ดื้อรั้นเหมือนกัน
“พอแล้ว ฟังผมพูดหน่อย!” เขาขัดจังหวะการโต้เถียงของทั้งสองคน คิดแผนการในใจได้ พูดขึ้นว่า “เงินสิบล้านนี้ผมก็ไม่ได้ให้ฟรี ๆ ในเมื่อคนจีนเรามีธรรมเนียมการให้สินสอดมาแต่โบราณ ถือว่านี่เป็นสินสอดที่ผมแต่งงานกับหวงจิงจิงก็แล้วกัน”
หวงจิงจิงหน้าแดงก่ำ ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย
หวงเทียนเหยาอึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอย่างลังเลว่า “แต่… ใคร ๆ เขาก็ไม่ได้ให้สินสอดเยอะขนาดนี้…”
“นี่อาจารย์หวงหมายความว่าหลานสาวไม่คู่ควรอย่างนั้นเหรอ?” เหอเจ๋อพูดจี้ใจดำ
หวงเทียนเหยาติดกับจริง ๆ สูดลมหายใจแรง ๆ พูดด้วยความโกรธว่า “พูดไร้สาระ จิงจิง ในสายตาฉันคือสมบัติล้ำค่า เงินสิบล้านนิดหน่อยจะไปนับเป็นอะไร”
เหอเจ๋อกางมือออก พูดว่า “งั้นก็จบ ตกลงตามนี้นะ อาจารย์ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านดี ๆ อย่าสร้างความวุ่นวายอีก เผื่อจะได้อุ้มหลานเร็ว ๆ นี้!”
เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเปลี่ยนใจ เหอเจ๋อพูดจบก็รีบวิ่งหนีไป
หวงเทียนเหยา นั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาผ่านโลกมามาก ไหนเลยจะดูไม่ออกว่านี่เป็นข้ออ้าง
หันไปมองหลานสาวที่ก้มหน้าอยู่ข้าง ๆ ถามอย่างจริงจังว่า “จิงจิง บอกปู่ตามตรง แกคิดยังไงกับเสี่ยวเหอ”
“ฮะ?” หวงจิงจิงบิดชายเสื้อด้วยความเขินอาย เงียบไปครู่หนึ่งก็หันหลังวิ่งหนีไป
หวงเทียนเหยานั่งเหม่ออยู่ในห้องคนเดียว ครู่หนึ่งก็หัวเราะออกมาอย่างไม่มีเสียง มุมปากยกขึ้น ริ้วรอยบนใบหน้าดูราบเรียบ
หลังจากที่เหอเจ๋อออกมาจากร้านขายยาเทียนเซิ่งจูอย่างทุลักทุเล เขาก็รีบกลับบ้านทันที หากต้องการรักษาโรคของหวงเทียนเหยาให้หายขาดเพียงแค่รากโสมพันปีอย่างเดียวยังไม่พอ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เที่ยงแล้ว
กวนหลิงฮัมเพลงกลับมาที่ชั้นเก้า อาจเป็นเพราะอยู่ชั้นสูงและออกกำลังกายทุกวัน ขาของเธอจึงเรียวยาวและแข็งแรง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลย พอใส่ถุงน่องสีดำในฤดูร้อนแบบนี้ บอกเลยว่าเป็นอาวุธเด็ดที่ใช้กำราบผู้ชายได้อยู่หมัด
ช่วงนี้เธอได้ทำข่าวใหญ่สองข่าวติดต่อกัน ทำให้สถานะในสำนักพิมพ์สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นที่ชื่นชมของหัวหน้า ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ถูกเรียกตัวไปรับงานใหม่
“สัมภาษณ์งานประมูลการกุศลสมุนไพร?”
กวนหลิงเป็นคนฉลาดมาก เธอรู้ดีว่าการเป็นนักข่าวไม่ได้เพียงแค่ถามคำถามเป็นอย่างเดียว หากต้องการรายงานข่าวเชิงลึก จำเป็นต้องมีความรู้ในวงการนั้น ๆ หรือแม้กระทั่งมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บทความสองบทความก่อนหน้านี้ของเธอได้ตีพิมพ์ในหน้าหนึ่ง นอกจากเนื้อหาข่าวที่น่าสนใจแล้ว ก็ยังเกี่ยวข้องกับหนังสือมากมายบนชั้นหนังสือในบ้านของเธอด้วย
MANGA DISCUSSION