บทที่ 54 ถูกลอบสังหาร
ผมรับแก้วเหล้ามา ในขณะเดียวกันก็บีบมือขาว ๆ ของจางเสี่ยวเถาเบา ๆ
พฤติกรรมลวนลามเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปในคาสิโน แม้แต่จางเสี่ยวเถาที่ทำงานวันแรกก็เตรียมใจไว้แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกก็คือ การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายกลับทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคย
หลังจาก ‘หงอคง’ ได้รับเหล้าแล้ว เขาก็ไม่ได้รีบร้อนจากไป แต่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ทำงานสองอย่างพร้อมกัน เธอก็ค่อนข้างเหนื่อยนะ”
หัวใจของจางเสี่ยวเถาเต้นแรง เธอแอบร้องในใจด้วยความขมขื่น ไม่คิดว่าจะถูกคนจำได้ในวันแรก
ตอนที่เธอกำลังจะขอให้อีกฝ่ายอย่าพูดไร้สาระ ‘หงอคง’ ก็ถอดหน้ากากออกทันที และพูดด้วยเสียงต่ำว่า “ฉันเอง จำไม่ได้เลยเหรอ”
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายจะรวดเร็ว แต่เพียงแค่แวบเดียวเธอก็นึกออก และพูดด้วยความประหลาดใจว่า “คุณเหรอเนี่ย บังเอิญจัง”
ในใจของเหอเจ๋อก็อดไม่ได้ที่จะคร่ำครวญ ไม่คิดว่าหลังจากแยกทางกันสองชั่วโมง พวกเขาก็ได้พบกันอีกครั้ง แถมยังเป็นในฐานะลูกค้ากับพนักงานเสิร์ฟอีกด้วย
ต้องบอกว่าพรหมลิขิตช่างมหัศจรรย์จริง ๆ
ทั้งสองคนต่างก็ประทับใจกัน พูดคุยกันเล็กน้อย จางเสี่ยวเถาก็พูดด้วยเสียงต่ำอย่างลึกลับว่า “คุณไปก่อเรื่องอะไรไว้ข้างนอกรึเปล่า”
หัวใจของเหอเจ๋อสั่นสะท้านแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจและพูดว่า “ไม่มีนะ ผมจำไม่ได้ว่าไปทำให้ใครไม่พอใจ”
จางเสี่ยวเถาขมวดคิ้วแน่น พูดอย่างงุนงงว่า “เมื่อกี้มีคนให้ทิปฉันห้าร้อย บอกให้ฉันจับตาดูคุณ”
เหอเจ๋อหรี่ตาลง กระซิบข้างหูเธอเบา ๆ
จางเสี่ยวเถาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็พยักหน้าตกลง
ทั้งสองแยกทางกันโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้จักกัน มีลูกค้าอีกคนสั่งเหล้า จางเสี่ยวเถาเพิ่งกลับไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ชายผิวเหลืองซีดคนหนึ่งก็เข้ามาใกล้ ถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “เมื่อกี้พวกเธอคุยอะไรกัน”
ใจของจางเสี่ยวเถากระตุก พูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เขาถามฉันว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน ฉันก็บอกเขาไป”
“ห้องน้ำ?” ชายคนนั้นดีใจ ตบไหล่เธอ และขู่ว่า “ถ้าโกหกฉัน ก็รอวันตายได้เลย!”
พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไป
จางเสี่ยวเถาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หยิบมีดหั่นผลไม้บนโต๊ะ ไล่ตามหลังไปเเบบเงียบ ๆ
ชายผิวเหลืองซีดระมัดระวังสูงมาก เขารออยู่หน้าห้องน้ำพักหนึ่ง เห็นจำนวนคนที่เข้าออกลดลง ก็ชักกริชที่เป็นประกายออกมาจากเอว เดินก้าวฉับ ๆ เข้าไป
โครงสร้างห้องน้ำชายเหมือนกันหมด ด้านซ้ายมือเป็นโถปัสสาวะ ด้านขวาเป็นห้องเดี่ยว
ชายผิวเหลืองซีดเตะประตูห้องเดี่ยวบานแรกทางซ้ายมือเข้าไป ข้างในมีหญิงชายคู่หนึ่งกำลังพัวพันกันอยู่ พอถูกรบกวนก็โกรธจัด แต่พอเห็นกริชที่ส่องประกายอยู่ในมือของอีกฝ่ายก็ปิดปากลงอย่างชาญฉลาด
ชายคนนั้นไม่รอช้า หันหลังเตะประตูห้องเดี่ยวห้องที่สองเข้าไป ข้างในมีคนที่กำลังปลดทุกข์อย่างหนัก เช่นกันแม้จะโกรธแต่ไม่กล้าพูด
เขาเตะประตูทั้งแปดบานในห้องน้ำชายรวดเดียว แต่ไม่พบเป้าหมาย
ชายคนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ หันหลังกลับเพื่อจะออกจากที่นี่ ก็พบว่าคนที่เขากำลังตามหา ยืนยิ้มอยู่ที่ประตู
“คุณมีธุระอะไรกับผมเหรอ”
ชายคนนั้นไม่พูด ทำตาโหดร้าย ยกกริชพุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว ในเมื่อการลอบโจมตีล้มเหลว ก็เปลี่ยนเป็นการสังหารต่อหน้าก็แล้วกัน
ผู้มาเยือนไม่เป็นมิตร สีหน้าของเหอเจ๋อเยือกเย็น ในเมื่ออีกฝ่ายต้องการชีวิตของเขา แน่นอนว่าเขาจะไม่สุภาพ
คว้าไม้ถูพื้นที่วางอยู่หลังประตูฟาดลงไป
ยาวหนึ่งนิ้ว แรงหนึ่งส่วน!
กริชสั้น ๆ จะไปเทียบกับไม้ถูพื้นยาวกว่าหนึ่งเมตรได้อย่างไร ชายคนนั้นหลบอย่างคล่องแคล่ว ความเร็วยังคงไม่ลดลง เดินหน้าประชิดตัวต่อไป
ดวงตาของเขาเปล่งประกายกระหายเลือด จากประสบการณ์การต่อสู้หลายปีของเขา ตราบใดที่เดินหน้าอีกสามก้าว เขาก็สามารถปาดคอของอีกฝ่ายได้
ระยะทางสามก้าว แม้แต่คนธรรมดาเดินก็ใช้เวลาไม่ถึงสองวินาที ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการพุ่งเข้าใส่เต็มกำลัง ไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ
ทำอะไรได้บ้างในหนึ่งวินาที?
กะพริบตา? หายใจหนึ่งครั้ง? ดูโทรศัพท์มือถือ?
เหอเจ๋อให้คำตอบที่แตกต่างออกไป
ตั้งแต่เห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้ามา เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะใช้ไม้ถูพื้นเพียงอันเดียวบังคับอีกฝ่ายได้ ดังนั้นนั่นเป็นเพียงการอำพราง อำพรางกำปั้นซ้ายที่เขากำลังรวบรวมพลัง
ในเสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตายนี้ เขาเหวี่ยงกำปั้นออกไปอย่างรุนแรง
เมื่อจางเสี่ยวเถาถือมีดผลไม้ แอบมองเข้ามา สถานการณ์ข้างในทำให้เธอตกใจ
ชายผิวเหลืองซีดนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้น เอามือกุมท้อง สีหน้าเจ็บปวด
ส่วนเหอเจ๋อยืนอยู่ไม่ไกลจากเขา เล่นกริชที่คมกริบอยู่ในมือ สีหน้ายิ้มเยาะ
“นังสารเลว กล้าดียังไงมาหักหลังฉัน!”
เมื่อเห็นจางเสี่ยวเถา ชายคนนั้นก็โกรธจัด ด่าทอออกมา
เหอเจ๋อเตะเขาจนล้มลงกับพื้น เหลือบตาขึ้นมองอย่างดูถูกเหยียดหยาม และพูดว่า “เห็นได้ชัดว่านายโง่เอง พูดมากจริง”
ตอนนี้ทางคาสิโนก็ได้รับข่าวแล้ว ด้านนอกห้องน้ำได้ยินเสียงฝีเท้าโกลาหล บอดี้การ์ดสวมสูทดำเจ็ดแปดคนล้อมรอบพวกเขาไว้
ชายร่างสูงใหญ่ผมแสกกลางเดินเข้ามาอย่างองอาจ พูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เกิดอะไรขึ้น ใครบอกฉันได้ไหม? ถ้ามีใครอยากหาเรื่องที่นี่ ฉันขอสาบานด้วยชื่อเสียงร้อยปีของคาสิโนโบโล ฉันจะหั่นศพเขาเป็นชิ้น ๆ!”
เหอเจ๋อรู้ว่ายิ่งในเวลานี้เขายิ่งถอยไม่ได้ มิฉะนั้นหากอีกฝ่ายรู้สึกว่าเขารังแกง่าย ก็จบเห่
เขาหัวเราะเยาะ วางกริชลงบนพื้น พูดด้วยเสียงเข้มว่า “ผมกำลังจะไปหาคุณพอดี พวกคุณ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำงานยังไง ผมกำลังเข้าห้องน้ำ กลับมีคนถือมีดบุกเข้ามา ถ้าผมไม่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาก่อน คงตายไปแล้ว”
ผู้จัดการผมแสกกลางผู้นั้นถึงกับตกตะลึง มองเขาด้วยความสงสัย
เหอเจ๋อรู้ดีว่าวันนี้จะรอดออกไปจากที่นี่ได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตอนนี้แล้ว สมองของเขาทำงานอย่างรวดเร็ว พูดเสียงดังว่า “ถ้าไม่เชื่อ คุณก็ลองถามคนในห้องน้ำดูสิ ว่าผมโกหกหรือเปล่า”
คนที่กำลังปลดทุกข์อยู่ก็พยักหน้าเห็นด้วย ในขณะนี้ประตูห้องเดี่ยวห้องแรกก็เปิดออก ชาวหนุ่มที่กำลังทำเรื่องน่าอายอยู่ข้างในก็สวมเสื้อกอดหญิงสาวเดินออกมา ด่าทออย่างไม่เกรงใจ
“โรบิน นี่มันคาสิโนโบโลที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยที่สุดไม่ใช่เหรอ? ถึงขนาดมีคนถือมีดบุกเข้ามา พวกแกกินข้าวเปล่าหรือไง”
โรบินผู้จัดการผมแสกกลางถูกด่าจนพูดไม่ออก ยิ้มแห้ง ๆ และพูดว่า “คุณชายซ่ง ผมขอโทษจริง ๆ เราจะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
ชายหนุ่มโอบกอดหญิงสาวจากไปอย่างผ่าเผย โรบินจ้องมองชายผิวเหลืองซีดด้วยสีหน้ามืดครึ้ม พูดอย่างเย็นชาว่า “หักขาข้างหนึ่ง แล้วโยนมันออกไป!”
MANGA DISCUSSION