บทที่ 52 ไปมาเก๊า
จางเสี่ยวเถาหดคอไม่ได้พูดอะไร
หญิงวัยกลางคนชื่อหม่าผิง เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตอนที่รับสมัครงาน เธอแย่งตำแหน่งที่ควรจะเป็นของหลานสาวของจางเสี่ยวเถาไป ทำให้จางเสี่ยวเถาเคียดแค้นมาตลอด วันแรกของการทำงานก็เลยโดนหาเรื่องแล้ว
“คุณผู้ชาย ตามระเบียบการจัดการห้องโดยสาร ห้ามใช้ห้องน้ำก่อนเครื่องขึ้น จางเสี่ยวเถาไม่เพียงแต่มาทำงานสาย แต่ยังทำผิดกฎระเบียบอีกด้วย ฉันจะรายงานเพื่อลงโทษเธอ!” หม่าผิงจ้องไปที่จางเสี่ยวเถา พูดด้วยน้ำเสียงดุดัน
ในที่สุดเธอก็คว้าโอกาสนี้ได้แล้ว แน่นอนว่าเธอต้องใช้ประโยชน์จากมันให้ดี อย่างน้อยก็ต้องทำให้จางเสี่ยวเถาล้มเหลว ถ้าโดนลงโทษถึงจะแก้แค้นได้
เหอเจ๋อขมวดคิ้ว รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านี้ตอนที่หวงจิงจิงถูกลักพาตัวก็เป็นแบบนี้ เขารำคาญที่สุดคือการสร้างปัญหาให้คนอื่น มันจะทำให้เขารู้สึกเป็นหนี้บุญคุณคน
ถ้าจางเสี่ยวเถาถูกทำโทษเพราะช่วยเขาเปิดประตูห้องน้ำ มันจะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
“สิ่งที่คุณพูดมันไม่ถูกต้อง” เหอเจ๋อคิดอย่างรวดเร็ว พูดอย่างจริงจังว่า “ภารกิจของแอร์โฮสเตสคือการให้บริการแก่ผู้โดยสารบนเครื่องบิน จุดประสงค์ของอุตสาหกรรมบริการคืออะไร? ลูกค้าคือพระเจ้า! แม้ว่าพฤติกรรมของจางเสี่ยวเถาอาจไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ แต่เธอช่วยผมได้มาก ช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้โดยสารคนนี้ ผมคิดว่าเธอทำงานได้ดีมาก”
หม่าผิงไม่ยอมแพ้ โต้แย้งอย่างตรงไปตรงมาว่า “แต่อุตสาหกรรมใด ๆ ก็มีกฎระเบียบ ถ้าทุกคนไม่ปฏิบัติตาม ทุกอย่างก็จะวุ่นวายหมด”
พูดจบเธอก็จ้องเขม็งไปที่จางเสี่ยวเถา จนอีกฝ่ายใจหาย ก้มหน้าลงต่ำยิ่งกว่าเดิมจนแทบจะมุดเข้าไปในอกเสื้ออยู่แล้ว
เห็นแบบนี้ เหอเจ๋อยิ่งแน่วแน่มากขึ้น เขาจะปล่อยให้จางเสี่ยวเถารับเคราะห์นี้ไม่ได้
ไม่นานนัก คนในห้องโดยสารก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนต่างก็สังเกตเห็นการโต้เถียงที่นี่ และมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“กฎหมายไม่ได้อยู่เหนือความเห็นอกเห็นใจ กฎระเบียบเป็นสิ่งตายตัว แต่มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิต” เหอเจ๋อพูดเสียงดัง “โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมบริการ มีไว้เพื่ออะไร? ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น หากทำตามกฎระเบียบ และทุกอย่างทำให้ลูกค้าลำบากมากขึ้น แล้วคุณจะมีไว้เพื่ออะไร? สร้างปัญหาให้ลูกค้าเหรอ? กฎระเบียบนี้มันผิดตั้งแต่แรกแล้ว!”
ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้โดยสารในห้องโดยสารก็ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น ในเรื่องนี้ พวกเขาอยู่ฝ่ายเดียวกัน เพราะไม่มีใครอยากจ่ายเงินเพื่อซื้อความทุกข์
เกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ในห้องโดยสาร หญิงสาวที่สวมชุดยูนิฟอร์มสีแตกต่างจากแอร์โฮสเตสคนอื่น ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามา พูดอย่างสุภาพว่า “คุณผู้ชาย ฉันหลิวหมิ่น หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพบปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?”
เหอเจ๋อเล่าเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียด และในตอนท้ายเขาเน้นย้ำว่า “ผมคิดว่าจางเสี่ยวเถาช่วยผมได้มาก แม้ว่าการทำแบบนี้อาจไม่เป็นไปตามกฎระเบียบ แต่ก็ช่วยหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจที่ผมพบได้ พนักงานที่ยอดเยี่ยมที่รู้จักปรับตัวแบบนี้เท่านั้น ถึงจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้”
หลิวหมิ่นไม่ได้ลำเอียงกับจางเสี่ยวเถา พอได้ยินแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะมองเธออย่างประหลาดใจ ทำงานบริการมานานหลายปี ไม่ค่อยได้ยินลูกค้าชมแบบนี้ จึงเกิดความประทับใจที่ดีกับเด็กสาวคนนี้ขึ้นมาทันที
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ ทางเราจะปรับปรุงวิธีการทำงานและระบบ จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าพึงพอใจสำหรับลูกค้าทุกท่าน”
เหอเจ๋อจับมือจางเสี่ยวเถา พูดด้วยความจริงใจว่า “ขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของคุณ กลับไปแล้วผมจะเขียนจดหมายขอบคุณไปที่บริษัทโดยเฉพาะเลย”
จางเสี่ยวเถาทำอะไรไม่ถูก มือเต็มไปด้วยเหงื่อ แต่ในใจเธอก็รู้ดีว่า ไม่ใช่เธอที่ช่วยผู้ชายคนนี้ แต่เป็นผู้ชายคนนี้ที่ช่วยเธอ เธอพูดเสียงเบาด้วยความเขินอายว่า “ไม่เป็นไรค่ะ นี่เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ”
เหอเจ๋อก็ปล่อยมือที่นุ่มนวลออกอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วเดินกลับไปที่นั่งของตัวเอง
เรื่องราวที่จัดการมาถึงตอนนี้ นอกจากหม่าผิงที่หน้าซีดแล้ว ทุกคนก็พอใจอย่างมาก
จางเสี่ยวเถาได้รับจดหมายขอบคุณ แน่นอนว่าหลิวหมิ่น หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินก็ได้รับผลพลอยได้ไปด้วย การประเมินว่าเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ ย่อมหนีไม่พ้น ดังนั้น เมื่อเธอยิ่งมองเด็กสาวที่เพิ่งมาทำงานวันแรก ยิ่งรู้สึกถูกชะตา
หลังจากบินไปประมาณหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินก็ลงจอดอย่างปลอดภัย
เหอเจ๋อยิ้มให้จางเสี่ยวเถา แล้วลงจากเครื่อง
เขาไม่คุ้นเคยกับมาเก๊า แต่ไม่เป็นไร เขาเรียกรถแท็กซี่ที่สนามบินแบบสุ่ม ๆ พอนั่งแล้วก็พูดอย่างไม่เกรงใจว่า “พาผมไปที่คาสิโนที่โด่งดังที่สุดที่นี่”
พอคนขับเห็นท่าทางแบบนี้ ก็รู้ทันทีว่าเจอเศรษฐีเข้าแล้ว ไม่พูดพร่ำทำเพลง สตาร์ทรถด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลังจากส่งผู้โดยสารไปทีละคน ๆ จางเสี่ยวเถาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพิ่งมาทำงานวันแรกก็เจอเรื่องราวพลิกผันมากมาย งานนี้ยากกว่าที่เธอคิด แต่โชคดีที่มีผู้ชายคนนั้นช่วยไว้ ถึงได้ผ่านพ้นวิกฤตมาได้
จางเสี่ยวเถาที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าของเหอเจ๋อ แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ พึมพำกับตัวเองพร้อมยิ้มว่า “ถือซะว่าเป็นค่าจ้างที่ได้เห็นร่างกายฉันก็แล้วกัน”
เที่ยวบินจะออกบินวันเว้นวัน เธอต้องพักที่นี่หนึ่งคืน แล้วพรุ่งนี้ค่อยบินกลับกว่างโจวพร้อมกับเครื่องบิน
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เธอก็ทักทายหลิวหมิ่น หัวหน้าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ก่อนจะเรียกรถแท็กซี่และหายไปท่ามกลางท้องถนนที่รถราพลุกพล่าน
พื้นที่มาเก๊าไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ความเจริญรุ่งเรืองนั้นน่าทึ่ง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการพนันที่ถูกกฎหมายในท้องถิ่นยิ่งเกื้อหนุนความรุ่งเรืองนี้
ทุก ๆ ปี มีผู้คนนับไม่ถ้วนเดินทางมาที่นี่พร้อมกับความฝันที่จะร่ำรวย แต่สุดท้ายก็ได้แต่แพ้ราบคาบ จากไปพร้อมกับความผิดหวังและความเจ็บปวด
ไม่นานรถแท็กซี่ก็จอดลงหน้าอาคารเดี่ยวที่หรูหรา เหอเจ๋อจ่ายค่ารถ ลงจากรถแล้วยืนอยู่หน้าคาสิโนที่ชื่อว่า ‘โปโล’ เขาอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความทึ่ง
เมื่อเทียบกับสถานบันเทิงเริงรมย์สุดหรูในกว่างโจวแล้ว ที่นี่ดูโอ่อ่ากว่ามาก ประตูมีหญิงสาวแต่งกายด้วยชุดกระต่ายสาวเรียงรายกันเป็นแถว เหอเจ๋อกวาดตามองไปรอบ ๆ ก็พบว่าทุกคนล้วนแต่มีรูปร่างหน้าตาสะสวยไปหมด ไม่มีใครที่ไม่สวยเลยสักคน
ขาเรียวยาวเหล่านี้ ทำให้เหอเจ๋อที่มาจากเมืองหลินอันรู้สึกตื่นตาตื่นใจ จนถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ
กระต่ายสาวล้วนมองหน้ากัน แม้ว่าชายหนุ่มจะดูไม่เหมือนเศรษฐี แต่เขาก็ดูอ่อนเยาว์และหล่อเหลา พวกเธอชอบแบบเขาที่สุดแล้ว ใช่ว่าจะไม่มีใครสนใจเขา
หญิงสาวร่างเล็กคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยพลางเอามือปิดปากหัวเราะ “คุณผู้ชายมาที่นี่เป็นครั้งแรกหรือเปล่าคะ?”
เหอเจ๋อถอนสายตากลับ พยายามทำตัวให้ดูสงบ แล้วพูดว่า “ใช่ครับ”
หญิงสาวร่างเล็กถอนหายใจอย่างโล่งอก โดยทั่วไปแล้วลูกค้าที่มาครั้งแรกมักจะเชื่อฟัง งั้นคืนนี้เธอคงโชคดี
MANGA DISCUSSION