บทที่ 51 เดินวนสักรอบแล้วค่อยบอกว่าชนะมา
ตอนนี้เหอเจ๋อแค่อยากจะไล่คนที่ทำตัวราวกับคุณป้าคนนี้ออกไปก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลง เงื่อนไขอะไรเขาก็ตอบตกลงไปหมด
หลังจากบังคับให้เขาเซ็นสัญญาที่เสียเปรียบมากมาย ในที่สุดกวนหลิงก็สบายใจขึ้น ก่อนจะฮัมเพลงจากไปอย่างมีความสุข
ใครจะรู้หลายสิบปีต่อมา เมื่อคนผมหงอกทั้งสองบังเอิญพูดถึงเรื่องนี้ คนที่ดูเหมือนจะเสียเปรียบอย่างเหอเจ๋อกลับยิ้มจนปากฉีก
สองวันผ่านไป ทุกอย่างราบรื่น ยกเว้นบนหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่มีการกล่าวถึงข่าวที่ว่า โจรชื่อดังหวังเอ้อร์กุ้ยพยายามแหกคุกและถูกฆ่าตายในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้นก็ไม่มีข่าวอะไรอีก
หลังจากเติ้งเฉิงชางตื่นขึ้นมา กลับพบว่าสายตาที่ทุกคนมองเขานั้นเต็มไปด้วยความสงสัย ภายใต้การเค้นถามของเขา คนรับใช้ที่อยู่ด้วยจำต้องบอกความจริงอย่างช่วยไม่ได้
เมื่อรู้ว่ารสนิยมของตัวเองถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน เติ้งเฉิงชางก็เกือบจะเป็นลมไปแล้ว ในใจเกลียดชังโจรกลุ่มนั้นมากขึ้น หลายวันมานี้พยายามสืบหาข่าว และสาบานว่าจะต้องแก้แค้นให้ได้
ทุกวันนี้กวนหลิงก็ยังคงออกไปเช้าเย็นกลับ ดูท่าทางลึกลับ ไม่รู้ว่าเธอกำลังยุ่งอยู่กับอะไร
เหอเจ๋อก็ช่วยเหอหย่งฝูตรวจร่างกายทุกวัน เพราะเติ้งหมิงเจี๋ยกลับมาอย่างกะทันหันทำให้เขาต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น รู้สึกว่าจิ้งจอกเฒ่าตัวนี้คงไม่ยอมอยู่เฉยแน่
นอกจากนี้ เขาก็ไปที่ร้านขายยาเทียนเซิ่งจู เพื่อให้หวงจิงจิงและหวงเทียนเหยาสบายใจ แม้ว่าจะไม่ได้พูดออกมาตรง ๆ แต่ก็แอบบอกเป็นนัยว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินค่าโสมร้อยปีแล้ว
ในขณะที่หวงจิงจิงรู้สึกประหลาดใจ ก็อดนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ไม่ได้ อับอายจนไม่กล้ามองหน้าเหอเจ๋ออยู่หลายวัน
เห็นว่างานประมูลการกุศลอีกสามวันก็จะเริ่มขึ้นแล้ว เหอเจ๋อก็เจอเรื่องยากอีกแล้ว เขาจะอธิบายที่มาของเงินสิบล้านนี้ได้อย่างไร? เพราะไม่ใช่จำนวนเงินเล็กน้อยเลย
คิดไปคิดมา จนกระทั่งวันหนึ่งได้ยินหวงเหยียนและถานเหวยซ่งคุยกัน จู่ ๆ เขาก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา
“ไปเล่นการพนันที่มาเก๊า?”
ถานเหวยซ่งยิ้มแห้ง ๆ พลางอธิบายว่า “ไม่ใช่ว่าเราติดการพนันนะ แต่สองวันที่แล้วได้ยินเพื่อนนักพนันคนหนึ่งไปมาเก๊ามา แค่คืนเดียวก็หมดตัว แถมยังเป็นหนี้อีกกว่าสิบล้าน สุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย”
หวงเหยียนฟังแล้วตัวสั่น อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโสมร้อยปีรากนั้น เขาคงจะลงเอยแบบนั้นเหมือนกัน
“การพนันมันน่ากลัวมากจริง ๆ ดีนะที่พี่เหอดึงเรากลับมาได้ทัน ไม่อย่างนั้นคงได้ลงนรกไปแล้ว”
เมื่อเหอเจ๋อได้ฟังดังนั้น เขาก็ตบหน้าผากตัวเอง ‘สิบล้านกว่า’ ถึงแม้จะเป็นเงินก้อนโต แต่ในบ่อนคาสิโนที่ถูกกฎหมายในมาเก๊ามันก็แค่ขนมเท่านั้น แค่เข้าไปเดินวนสักรอบ จากนั้นถ้ามีคนถามก็บอกว่าชนะมา
ภายใต้สายตาที่งุนงงของทั้งสองคน เหอเจ๋อวิ่งกลับไปอย่างตื่นเต้น เก็บข้าวของ แล้วจองตั๋วเครื่องบินรอบดึกทันที
คฤหาสน์ตระกูลเติ้ง
เติ้งหมิงเจี๋ยนั่งอยู่ในห้องหนังสือ วางโทรศัพท์ลงแล้วลูบคาง พูดอย่างสงสัยว่า “ไอ้เด็กนั่นจะไปมาเก๊ากะทันหันทำไม? แต่นี่ก็เป็นโอกาสดี…”
แม้เขาจะคิดว่าเหอเจ๋อไม่น่าจะเป็นผู้ต้องสงสัย แต่ก็ทนคำยุยงของเหอซู่โหรวและคำขอร้องของลูกชายเติ้งเฉิงชางไม่ไหว จึงได้ให้คนแอบจับตาดูความเคลื่อนไหวของเหอเจ๋อ
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็หยิบสมุดโทรศัพท์ออกมา เปิดไปหน้าสุดท้าย มองหาหมายเลขที่ไม่มีชื่อ แล้วกดโทรออกไป
นี่เป็นครั้งแรกที่เหอเจ๋อนั่งเครื่องบิน ในใจรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก แน่นอนว่าในฐานะเด็กหนุ่ม สิ่งที่เขาคาดหวังมากที่สุดก็คือแอร์โฮสเตสที่ว่ากันว่าหุ่นดี หน้าตาสวย
หลังจากรับบอร์ดดิ้งพาสแล้ว ด้วยความตื่นเต้น เขาจึงเป็นคนแรกที่เดินขึ้นเครื่องไป
เนื่องจากเป็นเที่ยวบินระยะสั้น จึงเป็นเครื่องบินลำเล็ก น่าจะจุคนได้แค่ร้อยกว่าคน เหอเจ๋อเป็นคนแรกที่ขึ้นมา ภายในห้องโดยสารจึงว่างเปล่า
เขาหาที่นั่งของตัวเองอย่างรวดเร็วตามข้อมูลบนตั๋ว หลังจากเก็บกระเป๋าแล้ว ก็รู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาทันที
โชคดีที่มีป้ายบอกทางอยู่บนผนัง เหอเจ๋อเดินตามป้ายไป ผลักประตูดูกลับพบว่าประตูห้องน้ำล็อกอยู่
คนเรามีเรื่องเร่งด่วน ความรู้สึกปวดปัสสาวะก็ยิ่งทวีคูณ เหอเจ๋อได้ยินเสียงคล้าย ๆ เสียงคนเดิน เขาไม่ได้คิดอะไรมาก จึงเดินตามเสียงนั้นไป
“ผมปวดปัสสาวะ รบกวนเปิดประตูห้องน้ำให้หน่อยได้ไหมครับ?”
วันนี้เป็นวันแรกที่จางเสี่ยวเถามาทำงาน แต่ไม่คิดว่านาฬิกาปลุกจะเสีย โชคร้ายที่นอนมากเกินไป
กว่าที่เธอจะมาถึงที่ทำงาน แอร์โฮสเตสคนอื่น ๆ ก็เปลี่ยนเสื้อและไปเตรียมอาหารกันหมดแล้ว เพื่อไม่ให้เพื่อนร่วมงานรู้สึกแย่ เธอจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งรีบ
แต่พอกำลังจะถอดเสื้อคลุมออก เพื่อจะใส่ชุดยูนิฟอร์ม ก็ได้ยินเสียงผู้ชายดังขึ้นข้างหู จางเสี่ยวเถาตัวแข็งทื่อ อยากจะหาที่มุดดินหนีทันที
เหอเจ๋อก็ตกตะลึง เขาไม่คิดว่าจะมาเจอสาวสวยที่ใส่แค่ชุดชั้นในลูกไม้สีม่วงที่นี่
ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนจะอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดปี บนใบหน้ามีไขมันอยู่บ้าง ดูน่ารักน่าหยิก
แต่หุ่นของเธอกลับดีมาก โดยเฉพาะเนินอกที่แสนอวบอิ่ม ระดับความตั้งชันนั้นน่าทึ่งมาก คนที่คลุกคลีกับดอกไม้อย่างช่ำชองย่อมรู้ดีว่า จริง ๆ แล้วขนาดไม่ได้สำคัญ แค่ตั้งชันก็สุดยอดแล้ว
เหอเจ๋อยึดหลักเจ้าชู้แต่ไม่หยาบคาย จึงหันหลังกลับอย่างสุภาพ เหลือบมองหุ่นที่โค้งเว้าด้วยหางตา แล้วพูดอย่างสุภาพว่า “ขอโทษที ผมเสียมารยาท”
จางเสี่ยวเถาหน้าแดงก่ำกอดอกพูดตะกุกตะกักว่า “คุณ…คุณออกไปรอด้านนอกก่อน เดี๋ยวฉันใส่เสื้อผ้าเสร็จจะไปเปิดประตูให้”
ถึงแม้เหอเจ๋อจะรู้สึกเสียดายทิวทัศน์ตรงหน้า แต่เพื่อไม่ให้รปภ. มาพาตัวออกไป เขาก็ยอมหันหลังกลับออกไปอย่างเชื่อฟัง
ประมาณสองนาทีต่อมา จางเสี่ยวเถาถึงได้เดินหน้าแดงก่ำเข้ามา แล้วหยิบกุญแจไขประตูห้องน้ำ
เหอเจ๋ออั้นไม่ไหวแล้วจึงรีบวิ่งเข้าไป ถอดกางเกงปลดทุกข์อย่างสบายใจ
จางเสี่ยวเถาที่อยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงน้ำชัดเจน อดไม่ได้ที่จะทำเสียงจิ๊จ๊ะ แล้วด่าเบา ๆ ว่า “คนลามก!”
“จางเสี่ยวเถาเธอมาทำอะไรตรงนี้? ทำไมไม่ไปเตรียมอาหารข้างหลัง แอบอู้งานอยู่หรือไง!?” ผู้หญิงวัยกลางคนแต่งหน้าจัดโผล่มาจากด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พร้อมกับตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด
จางเสี่ยวเถาเบะปาก พูดอย่างน้อยใจว่า “ฉันไม่ได้อู้งาน”
“ถ้าอย่างนั้นเธอมาทำอะไรอยู่ที่นี่?” ผู้หญิงวัยกลางคนไม่ยอมปล่อย ถามอย่างเอาเรื่อง
“เธอแค่เปิดประตูห้องน้ำให้ผม มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
เหอเจ๋อที่เพิ่งออกจากห้องน้ำพูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
ถ้าไม่ใช่เพราะจางเสี่ยวเถา เขาคงต้องอั้นจนฉี่ราดกางเกงแน่ ๆ บุญคุณแค่หยดน้ำ ยังต้องทดแทนด้วยน้ำพุเลย เขายึดมั่นในหลักการนี้มาตลอด
แน่นอนว่าเหตุผลสำคัญกว่านั้นก็คือ ผู้หญิงอายุสามสิบกว่าคนนี้ ที่ใบหน้าทาแป้งจนขาวโพลนไปหมด กำลังทำลายภาพลักษณ์ที่ดีงามของแอร์โฮสเตสในใจเขาโดยสิ้นเชิง
MANGA DISCUSSION