บทที่ 24 ไม่ใช่เกย์ก็พอ
เดิมทีเหอเจ๋อคิดว่าแก้ปัญหาหนึ่งได้แล้ว แต่กลับพบว่าปัญหาใหม่ก็เกิดขึ้นมาอีก
พูดตามตรง เขาคิดอยู่ครึ่งค่อนวัน พบว่าไม่มีวิธีเข้าใกล้ลูกศิษย์สองคนของหวงเทียนเหยาจริง ๆ
“เขาก็เป็นคน ฉันเป็นคนมีชีวิต จะโดนฉี่รดตายหรือไง?”
เหอเจ๋อตัดสินใจวางทิ้งไว้ข้างหลังก่อน และกลับบ้านเตรียมวางแผนระยะยาว
ตอนเย็น เกือบพลบค่ำ
เหอเจ๋อเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย ตามร้านค้าเล็กใกล้ ๆ ซื้อของว่างเล็กน้อย เดินเล่นไปมา
ท่ามกลางฝูงชนที่พลุ่งพล่าน มีชายวัยกลางคนไม่เด่นสะดุดตาคนหนึ่งสวมแว่นกรอบดำ ใส่เสื้อคลุมยาวถึงเข่า เดินตามหลังเขาไม่ใกล้ไม่ไกล
หมู่บ้านกว่างหนานเป็นเขตเก่า แม้ว่าจะคึกคักมาก แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครวางแผน อาคารที่สร้างจึงกระจัดกระจายและยุ่งเหยิง
ชายวัยกลางคนเหลือบตามองเหอเจ๋อเดินเข้าซอยเล็ก ๆ รีบเก็บโทรศัพท์ เร่งฝีเท้าตามเข้าไป
“พี่ชาย ตามผมมาตั้งไกล เหนื่อยไหม?”
พอเข้าตรอก ก็ได้ยินเสียงหยอกล้อก็ดังขึ้นข้างหู ชายวัยกลางคนตกใจรีบมองไปรอบ ๆ พบกับเหอเจ๋อที่สะกดรอยตามเขามาตลอด ยืนมองเขาด้วยรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความเจ้าเล่ห์
“เรามาตกลงกันก่อน ผมเป็นชายแท้ทั้งแท่ง ถ้าคุณคิดจะทำอะไรไม่ดีกับผม อย่าโทษที่ผมต้องทุบตีคุณนะ”
เหงื่อเย็นขนาดเม็ดถั่วไหลรินลงบนหน้าผากของชายวัยกลางคน แม้ว่าท่าทางของเหอเจ๋อจะดูเหมือนเป็นการพูดเล่น ทว่าเขารับรู้ได้ชัดเจนว่าชายหนุ่มคนนี้กำลังจับจ้องเขาอยู่ ถ้าเขาเกิดเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เขาต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงอย่างแน่นอน
คิดถึงตรงนี้ เขาจึงละทิ้งความคิดที่จะโกหกอย่างเด็ดขาด และส่งนามบัตรของตัวเองให้เหอเจ๋ออย่างซื่อสัตย์
“ผม…ผมเป็นนักสืบเอกชน นี่คือนามบัตรของผม”
“แค่ไม่ใช่เกย์ก็พอ เล่นเอาผมตกใจไปหมดเลย” เหอเจ๋อพูดเล่นไปพลางรับนามบัตรของชายวัยกลางคนขึ้นมา แล้วอ่านชื่อที่อยู่ด้านบน
“ซุนหู”
ซุนหูยิ้มแหย ๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ธุรกิจหลักของผมคือการสืบหาข้อมูล”
เหอเจ๋อเกาหัวแล้วพูดอย่างงงงวยว่า “สาวคนไหนสนใจหนุ่มหล่ออย่างผม บอกผมตรง ๆ ก็ได้ ทำไมต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ด้วย”
ซุนหู “…”
“โอเค จากสีหน้าของคุณ ฉันรู้แล้วว่า ไม่ใช่ผู้หญิงที่สืบหาข้อมูล น่าเสียดายจริง ๆ”
เหอเจ๋อมองซุนหูตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาประหลาด ซุนหูรู้สึกขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เหมือนกลายเป็นหนูตัวน้อยไปซะอย่างนั้น
“นาย…นายจะทำอะไร?”
“อย่าเข้าใจผิด ผมไม่ได้สนใจคุณเลย แค่คิดถึงตอนที่เคยพนันกับแม่ เธอบอกว่าไม่มีใครสามารถทนต่อการกดจุดซินเฉวียน*[1]ได้ถึงสามนาที แล้วก็ยังสามารถรักษาสติสัมปชัญญะไว้ได้ ผมได้ยินว่านักสืบเอกชนอย่างพวกคุณมีจิตใจที่แน่วแน่ เลยอยากลองดูสักหน่อย”
ขณะที่เหอเจ๋ออธิบาย ซุนหูก็คิดล่วงหน้าไปถึงสิ่งที่ไม่ดีแล้ว ก่อนที่เขาจะพูด นิ้วมือของอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาที่ตัวเขาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ทันใดนั้น ความรู้สึกประหลาด ที่บอกไม่ถูกว่าเปรี้ยวหรือชา ก็กระจายไปทั่วร่างกายของซุนหู ทำให้เขาอยากจะเอาหัวโขกพื้นให้รู้แล้วรู้รอด
เขาคร่ำครวญอยู่ในใจ เสียดายที่ไม่ได้ดูดวงก่อนออกจากบ้าน ถึงได้เจอคนบ้าแบบนี้
“ปล่อยผม! เป็นเติ้งเฉิงชางที่จ้างผมให้สืบเรื่องของคุณ”
เหอเจ๋อคลายนิ้วมือออกด้วยสีหน้าผิดหวัง บ่นว่า “ไม่ใช่ว่าความตั้งใจแน่วแน่มากเหรอ ทำไมแค่สิบวินาทีก็ทนไม่ไหวแล้ว”
ซุนหูที่เหงื่อท่วมทั้งตัวรู้สึกพูดไม่ออก เขาอยากจะลุกขึ้นถอดเสื้อผ้า ชี้ไปที่กล้ามเนื้อของตัวเอง แล้วตะโกนบอกเหอเจ๋อว่า “ฉันเป็นคนนะ!”
แต่พอคิดว่าถ้าทำแบบนั้น อาจจะถูกเหอเจ๋อเข้าใจผิดว่าเป็นเกย์ และอาจจะสร้างความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นมากขึ้น เขาจึงตัดสินใจละทิ้งความคิดที่น่าดึงดูดใจนั้นไป
“เติ้งเฉิงชาง?”
เหอเจ๋อเคี้ยวสามตัวอักษรในปาก นึกถึงภาพวันนั้นที่เติ้งเฉิงชางเดินไปพลางปล่อยลม เขาก็ยกมุมปากและอดขำไม่ได้
ซุนหูเห็นรอยยิ้มของเขา ขนทั่วร่างลุกชัน คิดว่าเหอเจ๋อกำลังคิดแผนการทรมานคนอีกแล้ว เลยรีบหาข้ออ้าง พูดว่า “คือว่า… ที่บ้านผมต้มซุปไว้ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
เขารู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว
เหอเจ๋อพูดด้วยความเสียดาย “ต่อไปว่าง ๆ ก็มาหาผมได้นะ ครั้งหน้าจะลองดูว่าคุณจะทนได้เกินยี่สิบวินาทีหรือเปล่า…”
ซุนหูเดินโซซัดโซเซเกือบล้มคะมำ ในใจเขาสาบานกับตัวเองแล้วว่า ต่อไปถ้ามาหาไอ้บ้านี่อีกก็คงต้องเป็นหมาแล้ว!
นักสืบเอกชนอันดับหนึ่งของกว่างหนานที่ออกจากประตูมาอย่างองอาจ ตอนกลับมาเหมือนสาวน้อยที่ถูกชายล่ำบึ้กทำลายล้างนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากอาบน้ำเย็นเสร็จ ความรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายของหล่อนค่อยหายไป
กริ๊ง!
ซุนหูคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะ เก็บกำลังใจแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ สำนักงานนักสืบเอกชนหูเหว่ย”
“ซุนหู คุณทำอะไรลงไป? ฉันจ่ายเงินให้คุณตั้งสองเท่า ทำไมถึงตอนนี้ยังไม่มีข่าวอะไรเลย?”
เสียงร้อนใจของเติ้งเฉิงชางดังมาจากโทรศัพท์ เขาอยากฆ่าไอ้บ้านนอกที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนนั่นให้ตายแทบไม่ไหว
ซุนหูฟังจบ ในหัวก็ปรากฏใบหน้าที่แสยะพลางเยาะเย้ยผุดขึ้นมาในหัวเขาทันที หลังจากอาบน้ำเย็นแล้ว ความรู้สึกปวดเมื่อยที่กดไว้ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เขาพูดอย่างโมโหว่า “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว ให้ตายเถอะ ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจขนาดนั้นทำไมไม่บอก คนอื่นทำงานต้องจ่ายตังค์ ทำงานให้ก็อันตรายถึงชีวิต งานนี้ฉันไม่รับแล้ว คุณจะหาใครก็หาไป!”
เติ้งเฉิงชางโดนด่าเปรี้ยงปร้างเต็มหน้า ได้ยินเสียงสัญญาณไม่ว่างในหูโทรศัพท์ก็ตกตะลึง ในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ถึงแม้จะโมโหที่ซุนหูทำพลาด แต่อีกฝ่ายก็ใช้ชีวิตในกว่างหนานมาหลายปี ถือว่ามีชื่อเสียงพอสมควร บางทีในมืออาจจะมีหลักฐานมืดของเขาอยู่ก็ได้ เฉิงชางจึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
สมองเติ้งเฉิงชางไม่ค่อยหลักแหลมอยู่แล้ว พอเจอเรื่องแบบนี้ยิ่งคิดอะไรไม่ออก จึงได้แต่โทรหาแม่ของตัวเอง เหอซู่โหรว แล้วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
เหอซู่โหรวฟังจบแล้วก็ค่อนข้างประหลาดใจ แต่หญิงสาวยังฉลาดกว่าลูกชายโง่เขลาของตัวเองมาก จากคำพูดที่เติ้งเฉิงชางเล่าซ้ำ เธอได้ยินเบาะแสบางอย่าง คาดเดาว่าอาจจะเป็นเพราะซุนหูล้มเหลว เผลอเปิดเผยร่องรอยตัวเอง ทั้งยังถูกเหอเจ๋อสั่งสอนซะเอง
ต้องยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีความสามารถจริง ๆ จากเบาะแสแค่น้อยนิดกลับสามารถคาดเดาความจริงได้ถูกต้องเจ็ดถึงแปดส่วน เธอครุ่นคิดครู่หนึ่ง สีหน้าดูอึมครึมแล้วพูดว่า “ถ้าไม่กำจัดภัยร้ายใหญ่แบบนี้ แม่ลูกเราจะไม่มีวันสงบสุขแน่! ฉันตรวจสอบผ่านช่องทางอื่นแล้ว มันยังมีแม่อีกคน อาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ ชื่อหลินอัน”
เติ้งเฉิงชางเข้าใจในทันที เขาหัวเราะอย่างสะใจแล้วพูดว่า “ขอแค่ควบคุมแม่ของมันได้ ถึงตอนนั้น ไอ้หนุ่มคนนี้ เราจะบีบให้แบนราบ ยังไงก็อยู่ในกำมือเราแน่นอน!”
[1] จุดซินเฉวียน เป็นจุดฝังเข็มที่ศูนย์กลางหน้าอก
MANGA DISCUSSION