บทที่ 23 มีจุดประสงค์อะไร
หวงเทียนเหยาโกหกอย่างมีน้ำหนัก มองไปที่เหอเจ๋อด้วยสีหน้าจริงจัง
เหอเจ๋อชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะ “ผมไม่มีจุดประสงค์อะไรเลย”
หวงเทียนเหยาส่ายหัว “เธอคิดว่าฉันแก่จนเลอะเลือน หรือฉันป่วยจนโง่ไปแล้วเหรอ?”
เหอเจ๋อไม่เข้าใจ “หมายความว่าอะไร?”
“ในโลกนี้ ย่อมมีคนดีอยู่บ้าง ย่อมมีคนที่ทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่เธอไม่ใช่คนแบบนั้น แน่นอน ฉันก็ไม่สามารถสงสัยเธอได้ แม้หน้าตาเธอไม่เหมือนคนดี แต่เพราะเธอตั้งใจช่วยชีวิตคนแก่คนนี้นั่นคือเรื่องจริง”
พูดถึงตรงนี้ หวงเทียนเหยาก็หยุดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบแก้วน้ำที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาดื่ม ดื่มเสร็จแล้วจึงพูดต่อ “เธอช่วยฉัน ก็อาจจะไม่หวังผลตอบแทน อยากทำความดี ไม่ว่าโรคจะหายหรือไม่ เธอช่วยฉันยับยั้งอาการไว้ ฉันก็ติดหนี้บุญคุณเธอ”
พูดจบหวงเทียนเหยาก็หัวเราะ “ฉันไม่เกรงใจเธอและก็ไม่ได้ขอบคุณเธอ เธอก็ทน เธอผลักประตูเข้ามา จะฝังเข็มให้ฉัน ถึงแม้จะทำประตูพัง ฉันให้เธอชดใช้ เธอก็ยอมรับ แต่ปัญหาคือเธอคือผู้มีพระคุณของฉัน ทำไมต้องอ่อนน้อมถ่อมตนแบบนี้? ทั้งยังบอกว่าไม่ต้องการอะไรอีก? มันไม่สมเหตุสมผล”
ได้ยินดังนั้น เหอเจ๋อก็ตกใจเล็กน้อย
ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว ว่าผู้เฒ่าหวงสงสัยอะไรกันแน่
นั่นก็คือการกระทำของเหอเจ๋อ ไม่สอดคล้องกับเหตุผล
เมื่อคิดออก เหอเจ๋อก็หัวเราะแห้ง ๆ ผู้เฒ่าคนนี้ดูเหมือนจะดื้อรั้นเข้ากับคนยาก แต่แท้จริงแล้ว กลับขุดหลุมดักเขาตลอดเวลา ช่างสมเป็นจิ้งจอกเฒ่าจริง ๆ
เหอเจ๋อถามว่า “คุณรู้ได้ยังไง ว่าไม่ใช่เพราะจิงจิง…”
“ฉันอายุแปดสิบเอ็ดปีแล้ว คิดว่าฉันตาบอดเหรอ? เธอกับจิงจิงไม่มีความรู้สึกแบบนั้น อย่างน้อยก็ตอนนี้ยังไม่มี บอกมาตามตรงเลยดีกว่าว่าเธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
เหอเจ๋อยักไหล่ เขาก็ยังอ่อนหัดเกินไป ไม่เคยต่อปากต่อคำกับจิ้งจอกเฒ่ามาก่อน ครั้งนี้ถือว่าถูกหวงเทียนเหยามองทะลุโดยสิ้นเชิง
“ผู้เฒ่าหวง อันที่จริงแล้วผมแค่อยากมาถามคุณบางเรื่อง” เหอเจ๋อพูดตรง ๆ
หวงเทียนเหยาพยักหน้าเล็กน้อย “พูดมาตามตรงเลยก็ได้ ฉันก็ไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล”
เหอเจ๋อบ่นในใจ ผมคิดว่าคุณมีเหตุผลขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่?
“อืม คำถามแรก” เหอเจ๋อชี้ไปที่ลูกบิดประตู “ผมไม่ต้องชดใช้ได้ไหม?”
“ไสหัวไป!”
เหอเจ๋อ “…”
เหอเจ๋อถอนหายใจ แล้วพูดว่า “ผู้เฒ่าหวง คุณน่าจะได้ยินที่จิงจิงพูดแล้ว ผมเพิ่งมาถึง เมืองกว่างหนานเมื่อสองวันก่อน หลังจากผมมาถึงที่นี่ ผมก็ช่วยชีวิตเหอหย่งฝูไว้”
หวงเทียนเหยาพยักหน้า เห็นได้ชัดว่าเขาก็รู้เรื่องนี้
“เรื่องโรคประหลาดของเหอหย่งฝู ผมจะไม่พูดถึงมัน สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ ก่อนที่เหอหย่งฝูจะป่วยในครั้งนี้ เขากินยาเจี้ยนหมี่ซ่านเป็นเวลานาน”
“อะไรนะ!?” ได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหวงเทียนเหยาก็เปลี่ยนไป เขาเป็นแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียง เขาย่อมเคยได้ยินเรื่องยาเจี้ยนหมี่ซ่านมาบ้าง และจากสีหน้าของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้แค่เคยได้ยินมาเท่านั้น
เหอเจ๋อหัวเราะ “ผมเชื่อว่าผู้เฒ่าหวงก็น่าเคยได้ยินเรื่องของสิ่งนี้มาบ้าง นี่เป็นของบำรุงชั้นดี สามารถทำให้คนมีพลังงานเต็มเปี่ยม แต่ถ้ากินเป็นเวลานาน ก็เท่ากับเป็นการทำลายพลังชีวิตของร่างกาย คนที่ทานเข้าไป ถ้าป่วย ก็จะป่วยหนัก…”
ผู้เฒ่าหวงเม้มปากไม่พูดอะไรสักคำ
เหอเจ๋อพูดถึงตรงนี้ ก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ “ถ้าผู้เฒ่าหวงเคยได้ยินเรื่องยาเจี้ยนหมี่ซ่าน คุณน่าจะรู้ว่ายานี้ต้องใช้ส่วนผสมหลักอย่างหนึ่ง”
หวงเทียนเหยาพยักหน้า “โสมร้อยปี”
“เมื่อคืนตอนมื้อเย็น จิงจิงเผลอหลุดปากออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ” เหอเจ๋อพูด “ยาสมุนไพรหายากแบบนี้ เชื่อเถอะ ร้านขายยาในกวางหนาน คงมีไม่มาก”
หวงเทียนเหยาไม่สามารถปฏิเสธได้ “ใช่ หรือแม้กระทั่งพูดได้ว่า… ก่อนหน้านี้ มีเพียงร้านขายยาเทียนเซิ่งจูเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่มี”
“ผู้เฒ่าหวงคุณวางใจได้ เรื่องนี้ผมได้ปรึกษากับคุณเหอหย่งฝูแล้ว หลังจากเข้าโรงพยาบาล เขาอยู่ในสภาพโคม่าเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้ทานยาบำรุงอะไรเลย ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับจิงจิง” เหอเจ๋อกล่าว
หวงเทียนเหยาได้ยินประโยคนี้ กลับหัวเราะอย่างขมขื่น “ผมรู้อยู่แล้ว เพราะว่าโสมร้อนปีของร้านขายยาเทียนเซิ่งจู… หายไปเมื่อสองเดือนก่อน”
“อะไรนะ?” คราวนี้เป็นฝ่ายเหอเจ๋อตกใจบ้าง
“เธอคิดว่าทำไม ฉันถึงทะเลาะกับลูกศิษย์สองคน? เธอคิดว่าทำไม ฉันไล่พวกเขาออกจากสำนัก เป็นเพราะพวกเขาแอบขโมยโสมร้อยปีออกไป ตอนที่ฉันป่วย!”
พูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของหวงเทียนเหยาแดงก่ำ และไออย่างรุนแรง
“คุณปู่ อย่างเพิงโมโห!” เหอเจ๋อรีบเข้าไปนวดหลังให้หวงเทียนเหยาทันที
แต่หวงเทียนเหยาโกรธมาก และไอไม่หยุด หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก
เหอเจ๋อไม่กล้าชักช้า รีบหยิบเข็มเงินออกมาฝังเข็มให้เขาทันที
ครู่ใหญ่ต่อมา หวงเทียนเหยาถึงกลับมาเป็นปกติ
ภายในห้อง คนแก่หนึ่งคนและคนหนุ่มหนึ่งคน บรรยากาศค่อนข้างเงียบงัน
อุณหภูมิในฤดูร้อนค่อย ๆ สูงขึ้น อากาศในห้องทำให้รู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
“ถ้าลูกศิษย์สองคนของฉัน ใช้โสมร้อยปีไปทำร้ายคน… มันก็เป็นความผิดของฉันเอง!”สีหน้าของหวงเทียนเหยาดูขมขื่น เขาป่วยอยู่แล้ว ยิ่งโกรธจนหัวใจเต้นแรง ทั้งตัวยิ่งดูซูบผอมลงไปอีก
“ตอนนี้ผมได้รับการว่าจ้างจากประธานเหอ ให้เป็นหมอประจำตัวแล้ว กำลังสืบสวนเรื่องนี้อยู่ ไม่รู้ว่าคุณปู่จะสะดวกให้ข้อมูลการติดต่อลูกศิษย์ทั้งสองของท่านได้หรือเปล่า?”
ผู้เฒ่าหวงพยักหน้า “ไปถามจิงจิง เด็กคนนั้นเก็บเบอร์โทรศัพท์ของทั้งสองคนไว้ ถ้าเธอตรวจสอบแล้ว พบว่าเป็นพวกเขา ก็… ไม่ต้องเกรงใจ”
เหอเจ๋อ เห็นสีหน้าของผู้เฒ่าหวงเคร่งขรึม จึงพยักหน้าแรง ๆ
ผู้เฒ่าหวงถอนหายใจ จากนั้นก็นอนลงบนเตียง โบกมือให้เหอเจ๋อออกไป
เหอเจ๋อออกจากห้อง เดินไปที่ห้องโถงใหญ่ แล้วพบว่าหวงจิงจิงไม่ได้อยู่ที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไปเคาะประตูห้องของหวงจิงจิง
หวงจิงจิงเปิดประตู “หมอเหอ?”
“คุณปู่ของคุณให้ผมมาหาคุณ” เหอเจ๋อหาข้ออ้าง ขอเบอร์โทรศัพท์ของลูกศิษย์ทั้งสองของผู้เฒ่าหวงจากหวงจิงจิง
หวงจิงจิงไม่ได้ถามอะไรมาก เพียงแค่ใช้โทรศัพท์มือถือแชร์เบอร์สองเบอร์ให้เหอเจ๋อโดยตรง
เหอเจ๋อขอบคุณ แล้วออกจากร้านขายยาเทียนเซิ่งจู เขาก็หาร้านขายของชำ เพื่อซื้อซิมโทรศัพท์ใหม่
เขาเลือกเบอร์โทรศัพท์ที่หวงจิงจิงให้มา และโทรออกด้วยเบอร์ใหม่
โทรศัพท์ดังอยู่นานพอสมควรก่อนจะมีคนรับสาย
“สามถ้วยเจอ!”
“กิน!”
เสียงเล่นไพ่ดังมาจากปลายสาย
เหอเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็เปิดปากพูด “สวัสดีครับ ที่นี่เป็นสายด่วนบริการลูกค้าของบริษัทประกันอันผิง ไม่ทราบว่าคุณคือคุณถานเหวยเซียงใช่ไหมครับ?”
“ฉันไม่ซื้อประกัน!” อีกฝ่ายกลับวางสายทันที
โทรศัพท์ถูกตัดสาย เหอเจ๋อรู้สึกค่อนข้างสิ้นหวัง เขายังไม่ได้คิดว่าจะติดต่อกับลูกศิษย์สองคนของหวงเทียนเหยาได้อย่างไร
MANGA DISCUSSION