บทที่ 22 จะต่อยใครนะ
โรงพยาบาลรัฐ ชั้นดาดฟ้า
เติ้งเฉิงชางยืนอยู่หน้าท่อระบายน้ำด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เขาเทน้ำซุปในกระติกน้ำร้อนทิ้งไปจนหมด
จากนั้น ก็หยิบโทรศัพท์โทรหาแม่ของเขา
เติ้งเฉิงชาง “แม่ วันนี้ผมเห็นเหอเจ๋อที่โรงพยาบาล หมอนั่นไม่ยอมลุงดื่มซุปบำรุงเลย”
เมื่อได้ยินแบบนั้น เหอซู่โหรวที่อยู่ปลายสายก็เงียบไปครู่หนึ่ง “ลูกอย่าไปมีเรื่องกับเขานะ เมื่อคืนเขารับเงินของแม่ไปแล้ว แม่จะโทรหาเขาทีหลัง”
“แม่ แต่ดูยังไงมันก็เป็นหมาที่เลี้ยงไม่เชื่อง ให้ผมหาคนจัดการมันดีไหม?” เติ้งเฉิงชางพูด
“จัดการ? มันเพิ่งมาที่กว่างหนานได้แค่สองวัน ก็สร้างเรื่องใหญ่โตแล้ว ผู้ชายคนเดียวจัดการอันธพาลได้ตั้งสิบคน แถมคนถ่ายคลิปลงอินเทอร์เน็ต ลูกจะหาใครไปจัดการมันได้?”
เมื่อได้ยินคำพูดของเหอซู่โหรว เติ้งเฉิงชางก็เงียบไป
ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ที่มาที่ไปของเหอเจ๋อ ถ้าทำอะไรโดยไม่คิด และจัดการเหอเจ๋อไม่ได้ สุดท้ายเหอเจ๋อก็จะระวังตัว ต่อไปก็จะยุ่งยากกว่าเดิม
หลังจากวางสายไปแล้ว เหอเจ๋อก็ได้รับโทรศัพท์จากเหอซู่โหรว
“สวัสดีครับคุณเหอ” เหอเจ๋อรับโทรศัพท์ ในใจคิดว่าสุดท้ายก็มาจริง ๆ
อันที่จริง ตอนที่เห็นเติ้งเฉิงชางเอาน้ำซุปตุ๋นไปให้เหอหย่งฝู เหอเจ๋อก็คาดการณ์ได้แล้วว่าเหอซู่โหรวจะโทรหาเขา
ถ้าเหอซู่โหรวไม่โทรหา เขาก็คงไม่สงสัยเธอ แต่ตอนนี้…
“หมอเหอ ฉันให้เฉิงชางเอาซุปตุ๋นไปให้พี่ชายฉัน ได้ยินว่าคุณไม่ให้พี่ชายฉันดื่มเหรอ?” เหอซู่โหรวถามตามตรง
เหอเจ๋อก็ไม่ได้ปฏิเสธ “คุณเหอครับ ประธานเหอเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวดี ไม่ควรบำรุงมากเกินไป”
“หมอเหอ น้ำซุปตุ๋นเหล่านั้นฉันให้คนเชี่ยวชาญทำ ไม่มีปัญหาแน่นอน” เหอซู่โหรวพูดต่อ
เหอเจ๋อหัวเราะ “ผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นช่วยชีวิตประธานเหอเหรอ?”
เหอซู่โหรวโต้กลับไม่ได้
“เพราะฉะนั้น ตอนนี้เรื่องสุขภาพของประธานเหอ ปล่อยให้ผมรับผิดชอบเถอะ” เหอเจ๋อพูดต่อ
เหอซู่โหรวเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อ “หมอเหอ ฉันคิดไม่รอบคอบเอง ทำตามที่คุณพูดเถอะ ฉันวางสายแล้ว”
พูดจบ เหอซู่โหรวก็วางสายไป
เหอเจ๋อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ทำไมถึงพูดง่ายแบบนี้ เขาคิดว่าเหอซู่โหรวจะพูดเรื่องที่ตัวเองรับเงินไปเมื่อคืนเสียอีก
เหอเจ๋อคิดไม่ตก
เหอซู่โหรวไม่มีทางพูดง่ายแบบนี้แน่ หลังจากวางสายจากเหอเจ๋อ เธอก็โทรหาเติ้งเฉิงชางทันที
“เฉิงชาง ไปสืบประวัติเหอเจ๋อ ถ้าตรวจดูแล้วว่าเขาไม่มีพวกพ้อง ก็หาทางจัดการเขาซะ”
ผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนใจเร็วจริง ๆ เมื่อห้านาทีก่อนเธอยังบอกว่าอย่าทำอะไรเหอเจ๋อ
เติ้งเฉิงชางสับสน “แม่ ทำไม?”
“ไม่ได้ให้ลงมือเดี๋ยวนี้ สืบให้แน่ชัดก่อน ผู้ชายคนนี้คงไม่ได้อยู่ฝ่ายเรา” เหอซู่โหรวพูดด้วยความโกรธ “ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องใช้คนของพ่อลูกจัดการ”
เหอเจ๋อไม่รู้ว่าตัวเองโดนจับตา บ่ายวันนั้นเขาว่าง จึงตัดสินใจไปที่ร้านขายยาเทียนเซิ่งจู
ครั้งนี้ไป เหอเจ๋อคิดว่าสามารถถามหวงเทียนเหยาเกี่ยวกับเรื่องโสมร้อยปีได้เลย เพราะสถานการณ์ฝั่งเหอหย่งฝูค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับหวงเทียนเหยา
ตอนนี้ ผู้ต้องสงสัยมากที่สุดคือเหอซู่โหรวและลูกชายของเธอ
แต่ตอนนี้ เหอเจ๋อยังไม่มีหลักฐาน
ทว่า เหอหย่งฝูเคยกินยาบำรุงมากมายก่อนที่จะป่วยเข้าโรงพยาบาล เหอเจ๋อก็ไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ว่าคนวางยาคือเหอซู่โหรวและลูกชายเธอ
ด้วยเหตุนี้ เหอเจ๋อจึงยังไม่บอกเรื่องทั้งหมดนี้กับเหอหย่งฝู
หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ เหอเจ๋อก็นั่งรถไฟใต้ดินไปยังเร้านขายยาเทียนเซิ่งจูโดยตรง
ตอนมาถึงร้านขายยาเทียนเซิ่งจู ก็เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว
ประตูของร้านขายยาเทียนเซิ่งจูยังคงปิดสนิท เหอเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วโทรหาหวงจิงจิง
หวงจิงจิงรับสายอย่างรวดเร็ว
“จิงจิง ฉันอยู่ที่หน้าประตูบ้านคุณแล้ว” เหอเจ๋อพูด
“อ้าว? หมอเหอ ทำไมคุณถึงมาล่ะ?” หวงจิงจิงไม่คิดว่าเหอเจ๋อจะมาบ่อยขนาดนี้
เหอเจ๋อหัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันกับปู่ถูกชะตากันมาก วันเดียวไม่เจอกันเหมือนผ่านไปสามฤดู…”
หวงจิงจิงทนฟังไม่ไหว “ได้ ๆ ฉันจะไปเปิดประตูให้คุณเดี๋ยวนี้”
สักพัก หวงจิงจิงก็ออกมาเปิดประตูแล้วพาเหอเจ๋อเข้าไป
ตอนนี้ปู่หวงกำลังงีบหลับตอนบ่าย เหอเจ๋อก็ไม่ได้เข้าไปปลุก
เขากับหวงจิงจิงคุยกันในห้องโถงใหญ่สักพัก
“ลาพักร้อนคราวนี้ จะลาพักนานแค่ไหน?” เหอเจ๋อถาม
หวงจิงจิงถอนหายใจแผ่วเบา “ก่อนหน้านี้คุณปู่ก็มีพี่ศิษย์สองคนคอยดูแล ฉันก็วางใจได้ แต่พอพวกเขาก็ทะเลาะกัน ศิษย์พี่สองคนนั้นก็คงไม่กลับมาแล้ว…”
ได้ยินดังนั้น เหอเจ๋อก็เข้าใจ สาวน้อยคนนี้คงตั้งใจจะลาออกเพื่อมาดูแลปู่สินะ
แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะคุณปู่เหลือแค่หวงจิงจิง เป็นญาติคนสุดท้ายแล้ว ถ้าเธอไม่ดูแล แล้วจะให้ใครมาดูแล?
“จิงจิง อย่าหาว่าฉันสอดรู้เลยนะ ฉันแค่อยากรู้ว่าทำไมผู้เฒ่าหวงกับศิษย์พี่ทั้งสองของเธอถึงทะเลาะกัน” เหอเจ๋อถามอย่างระมัดระวัง
หวงจิงจิงได้ยินดังนั้นก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “รายละเอียดฉันคงไม่สะดวกพูดเท่าไหร่ แต่คุณก็รู้นิสัยของปู่ของฉันแล้ว…”
เหอเจ๋อ พยักหน้าอย่างจริงจัง “ถ้าฉันไม่ใจดีพอ เมื่อวานฉันคงต่อยเขาไปแล้ว’
หวงจิงจิง “…”
“จะต่อยใครนะ” ในตอนนั้นเอง เสียงของหวงเทียนเหยาาก็ดังขึ้นมาจากด้านข้าง
ชายชราตื่นแล้ว
“ผู้เฒ่าหวง คุณฟังผิดแล้ว? ผมไม่ได้พูดว่าจะต่อยใครเลยนะ ผมพูดว่าจะนวดต่างหาก” เหอเจ๋อพูดอย่างจริงจัง
หวงจิงจิงกับหวงเทียนเหยา “…”
“ไอ้หนุ่มมาทำไมอีก หรือว่ามาตามจีบหลานสาวฉันใช่ไหม?” หวงเทียนเหยาเม้มปากแล้วจ้องมองเหอเจ๋อพลางพูด
เหอเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองคุยกับคนแก่คนนี้ไม่รู้เรื่องจริง ๆ
“คุณปู่ ผมมาเพื่อรักษาโรคให้คุณไม่ได้เหรอ?” เหอเจ๋อยิ้มแห้ง
หวงเทียนเหยา “งั้นเหรอ? งั้นก็มาสิ”
เหอเจ๋อได้ยินคำพูดนี้ ก็ชะงักไปครู่หนึ่ง
มาอะไรกัน?
ตกลงง่าย ๆ แบบนี้?
ตอนนี้ หวงเทียนเหยา ก็หันหลังเดินไปทางห้อง
เหอเจ๋อ จนใจก็ตามไปด้วย
หวงจิงจิงก็อยากตามไปด้วย แต่หวงเทียนเหยากลับพูดต่ออีกประโยคว่า “จิงจิง ไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันจะขอให้เด็กคนนี้ช่วย”
หวงจิงจิง อึ้งไปครู่หนึ่ง “คุณปู่แต่ว่า…”
หวงเทียนเหยาพูดต่อ “พอแล้ว สองวันนี้ก็เหนื่อยมากพอแล้ว เด็กหนุ่มคนนี้มาถึงประตูให้ฉันรังแกแล้ว เราต้องให้เกียรติเขาบ้าง”
เหอเจ๋อ “…”
เห็นคุณปู่ยืนกรานแบบนี้ หวงจิงจิงก็จำต้องหยุดฝีเท้าไว้
เหอเจ๋อตามหวงเทียนเหยากลับไปที่ห้อง หวงเทียนเหยาปิดประตูห้อง เพราะตัวล็อกพัง จึงทำได้แค่เปิดไว้เบา ๆ
“ตัวล็อกประตูนี้พังแล้ว ชดใช้คืนด้วย เมื่อวานฉันลืมพูด ถือว่าเธอโชคดี” ชายชราพูด
เหอเจ๋อก็ได้แต่ยอมรับขบกรามแน่นพูดว่า “ได้”
หวงเทียนเหยาเดินไปนั่งที่ข้างเตียง เงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อย ถามว่า “พูดมา ไอ้หนุ่ม จุดประสงค์ของเธอคืออะไร?”
MANGA DISCUSSION