บทที่ 20 บริษัทของเราต้องการเขา
คนที่ปรากฏตัวต่อหน้าเหอเจ๋อคือเหอซู่โหรว
ถ้าพูดตามตรงแล้ว ผู้หญิงคนนี้นับว่าป้าของเหอเจ๋อ
“หมอเหอ สวัสดี” เหอซู่โหรวดูแลตัวเองได้ดีมาก อายุเธอสี่สิบกว่าแล้ว แต่ดูเหมือนจะมีอายุแค่สามสิบต้น ๆ เมื่อเธอลงจากรถก็เดินมาหาเหอเจ๋อและทักทายเขา
เหอเจ๋อมองดูถุงพลาสติกสองใบในมือของเขาอย่างเขินอาย จากนั้นเขาก็ยักไหล่แสดงว่าเขาไม่สะดวกที่จะจับมือ เขาไม่ได้ถามเหอซู่โหรวว่าเธอหาเขาเจอได้อย่างไร นี่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระเหรอ? วันนี้ตอนเซ็นสัญญา ข้อมูลส่วนบุคคลของเขาก็อยู่ที่นั่นหมดแล้ว
“ฉันรอคุณมานานแล้ว ครั้งที่แล้วคุณช่วยพี่ชายของฉัน ฉันยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลย”
เหอซู่โหรวเปิดปากแล้วแสดงท่าทีชัดเจน ว่าเธอมาขอบคุณเหอเจ๋อในครั้งนี้
“ไม่เป็นไร วันนี้ผมเซ็นสัญญากับคุณเหอแล้ว ต่อไปนี้ผมจะเป็นหมอประจำตัวของเขา ถ้าอยากขอบคุณ ทำไมคุณไม่ให้เขาเพิ่มเงินเดือนให้ผมล่ะ?” เหอเจ๋อยิ้มเลศนัย
แน่นอนว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเหอซู่โหรวมาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อขอบคุณเท่านั้น
แต่เขาคงไม่โง่พอจะเปิดเผยท่าทีออกไป
“สัญญาของพี่ชายฉันกับคุณ ฉันไม่เข้าไปยุ่งหรออก แต่ฉันสามารถให้ค่าตอบแทนส่วนตัวกับคุณได้” เหอซู่โหรวยังคงพูดต่อ
“แบบนี้ไม่ดีเหรอ? งั้นบอกผมหน่อยสิว่าค่าตอบแทนคืออะไร” เหอเจ๋อถามโดยไม่ได้คิด
เหอซู่โหรวหยิบเช็กออกมาจากกระเป๋าอย่างรวดเร็วแล้วส่งให้เหอเจ๋อ
เลขศูนย์มีอยู่กี่ตัว? แสงไฟในตอนเย็นมืดเกินไป ทำให้เหอเจ๋อมองเห็นไม่ชัด
เขาหรี่ตามองอยู่ครู่หนึ่ง
ให้ตายสิ มีมากถึงหนึ่งล้านเลยเหรอ!?
ในฐานะคนที่ซื่อสัตย์ใจดี เที่ยงธรรม และเข้มงวดกับตัวเอง เหอเจ๋อรู้สึกว่าเงินไม่สามารถใช้เป็นมาตรฐานในการวัดค่าสิ่งของได้ เว้นแต่จะเป็นเงินจำนวนมหาศาล
สำหรับเหอเจ๋อ หนึ่งล้านถือว่าเป็นจำนวนเงินที่มากจริง ๆ อย่างน้อย ก่อนที่เขาจะได้พบกับพ่อแท้ ๆ ของตัวเองอย่างเหอหย่งฝู เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะสามารถหาเงินได้มากขนาดนี้
“นี่เป็นของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ จากฉันเท่านั้น คุณเหอรับไว้เถอะ”
เหอซู่โหรวพอใจสีหน้าของเหอเจ๋อมาก
เธอคิดว่าตอนที่เหอเจ๋ออยู่ที่โรงพยาบาล ที่เขาแสดงท่าทีเฉย ๆ กับการตอบแทนหรือของขวัญต่าง ๆ นั้น ก็เป็นเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าจะได้รับผลตอบแทนมากขนาดนี้
แน่นอนว่าเหอเจ๋อไม่ได้ปฏิเสธค่าชดเชยจากตระกูลเหอด้วยเหตุผลนี้
แต่เป็นเพราะเขารู้สึกว่าถ้าเขายอมรับว่าเป็นลูกชายของเหอหย่งฝูแล้ว ทรัพย์สินของตระกูลเหอก็จะเป็นของเขาอยู่ดี เงินจำนวนนี้จึงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ
แต่ตอนนี้ สถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวยให้เขาได้พบกับพ่อแท้ ๆ ของเขา
สำหรับเงินหนึ่งล้านนี้…
ยังไงก็เป็นของเขาอยู่ดี คิดซะว่าเป็นการเบิกใช้ล่วงหน้าก็แล้วกัน
เมื่อครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ เหอเจ๋อก็วางถุงพลาสติกลงบนพื้น จากนั้นก็รับเช็คหนึ่งล้านบาทมาไว้
ใบหน้าของเหอซู่โหรวถอดสี เมื่อกี้ตอนจะจับมือเธอทำไมไม่เห็นเขาวางถุงพลาสติกลงล่ะ
“ในเมื่อคุณเหอซู่โหรวยืนกรานขนาดนี้ งั้นผมก็ขอรับไว้ด้วยความเคารพ ต่อไปผมก็จะได้ทำงานให้กับคุณเหอแล้ว พวกเราต่างเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ถ้ามีอะไรอยากให้ผมช่วยก็บอกได้เลยนะครับ” เหอเจ๋อเอ่ยพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ในใจเสริมอีกประโยคว่า ‘ส่วนตอนนั้นจะช่วยไหมก็เป็นอีกเรื่อง’
“เรื่องนั้นค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้ฉันหวังว่าคุณหมอเหอจะช่วยดูแลสุขภาพของพี่ชายฉันให้ดีขึ้นโดยเร็วที่สุด บริษัทของเราต้องการเขา” เหอซู่โหรวพูดต่อ
“แน่นอนครับ แน่นอน” เหอเจ๋อรีบตอบ
“งั้นก็รบกวนคุณหมอเหอด้วย” พูดถึงตรงนี้ เหอซู่โหรวชะงักไปครู่หนึ่ง “จริงสิ เมื่อเช้าที่บริษัท… ดูเหมือนคุณจะมีเรื่องเข้าใจผิดกับเฉิงชาง พวกคุณต่างก็เป็นคนรุ่นใหม่ หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะ”
เหอเจ๋อทำท่าเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง “เข้าใจผิด? ผมก็แค่คุยเล่นกับเขาเท่านั้น แล้วคุณเติ้งก็ดูเหมือนจะปวดท้อง เลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ คงไม่น่ามีอะไรเข้าใจผิดนะครับ?”
เหอซู่โหรวกระตุกมุมปาก ไม่รู้จะพูดยังไงดี เขาจะรู้ไหมว่าวันนี้เติ้งเฉิงชางท้องเสียทั้งวัน ถ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกันเลยก็คงไม่มีใครเชื่อ
เหอซู่โหรวพาเติ้งเฉิงชางไปหาหมอ หมอบอกว่าเติ้งเฉิงชางถูกกระตุ้นจุดกวนหยวน*[1]อย่างรุนแรง ทำให้เขารู้สึกอยากถ่ายอย่างมาก…
เหอซู่โหรวมองหน้าเหอเจ๋อที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกี่ยวกับตัวเอง อยากจะเข้าไปตบเขาสักฉาดจริง ๆ
แต่แน่นอนว่า ภายนอกเธอก็ยังคงยิ้มแย้มขอโทษเหอเจ๋ออยู่ดี หลังจากนั้นก็จากไป
มองรถเฟอร์รารี แล่นออกจากตรอกเล็ก ๆ เหอเจ๋อเม้มริมฝีปากแน่น
เขาไม่ใช่คนมองการณ์ใกล้ เหตุผลที่รับเงินก้อนนี้ ย่อมไม่ง่ายอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้
ไม่ว่าเหอซู่โหรวจะมีจุดประสงค์อะไร จะเป็นคนที่วางยาพิษเหอหย่งฝูหรือไม่ การที่เธอมาหาเหอเจ๋อคืนนี้ จุดประสงค์ต้องไม่ธรรมดาแน่
ถ้าเหอเจ๋อปฏิเสธไม่รับเงินก้อนนี้ หลังจากนี้เหอซู่โหรวก็คงไม่ติดต่อกับเขาอีก และถ้าเธอติดต่อมาอีกก็คงมีจุดประสงค์ไม่บริสุทธิ์แน่ สักวันหนึ่งเธอก็จะเผยหางจิ้งจอกออกมาแน่
แต่ถ้าหากเหอซู่โหรวบริสุทธิ์ใจขอบคุณเหอเจ๋อจริง ๆ เหอเจ๋อก็สามารถรับเงินก้อนนี้ได้อย่างสบายใจ ยังไงเขาก็ไม่ขาดทุนอยู่ดี
เก็บเช็คเสร็จแล้ว เหอเจ๋อก็ขึ้นไปบ้าน
คืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช้าวันรุ่งขึ้น เหอเจ๋อก็ตื่นขึ้น เขียนสูตรยาจีนสำหรับบำรุงร่างกายของเหอหย่งฟูหลายสูตร
จากนั้นก็ออกเดินทางไปโรงพยาบาล พอดีกับที่กวนหลิงก็กำลังจะออกไปทำงานเช่นกัน
“นักข่าว สวัสดีตอนเช้า” เหอเจ๋อยิ้มแป้นทักทาย “อยากดื่มโยเกิร์ตไหม?” เขาพูดพลางยกโยเกิร์ตที่กินไปครึ่งขวดขึ้นมา
กวนหลิงอึ้ง ถ้าจะชวนเธอดื่มโยเกิร์ตก็ควรมีความจริงใจหน่อยสิ ดื่มไปครึ่งขวดแล้วจะให้ดื่มต่ออีกเหรอ?
“ไม่ดื่มก็ได้ จะทำหน้าบึ้งไปทำไม” เหอเจ๋อมองกวนหลิงด้วยสีหน้าเศร้า
กวนหลิเลิกสนใจเขา “ฉันมีธุระ ไปก่อนนะ คราวหน้าค่อยคุยกัน”
เหอเจ๋อเม้มปาก เฮ้อ ผู้หญิงนี่ช่างเข้าใจยากจริง ๆ ทำไมเธอถึงได้เย็นชากับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอขนาดนี้? ถ้าเกิดเรื่องอีก คราวหน้าเขาควรช่วยเธอดีไหม?
หลังจากเหอเจ๋อเดินออกจากหมู่บ้านกว่างหนาน เขาก็นั่งรถไฟใต้ดินมาถึงโรงพยาบาลรัฐ
ก่อนหน้านี้ เขาได้โทรไปหาจางเหวินฉีแล้ว เธอบอกให้เหอเจ๋อขึ้นไปที่ห้องพักของเหอหย่งฝูได้เลย และบอกว่าพวกบอดีการ์ดจะไม่ขวางเขา
แต่ว่า พูดกันตามตรง บอดีการ์ดพวกนี้ยังไงก็ขวางเขาไม่ได้อยู่แล้ว
มาถึงห้องพัก เหอเจ๋อก็เห็นเหอหย่งฝูนอนอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนเตียง
“มาแล้วเหรอ?” เหอหย่งฝูยิ้มให้เหอเจ๋อทักทาย
ไม่ว่าเหอเจ๋อจะเป็นลูกชายของเหอหย่งฝูหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่ขัดกับความรู้สึกดีที่เหอหย่งฝูมีต่อหนุ่มน้อยคนนี้
“ครับ ผมเขียนใบสั่งยาไว้แล้ว เป็นยาบำรุงร่างกายให้คุณ” เหอเจ๋อพูดพลางหยิบกระดาษสองสามแผ่นออกมาจากกระเป๋าสะพาย วางเอาไว้ใต้แก้ว
เมื่อพูดจบ เหอเจ๋อก็รู้สึกว่าบรรยากาศค่อนข้างอึดอัด ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาอยู่กับเหอหย่งฝูตามลำพัง
ตอนที่เหอเจ๋อไม่รู้ว่าจะพูดอะไร เหอหย่งฝูก็นึกอะไรออกเหมือนจะนึกอะไรได้ หยิบหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งออกมาจากข้าง ๆ
อืม เป็นหนังสือพิมพ์กวางหนานรายวันเมื่อวานนี้
เหอหย่งฝู่เปิดปากถามว่า “เหอเจ๋อ คนที่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้พูดถึง คือคุณใช่ไหม”
[1] จุดกวนหยวน เป็นจุดที่อยู่ระหว่างสะดือ และเป็นแหล่งสะสมพลังปราณ
MANGA DISCUSSION