บทที่ 180 สมุนไพรดองเหล้า
เมืองโบราณโหลวอี้ตั้งอยู่กลางทะเลทราย รอบ ๆ เป็นพื้นที่แห้งแล้ง อาหารการกินจึงไม่อุดมสมบูรณ์เท่าทางภาคใต้ แต่ก็มีความแปลกใหม่ โดยเฉพาะเนื้อบาง ๆ เหมือนกระดาษ รสชาติอร่อยเป็นพิเศษ หานสาวจึงตักกินบ่อย ๆ มุ่งเป้าไปที่จานนี้
“เนื้อจานนี้รสชาติอร่อยมาก ทำไมนายไม่ลองชิมดูล่ะ?”
เหอเจ๋อใช้กระดาษเช็ดปากเช็ดคราบน้ำมันที่มุมปาก แล้วพูดว่า “เธอรู้ไหมว่านี่เป็นเนื้ออะไร”
หานสาวชะงัก เธอรู้สึกแค่ว่ามันอร่อย แต่ไม่รู้ว่าเป็นเนื้ออะไร จึงพูดว่า “ในเมื่อเสิร์ฟมาบนโต๊ะอาหาร ก็ต้องกินได้แน่นอน ไม่มีทางทำให้คนตายหรอก”
เหอเจ๋อยิ้มเล็กน้อย ชี้ไปที่แผ่นเนื้อบางเหมือนปีกแมลงปอ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “มันคือเนื้องูที่มีพิษร้ายแรงในทะเลทราย ตอกตะปูตรึงหัวงู แล้วใช้มีดผ่าท้องล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นแผ่นบาง ๆ…”
เขาตั้งใจพูดช้า ๆ เพื่อให้หานสาวมีเวลาจินตนาการเต็มที่ ฟังแล้วทำให้เธอขนลุกไปทั้งตัว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกคลื่นไส้
“หยุดพูดนะ! เห็น ๆ อยู่ว่านายตั้งใจทำให้ฉันกลัว”
คนส่วนใหญ่มักจะกลัวสัตว์เลื้อยคลานอย่างงู พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น ทุกคนก็แสดงสีหน้าขยะแขยง หมดอารมณ์กิน
เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนั้น จ้าวอิ๋งก็รีบลุกขึ้นอธิบาย “ทุกท่านอย่าเข้าใจผิดนะครับ จานนี้เป็นอาหารพื้นเมืองชื่อดังของที่นี่ แม้วิธีทำจะดูหยาบ ๆ ไปหน่อย แต่ปลอดภัยแน่นอนครับ และเนื้องูยังเป็นของดีที่บำรุงร่างกาย ขอให้ทุกท่านวางใจ ทานต่อได้ครับ”
หลังจากเขาอธิบายจบ สีหน้าของทุกคนก็ดูดีขึ้น แต่ความอยากอาหารก็หายไปแล้ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น จ้าวอิ๋งก็เกิดความคิดขึ้นมา เขาหยิบไหใบเล็กจากกระเป๋าของเขาส่งให้เหอเจ๋อ แล้วพูดยิ้ม ๆ ว่า “คุณชายเหอมีความรู้กว้างขวางน่านับถือ ลองทายสิครับ ว่านี่คืออะไร”
ทุกคนถูกเบี่ยงเบนความสนใจ หันไปมองไหใบเล็ก ไม่สนใจอาหารบนโต๊ะอีกต่อไป เหอเจ๋อก็ไม่เกรงใจ รับหม้อมาดม แล้วพูดอย่างแปลกใจว่า “นี่มันสมุนไพรดองเหล้า?”
จ้าวอิ๋งแสดงสีหน้าชื่นชม “เก่งมากครับ นี่เป็นสมุนไพรดองเหล้าที่บ้านผมทำ มีสรรพคุณช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าได้ดีมาก ผมตั้งใจนำมาให้ทุกท่านได้ลองชิมครับ”
เขาโบกมือเรียกพนักงานให้นำแก้วเล็ก ๆ มา พอเปิดไห กลิ่นหอมของเหล้าก็ตลบอบอวลไปทั่วห้อง
จ้าวอิ๋งยกแก้วเหล้าขึ้น มองไปที่เหอเจ๋อและหานสาว แล้วพูดยิ้ม ๆ ว่า “ผมขอเป็นตัวแทนของเมืองโบราณโหลวอี้ ต้อนรับการมาเยือนของทุกท่าน แก้วนี้ขอดื่มให้กับคุณชายเหอและคุณหานสาวครับ”
พูดจบเขาก็ยกแก้วดื่มรวดเดียวหมด
แอลกอฮอล์มักทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นเสมอ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หวังดี แต่เพื่อไม่ให้ตื่นตูม เหอเจ๋อก็ยกแก้วขึ้นดื่ม
พอเหล้าหอมฉุยเข้าปาก ก็รู้สึกอุ่นซ่านไปทั่วร่าง ความเหนื่อยล้าบรรเทาลงไปไม่น้อย บรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ดื่มไปสามรอบ อาหารก็หมดรสชาติ
หลังจากที่ทุกคนอิ่มกันแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับไปพักผ่อน เนื่องจากทีมงานที่ถ่ายทำมีจำนวนมาก เลยแบ่งเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกเหนื่อยที่สุด นอกจากจะมาถึงเร็วแล้ว ยังต้องรับผิดชอบการปรับแต่งอุปกรณ์ด้วย แต่ก็ได้รับค่าจ้างสูงกว่า
เหอเจ๋อชวนจ้าวอิ๋งคุยเล่น จิ้งจอกสองตัวต่างพยายามล้วงความลับของอีกฝ่าย แต่ไม่ยอมติดกับของกันและกัน สุดท้ายก็เหมือนตักน้ำใส่ตะกร้าไม้ไผ่ ไม่ได้อะไรเลย
หลังจากเลี้ยงฉลองจบแล้ว ระหว่างทางกลับ เหอเจ๋อบ่นด้วยสีหน้าหงุดหงิดว่า “ไอ้หมอนี่มันเหมือนจิ้งจอกไหว้ไก่*[1]”
หานสาวขมวดคิ้วถามว่า “นายว่าใครเป็นไก่?”
เหอเจ๋อ “…”
“คุณดาราครับ นี่มันเป็นสำนวน เธอไม่เคยได้ยินเหรอ?”
ใบหน้าสวยของหานสาวแดงระเรื่อด้วยความอาย “ฉันยุ่งกับการแสดง ไม่ได้อ่านหนังสือมาหลายปีแล้ว…”
เหอเจ๋อยกมือขึ้นกุมขมับพลางถอนหายใจ พูดอย่างอ่อนใจ “พวกเธอเป็นดารานะ ระดับความรู้ช่างน่าเป็นห่วงจริง ๆ”
หานสาวยักไหล่ พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ก็ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียว ดาราทุกคนก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น นี่ฉันยังถือว่ามีระดับการศึกษาสูงกว่าคนอื่น ๆ นะ”
“ควรจัดคอร์สฝึกอบรมความรู้ให้พวกดาราจริง ๆ” เหอเจ๋อบ่น แต่จู่ ๆ เขาก็หยุดเดิน แล้วถามว่า “เธอรู้สึกแปลก ๆ บ้างไหม?”
หานสาวกำมือที่เต็มไปด้วยเหงื่อ พูดอย่างไม่มีพิรุธว่า “ไม่นะ ทุกอย่างปกติดี”
“แล้วทำไมต้นขาเธอหนีบเข้าหากันขนาดนั้น?”
“มันเรื่องของฉัน!”
เหอเจ๋อกระแอมเบา ๆ พูดว่า “ฉันเป็นหมอ เข้าใจร่างกายมนุษย์ดี เธอปิดบังอาการไม่ได้หรอก เราโต ๆ กันแล้ว มันเป็นเรื่องปกติ”
หานสาวหนีบต้นขาแน่น อายจนพลั้งปากพูดออกมา “แล้วจะทำไม? ฉันไม่มีวันขอให้นายช่วยหรอก ฉันยอมใช้แตงกวาดีกว่า!”
เหอเจ๋อชี้ไปรอบ ๆ พูดอย่างจนใจว่า “เบาเสียงหน่อยได้ไหม ที่นี่ไม่ค่อยเก็บเสียงนะ ตอนนี้ทุกคนได้ยินหมดแล้ว”
แน่นอนว่ามีเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังมาจากห้องอื่น ๆ ใบหน้าของหานสาวแดงก่ำ วิ่งกลับห้องอย่างอับอาย
เหอเจ๋อส่ายหน้า ตามกลับเข้าห้อง หานสาวนอนคว่ำบนเตียงเอาผ้าห่มคลุมหัว
เขาถอนหายใจ หยิบกระดาษและปากกามาเขียนข้อความวางไว้บนเตียง แล้วถอยออกไป
หานสาวรู้สึกอายมากกว่าโกรธ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็แอบหยิบกระดาษขึ้นมาอ่าน
‘สมุนไพรดองเหล้านั่นมีปัญหา มันมีส่วนผสมของยาปลุกเซ็กส์ และมีสิ่งที่คล้ายกับสัจจะเซรุ่มด้วย ต้องระวังเวลาพูดให้มาก’
เหอเจ๋อส่งกระดาษอีกแผ่นให้เธอ
‘ตอนนี้พวกเขาคงกำลังดักฟังอยู่แน่ ๆ พวกเราต้องแสดงให้เหมือนจริงหน่อย อย่าให้มีพิรุธเด็ดขาด’
หานสาวใจเย็นลง ดวงตาเผยแววสนใจ อยากรู้ว่าคนพวกนี้กำลังวางแผนทำอะไรกันแน่
เธอคว้าปากกามาเขียนอย่างรวดเร็ว
‘ฉันแสดงได้ แต่ถ้านายทำจริง ฉันจะฆ่านาย!’
เหอเจ๋อพยักหน้า กระแอมเบา ๆ แล้วพูดเสียงนุ่มนวลว่า “อย่าโกรธเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
หานสาวเบ้ปาก พูดเสียงอ้อนว่า “ไม่ใช่ความผิดของนายหรอก เป็นฉันเองที่เอาแต่ใจเกินไป”
เหอเจ๋อไม่ถนัดกับฉากรักแบบนี้เลย จึงฝืนพูดไป “ดีใจจังที่เธอคิดแบบนั้น พวกเรากลับมาคืนดีกันเถอะนะ”
[1] จิ้งจอกไหว้ไก่ หมายถึง ต่อหน้าแสดงออกถึงความนอบน้อม ความสุภาพ หรือความเป็นมิตร แต่แท้จริงแล้วมีเป้าหมายแอบแฝง เปรียบเหมือนจิ้งจอกที่มีความเจ้าเล่ห์ มักจะหลอกลวงเหยื่อเพื่อจับกิน
MANGA DISCUSSION