บทที่ 164 ต่อสู้กับฉลาม
น้ำทะเลในฤดูใบไม้ร่วงเริ่มเย็นลงแล้ว หลังจากลงน้ำ สมองของเหอเจ๋อก็แจ่มชัดทันที
เขาไม่ได้เป็นเหมือนคนที่พูดโม้โอ้อวดโดยไม่คิดอะไร อย่างที่คนอื่นคาดเดา เขาไม่ได้อยากทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อเรียกร้องความสนใจจากสาว ๆ
สายตาของเขาดีกว่าคนทั่วไป มองเห็นได้ไกลกว่า เขาสามารถมองเห็นซากปลาเล็ก ๆ ติดอยู่ในซอกฟันอันแหลมคมของฉลามได้อย่างชัดเจน
แม้จะเป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อย แต่ก็บอกได้ถึงสิ่งหนึ่ง นี่คือฉลามที่หิวโหยมานาน และมีความดุร้ายสูง ดังนั้นมันจะต้องโจมตีอย่างแน่นอน แทนที่จะนั่งรอความตาย การโจมตีก่อนและควบคุมสถานการณ์ไว้ในมือตัวเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับฉลามที่น่าตื่นเต้นกำลังจะเริ่มขึ้น เรื่องนี้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับติดจรวด ขึ้นหน้าแรกของสื่อต่าง ๆ มากมาย
ในเว่ยป๋อต่างพากันถกเถียงเรื่องนี้ ทั้งคนที่เป็นห่วง คนที่ให้กำลังใจ และคนที่ดูถูก แสดงให้เห็นถึงแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิตอย่างชัดเจน
“เหอเจ๋อใจร้อนเกินไป ทีมกู้ภัยไปถึงไหนแล้ว บอกพวกเขาว่าถึงต้องเอาตัวเองไปเป็นอาหารฉลาม ก็ห้ามให้เหอเจ๋อบาดเจ็บเด็ดขาด!” จางเหวินฉีร้อนใจ เร่งเร้าอย่างไม่หยุด
เธอตำหนิตัวเองในใจที่ไม่ได้เตรียมการด้านความปลอดภัยให้ดีก่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ เธอไม่กล้าจินตนาการว่าคุณพ่อจะเสียใจขนาดไหน
ทุกหน่วยงานเริ่มทำงานอย่างเร่งด่วน แต่ตอนนี้เรือใบอยู่กลางช่องแคบพอดี ทีมถ่ายทำก็มีคนว่ายน้ำเป็นไม่กี่คน การลงน้ำไปอย่างไม่ระวังก็เท่ากับไปตาย ได้แต่ส่งคนจากบนฝั่งไป แต่ถึงจะเร็วสุดก็ต้องใช้เวลาเกือบสิบห้านาทีกว่าจะถึง
“หวังว่าสวรรค์จะคุ้มครอง” จางเหวินฉีภาวนาอย่างเงียบ ๆ
ซากาตะ ทาคาโยชิอารมณ์ดีมาก ตีลูกเทนนิสติดต่อกันสามลูก ใบหน้าเบิกบานยิ้มแย้ม ฉลามที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันนั้นแน่นอนว่าเป็นการจัดการของเขา
มินะรู้สึกสังหรณ์ใจ จึงแกล้งเช็ดเหงื่อเพื่อกระซิบถามเบา ๆ “นี่เป็นการจัดการของคุณใช่ไหมคะ?”
ซากาตะ ทาคาโยชิยิ้มกว้าง พูดอย่างภาคภูมิใจ “ฉลามที่อดอาหารมาสามวัน ถึงเขาไม่ตาย ก็ต้องพิการแน่ ไม่มีทางรอดพ้นไปได้ เขาคงอยากตายแล้วล่ะ”
การต่อสู้นี้ไม่มีบทนำอะไรมากมาย พอเริ่มปะทะกันก็เข้าสู่ช่วงดุเดือดทันที
นี่เป็นฉลามเสือตัวโตเต็มวัย ลวดลายสวยงามบนหลัง ความยาวกว่าสองเมตรและร่างกายอันใหญ่โต ทำให้มันมีแรงมหาศาลทุกครั้งที่สะบัดหาง
ฉลามเป็นนักล่าที่เก่งที่สุดในทะเล สัญชาตญาณการล่าเหยื่อฝังลึกอยู่ในยีนของมัน มันรับรู้การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำ สะบัดหางอันแข็งแรง ร่างกายพุ่งไปเหมือนลูกธนู อ้าปากกว้างเต็มไปด้วยเลือด กัดลงอย่างรุนแรง
กล้องความละเอียดสูงที่ถ่ายทอดภาพนี้ให้ผู้ชม ทุกคนต่างสูดหายใจเฮือก บางคนที่ขี้กลัวถึงกับหลับตาไม่กล้ามองภาพอันน่าสะพรึงกลัว
หานสาวที่อยู่ไม่ไกลตกใจจนหน้าซีด ร้องเสียงแหลมด้วยความตกใจ “ระวัง!”
ไม่จำเป็นต้องให้เธอเตือนเลย เหอเจ๋อสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของฉลามตั้งแต่แรกแล้ว เขาใช้มือพุ่งแหวกน้ำอย่างสงบนิ่ง ว่ายไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วในระยะหนึ่ง หลบการโจมตีของฉลามได้อย่างหวุดหวิด
หลังจากหลบการโจมตีครั้งแรกได้ เขาไม่ได้รู้สึกดีใจแต่อย่างใด ฉลามว่ายน้ำได้เร็วกว่าเขามาก ถ้าหลบแบบนี้ต่อไปก็ต้องโดนเล่นงานแน่ ดังนั้นจำเป็นต้องคว้าความได้เปรียบมาให้ได้
ฉลามก็ไม่คิดว่าการโจมตีที่มั่นใจว่าจะสำเร็จกลับพลาดไป ผลลัพธ์ที่เกินคาดทำให้สมองที่ไม่ค่อยฉลาดอยู่แล้วของมันตกอยู่ในความสับสนชั่วขณะ
แม้ว่าเวลานั้นจะสั้นมาก แต่เหอเจ๋อก็ฉวยโอกาสได้อย่างว่องไว เขาเตะน้ำอย่างแรงไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าหางฉลามจากด้านหลังได้
การกระทำของเขาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ผู้ชมนอกจอเท่านั้น แม้แต่ฉลามที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ยังคาดไม่ถึง มันตกใจ จึงมีปฏิกิริยาตามสัญชาตญาณเพื่อเอาชีวิตรอด พยายามสะบัดหัวและหางเพื่อหลุดพ้น
แต่เหอเจ๋อจะยอมให้มันหนีไปได้อย่างไร เขาใช้สองมือกอดฉลามไว้สุดชีวิต ไม่ว่ามันจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อย
ผู้ชมหน้าจอต่างมองด้วยความงุนงง นั่นมันฉลามเสือที่ดุร้าย ไม่ใช่แมวหรือหมาตัวเล็ก ๆ แต่กลับถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนแบบนี้เลยเหรอ?
ต้องล้อเล่นแน่ ๆ!
ผู้คนมากมายมีปฏิกิริยาแรกคือขยี้ตา แต่ภาพชัดเจนบนจอบอกพวกเขาว่านี่ไม่ใช่เรื่องจัดฉากขึ้นแน่นอน
ในขณะที่ทุกคนกำลังตื่นตะลึง การต่อสู้ในน้ำก็ยังคงดำเนินต่อไป ผิวฉลามที่ดูเรียบลื่นด้วยตาเปล่า แท้จริงแล้วเต็มไปด้วยเกล็ดเล็ก ๆ โชคดีที่เหอเจ๋อมีกล้ามเนื้อที่หนาแน่นกว่าคนทั่วไปมาก ไม่งั้นคงโดนบาดจนเลือดอาบไปแล้ว
แต่นี่เป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ตรงหน้าเขาคือพละกำลังอันมหาศาลของฉลามเสือ ทุกครั้งที่มันดิ้นและพุ่งชน มีแรงมหาศาลมาก แม้ว่าเหอเจ๋อจะอาศัยพลังของตัวเองไม่ให้ถูกสลัดหลุดได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แต่หากเวลานานขึ้นก็คงทนไม่ไหว ดังนั้นเขาต้องคิดกลยุทธ์ให้ได้โดยเร็ว
แต่ในช่วงเวลาเร่งรีบ เขาไม่มีอาวุธติดตัว แค่อาศัยกำปั้นเปล่า ๆ ไม่สามารถทำร้ายฉลามได้
หานสาวที่อยู่บนเรือใบ หลังจากผ่านความหวาดกลัวในตอนแรก จิตใจค่อย ๆ สงบลง เธออยู่ใกล้จุดต่อสู้มากที่สุด มองเห็นสถานการณ์ลำบากที่เหอเจ๋อกำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ จู่ ๆ ก็เกิดความคิดแวบขึ้นมา จึงตะโกนเสียงดัง “แทงตามันสิ!”
เหอเจ๋อที่อยู่ในน้ำตาเป็นประกาย เขารับคว้าครีบทั้งสองข้างของฉลาม กระโดดมาที่ส่วนหน้าของมัน
อาจเป็นเพราะรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังมาถึง ความดุร้ายที่ฝังลึกอยู่ในตัวฉลามเสือถูกกระตุ้นออกมา มันดิ้นอย่างรุนแรงโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
เหอเจ๋อที่ไม่ทันตั้งตัว ถูกสลัดออกไปในทันที
‘แย่แล้ว!’
เหอเจ๋อร้องในใจ ฉลามเสือที่เป็นอิสระกลับมาว่ายน้ำอย่างสนุกสนาน หมุนตัวในน้ำ ดวงตาเล็ก ๆ เปล่งประกายแห่งความเกลียดชัง อ้าปากกว้างงับเข้าใส่ศีรษะของเหอเจ๋อ
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะใช้เวลานาน แต่จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ฉลามสามารถว่ายน้ำด้วยความเร็วถึงแปดสิบไมล์ต่อชั่วโมง ไม่แพ้รถยนต์ที่แล่นบนถนนเลย
ผู้ชมหน้าจอเห็นปากขนาดมหึมาเต็มไปด้วยฟันขาวโพลน อยู่ห่างจากเหอเจ๋อไม่ถึงหนึ่งเมตร
ในขณะนั้น ผู้ชมหลายร้อยล้านคนต่างกลั้นหายใจ ภายหลังมีคนว่าง ๆ ที่ไม่รู้จะทำอะไรได้ตรวจสอบข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้อง พบว่าวันนี้เป็นวันที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยที่สุดทั่วโลก
ณ บริษัทภาพยนต์เหอ เหอหย่งฝูวิ่งโซเซเข้ามาในห้องถ่ายทอดสด ภาพบนจอใหญ่ค้างอยู่ที่ปากกว้างเต็มไปด้วยเลือด เขาตาพร่ามัวและทรุดลงกับพื้น
MANGA DISCUSSION