บทที่ 13 ซูเปอร์ฮีโร่ของจีน
เรื่องราวหลังจากนั้นก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีอะไรผิดปกติ
ไม่ใช่ตำรวจทุกคน ที่จะคบค้าสมาคมกับเจ้าของร้านบาร์บีคิวพวกนี้
โอเค ถึงแม้ว่าโอวเทียนเหิงจะคบค้าสมาคมกับพ่อค้าที่นี่จริง ๆ แต่พอเห็นสถานการณ์แบบนี้ไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแล้ว
อย่างน้อยที่นี่ก็มีคนหลายสิบคนที่สามารถเป็นพยานให้เหอเจ๋อได้ ไม่ต้องพูดถึงคลิปที่ถ่ายไว้เลย ตอนนี้ผู้คนที่มุงดูเหตุการณ์คงจะโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นลงบนอินเทอร์เน็ตกันหมดแล้ว
เหอเจ๋อตามโอวเทียนเหิงและคนอื่น ๆ ไปยังสถานีตำรวจ และให้ปากคำอีกครั้ง เพราะเหอเจ๋อลงมืออย่างระมัดระวัง อีกทั้งเหล่าอันธพาลพวกนั้นก็ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอะไร ดังนั้นตำรวจไม่สามารถกักตัวเหอเจ๋อได้
หลังผ่านความยุ่งยากมาทั้งวัน เมื่อกลับถึงบ้าน ก็เป็นเวลาตีสามครึ่งแล้ว
เมื่อต้องเผชิญกับอากาศร้อนระอุในฤดูร้อนนี้ อีกทั้งเหอเจ๋อก็ต่อสู้ติดต่อกันไปมาถึงสองครั้ง ทั้งตัวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะไปหมด ทำให้เขาหงุดหงิดมาก
แม้จะหงุดหงิดมากแค่ไหน แต่การทะเลาะวิวาทกันระหว่างพี่น้องก็ต้องสะสางค่าใช้จ่าย เหอเจ๋อเพิ่งเดินออกมาจากสถานีตำรวจ เขาก็คว้าตัวนักข่าวกวนหลิงที่มาให้ปากคำพร้อมกันเอาไว้
“นักข่าวกวน คุณพูดว่าจะจ่ายให้ผมใช่ไหม? แปดพันห้าร้อยหยวน”
“ได้ ๆๆ” กวนหลิงรู้สึกว่าเงินถูกใช้ไปอย่างไม่ยุติธรรม เดิมทีเธอแค่จ้างเหอเจ๋อมาเพื่อคุ้มกันเธอให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย คงแค่สั่งสอนพวกอันธพาลที่ไล่ตามเธอมาเท่านั้น ค่าจ้างคงราว ๆ หนึ่งสองพันก็ถือว่ามากแล้ว
ใครจะไปรู้ว่าเหอเจ๋อจะเป็นพวก MT*[1] ที่ชอบยั่วโมโหชาวบ้านเขาแบบในเกมกันเลยล่ะ พอปรากฏตัวขึ้น ก็ลากพวกมืดทั้งที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังของร้านบาร์บีคิวออกมาหมดเลย อีกทั้งคนพวกนี้ก็ถูกจับแล้ว กวนหลิงก็ไม่คิดว่าเหอเจ๋อจะเก่งขนาดนั้น
ไม่รู้ว่าเหอเจ๋อกินอะไรเข้าไป เตะทีเดียวก็ห้าร้อยหยวนแล้ว
“แอดวีแชตมาสิ เดี๋ยวฉันโอนเงินให้ทางนั้น” กวนหลิงหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วพูดกับเหอเจ๋อ
เหอเจ๋อรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แอดเพื่อนกับกวนหลิงทันที
ไม่นาน เหอเจ๋อก็เห็นสาวสวยคนหนึ่งแอดเขาในวีแชต
รูปโปรไฟล์ของกวนหลิงเป็นรูปสาวสวยตาโตบริสุทธิ์ เขาขยายดูรูปก็เห็นเลือนรางว่าเป็นกวนหลิง
“โอ้โฮ นักข่าวกวน คุณใช้แอปเหมยตูแต่งรูปโปรไฟล์เหรอ?” เหอเจ๋ออดหัวเราะไม่ได้ และชี้ไปที่ใบหน้าของกวนหลิง
“ถ้าหัวเราะอีก ก็อย่าหวังว่าจะได้เงิน” กวนหลิงชำเลืองมองเหอเจ๋อแล้วพูด
เหอเจ๋อเม้มริมฝีปาก แล้วเงียบไป
ห้านาทีต่อมา
เหอเจ๋อได้รับเงิน เขาก็กระโดดโลดเต้นอีกครั้ง
“ผมว่านะ คุณก็สวยอยู่แล้ว ทำไมต้องแต่งรูปขนาดนั้นด้วย?”
กวนหลิงทนไม่ไหว รีบเร่งฝีเท้าทันที
เหอเจ๋อเดินตามไป บ่นไม่หยุดตลอดทาง “นักข่าวกวน วันนี้ผมหาเงินได้เยอะ พรุ่งนี้ขอเลี้ยงข้าวคุณได้ไหม?”
“เหอเจ๋อ คุณชายผู้สูงส่งของฉัน คุณช่วยเงียบหน่อยได้ไหม?” กวนหลิงอดมองจิกกัดเหอเจ๋อไม่ได้
เหอเจ๋อยักไหล่ ไม่พูดอะไร
ถ้าไม่ให้ผมพูด ระหว่างทางกลับบ้านจะไม่อึดอัดเหรอ?
และแล้วทั้งสองก็เดินกลับบ้านด้วยกัน
เมื่อเหอเจ๋อเดินมาถึงใต้ตึก เขาก็ตระหนักได้ว่า บ้านใหม่ของตัวเองอยู่ชั้นเก้า!
ต่อยตีไปตั้งสองรอบ เหนื่อยแทบตาย แล้วยังต้องปีนขึ้นไปชั้นเก้า…
หลังจากกลับถึงบ้านอย่างเหนื่อยยาก เหอเจ๋ออาบน้ำเย็นแล้วก็เข้านอนทันที
เหอเจ๋อไม่รู้เลยว่า ตอนนี้โลกออนไลน์กำลังปั่นป่วนมากแค่ไหน
บนอินเทอร์เน็ต บนเว็บบอร์ด เว่ยป๋อ และแม้แต่วีแชต โมเมนต์ต่าง ๆ ก็กำลังเผยแพร่เรื่องนี้กันอย่างบ้าคลั่ง
ชายหนุ่มผู้กล้าหาญ ช่วยเหลือประชาชนกำจัดภัยร้าย สู้กับอันธพาลร้านบาร์บีคิวเถื่อนด้วยตัวคนเดียว
เรื่องแบบนี้ แม้แต่หน่วยงานรัฐบาลก็รับรู้ว่าควรค่าแก่การเผยแพร่
ดังนั้น จึงมีพาดหัวข่าวหลากหลายรูปแบบปรากฏบนอินเทอร์เน็ต
‘สุดระทึก! ชายหนุ่มผู้กล้าหาญสู้กับอันธพาลนับสิบเพียงลำพัง!’
‘ซูเปอร์ฮีโร่ของจีน! มีคลิปเป็นหลักฐาน!’
‘ผลกระทบจากร้านบาร์บีคิวเถื่อน และเสียงของฮีโร่คนหนึ่ง!’
การปรากฏตัวของพาดหัวข่าวเหล่านี้ ทำให้กวนหลิงซึ่งยังไม่นอนทั้งที่ดึกดื่นแล้ว รู้สึกร้อนใจเป็นอย่างมาก ใช่แล้ว ถึงแม้ตอนนี้จะเลยตีสี่มาแล้ว แต่กวนหลิงก็ยังไม่ได้นอน
เธอกำลังเร่งเขียนต้นฉบับอยู่
เดิมทีเธอตั้งใจจะนำเสนอเรื่องราวของร้านบาร์บีคิวนี้ พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งของข่าวสังคมในวันพรุ่งนี้
ไม่คาดคิดว่าเรื่องที่เหอเจ๋อสู้กับคนเป็นสิบคนเพียงลำพัง จะทำให้ข่าวนี้ถูกเปิดเผยออกไปก่อน และแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์แล้ว
ดังนั้น เธอจึงต้องปรับแนวคิด และเรียบเรียงเนื้อข่าวใหม่อีกครั้ง
เมื่อเทียบกับสื่ออื่น ๆ แล้ว กวนหลิงยังมีข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเธอรู้ตัวตนของเหอเจ๋อ
สุดยอดผู้วิเศษแพทย์แผนจีนผู้มีฝีมือล้ำเลิศ และเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีวิชาการต่อสู้อันยอดเยี่ยม
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ เธอก็เขียนหัวข้อข่าวนี้ลงบนแป้นพิมพ์
กวนหลิงเขียนเรื่องราวทั้งหมดเกี่ยวกับการที่เหอเจ๋อไปช่วยชีวิตเหอหย่งฝูที่โรงพยาบาล รวมไปถึงเหตุการณ์ร้านบาร์บีคิวเมื่อครู่นี้ลงไปทั้งหมด
ส่วนเหอเจ๋อจะยินยอมหรือไม่?
พอคิดถึงตรงนี้ กวนหลิงก็อดยิ้มมุมปากไม่ได้ ถึงแม้ว่าการนอนดึกบ่อย ๆ จะส่งผลต่อใบหน้าของเธอไม่มากนัก
เธอไม่สนใจว่าเหอเจ๋อจะยินยอมหรือไม่ ใครใช้ให้หมอนั่นหลอกเอาเงินเธอไปกว่าแปดพันกว่าหยวนล่ะ นั่นเป็นเงินเดือนบวกโบนัสทั้งเดือนของเธอเลยนะ!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ กวนหลิงก็อดไม่ได้ที่จะเร่งความเร็วในการพิมพ์
เช้าวันรุ่งขึ้น เหอเจ๋อตื่นนอนประมาณเที่ยงวัน
เหมือนกับว่าเขาไม่ได้นอนหลับสบายแบบนี้มานานแล้ว ครั้งสุดท้ายที่ได้นอนแบบนี้ก็คือวันที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จ แม่ของเหอเจ๋อไม่ได้ปลุกเขาไปฝึกซ้อมตั้งแต่เช้าตรู่เหมือนทุกครั้ง
ทันทีที่ตื่นขึ้น เหอเจ๋อก็ได้ยินเสียงท้องร้องโครกคราก
เขาอาบน้ำให้สดชื่อ เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วลงไปหาของกินที่ชั้นล่างทันที
ใครจะรู้ว่าทันทีที่ก้าวออกจากประตูหมู่บ้านกว่างหนาน เขาก็ได้ยินเสียงแตรรถสองครั้งดังมาจากด้านหลัง
เหอเจ๋อหันขวับกลับไปมองและเห็นเฟอร์รารี่จอดอยู่ข้างถนน
หน้าต่างรถเปิดออก และใบหน้าของจางเหวินฉีปรากฏขึ้นตรงหน้าเหอเจ๋อ
“เฮ้ คุณมาที่นี่ได้ยังไง?” เหอเจ๋อก็แปลกใจมากเมื่อเห็นจางเหวินฉี
จางเหวินฉีโบกโทรศัพท์เข้าหาเธอ “คุณกลายเป็นคนดังไปแล้ว คุณยังไม่รู้เหรอ?”
“อะไรนะ?” เหอเจ๋อดูสับสน
“เมื่อคืนคุณต่อสู้กับคนนับสิบด้วยตัวคนเดียว ข่าวดังมากเลยนะ” จางเหวินฉีอธิบายให้เขาฟัง
เหอเจ๋อเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “โอเค ผู้ชายเท่แบบผม ไปที่ไหนก็เป็นจุดสนใจเหมือนหิ่งห้อยนั่นแหละ”
จางเหวินฉีขมวดคิ้ว “พูดภาษาคนได้ไหม?”
“เอาละ แล้วคุณมาหาผมทำไม?”
จางเหวินฉีเปิดประตูรถแล้วพูดว่า “ขึ้นรถมาคุยกัน”
“คุณคงไม่ได้จะทำร้ายผมหรอกใช่ไหม? แม่บอกผมตั้งแต่เด็กว่าห้ามขึ้นรถของคนแปลกหน้า” เหอเจ๋อลังเล
สีหน้าของจางเหวินฉีเปลี่ยนไปเล็กน้อย “ฉันไม่ได้สนใจคุณหรอก แต่คุณเหอต่างหากที่อยากเจอคุณ!”
เหอเจ๋อไอแห้ง ๆ “เขาสนใจผมเหรอ?”
จางเหวินฉีพูดว่า “คุณเหออยากจ้างคุณให้เป็นหมอประจำตัวของเขา พูดคำเดียว มาหรือไม่มา!”
เหอเจ๋อกำลังคิดอยู่ว่าจะหาวิธีเข้าใกล้เหอหย่งฝูยังไง แต่ไม่คิดว่าเช้าวันนี้จางเหวินฉีจะมาหาเขาด้วยตัวเอง หลังจากแกล้งทำเป็นลังเลอยู่สักพัก เขาก็ขึ้นรถของจางเหวินฉีไป
ครึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเขาทั้งสองกลับมาที่โรงพยาบาลรัฐอีกครั้ง เหอเจ๋อได้พบกับเหอหย่งฝูอีกครั้ง ครั้งนี้เหอหย่งฝูฟื้นแล้ว
[1] MT ย่อมากจาก Main Target หมายถึงตัวละครหลักประเภทชอบยั่วยุในเกม
MANGA DISCUSSION