บทที่ 115 เอากระสุนออก
ฝ่ายตรงข้ามจับตัวประกัน เหอเจ๋อเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหยุดฝีเท้า แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยปาก กลับมีเสียงปืนดังขึ้นเสียงหนึ่ง คนร้ายคนสุดท้ายถูกยิงเข้าที่กลางหน้าผาก ศพยืนตัวตรงแล้วล้มลง
เขาตกตะลึงไปชั่วครู่ เงยหน้ามองขึ้นไปก็ต้องตกใจ ใครจะไปคิดว่าคนที่ลั่นไกปืนคือจางเสี่ยวเถา
เธอเก็บปืนอย่างคล่องแคล่ว หันมายิ้มให้เขา แล้วพูดว่า “เก็บกวาดก่อนแล้วกัน เรื่องอื่นค่อยคุยกันทีหลัง”
จนถึงตอนนี้ ผู้โดยสารทั้งหมดถึงกับรู้สึกตัว วิกฤตชีวิตและความตายครั้งนี้ กลับได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสาววัยยี่สิบต้น ๆ คนหนึ่ง
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้น ผู้โดยสารต่างปรบมือให้เธอ เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ จนดังกึกก้องไปทั่วห้องโดยสาร
เหอเจ๋อไม่ได้หลงระเริงไปกับเสียงปรบมือของทุกคน ในที่สุดเขาก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้โดยสารชายร่างกำยำหลายคน มัดมือมัดเท้าแลนดาที่หมดสติและคนร้ายอีกสองคนด้วยเชือกแล้วโยนเข้าไปในห้องน้ำ
“เหอเจ๋อ ทำไมตัวนายถึงเต็มไปด้วยเลือด?”
จางเหวินฉีซึ่งรีบร้อนออกมาจากห้องนักบินก็ร้องอุทานขึ้นมา
เหอเจ๋อก้มลงมองดู บริเวณที่เขาถูกแทงที่ท้องน้อยกำลังมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด เพียงแต่เขาตื่นตระหนกเกินกว่าจะสังเกตเห็น
“ไม่เป็นไร แค่แผลถลอก พันแผลก็หาย”
ตอนนี้ผู้โดยสารต่างยกย่องเขาให้เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิต ต่างก็รีบส่งของมาช่วย
เหอเจ๋อจัดการอย่างง่าย ๆ หลังจากห้ามเลือดได้แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของทุกคนให้นอนพัก แต่เดินไปที่ชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่ถูกยิงโดยไม่มีเหตุผล และนั่งยอง ๆ ลง
“น้องชาย ขอบคุณที่ช่วยพวกเราทุกคนไว้” ชายหนุ่มสักลายใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด แต่ก็ยังพยายามพยุงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วพูดด้วยความกตัญญู
เหอเจ๋อยื่นมือไปประคองไหล่เขาแล้วพูดว่า “อย่าเพิ่งพูดเลย นายเสียเลือดมาก ต้องรีบจัดการ”
พูดไปก็หยิบกล่องเข็มออกมา กำลังจะทำแผลห้ามเลือดให้เขา
ใครจะไปคิดว่าสีหน้าของชายหนุ่มสักลายจะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ตกใจพูดว่า “พี่ชาย บาดแผลของผมไม่เป็นไร”
ผู้คนรอบข้างก็มีท่าทีอ้ำอึ้งเช่นกัน
ในตอนแรกเหอเจ๋อรู้สึกสับสน แต่แล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันที ท่าทางเหมือนคนบ้าของเขาก่อนหน้านี้ทำให้ทุกคนกลัว
“ผมเป็นหมอจริง ๆ ก่อนหน้านี้แค่ขู่มันเท่านั้น”
ทุกคนได้ฟังคำอธิบายของเขาแล้ว ต่างก็ยังคงหวาดผวาไม่หาย เพราะภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ
เหอเจ๋อทำได้เพียงพิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำ เขาจับไหล่ชายร่างใหญ่ไว้แน่น คว้าเข็มเงินขึ้นมา ท่ามกลางสายตาตื่นตระหนกของชายคนนั้น แล้วก็แทงเข็มลงไป
ภาพเหตุการณ์สยองขวัญที่ทุกคนจินตนาการไว้ไม่ได้เกิดขึ้น เลือดที่ไหลทะลักออกมาเหมือนธารน้ำจากแขนของชายร่างใหญ่ก็หยุดไหลในทันที
เขาขยับแขนอย่างระมัดระวัง พบว่าความเจ็บปวดลดลงอย่างมาก
“ได้ผลจริง ๆ หมอ ขอบคุณมาก”
“อย่าเพิ่งขยับ สถานการณ์มันซับซ้อนกว่าที่ผมคิด” เหอเจ๋อกดไหล่เขาไว้พร้อมกับพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “ตำแหน่งของกระสุนมันไปกดทับเส้นประสาทกับเส้นเลือดใหญ่ อีกหนึ่งชั่วโมงเครื่องบินถึงจะลงจอด แต่ถ้าไม่รีบเอาออก คุณอาจจะต้องโดนตัดแขน”
“อะไรนะ”
ชายร่างใหญ่ตกใจสุดขีด จากสวรรค์แห่งความยินดีก็ตกลงสู่หุบเหวลึก ร้องไห้น้ำตาไหลพรากพลางพูดว่า “หมอ ผมขอร้อง ช่วยผมด้วย เอาออกให้ผมที ผมต้องใช้แขนข้างนี้หาเลี้ยงชีพ”
เหอเจ๋อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องผ่าตัด เอาลูกกระสุนออก”
ผู้โดยสารต่างก็ตกตะลึง การผ่าตัดต้องทำในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อ ในสถานที่คับแคบเช่นนี้ มีโอกาสติดเชื้อสูงมาก
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมใส่แว่นตาขอบทองพูดขึ้นเสียงดังว่า “ถ้าอุปกรณ์ฆ่าเชื้อไม่ดีพอ เกิดติดเชื้อราขึ้นมา ไม่ใช่แค่แขนหรอกครับ ชีวิตก็อาจจะไม่รอด นี่คุณเป็นหมอได้ยังไง ถึงไม่มีความรู้พื้นฐานแบบนี้”
“อย่าเอาความรู้ของคุณมาท้าทายฝีมือทางการแพทย์ของผม”
เหอเจ๋อพูดจาเย็นชา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองชายร่างใหญ่ พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “นี่เป็นการผ่าตัดเล็ก ๆ ผมจะใช้เข็มเงินปิดเส้นประสาทของคุณ จากนั้นก็เอาลูกกระสุนออก วิธีนี้ถึงจะรักษาแขนของคุณไว้ได้”
ชายร่างใหญ่กัดฟันพูดว่า “เชิญเลยครับ ยังไงซะ ถ้าไม่ใช่คุณช่วยพวกเราไว้ แขนผมคงพิการไปแล้ว ผมเชื่อใจคุณ”
การเปลี่ยนสรรพนามเรียกเหอเจ๋อถึงสามครั้ง แสดงให้เห็นว่าท่าทีในใจของเขาก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
เหอเจ๋อพยักหน้าแล้วพูดว่า “จางเสี่ยวเถา เอาแอลกอฮอล์กับมีดมาให้ผมหน่อย บนเครื่องบินน่าจะมีกล่องปฐมพยาบาล เอาผ้าก๊อซมาให้ผมด้วย”
จางเสี่ยวเถาทำงานอย่างรวดเร็ว ไม่นานของที่เขาต้องการก็ถูกนำมาให้ครบ
เหอเจ๋อใช้มีดที่ลนไฟร้อน ๆ กรีดแผล แม้ว่าจะมีเข็มเงินปิดจุดเส้นประสาทเอาไว้ แต่ชายร่างใหญ่ก็ยังอดตัวสั่นไม่ได้ ผู้โดยสารหญิงที่ใจเสาะรอบ ๆ ข้างถึงกับต้องหลับตา ไม่กล้ามองภาพบาดแผลเหวอะหวะ
มือของเหอเจ๋อนิ่งมาก ในเวลานี้ใจของเขาไม่ฟุ้งซ่าน เขาหารอยกระสุนได้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ใช้คีมคีบหัวกระสุนที่ฝังอยู่ในเนื้อออกมาอย่างรวดเร็ว ยกแขนขึ้น
เคร้ง!
หัวกระสุนหล่นลงบนถาดโลหะ เหอเจ๋อรีบคว้าแอลกอฮอล์มาเทราดลงบนบาดแผลเพื่อฆ่าเชื้อ จากนั้นก็ใช้ผ้าก๊อซพันแผลเอาไว้ และดึงเข็มเงินออก
ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างคล่องแคล่ว ราวกับทำแบบนี้มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ผู้โดยสารที่มามุงดูต่างก็ตะลึงงันไปกับทักษะของเขา จนกระทั่งมาถึงตอนนี้ ทุกคนจึงได้สติกลับคืนมา
“เรียบร้อยแล้ว แขนรอดแล้ว นี่เป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติ พลังทำลายล้างไม่สูงเท่าไหร่ กลับไปพักฟื้นสักหนึ่งถึงสองเดือนก็หายดี”
ได้แขนกลับคืนมา ชายรอยสักตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เขากุมมือของเหอเจ๋อ ไม่อยากปล่อย พร้อมกับเอ่ยปากชวนไปกินข้าวเป็นการขอบคุณหลังจากลงจอด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในหนึ่งชั่วโมงต่อมา เครื่องบินก็ลงจอด เซี่ยชิงที่รออยู่ก่อนแล้ว ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมตัวกลุ่มผู้จี้เครื่องบินที่ถูกมัดอยู่ในห้องน้ำ นับจากนี้ไป พวกเขาคงต้องใช้ชีวิตในคุกไปจนวันตาย
เหอเจ๋อมีบาดแผลที่ท้อง เดินไม่สะดวก
จางเหวินฉีช่วยพยุงเขาลงจากเครื่องบิน ผู้โดยสารคนอื่น ๆ ต่างก็หลีกทางให้เขาลงไปก่อน
จางเสี่ยวเถาที่เปลี่ยนเป็นชุดลำลองรออยู่ที่โถงผู้โดยสารขาเข้า เมื่อเห็นเหอเจ๋อ เธอก็ก้าวเข้ามาหา จากนั้นก็ช่วยพยุงเขาจากอีกด้านหนึ่ง พร้อมกับเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันรู้ว่านายคงมีคำถามมากมาย บางทีเราคุยกันสักหน่อยไหม”
เหอเจ๋อถอนหายใจ แล้วหันไปบอกกับจางเหวินฉีว่า “พี่เหวินฉี พี่กลับบ้านไปบอกลุงเหอว่าผมปลอดภัยก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะกลับไป”
จางเหวินฉีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะมองตรงไปที่จางเสี่ยวเถา และพูดอย่างใจเย็นว่า “ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แต่เหอเจ๋อสำคัญกับบริษัทภาพยนตร์เหอมาก ฉันหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรที่น่าผิดหวังขึ้น”
จางเสี่ยวเถาขยิบตาให้ด้วยท่าทางขี้เล่น พร้อมกับพูดติดตลกว่า “พี่เหวินฉี วางใจได้ ฉันยังไม่อยากให้เขาเป็นอะไรหรอก”
MANGA DISCUSSION