บทที่ 113 การปล้นเครื่องบิน 2
ภายในห้องโดยสารอันเงียบสงัด ผู้โดยสารต่างรู้สึกสับสนวุ่นวายใจ พวกเขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มที่ตนดูถูกเหยียดหยามก่อนหน้านี้ จะเป็นคนเดียวที่ต้องการช่วยชีวิตพวกเขา
เหอเจ๋อไม่คิดว่าปัญหาจะมาตกอยู่ที่ตัวเอง แต่การสังเกตที่ละเอียดรอบคอบของชายตรงหน้า ทำให้เขาอดชื่นชมไม่ได้
“ในเมื่อแกเข้าใจแล้ว ก็เชิญไปตายซะ!”
แลนดาแสยะยิ้มอย่างสะใจ เตรียมเหนี่ยวไก
“ช้าก่อน!”
เสียงใสดังขึ้นภายในห้องโดยสาร แลนดาชะงัก หันขวับไปตามเสียงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาล้อเลียน “อ๋อ แอร์สาวนี่เอง เธอไม่มีสิทธิ์มาต่อรองกับฉัน ไปเรียกกัปตันมา!”
จางเสี่ยวเถาหน้าซีดเผือด พยายามรักษาอาการ “ผู้โดยสารทุกท่านคือแขกคนสำคัญของสายการบิน เราคุยกันได้ทุกเรื่อง โปรดอย่าทำร้ายใครเลยค่ะ”
แลนดาต้องการเพียงเงิน ไม่ได้อยากฆ่าใครอยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นจึงลดปืนลง เอ่ยอย่างละโมบ “ไม่ฆ่ามันก็ได้ แต่ภายในครึ่งชั่วโมงนี้ ฉันต้องการเห็นเงินแปดสิบล้านโอนเข้าบัญชี ไม่งั้นฉันจะฆ่าทุกคน!”
จางเสี่ยวเถารู้ดีว่าไม่ควรยั่วโมโหอีกฝ่าย จึงรีบตอบตกลงทันที “ดิฉันจะติดต่อผู้รับผิดชอบเดี๋ยวนี้ โปรดรอสักครู่ค่ะ”
พูดจบ เธอก็รีบหันหลังกลับไปที่ห้องนักบิน
แลนดาส่งสายตาให้เจอร์รี่ ชายร่างยักษ์พยักหน้ารับ ก่อนจะถือปืนเดินตามหญิงสาวไป
“โง่เอ๊ย นี่มันพาหมาเข้าบ้านชัด ๆ”
เหอเจ๋อถอนหายใจ บนที่สูงเหนือพื้นดินหลายร้อยเมตรแบบนี้ แทนที่จะรอความช่วยเหลือที่ไม่รู้จะมีจริงหรือเปล่า เขาควรหาวิธีเอาตัวรอดด้วยตัวเองจะดีกว่า
เขาสบตากับแลนดา พลางยิ้มแฉล่ม ทำทีเป็นชวนคุย
“พี่ชาย แปดสิบล้าน โคตรวยเลยนะครับเนี่ย”
แลนดาแสยะยิ้ม “อิจฉาเหรอ?”
เหอเจ๋อกลืนน้ำลาย ทำท่าทางโลภมาก พูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา “แน่นอนสิครับ สมัยนี้ หาเงินยากกว่ากินขี้ซะอีก ผมทำงานงก ๆ ทั้งเดือน ได้แค่ไม่กี่พัน เงินมากขนาดนี้ทั้งชีวิตนี้ผมก็ไม่กล้าฝันถึงหรอก”
แลนดาหัวเราะลั่น ก่อนจะทำทีเป็นยื่นข้อเสนอ “งั้นเอาอย่างนี้ไหม มาร่วมงานกับพวกฉันสิ เสร็จงานนี้แบ่งให้หนึ่งล้าน”
“พูดจริงเหรอครับ?”
เหอเจ๋อแสดงสีหน้าตื่นเต้นดีใจออกมา จนทำให้ความรู้สึกดีที่ผู้โดยสารมีต่อเขาสลายไปในทันที พวกเขาคิดว่าเขาเป็นคนเห็นแก่เงิน
“เหอะ สุดท้ายก็เป็นแค่คนไร้ยางอาย”
กลุ่มโจรนำโดยแลนดาต่างพากันหัวเราะลั่น แลนดาก้าวเข้าไปหาเหอเจ๋อ ยื่นมือตบหน้าเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
“อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย ยังอยากได้สิบล้านอีกเหรอ กลับไปกินขี้อยู่บ้านเถอะ!”
ที่แท้เขาก็แค่เล่นสนุกกับเหอเจ๋อมาโดยตลอด คิดว่าเหอเจ๋อเป็นแค่ตัวตลกเท่านั้น เพียงแต่ใครกันแน่ที่เป็นตัวตลก ใครเป็นคนกำกับละครลิงนี้ ก็คงบอกไม่ได้หรอกนะ
ในขณะที่แลนดายื่นมือจะตบหน้าเหอเจ๋อด้วยความเหยียดหยาม ดวงตาของเหอเจ๋อก็เปล่งประกาย เขาพูดมากมายขนาดนี้ ก็เพื่อรอจังหวะนี้ไม่ใช่หรือไง?
ในตอนที่อีกฝ่ายกำลังหัวเราะอย่างไม่ทันระวังตัว แขนของเขาก็พุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับงูพิษ ต่อยเข้าที่ท้องน้อยของแลนดาอย่างจัง
แลนดาที่กำลังหัวเราะอย่างสะใจก็รู้สึกเหมือนถูกควักไส้ควักพุง เขาทำเรื่องเสี่ยงตายแบบนี้มาโดยตลอด แน่นอนว่าไม่ใช่คนโง่ เขารีบคว้าปืนทันที แต่อีกฝ่ายกลับเร็วกว่ามาก มือข้างหนึ่งคว้าข้อมือของเขาไว้แล้วบิดอย่างแรง
“อ๊ากกกก!”
เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังกึกก้องไปทั่วห้องโดยสาร เมื่อทุกคนหันไปมอง ก็เห็นเหอเจ๋อถือปืนที่แย่งมาจากแลนดามาจ่อที่หัวของเขา
“บอกลูกน้องแกวางปืนลงซะ!”
ลูกน้องทั้งสามคนมองหน้ากันด้วยความสับสน พวกเขาคุ้นเคยกับการรับคำสั่ง พอเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
“อย่าไปฟังมัน!” แลนดากุมท้อง เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นเต็มหน้าผาก เขารู้ดีว่าถ้าพวกนั้นวางปืนลง เขาจะต้องตายแน่ จึงข่มขู่พวกนั้นออกไปว่า “พวกแกฟังให้ดี ถ้าฉันตาย พวกแกต้องฆ่าทุกคนบนเครื่องบินนี้ให้หมด ฝังเป็นเพื่อนฉันซะ!”
เหอเจ๋อขมวดคิ้วอย่างลับ ๆ ไอ้หมอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ ถึงกับใช้คำพูดมาข่มขู่ผู้โดยสารคนอื่น
มดปลวกยังรักชีวิต นับประสาอะไรกับคน ผู้โดยสารบนเครื่องต่างพากันมองเหอเจ๋อด้วยสายตาแปลก ๆ บางคนเริ่มกระซิบกระซาบด้วยความกลัว
เหอเจ๋อครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ถ้าเขายังยืนกรานที่จะไม่ยอมปล่อยตัวแลนดา อาจทำให้ผู้โดยสารไม่พอใจ ถึงตอนนั้นต่อให้เขากำจัดโจรได้ ก็คงหนีไม่พ้นคำครหา
ในชั่วขณะหนึ่ง เขาก็เกิดความลังเลใจ
ทางการของประเทศจีนได้รับแจ้งเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว เรื่องเครื่องบินถูกปล้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แม้แต่ประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกายังเคยประสบปัญหานี้มาแล้ว ถ้าจัดการไม่ดี อาจกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญไปทั่วโลก
ภายในอาคารสูงใหญ่แห่งหนึ่งในเมืองเยี่ยนจิง กลุ่มคนนั่งล้อมรอบโต๊ะประชุม ใบหน้าของทุกคนดูเคร่งเครียดขณะหารือเรื่องนี้
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นแบบนี้ พวกโจรพวกนี้ปากใหญ่มาก พอเอ่ยปากก็เรียกร้องเงิน 80 ล้านทันที” เซี่ยชิงดันแว่นตา แล้วเล่าสถานการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง
ห้องประชุมเงียบลง เรื่องยุ่งยากแบบนี้จัดการยากที่สุด หากพลาดนิดเดียวก็อาจทำให้เสียหายทั้งภายในและภายนอก ทุกคนที่นั่งอยู่ล้วนเป็นคนเก่าแก่ จึงไม่มีใครกล้าเอ่ยปากแสดงจุดยืนในประเด็นอ่อนไหวเช่นนี้ก่อน
เซี่ยชิงขมวดคิ้วแน่น ตบโต๊ะแล้วพูดเสียงเย็น “อย่าทำเป็นใบ้กันหมดสิ ผู้บังคับบัญชาสั่งการมาแล้ว ถ้าจัดการเรื่องนี้ไม่ดีจนเกิดผลเสียร้ายแรง พวกเราก็กลับบ้านไปอุ้มลูกกันหมด”
เมื่อคำสั่งสุดท้ายมาถึง การเงียบต่อไปก็ดูไม่เหมาะสม ชายอ้วนคนหนึ่งลุกขึ้นยืน แล้วพูดพร้อมรอยยิ้มขืน “หัวหน้าครับ ไม่ใช่ว่าพวกเราแกล้งทำเป็นหูหนวกตาบอด แต่มันยากเกินไปจริง ๆ พวกเราสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติไม่ใช่ซูเปอร์แมน เครื่องบินอยู่บนฟ้าสูงหลายร้อยเมตร พวกเราทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ ครับ”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย สีหน้าแสดงความเห็นพ้องอย่างยิ่ง
จิ้งจอกแก่อย่างเซี่ยชิงจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร แต่ผู้บังคับบัญชาไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เลี้ยงทหารพันวันใช้งานชั่วคราว เมื่อเกิดปัญหาพวกเขาต้องรับผิดชอบ
เขาสูดหายใจลึก แล้วพูดเสียงทุ้ม “พวกเราเตรียมพร้อมสองทางดีกว่า ก่อนอื่นตกลงตามเงื่อนไขของโจรก่อน รับรองความปลอดภัยของตัวประกันเป็นอันดับแรก จากนั้นตรวจสอบตัวตนของผู้โดยสาร ดูว่ามีสายลับที่ใช้งานได้หรือไม่”
ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เซี่ยชิงสามารถนั่งในตำแหน่งผู้อำนวยการได้อย่างมั่นคงมาหลายปี เขาย่อมมีความสามารถ วิธีของเขาถือว่าปลอดภัยที่สุด และเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ในตอนนี้
MANGA DISCUSSION