เกิดใหม่ในโลกเเห่งเกม 18+ เเต่ไหงตัวเราต้องกลายเป็นจอมมารสาวที่เป็นทาสกามของอีตาเพื่อนผู้กล้าจอมหื่นด้วยล่ะค่ะ !? - ตอนที่ 6: ก่อนการประลอง
หลังจากที่เรียนเนื้อหาในห้องเรียนเสร็จ มันก็เป็นเวลาตกเย็นพอดี ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะเเก่การประลอง
เนื่องจากมันเป็นการเเข่งของนายท่านที่เเทบจะไม่เคยเเสดงฝีมือให้ใครเห็นมาก่อน
ตัวเขาที่ได้รับฉายาผู้สังหารมังกรเเละเป็นที่ต้องตาต้องใจขององค์ราชาจึงเป็นที่จับตาอยู่พอสมควร
บนอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ที่จุคนได้หลายร้อยคน ที่นั่งทั้งหมดถูกจองจนเต็มทำให้มีหลายคนต้องออกไปเฝ้ามองการเเข่งจากนอกสนามด้วยเวทย์ขยายประสาทการมองเห็น
ตามทางเดินที่ค่อนข้างคับเเคบมีพวกนักเรียนหัวใสพยายามหารายได้
บ้างเอาขนมหรือเครื่องดื่มมาขาย
บ้างตั้งโต๊ะพนันขึ้น โดยที่อัตราต่อรองส่วนมากเทมาทางนายท่านเเละมันก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ทายผลว่านายท่านจะชนะ
ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดว่าดันเต้ที่เป็นพี่ชายจะชนะเลยซักนิด กลับกันเเล้วคนที่มาดูการประลองส่วนมาก พวกเขาอยากจะเห็นความสามารถที่เเท้จริงของนายท่านต่างหาก
“เเค่ครึ่งวัน ข่าวลือก็เเพร่กระจายไปเร็วขนาดนั้นเลยหรอเนี่ย ? สังคมขุนนางนี่ชอบสอดรู้สอดเห็นจริงๆค่ะ”
“ทำเป็นพูดไป เธอตั้งใจให้เป็นเเบบนี้อยู่เเล้วไม่ใช่รึไง ?”
“อืม~ พูดอะไรไม่เห็นรู้เรื่องเลยเจ้าค่ะ”
เราตีเนียนทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งๆที่ใจจริงเเล้ว ตัวเราในตอนนี้รู้สึกพึงพอใจเเผนการของตัวเองเอามากๆ
สาเหตุที่ในปัจจุบัน ยังมีหลายๆคนสงสัยในพลังของนายท่าน มันก็พราะว่านายท่านไม่ยอมเเสดงพลังที่เเท้จริงให้เห็นซักกะที
เเม้เพื่อนร่วมชั้นจะชื่นชมเเละสนใจในตัวของนายท่าน เเต่พวกชั้นปีสูงๆเเละบุตรชายของตระกูลยศใหญ่ๆบางตระกูลดูจะไม่ชอบนายท่านซักเท่าไหร่
การที่นายท่านซึ่งไม่ใช่ลูกคนโตได้ดิบได้ดีกว่าพี่ชายคนโต พวกเขาคิดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่เสียมารยาทในหมู่ขุนนาง
‘นกน้อยทำรังเเต่พอตัว’
นั่นคงเป็นสิ่งที่พวกเขาชอบใช้เเบ่งเเยกลำดับชนชั้นในกลุ่มญาติพี่น้องของขุนนางมากที่สุด
หากเป็นเเค่ลูกคนเล็กก็ควรที่จะทำตัวเล็กๆเข้าไว้ไม่ให้โดดเด่นกว่าพวกพี่ชายคนโต ไม่อย่างงั้น มันจะทำให้ผู้คนในเขตปกครองปราถนาผู้นำคนอื่นนอกเสียจากพี่ชายคนโตที่เป็นทายาทอันดับหนึ่ง
เเม้มันจะไม่มีบอกอยู่ในกฎหมาย เเต่กฎเกณฑ์ทางสังคมของพวกขุนนางก็คิดเองเออเองว่าลูกคนเล็กไม่ควรเด่นกว่าลูกคนโต
เนื่องจากในอดีต มันก็เคยมีมาเเล้ว เรื่องที่น้องชายของกษัตริย์มีอำนาจมากกว่าพี่ชายของตน จนในที่สุดน้องชายคนนั้นก็ตัดสินใจทำการปฏิวัติ
เเม้มันจะไม่สำเร็จ เเต่ในสงครามครั้งนั้น มันก็มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งกฎเกณฑ์ทางสังคมเช่นนี้ขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นซ้ำรอย…เเม้ว่านั่นจะเป็นการกดขี่พวกลูกชายตั้งเเต่คนรองลงไปเเละทำให้ประเทศนี้ขาดผู้นำที่มีความสามารถก็ตาม
หากจะบอกว่าคนส่วนมากที่สนับสนุนดันเต้ มันก็คือพวกลูกชายคนโตของตระกูลต่างๆมันก็คงใช่
พวกเขาคงไม่อยากให้เกิดกรณีตัวอย่างเช่น เรื่องที่ว่านายท่านเอาชนะพี่ชายของตนเองเเล้วตั้งตนเป็นผู้นำตระกูลคนใหม่เเทน อะไรทำนองนั้น
หากนายท่านทำได้ พวกลูกคนรองของตระกูลอื่นก็ทำได้
ผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในตระกูลนายของท่านอาจจะจุดประกายความหวังของพวกลูกๆที่ไม่ใช่ลูกคนโตขึ้นมา จนทำให้เกิดผลกระทบเเบบ’โดมิโน่เอฟเฟค’ที่ทำให้หลักการระบบขุนนางเดิมพังตามกันมาเป็นเเถบๆ
นอกจากเรื่องนั้น มันก็คงเป็นความอิจฉาที่องค์ราชาถูกใจนายท่าน เเละเรื่องที่นายท่านเป็นผู้สังหารมังกร
ก็น่ะ…’วีรบุรุษผู้สังหารมังกร’
ยังไงชื่อทำนองนี้ มันก็คงเป็นชื่อที่ฟังดูเท่ เเถมเป็นที่ชื่นชอบของพวกเด็กผู้ชายอยู่เเล้ว
เพราะอย่างงั้น การที่พวกเขาจะอิจฉาริษยานายท่านใจจะขาด มันก็คงไม่เเปลก
“วุ่นวายกว่าที่คิด”
ดูเหมือนตอนนี้นายท่านจะเข้าใจถึงความวุ่นวายของสังคมขุนนางขึ้นมาบ้างเเล้วค่ะ
หน้าตาของนายท่านในตอนนี้ดูไม่ชอบใจซักเท่าไหร่
ความจริง เราก็พอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าการที่ต้องถูกคนอื่นจ้องจับผิดตลอดเวลา มันเป็นความรู้สึกที่อึดอัดมากเเค่ไหน
เเต่ถ้านายท่านไม่ปรับตัวเข้ากับมันเเล้วเอาเเต่หนีเพียงอย่างเดียว ซักวันนายท่านคงจะได้มานั่งเสียใจทีหลังอย่างเเน่นอนค่ะ
หากต้องการความสุข อำนาจคือสิ่งที่จำเป็นสำหรับนายท่าน
เเม้อำนาจอาจจะทำลายอิสรภาพบางอย่างของนายท่านไป เเต่โลกที่ปกครองด้วยระบอบขุนนาง มันไม่มีคำว่าอิสรภาพตั้งเเต่เเรกเเล้วล่ะค่ะ
ทางเลือกในตอนนี้มีเเค่จะรักษาอิสระภาพของตัวเองให้มากที่สุดหรือกลายเป็นไพร่ที่ต้องสูญเสียอิสรภาพทุกอย่างไป มันก็เท่านั้นเอง
เพราะนายท่านยังเป็นขุนนาง นายท่านก็คงไม่เข้าใจ
เเต่หากนายท่านได้เห็นสังคมของโลกใบนี้มากขึ้นอีกซักหน่อย เราเชื่อว่าวันหนึ่งนายท่านจะต้องเข้าใจเหตุผลที่เรายัดเยียดสิ่งที่เขาไม่ชอบอย่างเเน่นอน
“ห้ามจงใจยอมเเพ้นะคะนายท่าน ถ้าเป็นเเบบนั้นเราโกรธจริงๆน่ะ”
เราพูดดักทางไว้ก่อน เผื่อว่านายท่านจะหลีกเลี่ยงเรื่องวุ่นวายโดยการเเกล้งเเพ้
“พูดอะไรของเธอเนี่ย ?”
ทว่า นายท่านกลับขมวดคิ้วเเล้วมองมาที่เรา
“ถ้าผมเเพ้ ผมก็ต้องเสียเธอไปน่ะสิ”
“???”
“ทำหน้าเเบบนั้น คงไม่ได้ลืมข้อตกลงในการประลองไปเเล้วใช่ไหม ?”
ลืมไปสนิทเลยเจ้าค่ะ
เเทบจะไม่ได้ใส่ใจเลย เรื่องที่ว่าหากนายท่านเเพ้ เราจะกลายเป็นทาสของดันเต้
พอนายท่านรู้ว่าเราลืม เขาก็ลูบหัวเราเบาๆพลางยิ้มเจื่อน
“เธอนี่มันจริงๆเลยน๊า หัดรักตัวเองมากกว่านี้หน่อยสิ”
นายท่านลูบหัวของเราอย่างทะนุถนอม
ฝ่ามือที่หยาบกระด้างลูบไปลูบมาจนเรารู้สึกจักกะจี้
เป็นสัมผัสอันอบอุ่นที่น่ารำคาญ เเต่ก็ไม่ได้เกียจซักเท่าไหร่
“หึ ! ทางนั้นต่างหากค่ะ ที่ควรจะเลิกปล่อยให้คนอื่นมาดูถูกตัวเองได้เเล้ว เป็นพวกมาโซรึไงคะ ?”
เราเเก้เขินออกไปเเบบนั้น เเต่นายท่านกลับเเซวเราเล่นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม
“ฮ่าๆ ผมว่าจริงๆเเล้ว มันเธอซ่ะมากกว่าน่ะมาเคีย”
บ่นอะไรกันคะ ?
“ก็เเหม จริงๆเเล้ว มันเธอไม่ใช่หรอที่ชอบกวนโมโหผมตลอด ทั้งๆที่รู้อยู่เเล้วว่าถ้าทำเเบบนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้น”
หาาาาาา อีตาโลลิค่อนนี่พูดอะไรของมันกันคะ ?
“ทั้งๆที่ตอนทำท่านั้น ยัง—“
“อุหวาาาา หยุดค่ะ ! นี่มันคุกคามทางเพศค่ะ คุกคามทางเพศชัดๆเลยนะคะ ต่อให้เป็นต่างโลกเเละเป็นที่ลับตาคน การที่นายท่านมาพูดเรื่องพวกนั้นในที่สาธารณะ มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ !”
เรารีบห้ามนายท่าน เเต่พอได้เห็นนายท่านเลียริมฝีปากอย่างชั่วร้ายเเล้ว ขนกายก็ลุกชันไปทั่วร่าง
“เเสดงว่าถ้าเป็นที่ลับตาคนคงพูดได้สิน่ะ”
“นะ นะ นายท่าน”
อยู่ๆนายท่านก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ข้างในดวงตาที่หรี่ลงมีสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งค่อยๆเเยกเขี้ยวออกมา
“ผมยังไม่ได้ลงโทษเธอเลยด้วย เรื่องที่ทำอะไรตามอำเภอใจ”
ฟุบ !
เนื่องจากบริเวณที่พวกเราอยู่ มันคือทางเข้าสนามประลองที่อนุญาติให้เเค่ผู้เข้าเเข่งเดินผ่าน มันจึงไม่น่าจะมีใครเห็นหากพวกเราทำอะไรกันเเถวนี้
เเถมตรงนี้ยังค่อนข้างมืด ตราบใดที่ไม่มีเสียงหลุดออกไป มันก็คงไม่มีใครรู้
นายท่านจึงอาศัยช่วงที่เราประมาท เพื่อทำการประชิดตัวเราเข้ามาเเล้วเอามือลูบต้นขาของเราราวกับจะเล้าโลม
“อรื๊อออ เดี๋ยวก่อนค่ะ ! มาทำในที่เเบบนี้มันออกจะ—“
“ดีเเล้วนิ เเบบนี้มันจะได้เหมาะสมกับการลงโทษซักหน่อย”
อุหวาาา รอยยิ้มโคตรชั่วร้ายเลยค่ะ
นายท่านเป็นสาย S ไม่ผิดเเน่ๆ
ไอ้การลากผู้หญิงที่ตนชอบมาทำเรื่องอย่างว่าในที่เเบบนี้ คนปกติมันคิดกันไม่ได้หรอกนะคะ
นะ นะ น่ากลัว ด้านนี้ของนายท่านน่ากลัวที่สุดเลยค่ะ !
“อื๊อออ นะ นะ นายท่าน หยุด–“
อึก ! ความรู้สึกเย็นวาบตอนที่โดนถอดกางเกงในออกมาเล่นเอาใจสั่นเลยล่ะค่ะ
ไม่ไหวๆ เเบบนี้ได้อายจนตายเเน่ๆ ถ้ามีคนมาเห็นตอนนี้ เราได้อายจนมุดดินหนีเเน่ๆ
เเถมต้องกลั้นเสียงอีก ไม่รู้จะทนได้นานเเค่ไหน
เป็นอะไรที่ตื่นเต้น..ไม่ๆ ตื่นเต้นที่ว่าไม่ได้ตื่นเต้นด้วยความสนุกหรอกนะคะ มันตรงข้ามกันต่างหาก
“หยุดก่อน นะ นะ นายท่าน”
เราปฏิเสธด้วยใบหน้าเเดงระเรื่อพร้อมกับพยายามผลักนายท่านที่หอบเเฮ่กๆออกไป
เเต่นายท่านกลับยื่นมือเข้ามาใต้กระโปรงก่อนจะสัมผัสช่วงล่างของเราเบาๆ
“อย่าขยับ —“
“อึก !”
เราพยายามกลั้นเสียงตอนที่นายท่านสัมผัสส่วนลับใต้ต่อสะดือ
เเต่ทว่า—
พรึ่บ !
“อ๊ะ !”
อยู่ๆสัมผัสเย็นๆใต้กระโปรงก็ถูกเเทนที่ด้วยเนื้อผ้านุ่มๆที่เเห้งผาก
ทั้งๆที่เมื่อตอนเช้ายังรู้สึกชื้นเเฉะอยู่เเท้ๆ เเต่พอมาตอนนี้ตรงส่วนนั้นของเรากลับสัมผัสได้เเต่ความนุ่มเเละเเห้ง
“ให้ตายเถอะ น่าจะบอกซ่ะก่อนนะว่า วันนี้มีประจำเดือน”
นายท่านเอ่ยพลางชูกางเกงในสีขาวของเราที่มีรอยเเดงจากคราบเลือดขึ้นมา
“นะ นะนายท่าน ?”
“หึๆ กำลังคิดเรื่องอะไรลามกอยู่หรอมาเคีย ?”
อะ อะ อีตานี่ ยิ้มเเบบนี้อย่าบอกน่ะว่า ?
“หึๆ เป็นไงบ้างล่ะ ความรู้สึกของฝั่งที่โดนเเกล้ง ลาเคียนี่ลามกจริงๆเลยน๊า”
“อะ อะ อะ”
“เเล้วก็ภาพเมื่อกี้บันทึกเอาไว้หมดเเล้ว”
พูดจบ นายท่านก็ชูคริสตอลบันทึกภาพขึ้นมา
มันเป็นไอเท็มเวทมนต์ราคาเเพงที่ช่วยบันทึกภาพเอาไว้ได้เหมือนกับกล้องวีดีโอ
พรึ่บ !
ภาพที่ฉายให้เห็นบนอากาศ มันคือใบหน้าของเราที่หลับตาปี๋เเล้วหอบเเฮ่กพลางร้องห้ามด้วยเสียงอ่อนระทวย
พวงเเก้มที่ปกติเป็นสีขาวกลายเป็นสีเเดงเเจ๋อย่างชัดเจน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหญิงสาวที่อยู่ในภาพกำลังรออะไรอยู่
“ปะ ปะ เป็นรสนิยมที่น่ารังเกียจังนะเจ้าค่ะ”
“ทางนั้นก็เหมือนกันเเหล่ะน่า”
“ละ ละ ลบ ช่วยลบทิ้งทีเถอะค่ะ !”
“ช่างมันเถอะน่า อย่างน้อยเธอก็น่าจะขอบคุณผมซักหน่อยไม่ใช่หรอ ?”
อึก ! เถียงไม่ออกเลยค่ะ
ทั้งๆที่คิดว่าเป็นเเค่อีตาโรคจิตเเท้ๆ เราไม่รู้เลยว่าเขาจะเอาใจใส่ตัวเราเเม้เเต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ
“รู้ตั้งเเต่เมื่อไหร่กันค่ะ ?”
เรายื่นมือออกไปเพื่อขอกางเกงในที่เปื้อนเลือดกลับมา เเต่นายท่านกลับหยิบใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองซ่ะอย่างงั้น !?
“ตั้งเเต่เมื่อเช้า ตอนที่เธอทำตัวอ่อนปวกเปียกผิดปกติเเล้วล่ะ ถึงจริงๆเเล้วทุกๆวัน มองเผินๆมันจะดูไม่ต่างจากตอนนี้ก็ตามเถอะ”
“อึก ! เอาใจใส่กันเกินไปเเล้วค่ะ”
“ฮ่าๆ ก็ผมบอกไปเเล้วไม่ใช่หรือไง”
หมับ !
นายท่านดันคางของเราขึ้นด้วยปลายนิ้ว ก่อนจะเขยิบใบหน้าอันหล่อเหลาของตัวเองเข้ามาใกล้
“เพราะเธอเป็นของผมเเละเป็นผู้หญิงที่ผมชอบที่สุด การจะใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆจำพวกนี้ มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่รึไง ?”
หล่อค่ะ นี่มันจะหล่อเกินไปเเล้วค่ะ
เลิกเอาใจใส่กับอะไรไม่เป็นเรื่องซักทีเถอะ ถึงเรื่องนี้จะสำคัญสำหรับผู้หญิงเเต่ช่วยทำเป็นไม่รู้จะดีมากค่ะ
อยู่ๆทำตัวอ่อนโยนใส่ เเบบนี้ก็ใจเต้นกันพอดีสิค่ะ
เเบบนี้ก็เกลียดนายท่านไม่ลงกันพอดี บ้าเอ๊ย ! เจ็บใจที่สุดค่ะ ! นี่มันจะคนดีเกินไปเเล้ว
เกลียดนายท่านไม่ลงเลยจริงๆ เเต่ก็ไม่ได้ชอบหรอกน่ะ เราไม่มีทางชอบคนอย่างนายท่านเเน่นอนค่ะ
ที่ผ่านมาเรายอมอยู่ด้วยเพราะนายท่านคือคนสำคัญต่างหาก เราไม่ได้รักหรือชอบนายท่านในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งซักกะหน่อย
ฮึ ! อย่าคิดว่าครั้งนี้จะชนะเราไปซ่ะล่ะ ทะ ทะ ที่ยอมอ่อนข้อให้ มันเป็นเพราะความอ่อนโยนที่เเสนจะขี้โกงของนายท่านต่างหาก ฝากไว้ก่อนเถอะ !
“งะ งะ งั้นหรอค่ะ “
เราพยายามทำหน้านิ่งเเล้วเบือนหน้าหนี
ขอบอกไว้ก่อนว่าที่หันหน้าหนีไม่ได้เป็นเพราะอายหรอกน่ะ เเล้วที่หน้ามันเเดงไปเอง จริงๆเเล้วเป็นเพราะอากาศร้อนต่างหาก
“ฮ่าๆ มาเคียของผมนี่น่ารักจริงๆเลย”
“หนวกหูค่ะ”
หมั่นไส้ไอ้หมอนี่จัง เป็นรอยยิ้มอันอบอุ่นที่ขี้โกงมากๆค่ะ
ช่วยเลิกทำให้เราใจเต้นซ่ะทีเถอะ จะฆ่ากันรึไงค่ะ ? หัวใจของเราเต้นตุบๆจนตอนนี้เริ่มหายใจไม่ทันเเล้วน่ะ
“ยูลิอุส !!! เเกอยู่ที่ไหน !!!”
โชคดีที่ตอนนั้น มีเสียงๆหนึ่งดังก้องอยู่ในสนามประลอง
“ยูลิอุส !!!”
ฟังจากน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ นั่นต้องเป็นเสียงของดันเต้ไม่ผิดเเน่ๆ
“อ่า…น่าเสียดายจัง ดันมีคนมาขัดซ่ะเเล้ว”
“ส่วนทางนี้ดีใจใจจะขาดเเล้วค่ะ”
ใช่ ! รีบๆไปเเข่งเเล้วชนะกลับมาได้เเล้วค่ะ ถ้ากลับดึกเกินเดี๋ยววันนี้ก็ไม่ได้กินข้าวกันอีกพอดี
ดูจากนิสัยของนายท่าน ยังไงคืนนี้ก็คงเรียกร้องรางวัลอะไรบางอย่างจากเราเเน่ๆ
เพราะงั้นรีบๆชนะให้มันจบๆ เราจะได้ให้รางวัลเเบบส่งๆ โอเคนะคะ ?
“ก่อนอื่น อย่างน้อยก็ช่วยให้กำลังใจกันหน่อยสิ”
เเต่ไอ้เจ้านายท่านโรคจิตนี่มันโรคจิตเสมอต้นเสมอปลายซ่ะเหลือเกิน
เขายื่นเเก้มข้างหนึ่งมาให้เราเเล้วขยิบตา
“ค่ะ !”
ฮ่าๆ ให้ตบหน้าสินะคะ เข้าใจเเล้วค่ะ !!!
ว่าเเล้วเราก็ชูมือขึ้นฟ้าเเล้วเล็งไปที่เเก้มขวาของนายท่าน
คอยดูเถอะจะตบให้เต็มเเรง เอาให้มีรอยเเดงๆติดหน้าเลยค่ะ
คิดว่าเราจะหอมเเก้มรึไง ฝันไปเถอะ !
ฟ้าววววว
มือของเราฟาดลงไปที่เเก้มของนายท่าน
หมับ !
เเต่นายท่านที่ประสาทสัมผัสไวก็คว้าเอาไว้ได้ทัน
เขามองมาที่เราด้วยสายตาไม่พอใจ
“เดี๋ยวเถอะ ถ้าไม่ชอบก็บอก—“
จุ๊บ !
เราอาศัยช่วงที่เขาเปิดช่องว่าง ด้วยการเอาริมฝีปากกระเเทกลงไปที่ปากของนายท่านที่กำลังจะอ้าออก
“มาเคีย ?”
เเค่ เอาริมฝีปากกระเเทกเฉยๆ อย่าเข้าใจผิดสิค่ะ ถึงเสียงจะฟังดูน่ารัก เเต่มันก็เเค่การเอาเซลล์บุผิวชั้นนอกมาชนกันต่างหาก
ไม่ใช่จูบ ! ที่เราทำไม่ใช่จูบซักนิดค่ะ
“รีบไปได้เเล้วค่ะ”
เราม้วนผมเพื่อปกปิดความเขินอายเเล้วหันหลังให้
เเม้จะมองไม่เห็น เเต่เสียงของนายท่านเต็มกลับไปด้วยความตื่นเต้น
“มะ มะ มาเคีย ?”
เป็นเสียงที่ดีใจปนเปไปกับความสับสน
“ให้กำลังใจไปเเล้วค่ะ ไม่ขอยอมรับข้อเรียกร้องมากกว่านี้”
“นี่เธอ ?”
“ไปเอาชัยชนะมาให้ตัวเองก็พอค่ะ ชัยชนะของนายท่านก็เหมือนกับชัยชนะของเรา เข้าใจใช่ไหมค่ะ ?”
“อ๊าาาา ให้ตายเถอะ มาเคียของผมน่ารักที่สุดเลย !”
“ว๊าย ! อย่ามากอดกันกระทันเเบบนี้สิค่ะ นายท่าน ! หยะเเหยงอ่ะ อย่าเอาเเก้มสากๆมาถูกเเก้มนุ่มๆของเราตามใจชอบสิค่ะ “
“น่าร้ากกกก มาเคียของผมน่ารักที่ซู๊ดดดดดดดเลย”
กว่าจะเเกะนายท่านออกไปได้ พี่ชายของนายท่านก็ต้องเรียกชื่อของนายท่านตั้งสามสี่รอบ
เเน่นอนว่าตอนที่นายท่านเดินออกไปที่สนามประลอง ตัวเราในตอนนั้นก็อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงสุดๆ
ได้เเต่โบกมือส่งนายท่านพลางจัดเสื้อผ้าเเละเส้นผมยุ่งๆให้เข้าที่
“คอยดูชัยชนะของผมให้ดีล่ะ !”
“ค่ะ !”
เราก็ยิ้มส่งนายท่านกลับไป พลางภาวนาให้การต่อสู้นี้นายท่านเอาชนะได้โดยไม่ได้รับเเม้เเต่รอบขีดข่วน