บทที่ 7 เด็กห้าขวบที่แท้จริง
“จะ.. จริงเหรอคะ?”
“อืม..”
ก็ฉันไม่มีทางเลือกนี่หว่า ขืนทำให้เธอไม่พอใจเธออาจจะฟาดฉันจนตายเลยก็ได้ ก็แบบขนาดผู้ฝึกสอนให้คนเป็นผู้กล้ายังนอนหยอดน้ำข้าวต้ม
เด็กขวบเศษแบบฉันคงโดนอัดร่วงในพริบตาเป็นแน่แท้.. เพราะงั้นในตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือ
“แต่มีข้อแม้!”
“หือ..?”
“อย่างที่เห็น.. สภาพฉันในตอนนี้คิดว่าถ้าลงมือกับฉัน จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ”
“…อ้ะ ค่ะ!”
ก็นะ ต่อให้เก่งขนาดไหนถ้ายังเป็นทารกขวบเศษก็ไม่มีทางสู้ได้หรอก.. แต่ดูเหมือนฉันจะดูถูกสกิลเมากัญชาของคนในโลกนี้เกินไป
เพราะว่า..
“จริงด้วยสินะคะ ถ้าท่านโรซาเรียลงมือตอนนี้ละก็คงควบคุมพลังไม่ได้ เพราะร่างกายยังเด็กงั้นสินะคะ ขืนเอาจริงจนเผลอทำร้ายฉันขึ้นมา… ฉันเองก็ยังเด็กด้วย.. ท่านโรซาเรีย.. ใจดีจัง”
…แล้วตรูไม่เด็กเรอะ!! อันที่จริงฉันเด็กกว่าเธออีกนะเฮ้ย!แล้วทำไมคำพูดของฉันถึงสื่อความหมายไปทางนั้นได้วะเนี่ย
ไม่สิ.. เธอยังเป็นเด็กนี่น่า.. ใช่เพราะฉันพูดคำกำกวมแบบนั้นเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่เธออาจจะเข้าใจผิด
เพราะเด็กมักจะคิดมากกว่าที่เห็นไงล่ะ!
เพราะงั้นฉันต้องแก้ความเข้าใจผิดเสียก่อน ยังดีที่อีกฝ่ายเป็นแค่เด็ก.. เด็กไม่น่าจะเมาเหมือนไอ้พวกนั้นที่เครียดกันจนเมา
เด็กนั้นไร้ซึ่งความเครียดไงล่ะ!
“ไม่ใช่แบบนั้น ที่ฉันจะบอกคือมือฉันจับดาบได้ที่ไหน”
“อ่า นั่นสินะคะ.. ใช้แค่กิ่งไม้กับคนแบบฉันก็ได้ค่ะ ท่านพ่อเคยบอกไว้ว่าถ้าคนที่แข็งแกร่งสามารถใช้ทุกอย่างเป็นดาบได้.. เป็นแบบนั้นจริงๆ สินะคะ ขืนท่านโรซาเรียใช้ดาบกับฉัน.. ฉันคง…..”
“….เอาเข้าไป”
ฉันเอามือกุมหัวตัวเองพร้อมพึมพำด้วยความเหนื่อยใจ โลกนี้มันมีคนปกติไหมเนี่ย… อีกอย่างนะเธอดูมือฉันเส้
ที่ฉันจะบอกคือมือเล็กนะเออ ฉันว่าฉันพูดเคลียร์แล้วนะ แม่งเอ้ย!ในขณะที่ปวดอยู่แบบนั้นฉันพยายามอธิบายอีกรอบ
“ใจเย็นก่อนแล้วฟังฉันนะ..”
“คะ..?”
“เธอก้มมองที่มือฉัน เห็นอะไร”
“ก็มือสิคะ”
“มันเป็นมือของคนอายุเท่าไหร่”
“อ้ะ… ทารกค่ะ”
“เข้าใจที่ฉันจะบอกหรือยังว่าทำไมฉันจับดาบไม่ได้”
“ขะ… เข้าใจแล้วค่ะ เพราะไม่อยากจับดาบกับคนแบบฉันใช่ไหมล่ะ ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
“แล้วไหงกลับกลายเป็นแบบนั้นวะคะ?!”
ฉันอุทานออกมาด้วยความตกใจ บัดนี้ฉันรู้สึกเหมือนกับคนในโลกนี้ไม่มีเหตุผลกันซะเลย.. ไม่สิ เธอแค่เด็กนี่น่า
ก็นั่นสิยะ ใจเย็นก่อนตัวฉัน.. ใครมันจะไปเย็นไหวฟร้า ช่างมันแล้วจะเข้าใจยังไงก็ช่างเว้ย เหนื่อยแล้ว!
“เออๆ เอาเป็นว่าแบบนั้น รอให้ฉันโตกว่านี้ก่อน ฉันค่อยจะฝึกกับเธอได้ ตกลงไหม?”
น่า.. เพราะพี่ยัยหนูนี่นอนสาหัสบนเตียงอยู่ปีหนึ่ง หมายความว่าฉันแค่ยืดเวลาออกไป จนกว่าพี่ยัยหนูนี่จะหายก็พอ
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ครูคนนั้นเป็นกระสอบทรายต่อ … ขอโทษด้วยนะคนที่ไม่รู้จักชื่อ นายคงต้องเป็นกระสอบทรายไปอีกหลายปีละหนุ่ม
อย่าตายแล้วกัน..
“ขะ.. เข้าใจแล้วค่ะ”
พอฉันพูดแบบนั้นเธอก็ยิ้มด้วยความดีใจ ดีใจไปเถอะเด็กน้อย.. ถึงฉันจะไม่ได้ฉลาดขนาดพอจะเทียบกับใครได้
แต่เด็กฉันก็พอจะรู้วิธีเหลี่ยมใส่อยู่บ้าง.. เฮ้ยคำพูดเมื่อกี้ทำไมมันดูกำกวมเสี่ยงคุกชะมัดเลย.. อืม คิดไปเองแหละ
“เอาล่ะ กลับบ้านเธอได้แล้ว”
“คือ..ว่า.. เรื่องนั้น..?”
“หือ…?”
เหมือนเด็กน้อยจะดูกล้าๆ กลัวๆ.. เหมือนกับเธอทำผิดมาเลยยังไงยังงั้น ประสบการณ์ที่ผ่านมาตลอดปีกว่าบนโลกนี้
ทำให้ฉันสัมผัสถึงภัยอันตรายได้อย่างเฉียบคม ภัยอันตรายในอีกความหมายน่ะนะ.. เพราะงั้นตอนนี้ฉันถึงเริ่มเหงื่อไหล
ไอ้ไดอาล็อกแบบนี้..
“ถ้าไม่อยากก็ไม่ต้อ—”
“คือว่าที่จริงก่อนหน้าหนูโกหกค่ะ.. ว่าที่บ้านให้มาหาท่านโรซาเรีย คือจริงๆ แล้วหนูขโมยสมบัติของตระกูลแล้วหนีออกจากบ้านมาค่ะ…”
“หน๊านิ๊??!!!”
คุณพระช่วย เด็กห้าขวบหนีออกจากบ้าน!ไอ้เราก็นึกว่าครอบครัวนางส่งมาหาเรา แต่ที่ไหนได้ไปขโมยไอ้ของนี่ออกมาหรอกเรอะ
เด็กห้าขวบน่ากลัวเฮ้ย แถมฉันไม่รู้ตัวเลย.. เด็กโลกนี้เหลี่ยมเก่งกว่าฉันอีกเหรอ.. รู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีความเป็นผู้ใหญ่ถูกทำลายเลย
ไม่สิ นั่นไม่ใช่ประเด็น.. ประเด็นคือทำไมฉันไม่สังเกต พอมานึกดูดีๆ ตระกูลเรเดสนี่น่าจะใหญ่โตน่าดูเลย เพราะมีพี่ชายของคารินทำงานให้อาณาจักรโดยตรง
แถมมีสมบัติล้ำค่าขนาดนี้.. นั่นหมายความว่าไม่มีเหตุผลที่คารินจะต้องแอบเข้ามาหาฉันเลย สามารถนัดพบได้ง่ายๆ เลย
ไม่สิ อาจจะยากหน่อยถ้าเจ้ามิเกลเป็นคนจัดการ เพราะเจ้านั่นเอาอกเอาใจฉันจนเกินไปอะนะ
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำไม่ได้.. สรุปคือที่คารินโกหกนั้นมีจุดขัดกันเองอยู่มากมาย แต่ฉันกลับมองไม่ออก…
นี่หมายความว่าไง.. หมายความว่า.. คารินมีพรสวรรค์ในการตีหน้าซื่อแล้วโกหก!เด็กห้าขวบอะไรวะเพอร์เฟคชะมัด
“แล้ว.. ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ?”
“ก็ท่านพ่อท่านแม่บอกว่าจะให้หนูไปเรียนที่โรงเรียนดาบเวทน่ะค่ะ.. แต่ตามปกติแล้วโรงเรียนดาบเวทนั้นจะรับเข้าตอนอายุ 12 ค่ะ..”
“เธอยังเด็กไปว่างั้นเหอะ?แต่ถ้าเธอได้เข้าเรียนไวขนาดนั้นก็แสดงว่าเธอเป็นอัจฉริยะเลยไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ.. หนูน่ะ.. อ่อนแอค่ะแค่ให้ท่านพี่เอาจริงยังทำไม่ได้เลย ไปโรงเรียนที่มีแต่คนอายุเยอะกว่าละก็หนูคงเป็นตัวถ่วงแน่ค่ะ”
ทำให้พี่เธอเอาจริงไม่ได้.. หมายถึงเธออ่ะ เป็นคนทำให้พี่เธอเอาจริงไม่ได้ นอนปางตายอยู่นู่น.. เด็กคนนี้เหมือนจะมีปัญหาเรื่องความมั่นใจ
“เพราะงั้นหนูเลยหนีออกจากบ้านมาท่านโรซาเรียค่ะ.. เพราะท่านโรซาเรียทั้งแข็งแกร่งและอ่อนโยน เอาใจใส่คนอื่น และไม่หยิ่งยโสแถมถ่อมตัวด้วย”
“….?”
แข็งแกร่ง..? ใครวะ.. อ่อนโยนและไม่หยิ่งยโส ก็ถ้าไม่อ่อนโยนกับพวกเอ็งมีหวังฉันโดนฟาดทีเดียวดับสิเฮ้ย
เอาใจใส่คนอื่น? ไม่เอาใจใส่ได้ไงพวกเอ็งคิดกันไปไกลขนาดนั้นต้องพยายามอธิบายเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วป่ะ
ถ่อมตัวก็ได้ ก็ฉันไม่ได้แข็งแกร่งจริงๆ นี่หว่า แต่พวกนั้นก็คิดกันเอาเองว่าฉันถ่อมตัว.. เหนื่อยจะท้อจริงๆ
“จริงๆ หนูกะจะขโมยไปขายในตลาดมืดค่ะ น่าจะอยู่กินไปจนหนูโตได้เลยค่ะ แต่พอมาคิดดูแล้วถ้าได้ฝึกกับท่านโรซาเรียแม้ต้องนอนกลางถนนฉันก็ยอมค่ะ”
“อุ้ยตาย..วายกรี๊ด”
เด็กห้าขวบรู้จักตลาดมืดไม่พอแถมวางแผนชีวิตจนโต.. วอททท ทำไมนางดูโตกว่าฉันอีกละนิ.. ถ้าไม่ติดว่าคารินดูเป็นเด็กจริงๆ
คงคิดไปแล้วว่ายัยหนูนี่มาเกิดใหม่เหมือนกับฉันชัวร์เลย
อีกอย่างนะ.. พอถูกฝากความหวังไว้ขนาดนั้นแล้วอิฉันก็รู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินการที่เด็กทิ้งอนาคตแล้วมาหวังพึ่งฉันเพื่อที่จะเก่งขึ้น
โดยแลกกับความสบายในวันข้างหน้า เด็กในโลกนี้จะเติบโตไวกันไปแล้วเฮ้ย ฉันตอนห้าขวบยังแย่งลูกอมกับเพื่อนอยู่เลย
ฉันเองก็ไม่ใช่คนใจจืดใจดำขนาดนั้น… อีกอย่างเด็กคนนี้ถึงจะฉลาดแต่ก็เป็นแค่เด็ก เดี๋ยวพอหายโกรธก็คงกลับไปเองแหละ
“เข้าใจแล้วๆ มงกุฎนี้เธอเก็บไว้เถอะ อยู่กับฉันจนกว่าจะพอก็ได้ ส่วนเรื่องอาหารที่พักไม่ต้องห่วงหรอก”
ฉันพูดออกไปแบบนั้นโดยใช้สามัญสำนึก..ของคนในโลกเดิม…
ใช่..
เด็กคนนี้ควรจะกลับบ้านหลังจากนั้นภายในไม่กี่วัน…
มันควรจะเป็นแบบนั้นแต่…
ทำไม 5 ปีต่อมาหล่อนก็ยังเกาะติดฉันอยู่วะเนี่ย?!
แถมตอนนี้ฉันหกขวบ จับดาบได้แล้วด้วย นี่คือฉันต้องสอนจริงๆ ใช่ไหม?!
MANGA DISCUSSION