ตอนที่ 292 พิธีแต่งงาน
พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ถึงแม้ว่าจางฉุ้ยเหลียนยอมควักเงินออกมารีโนเวทบ้านใหม่และซื้อเครื่องประดับไปกว่า 505 หยวนแล้วก็ตาม แต่ฟู่ซินก็ยังเห็นแก่หน้าของจางฉุ้ยเหลียนอยู่ไม่น้อย เขาจึงหารถจำนวน 4 คันมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
เปิดงานมาด้วยรถจิ๊ปสีเขียวเข้ม 1 คัน ต่อมาก็รถยนต์ทั่วไปอีก 3 คัน เมื่อได้ยินว่ารถมาจอดอยู่หน้าบ้านของฝ่ายหญิงแล้ว ก็มีคนเดินลงมาพร้อมกล้องถ่ายวิดีโอตามเข้าไป
บรรดาแขกของบ้านฝ่ายหญิงมองไปยังตากล้องตัวสูงใหญ่ที่แบกกล้องคอยอัดวิดีโอเดินเข้าไปในบ้านช้า ๆ ด้วยสายตาอิจฉาริษยา
พี่ชายใหญ่ของยิงเจี๋ยรู้สึกว่าตัวเองมีหน้ามีตาไม่น้อย จากนั้นก็เดินหน้าไปหาจางฉุ้ยจวินที่แต่งกายด้วยชุดเจ้าบ่าวเต็มยศอย่างกระตือรือร้น
จางฉุ้ยเหลียนนั่งรถที่ฟู่ซินจัดหามาให้ได้เพียงครึ่งทาง ในขณะที่รถคันของเธอ เซี่ยจวิน ตงลี่หวา อันหลงและคังคังจอดอยู่หน้าโรงจอดรถ ขบวนรถบ่าวสาวก็เคลื่อนผ่านหน้าไปพอดี คนที่ออกมารับจางฉุ้ยเหลียนก็คือเจ้าสาวนั่นเอง
หลังจากที่จางฉุ้ยเหลียนเหยียบเข้ามาในบริเวณบ้านของฝ่ายหญิง จึงรู้ว่าคำพูดของยิงเจี๋ยเป็นความจริง บ้านหลังเก่ามีพื้นที่ไม่ถึง 70 ตารางเมตรหลังนี้ ถึงแม้ได้รับการทำความสะอาดจนเกลี้ยงเกลาแล้ว แต่ก็ยังให้ความรู้สึกถึงความเก่าทรุดโทรมอยู่ ดูได้จากการจัดเรียงข้าวของเครื่องใช้ของคนที่อยู่บ้าน
ห้องนอนหลักเป็นห้องขนาดใหญ่ ภายในห้องสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าตั้งใจตกแต่งอย่างดี เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างในบ้าน รูปถ่ายคู่ของทั้งสองคนถูกวางเรียงไว้บนหัวเตียง ซึ่งมองออกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นห้องพี่ชายคนไหนของยิงเจี๋ย ส่วนห้องของเจ้าสาวถูกตกแต่งด้วยโทนสีแดง ซึ่งดูไม่ยากเลยว่ายิงเจี๋ยจะต้องเป็นเจ้าของห้องนี้อย่างแน่นอน แต่หล่อนยังมีน้องชายและพ่อแม่อีกไม่ใช่หรือ ? เตียงนอนสองชั้นที่วางอยู่ในห้องรับแขกด้านนอกเป็นของใคร ?
เพราะมีการถ่ายวิดีโอ ทุกอย่างภายในบ้านของเจ้าสาวจึงถูกจัดวางอย่างเป็นทางการที่สุด จางฉุ้ยเหลียนยืนมองเหม่ออยู่ตรงหน้าประตู เมื่อเห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งถูกเด็กคนอื่นทอดทิ้งไว้คนเดียว จึงเดินเข้าไปชวนคุย
นึกไม่ถึงว่าเด็กผู้หญิงคนนี้จะเป็นลูกพี่สาวของยิงเจี๋ย จางฉุ้ยเหลียนดีใจมาก มุมปากของเธอยกยิ้มและพูดออกไปว่า “ต่อไปเราสองคนก็เป็นญาติกันแล้วนะ ฉันเป็นพี่สาวของเจ้าบ่าว แม่ของเธอเป็นพี่ของเจ้าสาว เธอเรียกฉันว่าคุณน้าก็ได้”
เด็กผู้หญิงคนนั้นจึงตะโกนเรียก ‘คุณน้า’ อย่างไร้เดียงสา จางฉุ้ยเหลียนยื่นอมยิ้มให้อย่างใจดี อมยิ้มเม็ดนี้เป็นอมยิ้มที่เธอนำติดตัวมาจากบ้านเพื่อเตรียมไว้ให้คังคัง รสชาติดีกว่าอมยิ้มรสผลไม้ที่ทั้งถูกและคุณภาพต่ำของบ้านเจ้าสาวเป็นไหน ๆ ด้านในสอดไส้ด้วยช็อกโกแลตและถั่ว
เมื่อเด็กผู้หญิงตัวน้อยเห็นอมยิ้ม ดวงตาก็เปล่งประกายแวววาวออกมา ไม่นานจางฉุ้ยเหลียนก็ต้องล้วงไปหยิบอีกหลายเม็ด
เธอมองไปทางจางฉุ้ยจวินที่กำลังอุ้มเจ้าสาวขึ้นรถอย่างมีความสุข จางฉุ้ยเหลียนอดทอดถอนใจอยู่ด้านหลังไม่ได้ นี่แหละชีวิต เรื่องบางเรื่องก็เป็นโชคชะตาที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
ยกตัวอย่างเช่นอันหลงและกู้เต๋อไห่ ชาติที่แล้วเขาต้องกระวนกระวายใจเพราะเรื่องงานของลูกชาย สุดท้ายยังต้องเป็นกังวลจนเข้าโรงพยาบาลเพราะเรื่องวุ่นวายที่ญาติ ภรรยา และลูกชายก่อไว้ ต่อให้เสียเงินไปก้อนใหญ่ แต่สุดท้ายก็รักษาชีวิตไว้ไม่ได้ ทำให้อันหลงต้องกลายเป็นแม่หม้ายตอนอายุ 50 ปี ทนเลี้ยงหลานชายและหลานสาวอยู่ในบ้านเดียวกับลูกชายที่ไม่มีเงินเก็บกับสะใภ้ที่ไม่มีงานทำ
ในชาตินี้ การงานของกู้จื้อเฉิงดีกว่าชาติที่แล้วมากทีเดียว อีกทั้งจางฉุ้ยเหลียนก็ทำงานหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำอีกด้วย จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องงานและเงินในบ้านอีกต่อไป สามีภรรยาผู้บอบบางจึงไม่มีแรงบันดาลใจที่จะต้องอยู่ด้วยกันอีกต่อไป ชาตินี้เขารอดตาย แต่ก็เฉดหัวหล่อนออกไป
ยกตัวอย่างสามีภรรยาตรงหน้าอีก 1 คู่ ในชาติที่แล้วคนที่จางฉุ้ยจวินแต่งงานด้วยคือหวังลี่ซึ่งเป็นคนที่เฉลียวฉลาดมีไหวพริบและใจดำมาก เป็นคู่ชีวิตที่สวยแต่รูปจูบไม่หอม หล่อนเอาแต่คิดคำนวณถึงผลประโยชน์ว่าจะขายบ้านให้พี่น้องอย่างไรเพื่อได้ราคาดี ชาตินี้ถึงแม้ว่าจางฉุ้ยจวินจะไม่ได้เจอกับหวังลี่ก็ตาม แต่ก็ยังได้แต่งงานกับคนที่ไม่ได้แตกต่างสักเท่าใด
ยิงเจี๋ยคุยโม้โอ้อวดน้ำไหลไฟดับ ในความเป็นจริง รายละเอียดที่ลงลึกกลับแตกต่างกัน หล่อนบอกว่าตัวเองทำงานชั่วคราวอยู่ในแผนกธัญพืช ทำงานชั่วคราวอะไร ? นั่นคือพนักงานทำความสะอาดห้องน้ำชั่วคราวในแผนกธัญพืช แม้หล่อนจะไปทำงานแต่ก็ไม่มีใครสนใจหรอก
พี่ชายใหญ่ของหล่อนทำงานอยู่โรงงานที่สอง เดิมทีเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงานแต่สุดท้ายก็ได้เป็นพนักงานประจำ ลูกสาวตัวน้อยไม่รู้ว่าอะไรเรียกงานประจำอะไรไม่ใช่งานประจำ เพราะถึงอย่างไรพ่อและแม่ก็ได้อยู่ด้วยกัน ฐานะทางบ้านคุณแม่นั้นจน คุณพ่อจึงไม่สามารถทำงานหาเงินคนเดียวได้
จางฉุ้ยเหลียนเพิ่งรู้ว่ารูปภาพที่อยู่ในห้องนั้นเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของยิงเจี๋ย ส่วนห้องของยิงเจี๋ยก็เป็นห้องของสองแม่ลูกยิงเจี๋ย เตียงสองชั้นที่วางอยู่ในห้องรับแขกเป็นเตียงของพ่อและน้องชาย จางฉุ้ยเหลียนไม่กล้าคิดเลยจริง ๆ ว่าทุกคนในบ้านต้องนอนเบียดเสียดกันอยู่ในห้องแคบ ๆ แล้วอึดอัดมากแค่ไหน
พี่รองของยิงเจี๋ยรับงานต่อจากที่บ้าน อาศัยอยู่ในห้องพักละแวกใกล้เคียงกับโรงงาน กลับบ้านเป็นครั้งคราว เด็กสาวยังชื่นชมอีกว่าสะใภ้รองนั้นมีหน้าตาสะสวยมาก ขนาดห้องก็กว้างขางและสวยงามมากทีเดียว
สำหรับน้องชายของยิงเจี๋ยอายุยังน้อยก็เลยออกไปเรียนทำอาหารที่ต่างเมือง ไม่ใช่อย่างที่ยิงเจี๋ยพูด จางฉุ้ยเหลียนก็ไม่รู้ว่าหลังจากเรียนจบแล้วเขาจะสอบเข้าตำรวจได้หรือไม่
ไม่เพียงยิงเจี๋ยจะพูดเกินจริงเท่านั้น หล่อนยังเปลี่ยนเนื้อหาให้ต่างออกไปอีกด้วย เหมือนกับฉากละครในโทรทัศน์บางฉากที่นางเอกต้องไปพบกับบ้านฝ่ายพระเอก เพื่อให้เข้ากับภูมิหลังอันมั่งคั่งของฝ่ายพระเอกได้ จึงหยิบยกอาชีพของพ่อแม่ขึ้นมาพูดให้สวยหรู เห็นอยู่ว่าพ่อของหล่อนเปิดร้านขายของชำเล็ก ๆ ร้านหนึ่งเท่านั้น แต่หล่อนพูดราวกับเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้า แม่ของหล่อนเป็นเจ้าหนี้นอกระบบกินดอกเบี้ยตามท้องตลาด หล่อนก็พูดให้ดูโอเวอร์ว่าผู้ให้บริการด้านการเงิน
ที่หล่อนพูดก็ไม่ผิด ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นเรื่องเดียวกัน ยิงเจี๋ยได้เรียนรู้ถึงความจริงของละครเรื่องนี้ และนำเรื่องของคนในครอบครัวแสดงออกมาให้สูงขึ้นเท่านั้น
หลังจากขึ้นรถแล้ว อันหลงและตงลี่หวาก็เริ่มซุบซิบนินทาให้จางฉุ้ยเหลียนฟัง ทั้งสองคนไม่เคยคิดจะสอบถามความจริงจากหล่อน สมาชิกในครอบครัวฝ่ายหญิงนั้นมีจำนวนมาก เห็นได้จากหญิงชราที่กำลังลงมาจากรถคู่นี้ และยังอุ้มเด็กน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่งอีกด้วย เดาได้ว่าคงเป็นญาติของฝ่ายหญิง
หลานสาวตัวน้อยของยิงเจี๋ยยังเด็กมาก เธอคงจะบอกเป็นรูปธรรมไม่ได้ ทำได้เพียงประมาณเอาจากความรู้สึกของเธอเท่านั้น แต่อันหลงก็รู้แล้วว่าครอบครัวของยิงเจี๋ยมีคุณลุงใหญ่และคุณป้าใหญ่ถึง 8 คู่
พี่ชายใหญ่ของยิงเจี๋ยเป็นคนงานอยู่ในโรงงานรัฐวิสาหกิจ แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเผาหม้อไอน้ำ อาจารย์ในด้านการเผาหม้อไอน้ำจำเป็นต้องมีลูกศิษย์ติดตาม ยิงเจี๋ยไม่ได้พูดผิด แต่ปัญหาก็คือยิงเจี๋ยเข้าใจว่าพี่ชายใหญ่ของหล่อนเป็นคนงานที่มีทักษะความสามารถน่าอิจฉาที่สุด หลังจากเกษียณก็ยังมีเงินบำนาญหมดกังวลเรื่องการกินและข้าวของเครื่องใช้ไปได้เลย
พี่รองของยิงเจี๋ยรับช่วงต่อมาจากพ่อโดยทำงานอยู่ในโรงกลั่นไวน์ ต่อมาพี่รองคนนี้ก็แต่งงานและเป็นลูกเขยที่ต้องเลี้ยงดูผู้อาวุโสทุกคน เพราะหาเงินเลี้ยงดูทั้งพ่อแม่ตัวเองและภรรยา จึงทำให้เงินไม่พอใช้ เริ่มเป็นหนี้สิน และทำให้ชีวิตของยิงเจี๋ยต้องพังทลายลง
พี่สาวคนโตของยิงเจี๋ยไม่ได้ทำงาน อยู่บ้านเพียงอย่างเดียว ต่อมาก็ได้พบกับคนรักและแต่งงานกันในที่สุด
ครอบครัวของยิงเจี๋ยจนถึงระดับไหนหรือ ? ก็ระดับที่ยิงเจี๋ยและพี่สาวอยากได้เสื้อผ้าตัวใหม่ เป็นเสื้อคลุมตัวนอก วันนี้พี่สาวใส่ก่อน น้องสาวถึงจะได้ใส่วันพรุ่งนี้
“ฉันก็ได้ยินมาแบบนั้นและอดแปลกใจไม่ได้ ว่ากันว่าฝ่ายเจ้าสาวมีชีวิตดีมาก ได้เจอกับครอบครัวที่มั่งคั่งร่ำรวย แม่ของเธอไปคุยโม้ไร้สาระข้างนอกด้วยนี่ แบบนี้ไม่เล่าชีวิตของเธอหมดเปลือกเลยหรือ?” ตงลี่หวาพะว้าพะวังจึงกินแค่หัวไชเท้าจืด ๆ เท่านั้น จากนั้นก็เริ่มกลัดกลุ้มใจแทนเช่าหวา
จางฉุ้ยเหลียนกลับรู้สึกว่านี่ ‘ไม่ใช่ครอบครัว’ จะให้พูดอย่างไรล่ะว่าลูกสะใภ้กับแม่สามีเคยมีวาสนาต่อกันในชาติที่แล้ว แม่สามีแบบไหนก็เข้ากับลูกสะใภ้แบบไหน หม้อใบหนึ่งสามารถหาฝาปิดที่เหมาะสมที่สุดได้
เช่าหวาคิดว่ากำลังเสียเปรียบ เข้าใจว่าหาลูกสาวในครอบครัวที่ดีให้กับลูกชายที่ไม่เอาไหนได้ แต่หลังจากยิงเจี๋ยได้เห็นบ้านที่ได้รับการตกแต่งใหม่พร้อมติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าครบครัน หล่อนก็ตัดสินใจได้ในทันทีว่าต่อไปก็คือการแต่งงาน ทั้งสองฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองนั้นฉลาดที่สุด โดยไม่รู้เลยว่าธาตุแท้เป็นอย่างไร
ครอบครัวฝ่ายหญิงเดินตามเข้าไปในบ้านฝ่ายชาย กระทั่งได้เห็นลานกว้างสะอาดเอี่ยมรายล้อมด้วยกำแพงอิฐอย่างสวยงาม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่ในบ้านทำให้ทุกคนไม่คิดว่าตระกูลจางนั้นยากจนแต่อย่างใด
จางฉุ้ยเหลียนได้ยินคนในครอบครัวฝ่ายหญิงพึมพำเบา ๆ “รวยจริง ๆ ด้วย บ้านหลังนี้ตกแต่งสวยงามยิ่งกว่าห้องพักในตึกเก่า ๆ เสียอีก บ้านเราถูกปูพื้นด้วยไม้ สีก็ดูไม่สดใสสู้บ้านพวกเขาไม่ได้สักนิด ! ”
คนที่อยู่ข้าง ๆ ก็พูดต่อทันที “ไม่เคยได้ยินหรือ คนบ้านนี้รวยจะตายไป เปิดร้านริมถนนให้แม่ ลูกชายก็เพิ่งได้เงินเป็นกอบเป็นกำมาจากทางใต้ แถมยังบอกอีกว่าพวกเขาไม่รีบซื้อห้อง รอให้ลูกโตก่อน และดูว่าเขาจะเข้าเรียนที่ไหนค่อยว่ากัน”
จางฉุ้ยเหลียนอยากปรบมือให้กับความไม่เอาไหนของเช่าหวาจริง ๆ พูดเพ้อเจ้อไร้สาระไปทั่ว
แต่เรื่องนี้ก็คงเก็บไว้ได้ไม่นาน งานเลี้ยงในลานกว้างบ้านตระกูลจางก็แพร่สะพัดออกไป แม่ฝ่ายชายก็พูดแล้วว่าตระกูลจางนั้นมีฐานะธรรมดาแต่ฝ่ายหญิงกลับคิดไปถึงอนาคตแล้ว
หัวอกคนเป็นพี่สาวย่อมรักและห่วงน้องชาย ทันทีที่รู้ว่าเขาจะแต่งงาน เธอก็ออกเงินรีโนเวทบ้านใหม่เป็นอันดับแรก คนที่รู้จริงย่อมมองออกว่าลานกว้างแห่งนี้ได้รับการทุบทำลายและก่ออิฐสร้างกำแพงขึ้นมาใหม่ ด้านบนยังมีกลิ่นปูนซีเมนต์ลอยมาแตะจมูกอยู่จาง ๆ
สักพักก็มีอีกคนพูดชมขึ้นว่าลูกสาวบ้านนี้มีความกตัญญูต่อบุพการี ไม่อยากให้พ่อแม่ต้องมาเสียเงินไปกับสินสอดทองหมั้น ก็เลยยอมควักเงินซื้อทองให้น้องชาย ซึ่งก็คือแหวนเพชรราคา 505 หยวนนั่นเอง
บทสนทนาเหล่านี้ลอยมาเข้าหูยิงเจี๋ย เพราะมีคนสนิทมากมายก็เลยอาศัยความสนิทขอดูเครื่องประดับสองสามชิ้นของหล่อน
แหวนทองที่สวมใส่อยู่บนนิ้วมือไม่ได้โดดเด่นจากแหวนทั่วไป ด้านบนตัวเรือนเป็นเพชรลายดอกไม้แกะสลักลายฉลุขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นแหวนวงใหม่ ความแวววาวของแหวนจึงค่อนข้างมาก สีสันก็งามมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกไม้ขนาดใหญ่ดอกนั้น เวลาที่มันประดับอยู่บนนิ้วมือจึงยิ่งขับให้ผู้ใส่ดูโดดเด่นเป็นที่จับตามองขึ้นไปอีก
คนที่ไม่เข้าใจความเป็นมาย่อมคิดว่ามันคือเรื่องจริง จนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาไม่ได้ “โชคดีจริง ๆ เลย มีพี่สาวที่ทั้งมีเงินและกตัญญู ชีวิตของพวกเธอคงจะสุขสบายจากเงินของหล่อน”
ยิงเจี๋ยไม่ใช่คนโง่ หล่อนเริ่มเป็นกังวลอยู่ในใจ บ้านหลังนี้ถูกรีโนเวทใหม่ด้วยเงินของพี่สาว แล้วทะเบียนบ้านหลังนี้เป็นชื่อใครล่ะ ? ก็ไหนบอกว่าจางฉุ้ยจวินหาเงินได้เป็นกอบเป็นกำจากทางใต้ แล้วก็เพิ่งซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านนี้ไม่ใช่หรือ ? ทำไมกลับกลายเป็นพี่สาวคือคนขายเครื่องใช้ไฟฟ้านี้ให้ครอบครัว ? หรือเป็นเพราะว่าเครื่องประดับทองทั้งสามชิ้นคือเงินของเธอ เมื่อเห็นเพชรหลายกะรัตบนเครื่องประดับเหล่านั้น มันมีมูลค่าไม่น้อยเลยสำหรับหล่อน ทำไมถึงมีข่าวลือว่าพี่สาวเป็นคนซื้อล่ะ ? ตกลงซื้อหรือว่ายืมพี่สาวมากันแน่ ?
ถ้ายืม ต่อไปหล่อนจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอคนในบ้านหรือบรรดาพี่น้องที่ขี้อิจฉาเหล่านั้น ?
ยิงเจี๋ยยกมือขึ้นมากอดอก นี่เป็นครั้งแรกที่หล่อนรู้สึกว่าบางเรื่องไม่เป็นไปอย่างที่คิด บางคำพูดหล่อนก็อยากจะพุ่งเข้าไปถามจางฉุ้ยจวินให้รู้แล้วรู้รอด
ทันทีที่หล่อนเงยหน้าขึ้นก็บังเอิญเจอกับจางฉุ้ยเหลียนที่ยืนอยู่นอกหน้าต่างไม่ไกลเข้าพอดี ใบหน้ายิ้มแย้มหวานหยดย้อยราวกับมวลดอกไม้ ผมสยายพลิ้วไปตามสายลมพัดผ่าน ในช่วงเวลานี้ ดวงตาของยิงเจี๋ยก็เบิกกว้างด้วยความตกใจขึ้นมา
นิ้วมือของจางฉุ้ยเหลียนใส่แหวนไข่มุกรายล้อมด้วยเพชรกลีบดอกไม้ นั่นไม่ใช่ของปลอมที่เกลื่อนกลาดอยู่เต็มถนนแน่นอน แต่เป็นของจริงที่แพรวพราวแวววาวไปทั้งตัว
บนหูของจางฉุ้ยเหลียนยังใส่ต่างหูขนาดเล็ก ไม่รู้ทำจากวัสดุอะไร ทว่ามันช่างส่องประกายแวววาวไม่มีที่ติ!
MANGA DISCUSSION