แม็กม่า ที่ร้อนระอุไหลหลากไปทั่วบริเวณ ควันดำลอยคละคลุ้งขึ้นไปตามสายลม ณ ปลายทางของภูเขาอันไกลโพ้น โลกที่เทือกเขาสีดำทอดยาวไปจนสุดขอบฟ้านั้น ถูกสร้างขึ้นมาโดยเด็กสาวเพียงคนเดียว
『——กฎเกณฑ์เบื้องต้น ห้ามหันคมดาบเข้าใส่ อาโอโฮชิ มิโรคุ』
“ฝ่าฝืนกฎค่ะ”
แม็กม่าพวยพุ่งเข้าใส่ดาบยาวสีดำ ที่เนมเลสถืออยู่ สิ่งนั้นที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวท อาจจะพูดได้ว่าเป็นปืนใหญ่รวมศูนย์ตามธรรมชาติเลยก็ว่าได้
“ของแค่นี้!”
แต่กลับกัน เนมเลสยิงเปลวเพลิงเข้าใส่แม็กม่า เปลวเพลิงสีดำทมิฬกลืนกินแม็กม่าสีแดง แล้วเผาผลาญจนหมดสิ้น
“อย่างนี้นี่เอง อย่างนี้นี่เอง… ชักจะอ่านทางออกแล้วล่ะนะ”
“อ้าว มีอะไรที่เข้าใจแล้วเหรอคะ โทอาจัง ถ้าไม่รังเกียจ อยากจะให้ช่วยบอกหน่อยนะคะ”
มิโรคุวางนิ้วลงบนไกปืนพร้อมรอยยิ้ม วินาทีถัดมา กระสุนปืนก็เขียนทับโลกใบนี้ใหม่
จากความร้อนที่แผดเผาผิวหนัง พลันเปลี่ยนเป็นทุ่งน้ำแข็ง ที่หนาวเหน็บเสียจนการลืมตาเป็นเรื่องยากลำบาก แผ่ขยายไปทั่วบริเวณ
“ทำให้นึกถึงตอนที่เล่นสงครามปาหิมะ สมัยก่อนเลยนะ”
“ฮะฮะฮ่า มิซึฮิจังน่ะแข็งแกร่งสุดๆ เลยนี่นา! แค่เพราะใช้พลังพิเศษได้ก็เลยเหลิงไปหน่อย สุดท้ายก็เผลอละลายหิมะแถวนั้นไปหมดเลย!”
บทสนทนาไร้สาระของเพื่อนสมัยเด็กแต่ทว่า สิ่งที่แลกเปลี่ยนกันคือคมดาบและกระสุนปืน
“เอ้า จะโจมตีอีกแล้วนะ มิโรคุจัง”
เนมเลสกล่าวเช่นนั้นอย่างจงใจ แล้วยิงปืนใหญ่รวมศูนย์เข้าใส่มิโรคุ ทันใดนั้น ตรรกะ ของโลกใบนี้ก็เริ่มทำงาน
『กฎเกณฑ์เบื้องต้น ห้ามยิงปืนใหญ่รวมศูนย์ใส่ อาโอโฮชิ มิโรคุ』
“ฝ่าฝืนกฎด้——อึ๊!?”
โลกเริ่มทำการโต้กลับต่อปืนใหญ่รวมศูนย์นั้น แท่งน้ำแข็งย้อย ขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นกลางอากาศ กดทับร่างเนมเลส และพร้อมกันนั้น กบสีดำตัวหนึ่งก็กระโดดเข้ามาในขอบสายตาของมิโรคุ
ทันทีที่กำลังจะตั้งท่าป้องกันนั้น กบก็พองตัวขึ้นแล้วระเบิดออกในพริบตา
“กรี๊ด!”
『มิโรคุ!? 』
มิโรคุที่ถูกระเบิดเข้าไปเต็มๆ พุ่งออกมาจากกลุ่มควันดำ กลิ้งไปกับพื้น มิโรคุสร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมารอบๆ เพื่อป้องกันการโจมตีซ้ำได้เร็วกว่าที่จะลุกขึ้นยืนเสียอีก
“ในที่สุดก็โจมตีโดนสักทีนะ อืมๆ ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย”
แท่งน้ำแข็งย้อยระเบิดออก เนมเลสปรากฏตัวออกมาจากท่ามกลางหิมะที่ฟุ้งกระจายขึ้นมา เธอลูบคางกบที่เกาะอยู่บนไหล่ด้วยปลายนิ้ว พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ความสามารถของมิโรคุจังน่ะ สร้างกฎได้แค่ข้อเดียวต่อการโจมตีหนึ่งครั้ง เพราะงั้น ถ้าโดนโจมตีพร้อมๆ กัน ก็จะไม่สามารถรับมือได้อย่างสมบูรณ์แบบสินะ”
“…แล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไปหรือคะ”
มิโรคุวางนิ้วลงบนไกปืน ทันใดนั้น เนมเลสก็เทเลพอร์ตไปอยู่ด้านหลังมิโรคุแล้ว
“ไม่ยอมให้ทำหรอกนะ”
『กฎเกณฑ์เบื้องต้น ภายในรัศมี 1 เมตรรอบตัว อาโอโฮชิ มิโรคุ——』
“ไม่ได้หรอกน่า กฎแค่นั้นน่ะ!”
ณ ระยะ 100 เมตรข้างหน้า ปืนใหญ่หนัก ที่ส่องประกายดำทะมึนยิ่งขึ้นไปอีก ปรากฏตัวออกมาจากท่ามกลางพายุหิมะ มันปลดปล่อย แสงสีดำออกมา วินาทีถัดมาก็ถูกยิงเข้าใส่มิโรคุแล้ว
“อึ่ก”
“เอ้า ถ้าไม่ให้ความสำคัญกับทางนั้นก่อนล่ะก็จะโดนเอานะ?”
“นานะจัง!”
『กฎเกณฑ์เบื้องต้น ห้ามยิงปืนใหญ่รวมศูนย์ใส่ อาโอโฮชิ มิโรคุ』
กำแพงน้ำแข็งที่แบ่งออกเป็นหลายชั้นปรากฏขึ้นหน้าปืนใหญ่รวมศูนย์ กำแพงน้ำแข็งที่รับปืนใหญ่รวมศูนย์ไว้ซึ่งๆ หน้าแตกละเอียดเป็นผุยผง กำแพงน้ำแข็งที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ยิ่งทำให้อานุภาพอ่อนลงไปอีก ในที่สุด ณ ตรงหน้ามิโรคุพอดี ปืนใหญ่รวมศูนย์ก็ถูกหยุดไว้ด้วยกำแพงน้ำแข็ง
“ฮะฮะฮ่า ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้จริงๆ ด้วย! การคาดเดาของฉันถูกต้องแล้ว”
เนมเลสที่รักษาระยะห่างไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ กำลังชี้มาทางมิโรคุพลางยิ้มอยู่
“…เรื่องอะไรหรือคะ”
“อำนาจ ของชิเอลน่ะแข็งแกร่งนะ ถึงขั้นที่เรียกว่าผิดปกติเลยก็ได้ เพราะงั้นแหละ ถึงได้คิดว่ามันต้องมีกฎเกณฑ์ อยู่ยังไงล่ะ กฎเกณฑ์เบื้องต้นน่ะ ไม่สามารถดำรงอยู่พร้อมกันสองข้อได้ การจะสลับโลกได้จะต้องเหนี่ยวไกปืนเสมอ ว่าไงล่ะ? ถูกต้องใช่ไหม?”
“แล้ว จะเป็นอย่างไรต่อไปหรือคะ”
“ไม่เปลี่ยนสีหน้าเลยนะเหมือนเดิมเลย เอ้า แต่จากการโจมตีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็รู้แล้วล่ะว่าโกหกอยู่ แล้วก็ ร่างกายน่ะก็ถึงขีดจำกัดแล้วไม่ใช่เหรอ?”
เนมเลสพูดแล้วตั้งท่าเคียวยักษ์ขึ้น ทันใดนั้น เปลวเพลิงสีดำก็พวยพุ่งขึ้นมารอบตัวมิโรคุ กบจำนวนมากปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง
“เป็นความสามารถที่เสียเปรียบกับคู่ต่อสู้ที่มีจำนวนการโจมตีเยอะนะ อันนั้นน่ะ”
『กฎเกณฑ์เบื้องต้น ห้ามโจมตี อาโอโฮชิ มิโรคุ』
“พอขยายขอบเขตที่กำหนดไว้ การโจมตีที่ฝ่าฝืนกฎมันก็จะอ่อนลงไปด้วย การต่อสู้ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ได้คำนึงถึงเรื่องนั้นไว้แล้วล่ะน่า! Act 6!”
แก้วสีดำเข้าห่อหุ้มเท้าของเนมเลส เธอกระแทกปลายเท้าลงบนน้ำแข็ง กล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มแห่งความมั่นใจว่า
“เท่านี้ก็ชนะแล้ว ว่าไปนั่น”
เนมเลสพุ่งเข้าใส่มิโรคุพลางทำให้หิมะฟุ้งตลบไปทั่วบริเวณ ทันใดนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ล้อมรอบมิโรคุอยู่ก็ปล่อยการโจมตีออกมา
การโจมตีพร้อมกันทุกทิศทาง ตาข่ายสีดำที่ไม่มีทางหลบหลีกได้อย่างแน่นอนนั้นได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
แต่กลับกัน มิโรคุนั้น
“หึหึ”
“หา? ทำไมถึงหัวเราะ——”
“นานะจังคะ ได้เวลาเริ่มแล้วค่ะ”
“——หา?”
『กฎเกณฑ์เบื้องต้น อ้างอิงจากโลกที่ 1 ถึงโลกที่ 9——เพราะฉะนั้น อาโอโฮชิ มิโรคุ คือศูนย์กลางของโลก』
เนมเลสสัมผัสได้ด้วยผิวหนังว่า โลกได้เปลี่ยนแปลงไปรุนแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ การโจมตีถูกปล่อยออกมาพร้อมกันแล้ว
อีกไม่ถึง 1 วินาที เคียวนี้ก็จะไปถึงตัวมิโรคุแล้วแท้ๆ
ถึงกระนั้น มิโรคุกลับกำลังหัวเราะอยู่
“ฝ่าฝืนกฎทั้งหมดเลยค่ะ”
ทันใดนั้น พายุหิมะก็เข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ ผลักดันการโจมตีทั้งหมดเข้าไปในดินแดนเยือกแข็งชั่วนิรันดร์ ไม่ว่าจะเป็นระเบิดที่รุนแรงเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นเปลวเพลิงที่ร้อนแรงเพียงใด ไม่ว่าจะเป็นปืนใหญ่รวมศูนย์ที่มีอานุภาพเพียงใด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกลายเป็นความว่างเปล่า และแม้กระทั่งการโจมตีที่หุ้มไว้ด้วยพลังอมตะ ก็ยังถูกกำแพงน้ำแข็งป้องกันไว้ได้
“…!? อะไรกันยะ นั่นมัน!”
“โทอาจังคะ ณ จุดนี้คือปัญหาค่ะ”
พูดจบ มิโรคุ ก็ตบมือทั้งสองข้างดัง แปะ ทันใดนั้น รอบข้างก็เปลี่ยนเป็นห้องเรียนที่คุ้นเคย
กระดานดำเก่าๆ กระจกหน้าต่างขุ่นมัว พื้นที่มีรูโหว่ เสียงจักจั่นที่ได้ยินมาจากที่ไกลๆ ทำให้ตระหนักได้ว่าที่นี่คืออาคารเรียนของเฟคตัม
“ดิฉัน ในการต่อสู้ครั้งนี้ ได้โกหกไปกี่ครั้งกันคะ?”
มิโรคุกล่าวเช่นนั้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ โดยไม่ได้วางนิ้วลงบนไกปืนเลย
“แท้จริงแล้ว กฎที่ใช้งานได้มีเพียงแค่ข้อเดียวเท่านั้นจริงหรือเปล่าคะ การจะเปลี่ยนโลกจำเป็นต้องยิงกระสุนปืนจริงๆ หรือเปล่าคะ? ร่างกายของดิฉันมีขีดจำกัดอยู่จริงๆ หรือเปล่าคะ?”
“…โกหกมาตลอดเลยงั้นเหรอ?”
“อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ค่ะ เพราะงั้น ถึงได้กำลังถามอยู่ยังไงล่ะคะ โทอาจังคะ คำพูดของดิฉัน คุณจะเชื่อรึเปล่าคะ?”
สถานการณ์รบพลิกผันไปอีกครั้ง การโจมตีที่ปล่อยออกมา ความจริงแล้วถูกลบล้างไปทั้งหมด ณ จุดนี้ เนมเลสได้สูญเสียความหมายในการที่จะจู่โจมอย่างจริงจังไปแล้ว
“จิ๊ น่ารำคาญจริงๆ เลยนะ!”
การวิเคราะห์ อาโอโฮชิ มิโรคุ ที่มีมาจนถึงตอนนี้ ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิง ความจริงข้อนั้น เพียงพอแล้วที่จะทำให้มือที่โจมตีของเธอต้องหยุดลง
และนั่นแหละ คือเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวของ อาโอโฮชิ มิโรคุ เช่นกัน
(——หลอกได้สำเร็จสินะคะ)
มิโรคุฝืนทนความเจ็บปวดที่เสียดแทงขึ้นมาจากส่วนลึกของร่างกาย ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มเช่นเคย ความเจ็บปวดที่ราวกับกรดในกระเพาะจะไหลย้อนขึ้นมา สมองจะระเบิดออก อวัยวะภายในจะบิดเป็นเกลียว เธอกดข่มมันไว้ด้วยเพียงแค่พลังใจเท่านั้น
『มิโรคุคะ ไม่เป็นไรเหรอคะ การฝืนตัวเองเป็นสิ่งต้องห้ามค่ะ การใช้งานกฎเกณฑ์เบื้องต้นพร้อมกันนั้น ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้มนุษย์ทนทานได้ค่ะ หากใช้ครั้งต่อไปล่ะก็ ล้มลงไปแน่นอนค่ะ』
เสียงของชิเอลดังสะท้อนขึ้นมาในสมอง ถึงจะราบเรียบไร้อารมณ์เหมือนปกติ แต่ในน้ำเสียงนั้นกลับมองเห็นความร้อนรนอยู่บ้าง
『ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ตอนนี้โทอาจังอยู่ในกลอุบายของดิฉันแล้วค่ะ เด็กคนนั้น คงจะมองว่าดิฉันยังโกหกอยู่แน่ๆ ค่ะ คงจะไม่สามารถโจมตีโดยพลการได้หรอกค่ะ』
『แต่ว่า แค่ต่อสู้ต่อไปแบบนี้ ร่างกายของมิโรคุ…』
『การซื้อเวลาให้ได้มากที่สุดคือหน้าที่ของดิฉันค่ะ หากจำเป็นจะยื้อไว้หนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์ก็ได้ค่ะ… ต้องมีวันที่เด็กคนนั้นต้องเจ็บปวดทรมานมากกว่านี้แน่ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้น จะมาแพ้ด้วยความเจ็บปวดแค่นี้ไม่ได้หรอกค่ะ จนกว่าพวกฮิคาริจังจะพาเด็กคนนั้นกลับมาได้ ห้ามล้มลงเด็ดขาดค่ะ นานะจังคะ ขอยืมพลังอีกสักหน่อยนะคะ』
『…แน่นอนค่ะ เพราะดิฉันคือคู่หูของคุณค่ะ』
มิโรคุเผยยิ้มออกมาจางๆ กับคำพูดของชิเอล ตั้งท่าปืนลูกโม่ขึ้น แล้วกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่ดูสบายใจเหมือนเช่นเคยว่า
“เอาล่ะ มาเล่นกันต่ออีกสักหน่อยไหมคะ”
■
ในเวลาเดียวกัน ณ สถาบันเซ็นไค เปลวเพลิงสีแดงเข้มปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า
เบื้องหน้าลิ่มที่ทอดยาวขึ้นสู่ฟ้า เด็กหนุ่มสาวหกคนปรากฏตัวออกมา
“มาถึงโดยปลอดภัยสินะ งั้น ไปกันเถอะ”
“ไก่สลัด”
พร้อมกับเงาที่เดือดพล่านขึ้นมา ทาทาริพยักหน้ากับคำพูดของมิซึฮิ ข้างๆ กันนั้น บัดนี้ลูทร่าได้กลายเป็นดาบยาว อยู่ในมือของโทราคุแล้ว
“ลูทร่า คราวหน้าต้องชนะให้ได้นะ”
『แน่นอนอยู่แล้ว ฉันคือเดมอนส์เกียร์ที่แข็งแกร่งที่สุด หึ』
ปลายสายตาของพวกเขา คือร่างของเด็กสาวคนหนึ่งกับปักษาปีศาจหนึ่งตน เด็กสาวผมสีเงินอมฟ้าที่ลงมาจากปักษา ตั้งท่าเคียวยักษ์ขึ้น พึมพำออกมาอย่างนิ่งเฉย
“ฉันคือนักพยากรณ์ดวงดาว ผู้พิพากษาพวกเธอ”
จิตสังหารเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ ถูกครอบงำด้วยบรรยากาศอันหนักอึ้งราวกับลานประหาร แต่ทว่า ก็มีประกายแสงที่ไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งนั้นอยู่ที่นั่น
“ไม่ค่ะ! เธอในตอนนี้ไม่ใช่นักพยากรณ์ดวงดาวค่ะ! นักพยากรณ์ดวงดาวที่ฉันรู้จักน่ะ โซลเซียร่าน่ะ เท่กว่านี้ตั้งเยอะ!”
ฮิคาริก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วประกาศกร้าวออกมาเช่นนั้นราวกับขับขานบทเพลง แล้วหยิบเคียวยักษ์สีเหลืองออกมาจากมิติส่วนขยาย เอ่ยชื่อนั้นออกมา
“ไปกันเถอะค่ะ! หมายเลข 0!”
『อย่ามาดีใจไปนักสิ ชัยชนะน่ะถูกกำหนดไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่ฉันมาเข้าข้างพวกเธอแล้ว』
หมายเลข 0 กลายเป็นอนุภาคแสง เข้าไปในเคียวยักษ์ ฮิคาริหลับตาลงครั้งหนึ่งเมื่อรู้สึกถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ส่งผ่านมาทางมือ แล้วในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมาเหมือนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว กล่าวว่า
“นักพยากรณ์ดวงดาว——จะถือกำเนิดใหม่ ณ ที่นี้!”
ทันใดนั้น สิ่งที่ปรากฏขึ้นด้านหลังฮิคาริคือโลงศพ เชิงกล ต่างจากโลงศพราชินี เดิมที ไม่ใช่สีแดงเข้ม โลงศพสีเงินที่ดูเหมือนก้อนเครื่องจักรนั้น คือสิ่งที่เด็กสาวคนหนึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อชั่วขณะนี้เท่านั้น
『จงปิติยินดีเถิด』
ถึงจะปะปนไปด้วยน้อยส์ แต่ก็ได้ยินเสียงนั้นอย่างแน่นอน โลงศพเชิงกลยอมรับฮิคาริเข้าไป แล้วกล่าวประกาศแก่โลกราวกับจะประกาศว่า
『โลงศพราชินีได้รับการสืบทอดแล้ว บัดนี้ นักพยากรณ์ดวงดาวตนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น ณ ที่นี้』
พร้อมกับเสียงเตือน ควันก็พวยพุ่งออกมาจากโลงศพ ประตูค่อยๆ เปิดออก รูปลักษณ์ของฮิคาริที่ปรากฏตัวออกมาจากโลงศพนั้น แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย
ผมสีทองย้อมไปด้วยสีเงินอมฟ้าที่ปลายผม ดวงตาที่เคยเป็นสีทอง มีเพียงตาขวาเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้าคราม
ผ้าพันคอ สีดำที่พันคออยู่พลิ้วไหวไปตามสายลมที่พัดกระหน่ำ
โซลเซียร่าเห็นรูปลักษณ์นั้น ก็หรี่ตามองอย่างระแวดระวัง กล่าวว่า
“เธอ… เป็นใครกันแน่?”
ฮิคาริแสยะยิ้มออกมา เตะเคียวยักษ์ขึ้นมาแบกไว้บนบ่า คำตอบต่อคำถามนั้น ถูกกำหนดไว้แล้วตั้งนานแล้ว
“ฉันคือนักพยากรณ์ดวงดาว! นามนั้นคือ โซลเซียร่า・ไบรท์! ผู้ที่จะมาช่วยเธอ ณ บัดนี้ค่ะ!”
อย่างแข็งแกร่ง และสูงส่ง ราวกับจะส่งไปให้ถึงหัวใจของคนที่อยู่ตรงหน้า เธอกล่าวประกาศพลางเงยหน้าขึ้น
“จะแสดงให้เห็นเองค่ะ… ประกายแสงของฉันน่ะ!”
สถาบันเซ็นไค ศึกตัดสินครั้งที่สาม กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว
『อ๊ากกกกกกกกกก!? ดาเมจต่อเนื่อง อ๊ากกๆๆๆๆ!? 』
『ก็บอกแล้วไงว่าอย่าไปรับภาระสัญญาแทนเธอน่ะ… ว่าแต่ ปกติแล้วรับภาระแทนกันไม่ได้ไม่ใช่เหรอ…』
『โอ๊วววว! ภาระของฮิคาริจังน่ะฉันจะเก็บกู้มาให้เกือบหมดเลย! อ๊ากกกก! แล้วก็จริงๆ แล้วโซลเซียร่าน่ะแพ้ทางท่าไม้ตายของฮิคาริจัง เพราะงั้นถึงได้แพ้ในดาบเดียวไงล่ะ!』
『โอ้…! ความเจ็บปวดเอ๋ย ความเจ็บปวด จงลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ไปเถิด! ความเจ็บปวดเอ๋ย ความเจ็บปวด จงลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ไปเถิด!』
『จะส่งไปที่ไหนกันยะนั่น』
MANGA DISCUSSION