พอสังเกตเห็นว่าโคโคโนเอะตื่นแล้ว คาเมะก็ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ดูเหมือนว่าระหว่างที่โคโคโนเอะหลับอยู่ เธอจะคอยลูบหัวให้ตลอดเลยสินะ
“ตื่นแล้วรึ ชีวิตวัยเยาว์”
“อื้อ… ฟ่า นอนไปนานเท่าไหร่เหรอ?”
“2 ชั่วโมง 20 นาที”
โคโคโนเอะคืนสติกับคำพูดของคาเมะ ลุกพรวดขึ้นมา
“นอนนานเกินไปแล้ว…!”
“มิต้องกังวลไป การทดลองของพวกโคชิไม่รู้ด้วยเหตุผลใด เกิดปัญหาขัดข้องทางอุปกรณ์ขึ้น เลยยังไม่ได้เริ่มเลย”
“เอ๊ะ?”
“คงจะเป็นเพราะความคิดอันบริสุทธิ์ของชีวิตวัยเยาว์ตอบสนองกระมัง”
คาเมะพูดแล้วลูบผมโคโคโนเอะให้เข้าที่ แล้วติดอะไรบางอย่างลงบนผมของโคโคโนเอะ
“ติดอะไรให้เหรอ?”
“อื้อ เป็นเหมือนเครื่องรางน่ะ ตราบใดที่ยังติดสิ่งนี้อยู่ ฉันขอสาบานว่าจะต้องช่วยเหลือเธอให้ได้แน่นอน”
คาเมะพูดพลางถือกกระจกบานหนึ่งขึ้นมา ภาพที่สะท้อนในกระจกคือ ผมของโคโคโนเอะมีกิ๊บติดผมรูปเต่าทะเลติดอยู่
“ว้าว น่ารัก!”
“ดีใจนะที่เธอชอบน่ะ”
คาเมะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ แล้วใช้มือน้อยๆ ประคองแก้มทั้งสองข้างของโคโคโนเอะ จ้องมองตรงๆ
“เอาล่ะ เท่านี้ก็เตรียมพร้อมแล้ว ชีวิตวัยเยาว์เอ๋ย เธอต่อจากนี้ไป กำลังจะไปทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จลุล่วงสินะ?”
“อื้อ”
โคโคโนเอะพยักหน้าอย่างหนักแน่น
“ฉันน่ะนะ ทั้งคุณแม่แล้วก็คิริกะจังต่างก็สำคัญทั้งนั้นแหละ เพราะงั้น… ก่อนอื่นจะขอเลือกหนทางที่ไม่ต้องทะเลาะกับใครเลย เหมือนกับมายลอร์ดจังของคาเมะจังไงล่ะ!”
“งั้นรึ… นั่นคงจะ…”
คาเมะเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่ก็ส่ายหน้าเงียบๆ
“เข้าใจแล้ว หากนั่นเป็นความปรารถนาของเธอ ฉันก็จะไม่ห้าม แต่ว่า อย่าได้ลืมเลือนเด็ดขาดนะชีวิตวัยเยาว์”
ดวงตาสีเงินของคาเมะสะท้อนภาพโคโคโนเอะอย่างตรงไปตรงมา ถ้อยคำที่เปล่งออกมานั้น แตกต่างไปจากรูปลักษณ์อันเยาว์วัยของเธอโดยสิ้นเชิง
“การมีชีวิตอยู่ คือการเดินทางแห่งการสูญเสีย อารยธรรมที่ฉันเคยเฝ้ามองมาทั้งหมด ไม่มีข้อยกเว้น ต่างก็สูญเสียบางสิ่งไปและได้รับบางสิ่งมา เพราะฉะนั้นจงอย่าได้หวาดกลัวเลยชีวิตวัยเยาว์เอ๋ย การเลือกของเธอไม่มีทางผิดพลาดหรอก จงภูมิใจในคำตอบของตนเองเถิด”
“…อื้อ ขอบคุณนะ”
โคโคโนเอะพยักหน้าแล้วลงจากเตียง คำตอบที่ชัดเจนนั้นยังไม่มี แต่ทว่า สิ่งที่อยากจะทำนั้นชัดเจนแล้ว
“ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ต้องบอกคุณแม่ได้แน่ๆ …!”
นั่นคือหนทางที่ชีวิตที่ชื่อโคโคโนเอะได้เลือกด้วยตนเองเป็นครั้งแรก เด็กน้อยอย่างเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าบทสรุปแบบไหนกำลังรอคอยอยู่
แต่ว่า ตอนนี้แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
“คาเมะจัง ฉันไปก่อนนะ! เพราะงั้นรออยู่ที่นี่นะ——”
พูดจบ เธอก็หันหลังกลับไป แต่ทว่า ตรงนั้นกลับไม่มีร่างของคาเมะอยู่แล้ว
“…คาเมะจัง?”
ไม่มีเสียงตอบกลับ แต่ทว่า เสียงที่เหมือนคลื่นซัดสาดแผ่วเบาที่ได้ยินมาจากที่ไหนสักแห่ง กลับมอบความสงบใจให้ เด็กสาวคนนั้นอยู่ใกล้ๆ นี่เอง
แค่นั้น ก็ทำให้โคโคโนเอะสามารถเปิดประตูอันหนักอึ้งนั้นออกไปได้แล้ว
“…เอาล่ะ”
โคโคโนเอะก้าวเดินไปตามทางอันมืดสลัว ยิ่งเข้าใกล้ห้องแล็บ ก็ยิ่งรู้สึกถึงความจอแจมากขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนว่าจะมีผู้คนมากมายทั้งชายหญิงกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่
“——อะไรกันตัวเลขนี้น่ะ!? เฮ้ย ดอกเตอร์คนไหน ไปยุ่งกับอุปกรณ์ตามใจชอบน่ะ!”
“ฉันไม่รู้หรอกน่า ไปถามในปริภูมิอเนกภาคสิ?”
“อืมม สุดท้ายก็ต้องมาเสียเวลากับการปรับแต่งอุปกรณ์ไปสองชั่วโมงกว่าแบบนี้… แบบนี้โดน 01 บ่นแน่ๆ เลยน่า”
สิ่งที่โคโคโนเอะเห็นเมื่อไปถึงห้องแล็บคือ ภาพที่จอภาพจำนวนมากกำลังแสดงสัญญาณรบกวน และเหล่าดอกเตอร์กำลังร้อนรนกันอยู่
ดูเหมือนว่า จะเกิดสถานการณ์ร้ายแรงขนาดที่ทำให้เหล่าผลึกแห่งปัญญาอันสูงสุดของมนุษยชาติที่อาจจะพูดได้ว่าไม่เกินจริงเลยนั้น ต้องร้อนรนขึ้นมาได้
(สิ่งที่คาเมะจังพูดถึง คือเรื่องนี้นี่เอง…)
โคโคโนเอะก้าวเท้าเข้ามาอย่างเงียบๆ พลางสังเกตสายตาของเหล่าดอกเตอร์ เหล่าดอกเตอร์เหลือบมองโคโคโนเอะแวบหนึ่ง แต่คงจะหมดความสนใจแล้ว กลับไปเริ่มประชุมที่เรียกว่าการบ่นต่อทันที
“คิริกะจัง… ดูเหมือนจะยังไม่เป็นไรนะ”
เธอยืนอยู่หน้าแผ่นกระจก มองคิริกะที่อยู่ข้างในห้อง คิริกะที่ถูกพันธนาการไว้กับเก้าอี้อย่างแน่นหนานั้น ดูเหมือนจะยังคงหลับใหลอยู่ ร่างกายอ่อนปวกเปียก
(ที่เหลือก็แค่คุยกับคุณแม่…)
โคโคโนเอะมองไปรอบๆ อย่างรวดเร็ว แล้วก็พบบุคคลเป้าหมายในทันที
“คุณแม่!”
“อ้าว โคโคโนเอะ งีบกลางวันเสร็จแล้วเหรอ พอดีอย่างที่เห็นนั่นแหละ เกิดปัญหากำลังแก้ไขอยู่พอดีเลยนะ จะนอนต่ออีกหน่อยก็ได้นะ”
“ฉัน… อยากจะคุยกับคุณแม่น่ะ”
“โฮ่ เอาสิ ในเมื่อเป็นแม่แล้ว การสนทนากับลูกก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาอยู่แล้วนี่นา ฮาจิโนมิยะ ฝากงานต่อด้วยนะ”
『ค่ะโนเดส』
โคชิพอสังเกตเห็นโคโคโนเอะ ก็ปล่อยมือจากคีย์บอร์ดแล้วหันมาเผชิญหน้า แต่กลับกัน แขนกลก็ยืดออกมาจากกระเป๋าเอกสารที่โคชิใช้นั่งแทนเก้าอี้อยู่ แล้วเริ่มควบคุมแทน
“งั้น จะคุยเรื่องอะไรกันดีล่ะ น่าเสียดายที่ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องที่เด็กเล็กๆ ชอบคุยกันเท่าไหร่น่ะนะ คุยเรื่องที่โคโคโนเอะชอบก็ได้นะ”
โคชิกล่าวเช่นนั้นพลางมองลงมายังโคโคโนเอะทั้งที่ยังนั่งอยู่บนกระเป๋าเอกสาร โคโคโนเอะชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็กำชายเสื้อตัวเองไว้แล้วมองโคชิอีกครั้ง
“คือนะ อยากจะให้ปล่อยคิริกะจังน่ะ”
“…โฮ่ พูดเรื่องน่าสนใจนะ”
“คิริกะจังน่ะถ้าคุยกันก็เข้าใจนะ! พวกเราเป็นพวกพ้องแห่งความยุติธรรมใช่ไหมล่ะ? ถ้างั้น ถ้าได้คุยกับคิริกะจังดีๆ ล่ะก็…”
“เรื่องนั้นทำไม่ได้หรอกนะโคโคโนเอะ ความยุติธรรมน่ะบางครั้งก็โหดร้ายนะ ฉันเองจริงๆ แล้วก็เจ็บปวดเหมือนกันนะ”
“อือ… แต่ว่า…”
โคโคโนเอะพยายามจะหาคำพูดมาโต้แย้งอย่างสุดกำลัง ทันใดนั้น คิริกะที่อยู่อีกฟากของกระจกก็ลืมตาตื่นขึ้น
“อือ… อื้อ”
“คิริกะจัง!? ตื่นแล้วเหรอ!”
พอรู้สึกตัว โคโคโนเอะก็วิ่งเข้าไปหาแผ่นกระจกทันที โคชิมองแผ่นหลังนั้นพลางเอ่ยปากออกมาทั้งที่ยังคงรอยยิ้มอ่อนโยนไว้เช่นเดิม
“สมกับเป็นแรงค์ S ตื่นขึ้นมาแล้วสินะ ฮาจิโนมิยะ ฝากด้วยนะ”
『เข้าใจแล้วค่ะ』
“เอ๊ะ? คุณแม่ จะทำอะไร——”
โคโคโนเอะเอียงคอสงสัยกับบทสนทนาของพวกโคชิ หันสายตากลับไปยังคิริกะอีกครั้งด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังเสียดแก้วหู แสงสว่างจ้าเกิดขึ้นจากเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ เกิดเสียงดังสนั่น คิริกะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ดิ้นรนทุรนทุรายพยายามจะหนีพลางกรีดร้องต่อไปเรื่อยๆ
“ห-หยุดนะคุณแม่!”
“ฉันเองก็เจ็บปวดเหมือนกันนะ โคโคโนเอะ แต่ว่านะ มันช่วยไม่ได้น่ะสิ อา ช่วยไม่ได้เลย เธอคนนั้นเป็นแรงค์ S นี่นา มีแต่ต้องทำให้หลับไปแบบนี้เท่านั้นแหละ”
“…ทำให้หลับ? ไม่ใช่ว่ากำลังแกล้งคิริกะจังอยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่หรอกน่า นี่ไม่ใช่การแกล้ง นี่เป็นเรื่องจำเป็นต่างหากล่ะ”
โคชิพูดแล้วลูบหัวโคโคโนเอะ อีกฟากของแผ่นกระจก คิริกะยังคงกรีดร้องต่อไปเรื่อยๆ
โคโคโนเอะเห็นภาพนั้นแล้ว ไม่มีทางที่จะนิ่งเฉยอยู่ได้
“ไม่ได้นะ!”
“อ๊ะ”
โคโคโนเอะปัดมือโคชิออก แล้วเอื้อมมือไปยังประตูห้องที่คิริกะอยู่ แต่ทว่า ห้องที่ถูกล็อกด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างแน่นหนานั้น โคโคโนเอะไม่มีทางเปิดออกได้อยู่แล้ว
“ต้องรีบไปช่วยแล้ว…!”
“โคโคโนเอะ เป็นเด็กดีนะ พวกเราคือผู้ผดุงความยุติธรรมไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้างั้นทำไมคิริกะจังถึงต้องมาทรมานอยู่แบบนี้ล่ะ?”
“เพราะมันจำเป็นยังไงล่ะ งั้นสินะ… พอจัดการเสร็จแล้วจะเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบที่เธอต้องการให้ก็แล้วกันนะ อยากได้เด็กแบบไหนล่ะ? เพศล่ะ? ส่วนสูงล่ะ? นิสัยล่ะ? จะออกแบบคิริกะให้เป็นเพื่อนในอุดมคติของโคโคโนเอะให้เอง”
นั่นคือคำพูดอันเป็นผลมาจากการมองชีวิตเป็นเพียงแค่ผลลัพธ์อย่างหนึ่งเท่านั้น โคชิกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นต่อไปเรื่อยๆ ในฐานะแม่ที่กำลังปลอบประโลมลูก โดยปราศจากเจตนาที่จะลบหลู่ใดๆ เลยแม้แต่น้อย
“อย่าทำให้คุณแม่ต้องลำบากใจนักสิ”
พูดจบ โคชิก็ยื่นมือออกมา
“การจะต้องมาออกแบบเธอใหม่ด้วยน่ะ มันเสียเวลาแล้วก็น่ารำคาญนะ”
“…อึ่ก”
ไม่ใช่คำพูดในฐานะแม่ แต่เป็นคำพูดในฐานะโคชิ ทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น บางสิ่งที่อยู่ภายในตัวโคโคโนเอะก็ขาดผึงลง
“…อย่าขยับนะ!”
“อ้าว”
พร้อมกับเสียงร้องตะโกนของโคโคโนเอะ ดอกเตอร์และโคชิที่อยู่ในที่นั้นก็หยุดการเคลื่อนไหวลงโดยฝืนธรรมชาติ ราวกับถูกบางสิ่งพันธนาการไว้ พวกเธอไม่ไหวติงแม้แต่น้อย ไม่สิ ต้องบอกว่าไม่สามารถทำได้ต่างหาก
“ให้ตายสิ… ฉันบอกไปแล้วไม่ใช่รึไงว่าห้ามใช้พลังนั้นน่ะ”
โคชิกล่าวออกมาทั้งที่ยังหยุดนิ่งอยู่ โดยไม่มีท่าทีตกใจเลยแม้แต่น้อย ราวกับจะบอกว่านี่เป็นสถานการณ์ที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว โคชิสังเกตการณ์โคโคโนเอะ
“หืม ดูเหมือนพลังพิเศษแห่งการครอบงำจะไม่มีปัญหาจริงๆ สินะ การทดสอบขอบเขตผลกระทบยังไม่ได้ทำก็จริง แต่ถ้าเป็นแบบนี้ล่ะก็คงจะสามารถทำกิจกรรมในฐานะแรงค์ S ได้อย่างเพียงพอแน่ๆ”
“อย่าพูดนะ!”
“…”
คำพูดที่ควรจะเป็นเพียงแค่การอาละวาดของเด็กๆ กลับกลายเป็นกฎเกณฑ์อันสมบูรณ์แบบเข้าครอบงำโลก ผู้คนยังคงหยุดนิ่งอยู่เช่นเดิม
“ฮ้าก ฮ้าก”
『โคโคโนเอะซามะคะ หยุดเถอะค่ะ』
ฮาจิโนมิยะปรากฏตัวขึ้นหน้าโคโคโนเอะที่กำลังหอบหายใจจากการใช้พลังพิเศษ ฮาจิโนมิยะโยนโคชิที่ยังคงแข็งทื่ออยู่ลงกับพื้น แล้วพยายามจะจับกุมโคโคโนเอะด้วยแขนกลจำนวนมาก
“อึ่ก”
ทันใดนั้น ล็อกอิเล็กทรอนิกส์ที่ควรจะแข็งแกร่งก็ถูกปลดออกอย่างกะทันหัน ประตูที่เชื่อมต่อไปยังห้องของคิริกะเปิดออก โคโคโนเอะพุ่งเข้าไปในนั้นทันทีโดยไม่ทันได้คิด
“โคโคโนเอะจัง!?”
“ขอโทษนะคิริกะจัง! ฉัน อยากจะคืนดีกับเธอน่ะ…!”
『โคโคโนเอะซามะคะ หยุดเถอะค่ะ』
“หนวกหูน่า! ฉันอยากจะสนิทกับคิริกะจังด้วย เพราะงั้นเรื่องแบบนี้ไม่เอาด้วยหรอกนะ!”
โคโคโนเอะพูดแล้วยื่นมือไปยังคิริกะ
“เดี๋ยวไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
ก้าวออกไปหนึ่งก้าว สองก้าว และแล้ว——
“แบบนั้นไม่ได้นะ มันต่างจากแผนนะ โคโคโนเอะ”
“อึ๊!?”
พื้นดินที่ก้าวออกไป มีสิ่งที่เหมือนโคลนสีดำเหนียวหนืดเต็มไปหมด มันแผ่ขยายไปทั่วพื้นดินในพริบตาราวกับความมืด แล้วพันเข้ากับขาของโคโคโนเอะราวกับเป็นโคลนดูด
“อึ่ก นี่มันจูคาระ!?”
“ใช่แล้วล่ะ เตรียมไว้เผื่อกรณีที่คิริกะหนีออกมาน่ะนะ… ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาใช้กับเธอแท้ๆ”
โคชิกล่าวออกมาจากอีกฟากของแผ่นกระจก ที่คอของเธอมีโคลนสีดำที่จูคาระสร้างขึ้นพันอยู่รอบๆ ราวกับเป็นงู
“ขัดขวางผลกระทบของพลังพิเศษและเวทมนตร์อย่างรุนแรง… ฟังก์ชันของจูคาระย่อมส่งผลกับเธอได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว เดิมทีแล้ว มันคือสิ่งที่ใช้จูคาระทำให้พลังต้านทานต่อเวทมนตร์และพลังพิเศษกลายเป็นศูนย์ แล้วใช้โคโคโนเอะในการครอบงำต่างหากล่ะ แต่ว่า… นี่ก็เป็นการประยุกต์ใช้เหมือนกันนะ เอาไว้ใช้ฝึกสอนลูกตัวเองก็แล้วกัน”
โคชิพูดแล้วใช้นิ้วลูบไล้โคลนสีดำที่คอของตนเอง
“กลืนกินซะ”
“อึ่ก… คุณแม่ ฉ-ฉัน…”
ฮาจิโนมิยะกดโคโคโนเอะที่พยายามจะดิ้นรนต่อต้านในโคลนไว้จากด้านบน แล้วจมลงไปด้วยกันกับตนเอง
“ฉัน จะพยายามนะ! จะพยายามไม่ให้คิริกะจังต้องเจ็บปวดด้วย เพราะงั้น ช่วยคืนดีกับฉันด้วยนะคุณแม่!”
ต่อหน้าเสียงร้องตะโกนสุดชีวิตที่ราวกับอ้อนวอนนั้น โคชิกลับยิ้มออกมาในฐานะมารดาผู้อ่อนโยนอีกครั้ง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเหมือนเช่นเคยว่า
“คราวหน้าจะสร้างให้ควบคุมง่ายกว่านี้ก็แล้วกันนะ งั้น ราตรีสวัสดิ์นะโคโคโนเอะ”
“อึ่ก… ไม่จริงน่า”
พร้อมกับความสิ้นหวัง น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมา ถึงกระนั้นโคโคโนเอะที่ยังคงดิ้นรนอยู่ในโคลนอย่างสุดกำลัง สุดท้ายก็จมหายลงไปในโคลนจนหมดสิ้น
โคชิจ้องมองจนกระทั่งโคโคโนเอะจมหายไปจนหมด แต่ในที่สุดก็หันหลังกลับไปราวกับหมดความสนใจแล้ว
“…เอาล่ะ งั้นมาเริ่มการทดลองกันต่อดีกว่านะ ที่เหลือก็คือ การทบทวนแผนการพัฒนาโคโคโนเอะสินะ——”
■
มิติที่แผ่ขยายอยู่ในโคลนสีดำของจูคาระ คือมิติส่วนขยายที่ถูกดัดแปลงขึ้นมาโดยเฉพาะ อาจจะเรียกว่าเป็นมิติแบบดันเจี้ยนชนิดหนึ่งก็ได้
ท่ามกลางความมืดมิดพิเศษที่ขัดขวางพลังพิเศษและเวทมนตร์นั้น โคโคโนเอะร่วงหล่นลงไปทั้งที่ถูกฮาจิโนมิยะพันธนาการไว้
“ปล่อยนะฮาจิโนมิยะ! ต้องรีบไปช่วยคิริกะจังนะ!”
『กรุณาอยู่นิ่งๆ ค่ะ ท่านไม่มีอำนาจที่จะคัดค้านแผนการค่ะ』
โคโคโนเอะที่เบื่อหน่ายกับคำตอบเดิมๆ พยายามจะใช้พลังพิเศษกับฮาจิโนมิยะ แต่ทว่า พลังเวทที่รวบรวมมาได้ก็สลายหายไปก่อนที่จะแสดงผลออกมาเป็นพลังพิเศษเสียอีก
(…ฉัน พลาดไปแล้วสินะ…?)
โคโคโนเอะยื่นมือขึ้นไปข้างบนราวกับจะไขว่คว้า แสงสว่างค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ โลกกำลังจะถูกปิดตายด้วยความมืดมิด
การต่อต้านของเด็กสาวผู้เพิ่งถือกำเนิด จบลงอย่างง่ายดาย
แต่ทว่านั่นคือ——
“ต่อความมุ่งมั่นและการกระทำของเธอ ข้าขอแสดงความเคารพ”
——เรื่องราวในกรณีที่ไม่มี ‘สิ่งนั้น’ ผู้พิทักษ์แห่งความบริสุทธิ์อยู่ด้วย
『ตรวจพบตัวตนใหม่ ค่าความลึกของพลังเวทนี้ หรือว่าจะเป็น…!』
ความหวั่นไหวปรากฏขึ้นในฮาจิโนมิยะที่กำลังพันธนาการโคโคโนเอะไว้อย่างราบเรียบเป็นครั้งแรก ฮาจิโนมิยะที่สังเกตเห็นสถานการณ์ผิดปกติ รีบพยายามจะส่งสัญญาณไปยังโคชิทันที
แต่ทว่า มันสายเกินไปแล้ว
『เปลี่ยนไปแล้ว… ค่ะ』
ความมืดมิดเปลี่ยนคุณสมบัติไป ฮาจิโนมิยะที่เป็นเครื่องจักรสังเกตเห็นสิ่งนั้นได้เป็นอย่างแรก
ไม่ใช่ความมืดที่ปฏิเสธและกัดกร่อนทุกสิ่งของจูคาระ แต่เป็นก้นบึ้งของทะเลที่ยอมรับทุกสิ่งและโอบอุ้มไว้อย่างเงียบงัน ความมืดอันสงบนิ่งราวกับทะเลลึก แผ่ขยายไปทั่วบริเวณ
มันเป็นเช่นนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ หรือว่า จะเป็นมาตั้งแต่แรกแล้ว
“…คาเมะจัง?”
ในโลกอันเงียบสงัด โคโคโนเอะเอ่ยชื่อนั้นออกมา
ในที่สุด สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าโคโคโนเอะคือ เต่าทะเลยักษ์สีเงินตัวหนึ่งนั่นเอง
MANGA DISCUSSION