ต่อให้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีอยู่ในเนื้อเรื่องเดิม ก็สามารถแก้ไขได้อย่างเยือกเย็น นั่นแหละคือสิ่งที่เรียกว่าสาวน้อยลึกลับ
ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงกำลังเคลื่อนที่ไปยังเกทของเฟคตัมอยู่
『ถ้าไม่ใช่สาวน้อยน่ารักล่ะก็ ไม่ค่อยมีอารมณ์เท่าไหร่ แต่ว่า… เอ้า ไปสถาบันการศึกษาจิลเนียร์สก็ได้ล่ะมั้ง』
『มายลอร์ด กำลังฮึกเหิมอยู่ก็จริงแต่เสียใจด้วยนะ ครั้งนี้มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเป็นเทวทูตองค์ที่หก อย่าประมาทเด็ดขาดล่ะ』
ไม่เป็นไรหรอกน่าคาเมะคุง พวกเราน่ะแข็งแกร่งที่สุดเลยนะ ถึงในภายหลังจะต้องแพ้ให้กับพระเอก แต่ถึงกระนั้นก็จะยังคงเป็นสาวน้อยลึกลับที่ดำรงอยู่ในฐานะตัวละครสุดแกร่งต่อไป เพราะงั้น
อีเวนต์นอกเนื้อเรื่องที่ผิดปกติแบบนี้ ไม่มีทางที่ฉันจะแพ้หรอกน่า วะฮะฮ่า!
『เพราะมันผิดปกติไม่ใช่เหรอถึงควรจะระวังตัวน่ะ? 』
『เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะน่า คิดว่าจะวางตัวเป็นโซลเซียร่าให้ดูลึกลับยังไงดีกว่า ยังจะมีประโยชน์ซะกว่านะ ^^』
สมกับเป็นไม้เท้าพยากรณ์ดวงดาวคุง รู้ใจจริงๆ เลยนะ~ ครั้งนี้จะไปช่วยท่านประธานฮิโชที่สถาบันการศึกษาจิลเนียร์สก็จริง แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง
การเผาสมองของเธอคนที่อยู่ข้างๆ ฉันนี่ต่างหาก คืออีเวนต์หลักของวันนี้ รู้จักกันดีอยู่แล้ว ครามจังไงล่ะ
“ม-ไม่ได้ทำภารกิจด้วยกันสองคนมานานเลยนะ”
“นั่นสินะ”
ตอนนี้ฉันเข้าสู่โหมดโซลเซียร่าเรียบร้อยแล้ว พออกจากเกทไปเมื่อไหร่ก็แปลงร่างเป็นชุดโกธิคโลลิต้าเหมือนเดิมเลยนะ~
“อ๊ะ ประหม่าอยู่เหรอ? วางใจเถอะคราม เธอน่ะเก่งกว่าที่ตัวเองคิดไว้อีกนะ”
“!? …ง-งั้นเหรอ เอเฮะเฮะ”
เธอคนนี้ที่กลายเป็นพวกวิตถารชนิดที่ว่าเทียบไม่ติดกับสมัยเป็นเพื่อนสมัยเด็กแล้วนั้น ครั้งนี้ได้มาร่วมทางกันหลังจากไม่ได้เจอกันนาน
『ระดับสมองเละเทะนี่คงจะพอๆ กับโชโกะหรืออาจจะมากกว่าสินะ~』
『งั้นรึ? มายลอร์ด ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องความสัมพันธ์กับเธอคนนั้นเท่าไหร่…』
จริงด้วยสินะ ตอนที่คาเมะคุงอยู่ข้างใน ไม่ค่อยได้ผลิตคอนเทนต์สาวน้อยน่ารักกับครามจังเท่าไหร่เลยนี่นา
เธอเป็นเด็กดีมากๆ เลยนะ ^^ ถึงจะเคยพยายามจะกดฉันลง หรือติดเครื่องตรวจจับความหื่นจิ๋วใส่ก็เถอะนะ
『เข้าใจโดยรวมแล้ว』
แล้วก็ เป็นหนึ่งในคนที่ได้ดื่มด่ำกับโลลิเซียร่าเป็นคนแรกด้วยนะ เป็นเด็กโชคดีที่ได้เจอกับอีเวนต์เทพที่นานๆ จะมีสักครั้งอย่างการได้พยาบาลโลลิเซียร่าที่ป่วยเป็นไข้ด้วย
『พยาบาล!?!?!?!? มายลอร์ด ตอนนี้ฉันสูญเสียความเยือกเย็นไปแล้ว…! เหตุการณ์สำคัญของลูกสาวฉันแท้ๆ แต่ฉันกลับไปช่วยไม่ได้!』
『ตอนนั้นยังเป็นศัตรูกันอยู่เลยนี่นา แถมสาเหตุก็คือแกเองด้วยนะ~』
เพราะพิษของเธอกับคอนเทนต์สาวน้อยน่ารักมันทำปฏิกิริยากัน ตอนนั้นน่ะมันลำบากมากเลยนะ
『ขอทำการระเบิดตัวเอง』
คาเมะซังตายไม่ได้น้า—!
『ยกเลิกการระเบิดตัวเอง』
ไม่มีกระบวนการในการตัดสินใจเลยจริงๆ เกือบไปแล้ว เกือบจะเสียเพื่อนอันล้ำค่าไปซะแล้ว
“นี่ ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอแค่พวกเราสองคนน่ะ? ถ้าเป็นอย่างที่บอกโทอาเมื่อกี้ ก็พาฮิคาริไปด้วยได้นะ”
“จริงอยู่ที่ถ้าเป็นเรื่องบู๊ล้างผลาญล่ะก็น่าพึ่งพาอยู่หรอกนะ แต่ครั้งนี้เป็นแค่ภารกิจช่วยเหลือเท่านั้น ฉันกับเธอสองคนเคลื่อนไหวได้สะดวกกว่าเยอะเลย หรือว่า… ไม่ชอบที่ต้องอยู่กับฉันสองต่อสองงั้นเหรอ”
“ไม่รังเกียจ! จริงๆ นะ! ไม่รังเกียจเลย!”
“ง-งั้นเหรอ”
ฉันเผลอถอยห่างออกมาเล็กน้อยกับความกระตือรือร้นนั้น ดวงตาของเธอ เหมือนกับมนุษย์ที่กำลังอยู่ต่อหน้าอาหารอันโอชะเลย นั่นก็คือ ดวงตาของนักล่านั่นเอง
“กลับกัน ช่วงนี้เวลาที่ได้อยู่กับเธอน้อยเกินไปจนแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว ไม่รู้ทำไมพอจะไปหาเธอทีไรก็มีเรื่องมาขวางตลอดเลย หรือว่าฉันจะโดนสาปกันนะ…”
“หึหึ งั้นวันนี้จะใช้เวลาเพื่อเธอเป็นพิเศษก็แล้วกันนะ ถ้าแก้ไขเหตุการณ์นี้เสร็จแล้ว อืมม… ไปเดทกันดีไหมคะ? ล้อเล่นน่า”
“…เอ๊ะ”
ครามจังแข็งทื่อไปเลย ฉันหยุดฝีเท้าแล้วหัวเราะคิกคัก เป็นรอยยิ้มที่แฝงความลึกลับและเอจจิ
“เป็นอะไรไปเหรอ? นี่แน่ะ รีบไปกันเถอะค่ะ”
“อ๊ะ เอ๊ะ อ๊ะ อือ… อื้อ”
คงจะกำลังจินตนาการอะไรอยู่สินะ ครามจังพยักหน้าซ้ำๆ ทั้งที่หน้าแดงก่ำ แล้วเดินมาอยู่ข้างๆ ฉันอีกครั้ง
“ต้องใส่ชุดแต่งงานสวยๆ นะ…!”
“คิดไปไกลเกินไปแล้วนะเธอ”
เวดดิ้งโซลเซียร่ายังไม่ได้อิมพลีเมนต์
■
พวกเราที่มาถึงหน้าเกท หยุดฝีเท้าลง แล้วยืนยันแผนการอีกครั้ง
“ทันทีที่ออกจากเกทไป ฉันจะปลดปล่อยพลังในฐานะโซลเซียร่า แล้วเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ที่ไม่มีคนอยู่ในสถาบันการศึกษาจิลเนียร์ส”
“จากตรงนั้นก็จะใช้พวกมาจังในการค้นหาศัตรูพลางเคลื่อนที่อย่างปลอดภัย ถ้าสามารถช่วยท่านประธานฮิโชออกมาได้ ก็จะใช้เทเลพอร์ตอีกครั้งเพื่อพามายังที่ปลอดภัย สินะ”
“คุณกบของเธอน่ะ เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของแผนการเลยก็ว่าได้นะ เอาล่ะ ไปกันเถอะค่ะ”
“เรียกคุณกบน่ารักจัง…”
ฉันไม่พลาดคำพูดที่ครามจังพึมพำออกมาเบาๆ แต่ฉันจะแกล้งทำเป็นเมินไปก็แล้วกันนะ เพราะนั่นคือคอนเทนต์โซลเซียร่าที่เตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะยังไงล่ะ ค่อยๆ เคี้ยวให้ละเอียดนะ ^^
พวกเราเดินผ่านเกทไป แล้วก็สังเกตเห็นความผิดปกตินั้นได้ในทันที
ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีฟ้าสดใส กลับถูกปกคลุมไปด้วยสิ่งที่เหมือนรากไม้ ราวกับจะปฏิเสธยามเช้า ความมืดมิดถูกสร้างขึ้นมาอย่างฝืนธรรมชาติ
“…นี่ ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นมานิดหน่อยแล้วสินะ ดูเหมือนสนธยาสีเงินจะเริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจังแล้วสินะ (พูดไปงั้นแหละ) “
ฉันพึมพำออกมาส่งๆ ในฐานะสาวน้อยลึกลับแล้วต้องเดาตัวการใหญ่ได้ในทันทีสินะ
ว่าแต่ เหตุการณ์ใหญ่ขนาดนี้ ยังไงก็ต้องเป็นสนธยาสีเงินอยู่แล้วล่ะน่า
“อะไรกันท้องฟ้านั่น…!”
ครามจังเองก็กำลังตกตะลึงพลางเงยหน้ามองฟ้าอยู่เหมือนกัน เธอมองท้องฟ้าด้วยตาที่เบิกกว้าง แล้วพึมพำออกมาว่า
“…อ๊ะ มีอะไรบางอย่าง ผิด ปก ติ”
“คราม?”
ทันใดนั้น ครามจังก็หันมาทางนี้ ดวงตาคู่นั้น เต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเป็นปฏิปักษ์อันรุนแรง
“พวกมาจัง”
กบกินคนปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวพวกเรา หุ่นยนต์อัตโนมัติที่แต่ละตัวแฝงไว้ด้วยพลังทำลายล้างที่สามารถฝังเจ้าดันเจี้ยนได้สบายๆ กำลังจับจ้องมาที่ฉันอยู่
สรุปคือ ถูกสาวน้อยน่ารักมองเป็นศัตรูอย่างจริงจังแล้วสินะ เศร้าจัง…
『อะไรกัน พลังเวทลดลงฮวบเลย!? คู่หู เป็นอะไรรึเปล่า!? 』
『โอ้ น่าสงสารจังเลยมายลอร์ด เดี๋ยวฉันจะโอ๋ๆ ให้ทีหลังนะ…!』
ทั้งที่เมื่อกี้ยังคุยกันสนุกสนานอยู่แท้ๆ แท้ๆ แต่ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครามจังถึงได้จ้องมาทางนี้ด้วยความเป็นปฏิปักษ์เต็มเปี่ยม
“โซลเซียร่า เธอน่ะต้องฆ่าทิ้งซะที่นี่แหละ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของฉัน ก็จะเผาเธอให้เป็นเถ้าถ่านให้ได้! พวกมาจัง!”
กบกินคนทั้งหมดกระโจนเข้าใส่ฉันพร้อมกันตามคำสั่งของครามจัง แล้วปัจเจกที่เข้ามาใกล้ที่สุดก็ระเบิดตัวเองออกพร้อมกัน
『ป้องกัน ^^』
ต้องขอบคุณไม้เท้าพยากรณ์ดวงดาวคุง แน่นอนว่าฉันไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่ในใจน่ะเจ็บปวดอยู่นะ
“เอาน่า ไม่คิดหรอกนะว่าจะฆ่าแรงค์ S ได้ด้วยเรื่องแค่นี้!”
ครามจังปรากฏตัวออกมาฝ่ากลุ่มควันดำ มือและเท้ามีกบกินคนติดอยู่ มันระเบิดออก ทำให้ครามจังเร่งความเร็วขึ้นเป็นเส้นตรง ปล่อยหมัดเข้าใส่ฉัน
ทำไมกัน… ทำไมถึงต้องมาโจมตีฉันด้วย…
『น่ากลัวจัง พลังเวทลดลงไปเรื่อยๆ เลยนะ~ คู่หูไม่เป็นไรแน่นะ? 』
ดูเหมือนฉันจะไม่เป็นไรเหรอ?
ถ้าจงใจวางบทบาทให้เป็นแบบนั้นแล้วกลายเป็นศัตรูกันก็ยังพอว่า แต่ว่า การถูกสาวน้อยน่ารักเกลียดเข้าจริงๆ น่ะ… มันเศร้า
หรือว่าจะแกล้งมากเกินไปนะ… ถ้าตอนนั้นยอมมอบร่างกายให้แต่โดยดีก็คงไม่เป็นแบบนี้สินะ รอคอยนานเกินไป จนเกลียดกันไปแล้วเหรอ?
『มายลอร์ด วางใจเถิด นี่เป็นผลมาจากความสามารถในการเปลี่ยนแปลงชนิดหนึ่ง ผลการวิเคราะห์ สัมผัสได้ถึงพลังของเทวทูตในรากไม้ที่แผ่ขยายอยู่บนท้องฟ้า ดูเหมือนจะมีอย่างอื่นปะปนอยู่ด้วยหลายอย่าง แต่ดูจากรูปการณ์แล้วไม่ผิดแน่ว่าเป็นฝีมือของเทวทูต』
คาเมะคู—น!
เชื่ออยู่แล้วล่ะค่า!
นึกว่าโดนครามจังเกลียดเข้าจริงๆ ซะแล้ว ตกใจหมดเลย
『ไม่มีทางที่จะมีเด็กคนไหนเกลียดมายลอร์ดได้หรอกน่า ว่าแต่ ไม้เท้าพยากรณ์ดวงดาวเองก็รู้ตัวอยู่แล้วไม่ใช่รึไง? 』
『เรื่องอะไรเหรอ ^^ ไม่ได้แอบดูท่าทางที่คู่หูอ่อนแอลงแล้วสนุกอยู่สักหน่อยนะ ^^』
แก๊!
『ไม่ต้องโกรธก็ได้น่า ตั้งใจจะบอกอยู่แล้วแท้ๆ แต่ว่า น่ารักเกินไปก็เลยเผลอ ^^』
เรื่องการลงโทษไม้เท้าพยากรณ์ดวงดาวคุงเอาไว้คิดทีหลังก็แล้วกัน เอาล่ะ ในเมื่อรู้ว่าเป็นฝีมือของเทวทูตแล้วก็ค่อยเปลี่ยนอารมณ์ได้หน่อย
สรุปคือ นี่คือคอนเทนต์ที่ให้สนุกไปกับครามจังที่ถูกล้างสมองแล้วมาโจมตีใส่โซลเซียร่าสินะ!
『อะไรกัน ปริมาณพลังเวทนี่』
『แข็งแรงดีคือสิ่งที่ดีที่สุด』
คาเมะคุง บอกเงื่อนไขที่จะคลายการล้างสมองนี่มาให้หน่อยสิ จากนั้นจะได้คำนวณย้อนกลับหาเส้นทาง แล้ววางตัวในฐานะสาวน้อยลึกลับ!
『ตราบใดที่รากไม้ยังอยู่ การคลายการล้างสมองโดยสมบูรณ์เป็นไปไม่ได้ ดูเหมือนว่ารากไม้จะห่อหุ้มบริเวณโดยรอบ ทำให้เมืองแห่งการศึกษากลายสภาพเป็นดันเจี้ยนจำลองไปแล้ว ในดันเจี้ยนที่ทรงพลัง กฎเกณฑ์เฉพาะตัวจะทำงาน จากพฤติกรรมของครามแล้ว น่าจะเป็น 『รับรู้แรงค์ S เป็นศัตรู』กระมัง หากสันนิษฐานว่ากรณีของมิยูเมะกับริวโกะก็เป็นแบบเดียวกัน ก็น่าจะยังมีเงื่อนไขอื่นอยู่อีก แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม หากเป็นดันเจี้ยนแล้ว ย่อมต้องมีเจ้าของ และมีแกนกลางอยู่ ก่อนอื่นต้องทำลายสิ่งเหล่านั้นก่อน ถ้าทำได้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะแก้ไขเหตุการณ์ได้โดยไม่ต้องไปถึงสถาบันการศึกษาจิลเนียร์สเลย』
อย่างนี้นี่เอง สรุปคือ ไม่มีทางที่จะทำให้ครามจังคืนสติได้ที่นี่สินะ
『อื้อ แต่ว่า เมื่อพิจารณาจากการที่ยังคงสติไว้ได้ในเฟคตัมแล้ว มีความเป็นไปได้สูงว่าจะกลับเป็นปกติถ้ากลับไปที่นั่น』
อย่างนี้นี่เอง งั้นก็ขอเล่นด้วยสักหน่อยแล้วค่อยจับกุมสินะ
แล้วพากลับไปที่เฟคตัม พอครามจังได้สติกลับคืนมาแล้ว ค่อยบอกไปว่าครั้งนี้จะไปคนเดียว…
『ทั้งที่ยินดีที่สามารถเป็นพลังให้กับโซลเซียร่าได้ แต่กลับกลายเป็นว่าตนเองกลับไปทำร้ายโซลเซียร่าเสียเอง พอครามที่ตกอยู่ในความรู้สึกผิดต่อตนเองเช่นนั้นแล้ว โซลเซียร่าก็จะเข้าไปกอดเธออย่างอ่อนโยน』
แล้วกระซิบที่ข้างหูว่า
——แค่เธอเข้าใจฉัน แค่นั้นฉันก็ได้รับการช่วยเหลือแล้วล่ะ
โซลเซียร่าจะระบายความรู้สึกที่แท้จริงที่เก็บไว้ในใจกับครามเป็นครั้งแรกสินะ!
『โอ้วววว!』
โอ้วววววว!
『หนวกหูน่า』
ขอโทษ! แต่ว่า มีไฟขึ้นมาแล้ว!
จากนี้ไป จะขอสวมบทบาทสาวน้อยลึกลับอย่างเต็มที่เลยนะ!
“หึหึ ไม่เคยได้เต้นรำกับเธอเลยสินะ”
ฉันอัญเชิญเคียวยักษ์ออกมา หัวเราะพลางหลบหลีกการโจมตีของครามจัง หลบแรงระเบิด หลีกเปลวเพลิง แล้วรับลูกเตะของครามจังไว้ด้วยมือข้างเดียวเบาๆ ท่าทางที่รับลูกเตะที่พุ่งเข้ามาด้านข้างศีรษะของตนเองด้วยท่าทีอ่อนโยนราวกับจับผ้าเช็ดหน้าไหมนั้น คือสาวน้อยลึกลับอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“อึ่ก แข็งแกร่งจริงๆ ด้วย แต่ว่า ต้องฆ่าทิ้งซะที่นี่!”
“ความตั้งใจน่ะใช้ได้เลยนะ”
ฉันหลบหลีกการโจมตีราวกับกำลังเต้นรำ แต่ก็ไม่ได้โจมตีกลับไปเลยแม้แต่น้อย คอยหาจังหวะ แล้วใช้โซ่พันธนาการไว้ก็พอ
เพราะโซลเซียร่าจะต้องจัดการครามจังให้ราบคาบโดยไม่ใช้แม้แต่อาวุธเลยนี่นา
『โซ่ เตรียมพร้อม ^^ จับได้ทุกเมื่อเลยนะ』
เอาล่ะ เล็งแล้วเล็งอีก จะจับกุมในเสี้ยววินาทีที่หมัดของครามจังจะโดนหน้าฉัน แล้วจบการต่อสู้ครั้งนี้อย่างเยือกเย็นเลย—!
ครามจังพุ่งเข้ามาหาฉันที่ยังคงหลบหลีกต่อไป ครามจังที่เร่งความเร็วขึ้นโดยอาศัยแรงระเบิดจากด้านหลัง หันหมัดมาทางฉัน แล้วก็
——ถูกพันธนาการไว้ด้วยโซ่สีดำ
ส-โซ่นี่มัน!
“ไม่เปลี่ยนไปเลยนะ เป็นห่วงพวกพ้องดีจริงๆ โซลเซียร่า”
ได้ยินเสียงดังมาจากเหนือศีรษะ พอมองขึ้นไปก็เห็นเงาดำร่างหนึ่งอยู่บนยอดเสาไฟถนน
เด็กสาวในชุดคลุมสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า รูปร่างหน้าตาที่ราวกับจะหลอมละลายไปกับความมืด ฉันรู้จักร่างนั้นดี
“แอบมองเนี่ย รสนิยมไม่ดีเลยนะ เนมเลส”
“อุตส่าห์ช่วยแท้ๆ อย่าพูดแบบนั้นสิ~ ยังไงซะ เธอก็คงจะลงมือกับครามจังไม่ได้อยู่แล้วนี่นา แต่ก็ไม่คิดเหมือนกันนะว่าจะลังเลแม้กระทั่งจะจับกุมน่ะ”
พูดจบ เนมเลสก็กระโดดลงมายืนบนพื้นดิน
『เนมเลส เป็นใครกันแน่…!』
บอกแล้วไงว่าให้เลิกทำแบบนั้นน่ะ
MANGA DISCUSSION