ใต้ฟ้าที่ประดับด้วยดวงดาว โซลเซียร่ากำลังแย้มยิ้มอยู่ นัยน์ตาสีฟ้าครามของเธอจ้องมองมาที่โชโกะนิ่ง ราวกับกำลังรอคอยบางสิ่งที่หลับใหลอยู่ภายในตัวเขา
“ต-ตัวจริงเหรอครับ?”
“เรื่องนั้นสำคัญด้วยเหรอตอนนี้ อาจจะเป็นตัวจริงที่แทรกแซงเข้ามาในวิญญาณ หรืออาจจะเป็นของปลอมที่จิตใต้สำนึกส่วนลึกของเธอสร้างขึ้นมาก็ได้ แต่ไม่ว่าคนตรงหน้าเธอจะเป็นใคร สิ่งที่เธอต้องทำก็ไม่ได้เปลี่ยนไปไม่ใช่เหรอ?”
โชโกะพยักหน้า สิ่งที่เขาควรทำในตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว
“ผม… อยากจะช่วยคาโยะจัง”
ไม่ทันรู้ตัว โชโกะก็เผลอระบายความในใจออกมา เด็กสาวตรงหน้าเขามีบางอย่างที่ทำให้เป็นเช่นนั้น
“ผมไม่อยากให้จุดจบของเด็กคนนั้นต้องน่าเศร้าแบบนี้ แต่ว่า ผมไม่มีพลัง แม้แต่จะวิ่งก็ยัง…”
เป็นความจริงที่ว่าโชโกะแทบจะขยับตัวไม่ได้แล้วเนื่องจากการโจมตีทางวิญญาณ สำหรับเด็กชายที่ยังไม่ได้เป็นนักสำรวจด้วยซ้ำ นี่เป็นสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างที่สุด
“งั้นเหรอ”
โซลเซียร่าตอบกลับอย่างเงียบๆ และราบเรียบ ดวงตาของเธอยังคงเหมือนรอคอยอะไรบางอย่างอยู่
“จะยอมแพ้สินะ”
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าคำพูดนั้นหมายถึงอะไร ชีวิตของเด็กสาวคนหนึ่ง กำลังจะจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
ถ้าอย่างนั้น คำตอบก็มีเพียงหนึ่งเดียว
“ไม่ยอมแพ้ครับ”
“แต่ดูเหมือนเด็กคนนั้นจะไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือนะ”
“ถึงอย่างนั้นก็จะช่วย”
“ต่อให้เธอไม่มีพลังน่ะเหรอ?”
“อื้อ นี่มันเป็นความเอาแต่ใจของผมเอง ผมอยากช่วยคาโยะจังเพราะผมไม่ชอบจุดจบแบบนี้! เพราะผมคิดว่า วาระสุดท้ายของคนเราน่ะ ควรจะมีความสุขสิ”
“…! หึหึ งั้นเหรอ เป็นอย่างนั้นสินะ”
โซลเซียร่าเบิกตากว้าง ใบหน้าของเธอเปี่ยมล้นไปด้วยความยินดี
โซลเซียร่าแย้มยิ้มราวกับสิ่งที่รอคอยมาตลอดได้ปรากฏขึ้นแล้ว เธอหันเคียวยักษ์มาทางโชโกะ
“ถ้างั้น ก็แสดงให้เห็นสิ ศักยภาพของเธอ ประกายแสงของเธอ”
“…ครับ!”
โลกเริ่มเคลื่อนไหว ดวงดาวเริ่มเคลื่อนคล้อย รุ่งอรุณมาเยือนโลก
ดวงอาทิตย์ที่ขึ้นมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้น สาดแสงเจิดจ้าจนย้อมทัศนียภาพของโชโกะให้สว่างวาบไปหมด
■
“——ไม่เป็นไรนะคะ♥?”
มันเป็นเพียงชั่วพริบตาที่สั้นยิ่งกว่าหนึ่งวินาที การพูดคุยกับโซลเซียร่า คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีระหว่างที่โชโกะล้มลงและชิยาคุรับไว้
แต่ทว่า มันก็มากเกินพอที่จะทำให้โชโกะสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ”
โชโกะยืนหยัดบนพื้นดินด้วยท่วงท่าอันมั่นคง แล้วจับมือวิญญาณของตนเองที่ยืนนิ่งราวกับตุ๊กตา
“กลับมาซะ”
ทันทีที่สัมผัส วิญญาณของโชโกะก็กลับรวมเป็นหนึ่งเดียว เขาแบมือและกำมือราวกับจะตรวจสอบความรู้สึก แล้วพยักหน้า
ชิยาคุเห็นท่าทางนั้นก็เอียงคอสงสัย
“อ้าว♥ ไม่ใช่แค่เสถียรขึ้น แต่เหมือนจะถูกกระตุ้นให้ทำงานด้วยซ้ำ…♥”
“คุณชิยาคุ คุณไอ”
โชโกะเรียกชื่อทั้งสองคน แล้วก้าวมายืนข้างหน้า จากนั้นก็จ้องมองไปยังเป้าหมายที่ตนต้องช่วยเหลือ
“ผมจะช่วยเด็กคนนั้น เพราะงั้น ช่วยทำตามความเอาแต่ใจของผมด้วยนะครับ”
“ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธสินะคะ♥ เด็กที่แข็งกร้าวนี่ก็น่ารักดีค่ะ♥”
『แต่ว่า พวกเราไม่มีวิธีที่จะช่วยเด็กคนนั้นได้แล้วนี่…』
“ต่อจากนี้จะสร้างขึ้นมาเองครับ ผมจะสร้างมันขึ้นมาด้วยมือคู่นี้”
โดยไม่รอให้ไอได้ห้าม โชโกะก็วิ่งออกไปแล้ว
『โชโกะคุง! ชิยาคุ หยุดเขาเร็ว!』
“เหมือนนักสำรวจเต็มตัวเลยนะคะ♥”
『ชิยาคุ ทำไมถึงได้แค่มองอยู่ล่ะ!』
“หึหึ ไม่ทันสังเกตเหรอคะ♥? เด็กคนนั้น ใกล้จะเบ่งบานแล้วนะคะ♥”
ชิยาคุมองโชโกะแล้วแย้มยิ้มออกมา
“ที่เขาเรียกว่า แฮปปี้เบิร์ธเดย์ น่ะค่ะ♥ ถ้างั้น ก็ต้องช่วยสนับสนุนหน่อยสินะคะ♥”
ชิยาคุใช้รากไม้เสียบทะลุฝูงแมลงที่กำลังมุ่งหน้าไปยังโชโกะ ดวงตาของเธอนั้นเปี่ยมล้นไปด้วยความรักต่อมวลมนุษยชาติ
“เร็วขึ้นอีก แข็งแกร่งขึ้นอีก”
แตกต่างจากการเคลื่อนที่โดยใช้พลังพิเศษหรือเวทมนตร์ ความเร็วในการวิ่งของเด็กชายนั้นมีขีดจำกัด แต่ทว่า มันกลับถูกปรับให้เหมาะสมยิ่งขึ้นไปในทุกๆ ก้าวที่เขาก้าวออกไป
(แล้วก็ ต้องคล่องแคล่วขึ้นอีก พี่โทราคุเคยบอกว่ายังไงนะ)
มันคือคำพูดของผู้อาวุโส และประสบการณ์ของตัวเขาเอง เพราะมีผู้ที่ตั้งใจรับฟังความปรารถนาอันบริสุทธิ์ของเขาที่อยากจะเป็นนักสำรวจอย่างจริงใจ
โชโกะจึงได้เริ่มเติบโตอย่างก้าวกระโดดในชั่วขณะนี้
『พลังเวทก็เหมือนกับเลือด จงตระหนักถึงตำแหน่งที่มันไหลเวียน แค่ทำแบบนั้น คุณภาพของการเสริมพลังกายก็จะสูงขึ้น』
ก้าวออกไปหนึ่งก้าว พลังเวทที่ใส่เข้าไปในเท้าเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง โชโกะได้ความเร็วมาอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แต่ทว่า ผลจากการที่เพ่งสมาธิมากเกินไป ทำให้พลังเวทเอ่อล้นออกมาจากเท้า
(พลังเวทที่เอ่อล้นออกมา พี่มิซึฮิเคยบอกว่ายังไงนะ)
สิ่งที่นึกขึ้นมาได้ คือคำพูดของเด็กสาวผู้เป็นแรงค์ S
『อย่ามองพลังเวทเป็นแค่พลังเวท จงเปรียบเปรยมันเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่จินตนาการได้ง่าย กรณีของฉันคือ น้ำ กับ เปลวเพลิง สิ่งที่ก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างเช่นนั้น น่าจะสามารถนำกลับมาสู่ตนเองได้อีกครั้ง』
“พลังเวทของผม คือ…!”
สายลมเริ่มห่อหุ้มร่างของโชโกะที่กำลังวิ่งอยู่ พลังเวทที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ประโยชน์ กลายเป็นสายลมหมุนวนกลับคืนสู่เท้าของโชโกะอีกครั้ง
ชิยาคุเห็นท่าทางนั้นก็พยักหน้า ส่วนไออุทานออกมาด้วยความตกใจ
『นั่นมัน… หรือว่าพลังพิเศษกำลังจะปรากฏออกมา…!? 』
“ช่วงเวลาที่มนุษย์แสดงศักยภาพออกมานี่มันน่าตื่นเต้นเสมอเลยนะคะ♥”
รูปลักษณ์ที่ส่อแววบางอย่าง แต่สำหรับคาคุโยมุและคาโยะแล้ว มันช่างน่ารำคาญใจยิ่งนัก
『จะทำอะไรตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์แล้ว』
คาโยะที่ถูกคาคุโยมุดูดกลืนไปแล้ว เอ่ยออกมาจากภายในตัวคาคุโยมุ แต่โชโกะก็ไม่หยุด
“ฉันมาช่วยเธอแล้วไง!”
『ไม่ได้ต้องการสักหน่อย』
“แต่ฉันต้องการ ให้เธอรอด ให้เธอยิ้มได้”
โชโกะพุ่งเข้าใส่คาคุโยมุ แล้วกำหมัดปล่อยออกไป
『เปล่าประโยชน์』
แต่ทว่า หมัดกลับหยุดลงก่อนจะถึงตัวคาคุโยมุ มันคือหนึ่งในความสามารถของคาคุโยมุ ‘การหยุดนิ่ง’
『แค่นั้น ไม่มีทางเอาชนะท่านคาคุโยมุได้หรอก』
“อึ่ก!”
หางฟาดเข้าใส่ โชโกะกระโดดถอยหลังหลบ หางที่ฟาดพลาดไปทำลายกำแพง ทำให้คาคุโยมุกลับมาเป็นอิสระอีกครั้ง
『จบกันแค่นี้เถอะ เลือกมาสิว่าจะตายไปกับฉัน หรือจะฆ่าพวกเรา』
“จะช่วยเธอ แล้วฉันก็จะรอดด้วย”
『มีแต่พวกโลกสวยเพ้อฝัน』
คาคุโยมุที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระอีกครั้ง อัญเชิญบริวารออกมาจากป่า ฝูงแมลงจำนวนมากที่หลั่งไหลออกมาถาโถมเข้าใส่โชโกะ แต่ส่วนใหญ่ก็ถูกรากไม้เสียบทะลุไป
“การสนับสนุนน่ะ ไว้ใจได้เลยนะคะ♥”
“ขอบคุณครับ!”
เขาหลบการโจมตีของแมลงตัวเล็กๆ ที่เล็ดลอดมาได้ แล้วเตะทำลายมันจนแหลกละเอียด สายลมรอบตัวแปรเปลี่ยนเป็นพายุรุนแรง พัดกระหน่ำแมลงที่เข้าใกล้ให้กระเด็นหายไป
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ไหวแน่ ต้องมากกว่านี้ มากกว่านี้…!”
โชโกะวิ่งออกไปอีกครั้ง แต่ไม่ได้มุ่งตรงไปยังคาคุโยมุ เขาเริ่มวิ่งไปรอบๆ ตัวคาคุโยมุเพื่อหาช่องทาง
(พี่มิโรคุเคยบอกว่ายังไงนะ พี่โทอาล่ะ ทุกคนเคยบอกว่ายังไง——)
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่มีทางไปถึงได้ เพราะฉะนั้น โชโกะจึงรวบรวมทุกสิ่งที่มีอยู่ในตัว ไม่ว่าจะเป็นความรู้หรือความสามารถ
(การวิ่งวนไปรอบๆ เพื่อดูท่าทีก็มีขีดจำกัด ถ้าคาคุโยมุหนีไปก็จบกัน ต้องโค่นมันลงในขณะที่มันยังสนใจเราอยู่…!)
ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลา โชโกะต้องสร้างทางเลือกที่ดีที่สุดขึ้นมาให้ได้ เขารู้ดีว่าสิ่งจำเป็นเพื่อการนั้นคืออะไร
(พลังพิเศษ พลังพิเศษที่จะพลิกสถานการณ์นี้ได้ เพื่อผมคนเดียว…!)
สิ่งที่จำเป็นนั้นมีครบแล้ว ที่เหลือก็แค่ จังหวะ เท่านั้น
『วิ่งวุ่นน่ารำคาญจริง พวกน่ารำคาญน่ะเกลียดที่สุดเลย』
“อยากให้เรียกว่าเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มากกว่านะ”
คาคุโยมุยิงปืนใหญ่พลังเวทออกมา โชโกะหลบได้อย่างฉิวเฉียด
แล้วเขาก็พยายามเลียนแบบ ยิงปืนใหญ่พลังเวทออกไปบ้าง แต่ทว่า มันมีเพียงความแรง แต่กลับสลายหายไปก่อนจะถึงตัวคาคุโยมุเสียอีก
『เวทมนตร์ระดับต่ำชะมัด น่าสมเพช』
โชโกะหลบหางที่ฟาดมา เขาหลบหลีกการโจมตีที่หากโดนเข้าครั้งเดียวก็คงไม่รอดชีวิตได้อย่างประณีตบรรจงทีละครั้ง แล้วยิงปืนใหญ่พลังเวทออกไปอีกครั้ง แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
(ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่ได้แน่ ต้องมากกว่านี้ มากกว่านี้——)
ในชั่วขณะนั้น รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงแว่วๆ
『นี่คือพลังเวท ถ้าเธอจะเป็นนักสำรวจล่ะก็ มันคือสิ่งที่จำเป็นนะ』
วันที่ตัดสินใจมุ่งมั่นจะเป็นนักสำรวจ ภาพนั้นยังคงอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของความทรงจำ ใบหน้าด้านข้างนั้น โชโกะยังคงนึกถึงอยู่เป็นบางครั้ง
『ลองเล็งเป้านั่นดูไหม』
ไม่มีทางลืมได้ลง
『ไม่เป็นไร เชื่อใจฉันสิ』
วันแรกที่หัวใจเต้นแรง วันแรกที่ชื่นชมใครสักคนจากก้นบึ้งของหัวใจ
『ทำได้ดีนี่นา อย่าลืมความรู้สึกนี้นะ』
วันนั้นคือวันที่เด็กชายตกหลุมรักเป็นครั้งแรก
“——ประกายแสงของผมเป็นของผม”
การควบคุมพลังเวทอันสมบูรณ์แบบ วิธีการนั้น โชโกะได้รับการสอนเป็นอย่างแรกสุด ใกล้ชิดยิ่งกว่าสิ่งใด โดยใช้ร่างกายของตนเอง
การควบคุมพลังเวทที่ถูกสลักไว้ตั้งแต่ก่อนที่พลังเวทจะตื่นขึ้น ผสานเข้ากับการฝึกฝนในแต่ละวันของโชโกะ ยกระดับกลายเป็นพลังของเขา และ
『แสดงให้เห็นสิ ศักยภาพของเธอ ประกายแสงของเธอ』
“นี่คือ พลังพิเศษของผม”
ณ ที่แห่งนี้ รูปร่างได้ก่อกำเนิดขึ้นแล้ว
สายลมพัดกระหน่ำ หมุนวนรวบรวมพลังเวทมายังโชโกะ ทั้งพลังเวทของตนเองที่กระจัดกระจายออกไป ทั้งพลังเวทที่คาคุโยมุปล่อยออกมา สายลมพัดพาทุกสิ่งเข้ามาโดยไม่มีข้อยกเว้น
『อึ่ก นี่มัน หรือว่าพลังพิเศษ…!? 』
“ไม่ใช่ นี่มันยังเป็นแค่การควบคุมพลังเวทธรรมดาๆ อยู่เลย”
โชโกะตอบกลับ แล้ววิ่งตรงไปยังคาคุโยมุ
“จากนี้ไปต่างหาก คือพลังพิเศษของผม”
ใจกลางพายุ โชโกะเร่งความเร็วขึ้นในทุกๆ ก้าวที่ย่างออกไป และเพียงแค่สามก้าว เขาก็ประชิดอยู่ตรงหน้าคาคุโยมุแล้ว
『ทำไมพลังแห่งการหยุดนิ่งถึงใช้ไม่ได้!? …ไม่ใช่ นี่พวกเรากำลังถูกดึงเข้าไปหา!? 』
พายุรุนแรงกำลังดึงร่างยักษ์ของคาคุโยมุเข้าไปอย่างฝืนๆ ทำให้ระยะห่างระหว่างมันกับโชโกะลดลง
『แต่ว่า ตัวแกเองก็ขยับไม่ได้เหมือนกันไม่ใช่รึไง』
“แค่นี้เอง!”
พอมาอยู่ตรงหน้าคาคุโยมุ การเคลื่อนไหวของโชโกะก็หยุดลง แต่ทว่า ทันใดนั้นวงเวทก็ปรากฏขึ้นที่ฝ่าเท้า ลามไปถึงแขนและแผ่นหลังของเขา มันคือวงเวทปืนใหญ่ที่เมื่อครู่ยังยิงออกมาไม่ได้เรื่องนั่นเอง
เขาใช้วงเวทเหล่านั้นหลายวงซ้อนกันที่ด้านหลังของตนเอง——
“อ๊าาาาาาาาา!”
พลังเวทที่ถูกปลดปล่อยออกมากลายเป็นแรงขับเคลื่อน ทำให้ร่างของโชโกะเคลื่อนไหวได้อีกครั้งท่ามกลางการหยุดนิ่ง หนึ่งหมัด โชโกะต่อยเข้าใส่คาคุโยมุอย่างจัง
『อึ่ก』
หมัดที่อาศัยแรงกระแทกจากการยิงปืนใหญ่ ทะลวงเข้าใส่เปลือกนอกสีแดงของคาคุโยมุ จากนั้น โชโกะก็ยกขาสูงแล้วเตะซ้ำเข้าไปอีก
ร่างกายส่งเสียงร้องระงมจากการที่ฝืนเคลื่อนไหวในอาณาเขตที่ถูกครอบงำด้วยพลังแห่งการหยุดนิ่ง แต่โชโกะไม่มีทางหยุดแค่นั้นแน่
“…ย-ัง ยังหรอกน่า!”
สองหมัด สามหมัด——การโจมตีซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ หมัดที่อาบไว้ด้วยพลังเวทที่ถูกรวบรวมเข้ามาโดยสายลม ถูกปล่อยเข้าใส่คาคุโยมุ
『ทำไมกัน แค่นี้เอง น่าจะยังเคลื่อนไหวได้อยู่แท้ๆ!』
คาโยะตกใจเมื่อเห็นคาคุโยมุเอาแต่โดนต่อยอยู่ฝ่ายเดียว คำตอบนั้น ความรู้สึกสูญเสียภายในใจของเธอบอกให้รู้เอง
『ความรู้สึกนี้… หรือว่ากำลังช่วงชิงวิญญาณของฉันไปงั้นเหรอ!? 』
“ถูกต้อง!”
โชโกะฝืนยิ้มออกมาทั้งที่เจ็บปวด
“พลังพิเศษของผม คือการแทรกแซงวิญญาณ ล่ะมั้งนะ ที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน! แต่ว่า รู้แค่ว่าตอนนี้สามารถช่วยเธอออกมาได้!”
『บ-บ้าไปแล้วน่า… เป็นไปไม่ได้..!』
ไม่สนใจคาโยะที่กำลังตกตะลึง ร่างของคาคุโยมุถูกทะลวงเป็นรูพรุนไปเรื่อยๆ เปลือกนอกที่เดิมทีไม่น่าจะสร้างรอยขีดข่วนได้เลยแม้แต่น้อย แต่ทว่า ในโลกแห่งจิตสำนึกนั้น มาตรฐานความแข็งแกร่งคือความแข็งแกร่งของจิตใจ
เพราะฉะนั้น ในตอนนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคือโชโกะเพียงคนเดียวเท่านั้น
『ม-ไม่เอาแล้ว อย่ามาช่วงชิงฉันไปนะ!』
“เดี๋ยวจะแย่งคืนมาจากคาคุโยมุให้หมด แล้วทำให้กลับเป็นคาโยะจังคนเดิมให้ได้เลย!”
หนึ่งหมัด ซ้อนทับกันไปเรื่อยๆ รู้สึกได้ว่าตัวตนของตนเองกำลังเลือนหายไป คาโยะทำได้เพียงกรีดร้องอ้อนวอนเท่านั้น
『พอได้แล้วน่า! อุตส่าห์เข้าใจบทบาทของตัวเองแล้วแท้ๆ … ยอมรับในโชคชะตาแล้วแท้ๆ …!』
“จะมีโชคชะตาแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า!”
หนึ่งหมัด เท้าของโชโกะเตะเสยคางคาคุโยมุ หมัดนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่ลำตัวที่เปิดโล่ง
『หยุดเดี๋ยวนี้นะ… อย่ามาทำให้ฉันมีความหวังนะ! ถ้าช่วยไม่ได้ตั้งแต่แรกล่ะก็ ความหวังอะไรนั่นก็ไม่ต้องการ!』
“ฉันจะช่วยเอง”
『พูดแบบนั้น คนที่อยู่ข้างฉันก็ตายหมด! พี่ชายเองสุดท้ายก็ทรยศฉันแล้วผนึกฉันไว้…!』
“ฉันไม่ตายหรอก แล้วก็ไม่ทรยศด้วย! จะพิสูจน์ให้เธอเห็นเอง ว่าโลกใบนี้น่ะเปี่ยมล้นไปด้วยความหวัง!”
โชโกะกระแทกร่างของคาคุโยมุที่เอนเอียงลงกับพื้น แล้วตะโกนบอกชิยาคุ
“คุณชิยาคุ ขอรากไม้ที่เท้าด้วยครับ!”
“หึหึ ได้ค่ะ♥”
รากไม้งอกออกมาจากใต้เท้าโชโกะ แล้วเริ่มยกตัวสูงขึ้น ทะลุผ่านอาณาเขตแห่งการหยุดนิ่ง ผ่านป่าออกไป แล้วมองลงมายังคาคุโยมุจากโลกที่ถูกครอบงำด้วยประกายแสงแห่งดวงดาวเท่านั้น
“คาโยะจัง ฉันจะช่วยเธอ เพราะฉันอยากทำแบบนั้น เพราะอยากให้เธอยิ้มได้!”
โชโกะประกาศกร้าวแล้วกระโดดลงมาจากรากไม้ ทันใดนั้น พลังเวทก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากวงเวทปืนใหญ่ที่ติดอยู่ทั่วร่างด้วยกำลังสูงสุด
ร่างที่ตกลงมาด้วยความเร็วสูงราวกับดาวตกนั้น ช่างเหมือนกับดาวตกไม่มีผิด
“ลองมองโลกนี้ด้วยกันอีกครั้งไหม คาโยะจัง”
『อึ่ก สายไปแล้ว!』
คาคุโยมุยกตัวขึ้นราวกับตอบสนองต่อเสียงกรีดร้องของคาโยะ แล้วพยายามจะยิงปืนใหญ่พลังเวท แต่ต้นหญ้าก็งอกออกมาจากทั่วร่าง ขัดขวางการเคลื่อนไหว
“ปิดฉากให้สวยๆ เลยนะคะ♥”
โชโกะพยักหน้า ยื่นขาซ้ายออกไปข้างหน้า ลูกเตะที่ดูดซับพลังเวทไว้เต็มเปี่ยมด้วยสายลม พุ่งเข้าใส่คาคุโยมุ แล้วบุกเข้าสู่อาณาเขตแห่งการหยุดนิ่งอีกครั้ง
โชโกะที่ความเร็วลดลงเล็กน้อยในอาณาเขต รวบรวมพลังอีกครั้ง ปลดปล่อยพลังเวทด้วยกำลังสูงสุดที่เหนือกว่ากำลังสูงสุด วงเวทเกิดรอยร้าว โลกทั้งใบเริ่มพังทลายลงเพราะไม่อาจทนรับพลังอันมหาศาลได้
『อึ่ก โชโกะ』
“คาโยะจัง ถ้ากลัวล่ะก็ไปด้วยกันเถอะนะ คราวนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวแล้วนะ”
คำพูดนั้น สัมผัสเข้ากับความบริสุทธิ์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในใจของคาโยะ
『ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยสิ…อึ่ก!』
“เข้าใจแล้ว”
พร้อมกับคำพูดแห่งความตั้งใจอันเงียบงัน โชโกะเค้นพลังเฮือกสุดท้ายออกมา รวบรวมพลังเวททั่วร่าง แปลงพลังเวทที่ดูดซับมาเป็นแรงขับเคลื่อน แล้วก็——
『จริงๆ นะ จะเชื่อใจได้จริงๆ เหรอ? …จะใช้ชีวิตต่อไปก็ได้จริงๆ เหรอ? 』
แรงปะทะทำให้ป่าสั่นไหว ฝุ่นทรายฟุ้งตลบ
“อื้อ ไม่เป็นไร”
พอฝุ่นทรายจางลง ที่ตรงนั้นคือคาคุโยมุที่ลำตัวเป็นรูโบ๋ และ——
“คราวนี้ มีผมอยู่ด้วยนะ”
โชโกะยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนให้กับเสียงที่ขี้ขลาดและแผ่วเบาราวกับจะเลือนหายไปที่ดังมาจากข้างในตัวเอง โชโกะในท่านอนหงาย มองขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืน
“เอ๊ะ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวที่สวยขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ”
เมื่อรู้สึกตัวอีกที ตรงนั้นก็คือท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแผ่กว้างออกไปแล้ว
MANGA DISCUSSION