ตอนที่122 : ทะเล แสงแดด และรีสอร์ทสุดหรู (10)
“เอ๋……?”
เสียง “เอ๊ะ” ที่ขุ่นมัวที่สุดหลุดออกมาจากปากของฮิคารุ
ผมเองก็ส่งสายตาไปว่า “ผู้หญิงคนนี้อยู่ดีๆก็พูดอะไรออกมาฟะ” แต่ทาคาซากิซังไม่ได้ใส่ใจอะไรและพูดต่อ
“หืม? ฮิคะไม่รู้สึกอยากทำอะไรเลยเหรอเวลาสวีทอยู่กับแฟนสองต่อสองน่ะ?”
“ม-ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึก… เอ่อ… เอ๊ะ เอ่อ… เอ๋…”
พอเจอคำถามที่ตรงเกินไป ฮิคารุก็ถึงกับสับสนจนขนาดผมยังไม่เคยเห็นมาก่อน
ทำไมวันนี้ถึงมีแต่เรื่องแบบนี้กันนะ
หรือว่าทุกคนโดนบรรยากาศและความร้อนของทะเลหน้าร้อนเล่นงานจนหัวลอยกันหมดแล้ว?
ก็เคยได้ยินอยู่ว่าผู้หญิงน่ะเวลาเล่นมุกลามกจะโหดกว่าผู้ชาย แต่นี่พวกเธอคุยเรื่องแบบนี้กันเป็นปกติเหรอเนี่ย
…ไม่สิ ไม่ใช่เวลามาคิดแบบนั้น
ฉันรู้สึกว่านี่มันมากเกินไปแล้วเลยแทรกเข้าไปในบทสนทนาของทั้งสองคน
“ทา-ทาคาซากิซัง… เรื่องแบบนี้มันละเอียดอ่อนเกินไปที่จะพูดกันตรงนี้นะครับ…”
“เอ๋~ แต่คาเงะปี้เองก็อยากทำใช่มั้ยล่ะ?”
“ม-ไม่… คือ ไม่ใช่แบบนั้น…”
“ก็ผู้ชายทุกคนชอบกันทั้งนั้นนี่~”
อ-อะไรกันเนี่ย ผู้หญิงคนนี้ คุยกันไม่รู้เรื่องสุดๆเลย…
เหมือนตัวละครสายเบอร์เซิร์กที่ไม่รับคำสั่งอะไรทั้งนั้น
ความใจกล้าเกินไปของเธอทำให้เผลอบ่นในใจออกมา
“ก็เพราะแบบนั้น ถ้าไม่ยอมให้เขาทำล่ะก็ เดี๋ยวเขาก็ไปมองผู้หญิงคนอื่น――”
“จิซาโตะ”
คำพูดของทาคาซากิซังถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของซากุระมิยะซังที่เรียกชื่อของเธอ
“หืม? มิยะมิยะ มีอะไรเหรอ~?”
“รู้จักคำว่า ‘ละเอียดอ่อน’ มั้ย?”
จากนั้นเธอก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เหมือนโกรธแทนพวกผม
“เอ~? ก็ฮิคะบอกว่าอยากถามอะไรก็ได้เองนี่~”
“พอเลย! มานี่มา!”
“อ๊าา~ ไม่เอา~!”
แล้วเธอก็จับเสื้อชูชีพของทาคาซากิซังลากออกไปจากพวกเรา
“ข-ขอโทษนะ ทั้งสองคน… จิซาโตะน่ะ รอตั้งแต่ก่อนมาแล้วก็เลยตื่นเต้นเกินไปหน่อย…”
“ม-ไม่หรอก ซากุระมิยะซังไม่ต้องขอโทษแทนก็ได้…”
“ก็ฉันเป็นคนขอให้พาเธอมาด้วยนี่นา… จิซาโตะ เธอก็ขอโทษด้วยสิ!”
“ขอโทษค่า~”
ทาคาซากิซังก็ขอโทษทั้งที่คอเสื้อเสื้อชูชีพยังถูกจับอยู่ราวกับแมวบ้าน
ตอนนั้นผมก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย แต่ฮิคารุข้างๆยังหน้าแดงก่ำแล้วก็ก้มหน้าไม่พูดอะไร
จากเมื่อกี้ที่อยู่ใกล้กันจนไหล่ชนกัน ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเธออยู่ห่างออกไปนิดนึง
“อ๊ะ ดูเหมือนว่ากำลังจะเร่งความเร็วแล้วล่ะ ควรจับให้แน่นไว้นะ”
คนที่ขับเจ็ตสกีข้างหน้าโบกมือมาทางพวกเรา เป็นสัญญาณว่าเขาจะเร่งความเร็วแล้ว ให้เราจับให้แน่นๆ
ผมรีบจับที่จับบนท่อยางแน่นๆ
จากนั้นเจ็ตสกีก็พ่นน้ำออกมาทางด้านหลังอย่างรุนแรง
หลังจากนั้นเพียงครู่ ความเร่งก็ส่งผลมาถึงพวกเรา
แรง G ถูกส่งมาในทิศตรงข้ามกับทิศทางที่มุ่งหน้าไป ร่างกายเราถูกกดลงและท่อยางกดตัวลงในน้ำ
ลมที่มีกลิ่นเค็มอ่อนๆตีเข้าหน้า และเวลาข้ามคลื่นก็รู้สึกถึงความลอยตัวอย่างประหลาด
เมื่อเจ็ตสกีเปลี่ยนทิศทางนิดเดียว แรงเหวี่ยงก็ทำให้แรงด้านข้างที่ส่งมาที่ท่อยางมากยิ่งขึ้น
เมื่อเจ็ตสกีที่ลากเราอยู่เลี้ยวไปเล็กน้อย ก็เกิดแรงเหวี่ยงกระแทกด้านข้างใส่ห่วงยางที่เรานั่งอยู่
เข้าใจแล้วล่ะ ถึงแม้มันจะดูน่ารัก แต่จริงๆแล้วเป็นกิจกรรมที่เร้าใจไม่น้อย
ขณะที่สามสาวกรี๊ดกร๊าดกันอยู่ ผมก็อดไม่ได้ที่จะเผลอวิเคราะห์สถานการณ์อย่างเยือกเย็นตามนิสัย
เราถูกลากอยู่อย่างนั้นต่อไปอีกสักพัก จนกระทั่งทุกคนดูเหมือนจะพอใจกันแล้ว กิจกรรมก็มาถึงจุดสิ้นสุด
เราถูกลากกลับไปยังท่าเรือเดิมอย่างช้าๆโดยเจ็ตสกี
“ระวังด้วยนะ ตอนลุกขึ้นอาจล้มได้”
ผมลงจากห่วงยางเป็นคนแรก แล้วยื่นมือไปช่วยฮิคารุที่กำลังจะลงตามมา—
“มะ…ไม่เป็นไร…ขอบใจนะ…”
เธอไม่รับมือผม และพยายามลงจากห่วงยางด้วยตัวเอง
ท่าทีห่างเหินของเธอทำให้ผมรู้สึกงุนงงอยู่พักหนึ่ง แล้วทาคาซากิก็ลงตามมา
“สนุกดีน้า~ แต่ต้องเกร็งจับตลอดเลย เหนื่อยชะมัด…”
ดูเหมือนจะเหนื่อยจริงๆ เธอเดินไปทางร่มเงาโดยไม่มาป้วนเปี้ยนแหย่ผมเหมือนเคย
สุดท้ายซากุระมิยะก็พยายามจะลงจากห่วงยาง… แต่ตอนนั้นผมสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ
“ซากุระมิยะซัง หน้าเธอดูไม่ดีเลยนะ? เป็นอะไรรึเปล่า?”
แม้จะมีเครื่องสำอางปกปิดอยู่ แต่สีหน้าของเธอก็ซีดจนน่าตกใจ
“เอ๋? อ๋า…อาจจะเมาเอาก็ได้นะ…แบบว่า มันแรงกว่าที่คิดไว้น่ะ”
เธอเหมือนไม่อยากให้คนเห็น รีบเดินผ่านหน้าผมไปพลางปิดหน้าไว้
“มิยาโกะ เป็นไรไหม…?”
“มิยะมิยะ เป็นห่วงนะ~”
สองคนที่กำลังจะเดินออกไปข้างหน้า กลับย้อนมาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“บอกว่าไม่เป็นไรไง… ไม่ต้องมารุมกันแบบนี้ก็ได้…”
“แต่ว่า ดูไม่ค่อยดีเลยนะ…”
“พักแป๊บเดี๋ยวก็หายแล้ว… เอาล่ะ ไปกันเถอะ สองคนไม่ต้องห่วงเราก็ได้นะ ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนนะ”
“ง่า~ มิยะมิยะ~ รอด้วยสิ~”
ซากุระมิยะเริ่มเดินไปคนเดียว ทาคาซากิก็รีบวิ่งตามไป
“มิยาโกะ…จะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ…?”
ฮิคารุพูดขึ้นเบาๆพลางมองแผ่นหลังของพวกเธอที่เดินจากไป
“ยังเดินเองได้อยู่ ก็คงไม่ถึงขั้นแย่มั้ง”
“ก็หวังว่าอย่างนั้นนะ…”
ฮิคารุหันกลับมามองผม สีหน้าดูไม่ค่อยสบายใจ
พอเราสบตากัน ต่างฝ่ายก็ต่างรีบหลบตา
…ก็จะให้ไม่คิดอะไรหลังจากเรื่องเมื่อกี้ได้ยังไงกัน
“…ต่อไปเอาไงดี?”
“อืม…เริ่มอยากลงไปว่ายน้ำในทะเลแบบปกติแล้วล่ะ…”
“งั้นก็เอางั้นเลยละกัน…”
“อื้ม…”
ฮิคารุพยักหน้าเบาๆแล้วเริ่มเดิน
ปกติถ้าเป็นแบบนี้ เธอมักจะเป็นฝ่ายมากุมมือผมเองก่อนเสมอ
แต่ตอนนี้จิตใจเราทั้งสองฝ่ายอ่อนไหวเกินกว่าจะสัมผัสกันแบบนั้นได้ง่ายๆ
ถึงอย่างนั้น เราสองคนก็ไม่ได้เลือกที่จะไม่จับมือกัน
ในจังหวะเดียวกับที่ผมยื่นมือออกไป เธอก็ยื่นมือมาเช่นกัน
นิ้วมือเราค่อยๆสอดประสานกันทีละนิดอย่างแผ่วเบา
“ร…ร้อนเนอะ…”
“อื้ม…ร้อน…”
ไม่รู้ว่าเป็นอุณหภูมิของอากาศ หรืออุณหภูมิของตัวเราเอง
แต่ส่วนที่สัมผัสกันมันร้อนราวกับจะลุกเป็นไฟ
“ว่าแต่ว่า ฮิคารุ… เรื่องเมื่อกี้น่ะ…”
ผมเริ่มบทสนทนา ขณะที่พวกเราเดินเงียบๆไปทางทะเล
“เมื่อกี้…?”
“ก็ที่ทาคาซากิซังพูดไว้น่ะ…”
“เอ๊ะ…มะ หมายถึง…อะ อันนั้นเหรอ…?”
พอได้ยินคำพูดนั้น ฮิคารุก็ขยับตัวถอยห่างเล็กน้อย
“มะ…ไม่ใช่อันนั้น… แบบว่า เรื่องที่บอกว่าผู้ชายมักจะวอกแวกอะไรแบบนั้นน่ะ…”
“อ๊ะ…! มะ…หมายถึงเรื่องนั้นสินะ…!”
“ฉันไม่รู้ว่าผู้ชายคนอื่นเป็นยังไงนะ แต่ฉันจะไม่มีวันวอกแวกจากฮิคารุไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม… อยากให้เชื่อใจในจุดนั้นน่ะ…”
แม้จะยังไม่กล้าสบตา แต่เรื่องที่สำคัญที่สุด ผมก็อยากบอกเธอให้รับรู้ไว้ก่อน
ฮิคารุหยุดเดินอยู่ชั่วขณะ เหมือนจะตกใจเล็กน้อย แล้วก็พูดขึ้นว่า
“…จริงเหรอ?”
เธอบีบมือผมแน่น พร้อมส่งยิ้มซุกซนมาให้
“จะ…จริงสิ”
“แต่ว่า…เมื่อกี้ก็แอบมองชุดว่ายน้ำของมิยาโกะกับจิซาโตะใช่มั้ยล่ะ…?”
“บะ…เปล่านะ! ก็แค่หันไปทางนั้นบ้างเฉยๆ!”
“แค่หันไปบ้างก็คือมองแหละน่า…”
เธอมองมาด้วยแววตาเย็นเยียบแบบจ้องจับผิด
แต่ดูจากท่าทีแล้ว เธอคงแค่แหย่ผมเล่นมากกว่าจะจริงจัง
“ก็เราอยู่ด้วยกันนี่นา เหลือบไปเห็นในระยะสายตาก็เป็นเรื่องปกติ…”
ถ้าเธอจะแกล้งมาแบบนี้ งั้นผมเองก็—
“แต่ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำของฮิคารุน่ะนะ…ฉันคงจะจ้องแบบไม่ละสายตาจนเธอลำบากเลยล่ะ”
“เฮ้อ…เรย์ยะคุงเนี่ย…จริงๆเลยนะ”
เธอถอนหายใจ เหมือนจะหมดคำพูด
แต่ในจังหวะนั้นเอง เธอก็รูดซิปชุดว่ายน้ำลงจนสุด ด้วยท่าทางเบาๆราวกับว่าเธออยากให้ผมเห็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว
LEGEND FELLED
ผมได้รับ “ความทรงจำแห่งฤดูร้อนของฮิคารุและทะเล” มาแล้วล่ะ
MANGA DISCUSSION