ตอนที่64 : [สกิลใหม่ : จูบของคนรัก]
ตอนนี้… ตอนนี้เป็นเวลานั้นจริงๆงั้นเหรอ…?
โอกาสที่อยู่ๆก็ปรากฏขึ้นทำให้หัวใจของผมเต้นโครมครามอีกครั้ง
“ทำไมน่ะเหรอ… เอ่อ… พอรู้ตัวอีกที ร่างกายฉันก็ขยับไปเองแล้วล่ะ…”
“ทั้งๆที่อยู่ระหว่างทำงานพิเศษน่ะนะ? เพื่อฉันงั้นเหรอ?”
ผมตั้งใจจะใช้ ‘ข้ออ้างนั้น’ เป็นตัวแทนของความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมี
แต่พอเธอปูทางมาให้ขนาดนี้ ถ้าผมยังบ่ายเบี่ยงอีกก็คงเป็นผู้ชายที่น่าสมเพชเกินไปแล้ว
ผมจะไม่เป็นไอ้ขี้ขลาดที่คอยแต่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกต่อไปแน่
“ก็เพราะว่า… ฉันน่ะ… ฮิคารุ…”
“นายน่ะ…?”
“ฉันชอบ—”
ในตอนที่ผมกำลังจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกไป—
『อย่ามาขวางทางกันนะเว้ย! แกต้องตาย——ตู้มมมมมมมมม!』
ตัวละครที่ฮิคารุชอบ เบเร็ตต้า ถูกศัตรูร่างยักษ์เหยียบตายไปในอนิเม
บรรยากาศที่เคลิบเคลิ้มเมื่อครู่นี้พังทลายลงในพริบตา
ฮิคารุจ้องมองแท็บเล็ตตรงหน้าเธอด้วยสีหน้าราวกับวันสิ้นโลก
คำสารภาพรักครั้งสำคัญในชีวิตของผมสลายหายไปพร้อมกับชีวิตของเบเร็ตต้า
เราสองคนนั่งอึ้ง ขณะที่ตัวเอกของเรื่องก็ต้องพบกับจุดจบอันแสนเศร้า
สุดท้าย เนื้อเรื่องของเกมก็จบลงอย่างขมขื่นสุดๆโดยมีเพียงนางเอกที่รอดชีวิต
…เอาจริง ผมก็พอเดาได้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เพราะมันคล้ายกับ ‘Noir’ เป็นเรื่องแนวตัวร้ายเป็นพระเอก
แต่ให้ตายสิ… ทำไมต้องเป็นตอนนี้ด้วยวะเห้ย!?
บรรยากาศดีๆที่พยายามสร้างมาก็พังหมดเลย!
ฮิคารุสั่นไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรือความเสียใจกันแน่
“ศัตรูเมื่อกี้… ในเกมภาคหลักมันก็มีออกมาด้วยเหรอ?”
“เอ๊ะ? อะ… อืม… มันมีออกมาแหละ…”
“ถ้างั้น ฉันก็ต้องล้างแค้นให้เบเร็ตต้าเอง… ให้ทุกคนเลย!”
ฮิคารุขยับตัวเหมือนจะลุกไปที่คอมพิวเตอร์ที่เพิ่งลง OS เสร็จ
ผมเข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี
ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะฉีกเจ้าไซบอร์กร่างยักษ์นั่นเป็นชิ้นๆด้วยแมนทิสเบลด แล้วซัดกระสุนลูกซองใส่มันให้ร่วงอยู่เหมือนกัน
แต่—
“เดี๋ยวก่อน…!”
ผมคว้าแขนของฮิคารุไว้เพื่อหยุดเธอ
ถ้าผมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป ผมคงหาข้ออ้างผลัดวันประกันพรุ่งอีกแน่ๆ
ผมต้องเป็นผู้ชายที่คู่ควรกับเธอให้ได้
ถ้าเธอบุกมาก่อน ผมก็ต้องสู้กลับแบบไม่มีกำแพงป้องกันเหมือนกัน
“เมื่อกี้ฉันยังพูดไม่จบเลย…”
พอผมพูดแบบนั้น เธอก็หย่อนตัวลงบนเตียง
เธอจ้องหน้าผมนิ่งๆด้วยท่าทางสงบ
“เอ่อ… จะเริ่มจากตรงไหนดีนะ… จุดเริ่มต้นก็คงเป็นตอนปีหนึ่งเทอมสาม ตอนที่ฉันเดินกลับจากงานพิเศษแล้วผ่านสนามเทนนิส… ตอนนั้นฉันเห็นเด็กสาวที่เคยได้ยินแค่ข่าวลืออยู่บนคอร์ท เธอสวยมาก… แล้วก็ดูเท่มากด้วย… ตอนนั้นแหละที่ฉันเริ่มสนใจฮิคารุ”
ฮิคารุฟังเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
“แต่ตอนนั้น ฉันรู้สึกว่าเธอเป็นเหมือนคนที่อยู่คนละโลกกัน ฉันคิดเองเออเองว่าคงไม่มีทางได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกันแน่ๆ… แล้วพอวันนั้นเธอทักฉันในรถบัส ฉันเลยตกใจมาก… นึกว่าฝันไปด้วยซ้ำ แต่พอได้ใช้เวลาร่วมกัน ฉันก็ได้เห็นหลายด้านของเธอ เช่นว่าเธอหัวเราะยังไง… หรือว่าเธอก็มีเรื่องให้กังวลเหมือนกัน… จนกระทั่งความรู้สึกบางอย่างมันค่อยๆ เติบโตขึ้นมา…”
มือของเธอทับลงบนมือของผมอีกครั้ง
“เพราะงั้น… วันนั้นที่ฉันไปหาเธอ เป็นเพราะฉันไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของตัวเองได้แล้ว… สรุปก็คือ…”
มือของเธอกระชับแน่นขึ้น ราวกับกำลังส่งความกล้าให้ผม
“ฉันช่วยเธอ… เพราะว่าฉันชอบเธอ”
ผมบอกเธอด้วยเสียงที่แทบจะลืมหายใจ
“ได้ยินไม่ชัดเลย… พูดอีกทีสิ?”
…โหดร้ายชะมัด
“ฉันชอบเธอ… พอเห็นคนที่ชอบต้องเจ็บปวด ฉันก็อยู่เฉยไม่ได้ เพราะแบบนั้น ฉันเลยไปหาเธอวันนั้น…”
“เหรอ~… แหมม~… เรย์ยะคุงชอบฉันขนาดนั้นเลยเหรอ~…”
เธอยิ้มเยาะพลางทำหน้าเจ้าเล่ห์
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นแหละ… หรือว่าเธอไม่รู้ตัวเลยหรอ?”
“อืมม~ ก็ไม่แน่ใจแฮะ… แต่รู้สึกเหมือนจะพอเดาออกอยู่นะ…”
เธอหาเรื่องแกล้งผมเต็มที่
“แล้วของฉันล่ะ? นายรับรู้ความรู้สึกของฉันรึเปล่า?”
“อันนั้นก็พอรู้แหละ”
“ทำไมล่ะ?”
“ก็เธอบอกฉันหลายรอบแล้วไง”
“งั้นเหรอ… ถ้างั้นนายก็ต้องพูดให้เท่ากับที่ฉันพูดไปแล้วนะ”
“…ต้องขนาดนั้นเลย?”
“ใช่~ พูดสิ!”
ยอมแล้ว…
ผมตั้งใจจะเป็นฝ่ายรุกแท้ๆ แต่สุดท้ายก็สู้เธอไม่ได้เลย
“ฉันชอบเธอ”
ผมสบตากับเธอพลางพูดออกไป
“ขออีก…”
“ฉันชอบเธอๆๆ”
“ยังไม่พอ…”
“คาเงยามะ เรย์ยะ ชอบอาซาฮิ ฮิคารุจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว แถมยังอยากเป็นแฟนของเธอด้วย”
ผมพูดออกไปอย่างหมดฟอร์มพร้อมกับหน้าแดงจนรู้สึกเหมือนโดนเผา
แต่ผมก็รู้สึกได้ว่ามันมีค่าที่จะพูดออกไป
“อื้ม! ฉันก็ชอบคาเงยามะ เรย์ยะคุงเหมือนกัน!”
ฮิคารุยิ้มกว้างก่อนจะโน้มตัวมากอดผม
“ดีใจจัง… ว่าแต่ ไม่ไปล้างแค้นให้เบเร็ตต้าแล้วเหรอ?”
ผมแกล้งเบี่ยงประเด็นไปที่คอมพิวเตอร์
“อืม… ไว้หลังจากที่เรย์ยะคุงกลับก็ได้นี่นา… สำคัญกว่าคือ ตอนนี้เราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม?”
“ถ้าเธอไม่ขัดข้อง ฉันก็คิดว่างั้นนะ…”
“โอเค! งั้นเราเป็นแฟนกันแล้ว!”
…เร็วกว่าที่คิดแฮะ
“แต่ดูๆไปก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่เลยนะ?”
“งั้นเหรอ?”
“ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนี่นา…”
หรือว่านี่คือจุดเริ่มต้นของบางอย่าง…?
“นี่… อาจจะแย่ก็ได้นะ…”
“อืม… แย่สุดๆเลย…”
พวกเราสบตากันขณะที่ยังคงรู้สึกถึงไออุ่นนั้นอย่างชัดเจนและพึมพำความรู้สึกที่พร่าเลือนไป
ความอับอาย, ความสุข, ความตื่นเต้น, ความรัก
เหตุผลและสัญชาตญาณ
อารมณ์มากมายกำลังเอ่อล้นออกมาในอกจนแทบจะระเบิด
ทั้งหมดปะปนกันไปจนความรู้สึกมันดีเกินกว่าที่จะหาคำพูดมาอธิบายได้
ระดับของ ‘คนรัก Lv1’ นั้น หวานชื่นและเร้าใจกว่า ‘เพื่อน Lv99’ อย่างเทียบกันไม่ติด
“อะ- เอ่อ แล้วคนที่บ้านล่ะ… จะกลับมาเมื่อไหร่เหรอ?”
ผมทนความเขินอายมหาศาลนี้ไม่ไหว เลยเผลอเปลี่ยนเรื่องพูดออกไป แต่ว่า—
“คุณแม่… ถ้าตามปกติ ก็น่าจะอีกประมาณสองชั่วโมงกว่าจะกลับ…”
คำตอบที่ได้รับกลับยิ่งทำให้บรรยากาศในห้องร้อนอบอวนขึ้นไปอีก
“งั้นเหรอ… ยังเหลือตั้งสองชั่วโมงสินะ…”
ก่อนหน้านี้พวกเราก็เคยอยู่กันสองต่อสองหลายครั้งแล้ว
แต่การที่อยู่ในอารมณ์ที่พลุ่งพล่านแบบนี้ แค่หนึ่งนาทีก็ดูเหมือนจะอันตรายสุดๆ
บางทีอาจเป็นเพราะพวกเราต่างก็ได้สารภาพความรู้สึกกันแล้ว เพราะแบบนั้นเลยทำให้ตอนนี้สัญชาตญาณของผมมันเริ่มเรียกร้องหาเธอแทน
“งั้น… จะลองอีกครั้งไหม…? จูบของคนรัก…”
ฮิคารุพูดออกมาอย่างเขินๆ แต่ก็ดูเหมือนจะขอร้องอย่างจริงจังด้วย
ถึงจะรู้ว่ามันอันตราย… แต่ก็ไม่มีทางไหนที่จะต้านทานแรงดึงดูดอันแสนหวานนี้ได้ ผมจึงพยักหน้าตอบรับ
ฮิคารุหลับตาลงอีกครั้งเพื่อเตรียมรับสัมผัสของผม
ผมวางมือบนไหล่และเอวของเธอผ่านเนื้อผ้าแล้วค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้
การสัมผัสครั้งที่สอง
ล้ำลึกกว่าเดิม และยาวนานขึ้นกว่าเดิม…
ความอบอุ่นและความนุ่มละมุนแปรเปลี่ยนเป็นความสุขที่เหนือคำบรรยาย
ลมหายใจแผ่วเบาของฮิคารุที่เล็ดลอดผ่านริมฝีปากยิ่งทำให้รู้สึกเร้าใจมากกว่าเดิม
เมื่อถอนริมฝีปากออก พวกเราก็สบตากันอีกครั้งด้วยแววตาที่อบอวลไปด้วยความร้อนแรง
“ตอนนี้… ฉันรู้สึกมีความสุขที่สุดในชีวิตเลย…”
“ฉันก็เหมือนกัน…”
พอผมตอบกลับไป ริมฝีปากของเราก็ประกบกันอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
ครั้งที่สองดีกว่าครั้งแรก และครั้งที่สามก็ดีกว่าครั้งที่สอง
ยิ่งทำมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งถูกเติมเต็มด้วยความสุขอันล้นหลาม
อยากจะรู้สึกถึงฮิคารุให้มากกว่านี้…
เมื่ออารมณ์พุ่งสูงขึ้นจนเหตุผลควบคุมไม่ไหว มือที่วางอยู่บนเอวของเธอก็เลื่อนเข้าไปใต้เสื้อโดยไม่รู้ตัว
“เอ๊ะ…!?”
ปลายนิ้วที่สัมผัสโดนผิวกายอันนุ่มละมุนทำให้ฮิคารุสะดุ้งเฮือกพร้อมกับเผลอร้องเสียงหลงออกมา
“ข-ขอโทษ…!”
“ม-ไม่เป็นไร…! แค่รู้สึกจั๊กจี้เฉยๆ… ฉันบ้าจี้มากเลยล่ะ…”
“อะ- อย่างงั้นเหรอ…”
“อือ เพราะงั้น… ไม่ต้องกังวลหรอก… จะสัมผัสมากกว่านี้ก็ได้นะ…?”
เธอพูดด้วยใบหน้าที่แดงไปจนถึงใบหู
และคำนั้น… ก็ทำให้เส้นด้ายแห่งเหตุผลที่ยังเหลือติดตัวอยู่ขาดสะบั้นลง
“อื้ม…”
ผมจูบเธออีกครั้งพลางค่อยๆขยับพื้นที่สัมผัสให้มากขึ้น
จากปลายนิ้ว เป็นฝ่ามือ และมากกว่านั้น
ร่างกายของฮิคารุที่ผมสัมผัส ร้อนและนุ่มราวกับกำลังจะหลอมละลาย
“ไม่จั๊กจี้แล้วเหรอ…?”
“อืม… ไม่เป็นไร… กลับรู้สึกอุ่นๆ แล้วก็สบายดีด้วย… นี่ก็เป็นเพราะว่าเราเป็นคนรักกันแล้วสินะ…?”
ผมรู้สึกได้เลยว่าร่างกายของเธอที่เกร็งๆตอนแรกกำลังค่อยๆผ่อนคลายลง
ความต้องการที่จะสัมผัสฮิคารุให้มากกว่านี้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
“แต่… ฉันยังรู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อย… ขอจูบอีกครั้งได้ไหม…?”
“อืม… จะกี่ครั้งก็ได้แหละ…”
ผมตอบรับและประทับจูบลงไปอีกครั้ง
พวกเราจูบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า แลกเปลี่ยนความร้อนของกันและกัน
“อื้ม… อืออ…”
ความร้อนที่ส่งผ่านถึงกันค่อยๆทำให้ความตึงเครียดที่ยังเหลืออยู่ในร่างกายของฮิคารุละลายหายไป
ผมไม่คิดจะหยุดแล้ว และก็ไม่อยากจะหยุดด้วย
เมื่อปลายนิ้วที่ชอนไชไปตามผิวเนียนนุ่มกำลังจะเข้าไปลึกกว่านั้น—
“—!?”
เสียงเครื่องยนต์รถดังมาจากข้างนอกหน้าต่างทำให้ฮิคารุสะดุ้งเฮือก
เธอรีบหยุดทุกอย่างที่เรากำลังทำกันอยู่แล้วกระโดดลงจากเตียงทันที
เธอเดินไปที่หน้าต่างอย่างรวดเร็วและมองออกไปข้างนอกผ่านกระจก
“ม-มีอะไรเหรอ…?”
บรรยากาศที่ก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรมาขวางกั้น กลับถูกทำลายลงด้วยความตึงเครียดกะทันหัน
เมื่อผมถามออกไปพลางะมองแผ่นหลังของเธอที่กำลังมองลงไปด้านล่าง เธอก็หันกลับมาและพูดด้วยสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน—
“ขอโทษนะ เรย์ยะคุง… คุณแม่กลับมาแล้วอ่ะ…”
MANGA DISCUSSION