ตอนที่59 : แสง VS น้ำ
“ตรงไหนน่ะเหรอคะ…อืม…พอถูกถามแบบนี้ มันมีเยอะมากจนเลือกยากเลยง่าา…”
“ถ้างั้น… ‘ตรงนี้ชอบที่สุด!’ ล่ะ?”
“ชอบที่สุดเหรอ…งั้นคงเป็น…อยู่ด้วยแล้วรู้สึกสบายใจล่ะมั้ง?”
ฮิคารุพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยมั่นใจนัก
ถึงจะเคยได้ยินคำว่าชอบมาหลายครั้งแล้ว แต่พอได้ยินเหตุผลที่อธิบายออกมาเป็นคำพูดแบบนี้ กลับทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา
“อยู่ด้วยแล้วสบายใจ…?”
“ค่ะ พออยู่กับเรย์ยะคุงแล้วรู้สึกสบายใจ หรือไม่ก็…รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นของตัวเองได้…อะไรแบบนั้นน่ะค่ะ”
“เข้าใจแล้ว…ความรู้สึกแบบนั้น พี่เองก็พอเข้าใจเหมือนกัน”
“เอ๋? จริงเหรอคะ!?”
ฮิคารุพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ส่วนผมก็ดื่มน้ำเพื่อระงับความร้อนที่แล่นขึ้นมาจากความเขิน
“อืม…ตอนพี่อายุพอๆกับพวกเราก็เคยมีช่วงที่เกิดอะไรหลายอย่างขึ้นเหมือนกัน แต่ตอนนั้นพี่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากนิสัยแบบนั้นของเรย์ยะคุงเยอะเลยล่ะ”
“เห~…พอจะเล่าเรื่องตอนนั้นให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ?”
“เอ่อ…พอเถอะน่า…ยังมีลูกค้าคนอื่นอยู่ด้วยนะ…”
ถ้าปล่อยไปแบบนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความรู้สึกของผมคงถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี
คิดแบบนั้นจึงพยายามขัดจังหวะการสนทนา แต่กลับถูกเมินหน้าตาเฉย
“ตอนนั้นน่ะนะ…ตอนพี่ซึมเศร้าอยู่ อยู่ดีๆก็มีคนพุ่งเข้ามาในห้องแล้วก็ยื่นเครื่องเกมมาให้พลางพูดว่า ‘อันนี้เล่นคนเดียวไม่ได้ ยังไงก็ช่วยเล่นหน่อย’ อะไรแบบนั้น”
“อะฮะฮะ! อะไรเนี่ย น่ารักจัง~”
“นี่ นั่นมันเรื่องสมัยผมยังเด็กเลยนะ…”
“แปลกใช่ไหมล่ะ? แต่ความเป็นตัวเองแบบนั้นของเรย์ยะคุง…ไม่สิ น่าจะเรียกว่าความมุ่งมั่นของเขาดีกว่า ตอนนั้นพี่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากเขาเยอะเลย เราเองก็เหมือนกันใช่ไหม?”
“ใช่เลยค่ะ! แบบนั้นแหละค่ะ!”
“นี่…”
“จริงด้วยนะ…ตอนนั้นพอหนูหดหู่ อยู่ดีๆเรย์ยะคุงวิ่งมาให้กำลังใจนหนูตอนซ้อมเทนนิสเฉยเลย~”
“อ้อ~ งั้นตอนนั้นที่อยู่ๆก็พุ่งออกไปแบบนั้นเพราะเรื่องนี้เองสินะ…”
แม้แต่เรื่องราวในอดีตที่ฉันอยากลืมก็ถูกขุดขึ้นมาหมดสิ้น
ที่นี่คือสุดขอบของความอับอายแล้วสินะ…
ฆ่าผมเถอะ
“ตอนนั้นถึงจะตกใจมาก…แต่ถ้าไม่มีเรื่องนั้น หนูคงไม่ได้เป็นตัวฉันในตอนนี้แน่ๆ เพราะงั้นหนูถึงได้รู้สึกขอบคุณเรย์ยะคุงมากๆ แล้วก็…รักมากๆด้วยค่ะ!”
ฮิคารุพูดพลางเผยรอยยิ้มที่สดใสที่สุดในวันนี้ออกมา
ถึงแม้ HP ของผมจะลดลงเกือบเป็นศูนย์ไปแล้ว แต่แค่คำพูดนั้นก็สามารถทำให้มันกลับมาเต็มได้ในพริบตา
“ว่าไงล่ะ เรย์ยะคุง?”
“อ่ะ…อื้ม…”
“ดีใจไหม?”
“ก็…แน่นอนอยู่แล้วสิ…”
“จริงด้วยเนอะ คนที่ได้รับความรักขนาดนี้จากเด็กดีขนาดนี้ เรย์ยะคุงนี่โชคดีจังเลย”
อิจิรุซังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ้างว้างเล็กน้อย
“อื~ม…ได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความรักวัยรุ่นไปเยอะจนรู้สึกเต็มอิ่มเลย~ วัยหนุ่มสาวนี่ดีจังเลยเนอะ~”
“พูดเหมือนตัวเองแก่แล้วงั้นแหละ…”
ตอนที่ผมพูดกับอิจิรุซังที่เอนตัวพิงเก้าอี้อยู่นั้น—
“มินาโมริซัง มีแฟนไหมคะ?”
เหมือนว่าฮิคารุจะรอโอกาสนี้อยู่ เธอเลยถามคำถามนั้นขึ้นมาตรงๆ
“เอ๋? พี่เหรอ…?”
ดูเหมือนเธอจะไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าหัวข้อสนทนาจะเปลี่ยนมาที่ตัวเอง อิจิรุซังเลยมีท่าทีตกใจเล็กน้อย
“ค่ะ หรือว่า…จริงๆแล้วมีแฟนอยู่แล้วเหรอคะ?”
“มะ…ไม่มีหรอก…”
“แล้วคนที่ชอบล่ะคะ?”
“ก็ไม่มีเหมือนกัน…”
ไม่รู้ว่าเพราะพี่ชายของตัวเองหรือเปล่า แต่ฮิคารุรัวคำถามใส่อิจิรุซังไม่หยุด
เนื่องจากเป็นการจู่โจมโดยไม่ให้ตั้งตัว ฝั่งตรงข้ามจึงไม่มีโอกาสโต้กลับเลย
เธอคงกะจะต่อคอมโบไปถึงขั้น ‘สนใจพี่ชายของหนูไหมคะ?’ เลยล่ะมั้ง
“แล้ว…มีคนที่รู้สึกสนใจอยู่นิดหน่อยไหมคะ!?”
“อื~ม…ไม่แน่ใจแฮะ…ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยได้คิดเรื่องแบบนั้นเลยน่ะสิ…”
“งั้น…คนแบบไหนเป็นสเปคเหรอคะ!?”
ฮิคารุดูตื่นเต้นจนแทบลุกขึ้นจากที่นั่ง
เหมือนมีบัฟเพิ่มพลังโจมตีไป 1.5 เท่าเลย
“สเปคเหรอ…ไม่ค่อยได้คิดเรื่องนั้นเลย ไม่รู้เหมือนกัน…พี่น่ะไม่ค่อยสนใจเรื่องความรักมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ…”
แต่ถึงจะโดนจู่โจมแบบไม่ให้ตั้งตัว อิจิรุซังก็ฟื้นตัวได้เร็วและตั้งกำแพงป้องกันขึ้นอย่างแน่นหนา
ศึกตัดสินระหว่างพลังโจมตีสูงสุดของธาตุแสง vs พลังป้องกันสูงสุดของธาตุน้ำกำลังเริ่มขึ้น
ส่วนผมที่อยู่ข้างๆก็รู้สึกเหมือนเป็นตัวประกอบในมังงะแนวต่อสู้ที่ไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งกับศึกของตัวเอก
“งั้น…มีคนดังที่ชอบไหมคะ!? ไอดอล ดารา นักกีฬา หรือใครก็ได้!”
“อื~ม…ฉันไม่ค่อยสนใจเรื่องพวกนั้นเลยแฮะ…”
“เคยเห็นคนในโซเชียลหรือทีวีแล้วคิดว่า ‘คนนี้ก็ดีนะ…’ บ้างไหมคะ!?”
“พี่ไม่เล่นโซเชียล แล้วก็แทบไม่ได้ดูทีวีเลย…อ๊ะ แต่มีคนนึงที่ฉันรู้สึกว่าน่าสนใจอยู่นะ”
“ใครเหรอคะ!?”
“อาซาฮิ ฮิคารุจัง เทนนิสก็เก่ง เป็นนางแบบที่โด่งดัง นับถือจริงๆเลยล่ะ!”
ด้วยการเบี่ยงประเด็นที่เหนือชั้นนั้น ฮิคารุจึงได้แต่ร้อง “มุ~” ออกมา
“ผู้จัดการ~! มีออเดอร์จากลูกค้าใหม่ค่า~!”
เสียงของคาวาเสะซังดังมาจากฝั่งโต๊ะที่ติดกับทางเข้า
“ค่า~! เดี๋ยวไปค่ะ~! งั้นพี่ขอตัวกลับไปทำงานก่อนนะ ขอบคุณมากนะฮิคารุจัง ถ้ามีโอกาสก็มาอีกได้เสมอเลยนะ”
อิจิรุซังจัดเก้าอี้กลับเข้าที่แล้วเดินกลับไปที่ครัวด้วยสีหน้าที่ดูอารมณ์ดี
ขณะที่ฮิคารุแอบพึมพำว่า “สุดยอดไปเลย…” ซึ่งผมก็เห็นด้วยจริงๆ
*****
หลังจากกินมื้อเย็นเสร็จ พวกเรากลับมาบ้านและนั่งเรียงกันบนเตียงเพื่อดูอะไรบางอย่างแทนที่จะเล่นเกมเหมือนปกติ
“ว้าว…ฉากแอ็กชันในรถสุดยอดไปเลย!”
ฮิคารุอุทานออกมาอย่างตื่นเต้นพลางจ้องหน้าจอ สิ่งที่กำลังเล่นอยู่คือผลงานอนิเมะที่สร้างจากเกมไซเบอร์พังก์ชื่อดังที่วางจำหน่ายเมื่อไม่กี่ปีก่อน
เรื่องนี้ถูกปล่อยออกมาได้สักพักแล้ว และถึงจะอยากดูมาตลอด แต่ก็พลาดโอกาสดีๆตลอด
ดังนั้นคืนนี้พวกเราที่เหนื่อยล้าจากการออกไปข้างนอกจึงคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมจะใช้เวลาไปกับมัน
“มีเสน่ห์แบบเฉพาะตัวจริงๆนะ”
หากจะจำกัดความแนวของมันก็คงเป็นแอ็กชันนัวร์ไซเบอร์พังก์
บนหน้าจอ แก๊งของตัวเอกกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในเมืองยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยบรรยากาศไซเบอร์พังก์
“ว้าว…สนุกสุดๆเลย”
ในช่วงพักระหว่างตอน
ฮิคารุที่เหมือนลืมหายใจไปแววนึงถึงกับถอนหายใจออกมายาวๆ
“นั่นสิ แถมยังสามารถถ่ายทอดบรรยากาศของเกมต้นฉบับออกมาได้ดีมาก แต่ในขณะเดียวกันก็คงความเป็นอนิเมะญี่ปุ่นไว้ได้อย่างลงตัว…คุณภาพสูงมากจริงๆ”
ถึงผมจะไม่ได้ดูอนิเมะบ่อยนัก แต่ก็ยังสัมผัสได้ว่ามันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยม
ไม่แปลกใจเลยที่มันจะได้รับความนิยมไปทั่วโลกและช่วยให้กระแสของเกมต้นฉบับกลับมาอีกครั้ง
“จริงสิ เรื่องนี้สร้างจากเกมนี่นา งั้นพอดูจบแล้วต้องไปลองเล่นบ้างแล้ว!”
“อื้ม เกมต้นฉบับก็สนุกมากเลยนะ ควรลองเล่นให้ได้เลยแหละ ตอนเปิดตัวแรกๆอาจจะมีปัญหาหลายอย่างจนทำให้คะแนนรีวิวลดลง แต่คุณภาพของมันดีมากจริงๆ”
“เห~ งั้นฉันจะให้เกมนี้เป็นเกมแรกที่ได้เล่นบนคอมพิวเตอร์อันทรงเกียรติของฉันก็แล้วกัน!”
ฮิคารุพูดด้วยน้ำเสียงอวดดีอย่างไม่รู้สาเหตุ
ผมกังวลเรื่องฉากรุนแรงมาตั้งแต่ต้น แต่ดูเหมือนเธอจะชอบมันก็เลยโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาที่ยังเหลืออยู่
ไม่ใช่แค่ฉากโหดร้าย…แต่ยังมีฉากติดเรตเยอะพอสมควรเลย…
ตัวเอกหลักเองก็เซ็กซี่มาก แถมยังมีฉากที่เน้นจุดนี้ออกมาอย่างชัดเจน
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีฉากที่สื่อถึงเรื่องทางเพศหลายจุด และบางช่วงถึงขั้นแสดงฉากเปลือยโดยตรง
มันอาจจะไม่ถึงขั้นโจ่งแจ้งเกินไป แต่การดูเรื่องแบบนี้โดยมีผู้หญิงนั่งข้างๆทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย…
เหมือนกับตอนที่นั่งดูทีวีพร้อมครอบครัว แล้วอยู่ๆก็มีโฆษณาเกมมือถือแนวอนิเมะขึ้นมาหน้าจอ
ผมแอบเหลือบไปมองข้างๆ
ฮิคารุที่กำลังดูอยู่กลับไม่ได้แสดงท่าทีติดใจอะไรกับฉากติดเรตเหล่านั้นเลย เธอยังคงจับจ้องหน้าจออย่างจริงจัง
ได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้มังงะหรือซีรีส์ที่ผู้หญิงชอบก็มักจะมีฉากล่อแหลมพอสมควร บางทีเธออาจจะไม่คิดมากอะไรเลยก็ได้
พอคิดแบบนั้น ผมเลยเลิกสนใจและหันกลับไปดูต่อ
เรื่องดำเนินไปจนถึงตอนที่ตัวเอกที่เติบโตขึ้นในฐานะชายหนุ่มได้ครองรักกับนางเอก
ภายใต้แสงจันทร์ในยามค่ำคืน ฉากที่ทั้งสองแลกจูบอันเร่าร้อนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
…หืม?
ในตอนที่วางมือไว้บนเตียง ผมก็รู้สึกว่าปลายนิ้วสัมผัสกับอะไรบางอย่าง
สิ่งนั้นในตอนแรกสัมผัสเพียงเบาๆที่ปลายนิ้ว แต่จากนั้นก็เริ่มพันเกี่ยวเข้ามาอย่างอ่อนโยนและร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ฉากสำคัญกำลังเล่นอยู่ตรงหน้า เป็นฉากที่ไม่ควรพลาดแม้แต่วินาทีเดียว
แต่ไม่ว่ายังไร ผมก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองข้างๆ
“ฮิ…ฮิคารุ…?”
ฮิคารุที่ก่อนหน้านี้ยังจ้องจอด้วยความตื่นเต้น ตอนนี้กลับมองผมด้วยสายตาที่เร่าร้อน
แก้มของเธอขึ้นสีราวกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จ และเสียงหายใจของเธอก็ดูหนักหน่วง
หะ…หรือนี่จะเป็น…อาการเร่าร้อน…?
MANGA DISCUSSION