ตอนที่32 : การสารภาพครั้งเดียวในชีวิต
“เอ๊ะ? ยังไงนะ… อะไร… อะไรที่ดีที่สุด…?”
ตอนนั้นเองที่ผมพูดออกมาแบบไม่เข้าใจอะไรเลย อาซาฮิซังก็ยังคงจะงงอยู่
ผมรู้สึกเหมือนชนะการทอยเต๋าโดยบังเอิญและรู้สึกถึงความมั่นใจในการได้เริ่มต้นเทิร์นก่อน
เพราะพื้นฐานของผมที่ด้อยกว่า การที่จะเอาชนะเธอจากตรงนี้ต้องทำการโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัวเท่านั้น
“วันศุกร์ที่แล้ว…หลังจากที่ฉันผ่านการสอบกลางภาคมาได้อย่าหวุดหวิด ฉันก็รีบไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลังมาตุนไว้แล้วก็รีบกลับบ้านอย่างรวดเร็ว เป้าหมายก็คือ แน่นอนว่าคือการเล่นเกมที่ดองไว้ตั้งแต่วันนั้น”
หลังจากผใเริ่มพูดขึ้นอย่างกระทันหัน อาซาฮิซังก็ยังคงมีเครื่องหมายคำถามลอยอยู่บนหัว
แต่ผใยังคงเชื่อว่าผมจะทำให้เธอเข้าใจได้แน่
“พอกลับถึงบ้านก็เปิดเกมจากคอมเล่นทันที แน่นอนว่าพอฉันได้หลุดพ้นจากทุกอย่าง มันก็สนุกจนไม่รู้จะพูดยังไงเลย ฉันเล่นมันติดต่อกันเกือบทั้งวัน โดยไม่ได้นอนเลย…บางครั้งก็สั่งอาหารมาทานพร้อมกับเครื่องดื่มชูกำลัง มันไม่ค่อยดีต่อสุขภาพเลยแต่เป็นเวลาที่สนุกที่สุดแล้ว”
ผมนึกย้อนถึงความรู้สึกในตอนนั้นพลางพูดต่อ
“แล้ว…สิ่งที่ฉันอยากจะบอกก็คือ…”
ผมตั้งสติแล้วมองตาเธอที่ทำหน้างงอยู่
“ปีนี้ยังมีเกมใหญ่ๆที่จะออกมาอีกหลายเกม ฉันอยากสัมผัสประสบการณ์พวกนั้นไปด้วยกันกับเธอในแบบที่ไม่มีอะไรต้องกังวล…ตั้งแต่วันก่อนเกมจะออกก็จะสนุกกันไปกับการดูตัวอย่างเกมกัน แล้วพอเกมออกมาก็เล่นด้วยกัน แล้วก็หลังจากที่เล่นจบก็คุยกันเกี่ยวกับความรู้สึกตอนนั้น”
มันไม่ใช่ความคาดหวังหรือคำให้กำลังใจอะไรที่สวยงาม
ขอโทษที่ต้องพูดแบบนี้แล้วกัน แต่ว่าผมไม่คิดว่าอาซาฮิซังต้องเอาชนะความกดดันทั้งหมดนั่นให้ได้หรอก
เพราะงั้นมันเลยเหมือนเป็นคำสาปจากผมที่อยู่ในความมืด
ถ้าเธออยากจะหนีไปล่ะก็ ก็หนีให้สุดทางซะ
“ไม่ว่าเธอจะเป็นคนแบบไหน ถ้าเธอสามารถยิ้มอย่างจริงใจอยู่ข้างๆฉันล่ะก็…มันคงจะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับฉันแน่ๆล่ะ”
สุดท้ายไม่ว่าจะเลือกอะไร ผมก็หวังแค่ให้เธอยิ้มได้ในที่สุด
“…อืม”
หลังจากที่ฉันพูดออกมาอย่างยาวนานและร้อนแรง อาซาฮิซังก็ตอบแค่คำสั้นๆ
เมื่อมีลมเย็นๆพัดผ่านมาให้สมองเย็นลง ผมก็เริ่มเข้าใจความหมายของคำพูดตัวเอง
“ที่จะบอกก็คือ…ฉันอยากเล่นเกมด้วยกันกับเธออีกครั้งแค่นั้นเอง…ไม่มีความหมายอะไรแอบแฝงหรอก…ถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดก็เถอะ แต่…ครึ่งหนึ่งเป็นความตั้งใจของฉันเอง ส่วนอีกครึ่งน่ะอารมณ์ล้วนๆ…”
“ฉันเองก็อยากจะทำแบบนั้นเหมือนกัน”
อาซาฮิซังตอบรับคำพูดของผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ถึงฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไงในอนาคต…แล้วถ้าทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายไปหมด…ขอแค่เวลาที่ฉันเล่นเกมกับนายเท่านั้น ฉันอยากจะหัวเราะและสนุกไปกับมัน…ได้มั้ย…ถ้าเป็นแบบนั้น…ก็โอเคใช่มั้ย?”
“…แน่สิ คราวนี้เราเล่นเกมโง่ๆนั่นจนเช้าไปเลย แล้วก็หัวเราะกันให้พอเถอะ”
ผมตอบกลับไปตรงๆพลางมองตาเธอที่มีน้ำตารื้นอยู่ในดวงตาผ่านตะแกรงเหล็กแล้วแตะมือเล็กๆของเธอ
ไม่รู้ว่าความอบอุ่นนี้เป็นของผมหรือเธอ หรือไม่ก็อาจจะเป็นของเราทั้งคู่ก็ได้ แต่เราก็แลกเปลี่ยนความอบอุ่นของกันและกันผ่านตะแกรงเหล็กนั่น
ราวกับว่าในตอนนั้นมันเป็นกำแพงที่แยกเราออกจากกัน ถึงมันก็แค่ตะแกรงเหล็กธรรมดาๆก็เถอะ
“ฮิคารุ! ทำอะไรอยู่น่ะ!”
เสียงผู้หญิงที่ดูเหมือนแม่ของเธอดังขึ้นจากอีกฝั่งของคอร์ด
อาซาฮิซังตอบไปว่า “จะไปเดี๋ยวนี้แหลค่ะ” แล้วหันกลับมาหาผมอีกครั้ง
“ต้องกลับไปซ้อมแล้ว…ไว้เจอกันนะ”
“อืม เจอกัน”
เธอเช็ดน้ำตาด้วยชายเสื้อและตัดสินใจที่จะซ้อมต่อ
หลังจากนั้นเธอกลับไปหาคุณแม่และถือไม้แร็กเกต ดูเหมือนกับว่าเธอได้แสงสว่างแบบวันนั้นกลับมาแล้ว
หลังจากกลับถึงบ้าน ผมก็กลับมานอนบนเตียงแล้วนึกถึงตัวเองในวันนี้ก่อนจะรู้สึกเขินขึ้นมา
แล้วผมก็ได้รับข้อความจากอาซาฮิซังทาง PINE
『วันเสาร์นี้มีการแข่ง ฉันอยากให้คาเงยามะคุงมาดูด้วยนะ』
ในข้อความนั้นมีคำพูดที่แสดงถึงความตั้งใจอย่างแรงกล้าพร้อมกับสถานที่และเวลาในการแข่งขันถูกแนบมาด้วย
MANGA DISCUSSION