ตอนที่10 : เรื่องที่ฟังดูเหมือนเป็นบั๊ก
พอกลับมาถึงห้องเรียน อาซาฮิซังก็ยังคงอยู่ตรงนั้นในสภาพปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อายากะ ดูนี่สิ~”
“อะไรเนี่ย… เต้นอะไรของเธอ?”
“อันนี้กำลังฮิตอยู่เลยนะ ลองเต้นดูหน่อยสิ เดี๋ยวฉันถ่ายวิดีโออัปลงบัญชีของฉันให้”
“ไม่มีทางเด็ดขาด”
“เอ๋~ แต่ฉันว่านะ ถ้าอายากะเต้นนี่ต้องดังแน่ๆ เลย~…”
เธอยังคงหยอกล้อเล่นกันกับฮิโนะซังที่นั่งข้างๆระหว่างเตรียมตัวเรียนคาบที่ห้า
สำหรับเพื่อนร่วมห้องของเราในห้อง A คนหนึ่ง การสารภาพรักของเขาเป็นช่วงเวลาที่เดิมพันทั้งชีวิต แต่สำหรับเธอแล้ว… มันเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเท่านั้น
พอความรู้สึกเห็นใจนิดๆที่มีต่อเขาค่อยๆหายไป คาบที่ห้าก็เริ่มต้นขึ้น
O บ้าง C บ้าง H บ้าง— ตัวอักษรพวกนี้ถูกเขียนเรียงรายบนกระดานดำโดยอาจารย์สอนเคมีราวกับเป็นคาถาบางอย่าง
แต่สำหรับผม สมองตอนนี้เต็มไปด้วยข้อมูลเปรียบเทียบความได้เปรียบเสียเปรียบของตัวละครในเกมต่อสู้จนแทบไม่มีพื้นที่เหลือ
จะไปจำเรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน…
โมลคืออะไรฟะ ตัวเลขบ้าบออะไรนั่น เยอะเกินไปแล้วนะ…
สมองที่โดนขยี้เละในเกมช่วงกลางวัน ชักจะรู้สึกเหมือนสมองของผมเองขึ้นมาจริงๆแล้วสิ พอรู้ตัวอีกที คาบที่ห้าและหกก็ผ่านไปโดยที่ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่ในหัวเลย
“โอเค วันนี้พอแค่นี้ละ… พวกแกอย่าเพิ่งใจลอยไปกับช่วงโกลเด้นวีคละกัน… ถ้าใครก่อเรื่องขึ้นมา ฉันก็โดนเรียกไปด้วยนะเว้ย…”
อาจารย์ที่ปรึกษา ไทดะเซ็นเซย์ (หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘อาจารย์จอมขี้เกียจ’) พูดปิดโฮมรูมด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย
เย็นวันศุกร์มาถึง เพื่อนร่วมชั้นทั้ง 40 ชีวิตถูกปลดปล่อยออกไปพร้อมกัน
มีทั้งกลุ่มที่เตรียมไปเที่ยวเล่นและเข้าชมรมต่อ
กลุ่มที่ตั้งใจเรียนก็เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการอ่านหนังสือในห้องสมุดหรือการไปเรียนพิเศษ
ส่วนผมก็อยู่ในกลุ่มที่ไม่ได้คิดอะไรมาก นอกจากเก็บเอกสารที่แจกใส่กระเป๋าแล้วกลับบ้าน
“นี่ๆฮิคารุ ไปคาราโอเกะกันไหม? รวมกับเด็กห้องอื่นด้วย ประมาณหกคนได้”
เสียงของซากุระมิยะซัง หนึ่งในสาวป๊อปของห้องดังขึ้น
“คาราโอเกะเหรอ? ตอนนี้เลยหรอ?”
“ใช่ๆ! แล้วเดี๋ยวพวกเด็กจากโรงเรียนอาโอบะมินามิก็จะมาสมทบด้วยนะ ทุกคนบอกว่าอยากให้ฮิคารุไปด้วยมากๆ… นะ! ไปเถอะ!”
ซากุระมิยะซังกำลังพนมมืออ้อนวอนอย่างสุดความสามารถ
เธอเป็นหนึ่งในสาวที่เข้าถึงง่ายที่สุดในชูโยะอิน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่นักเรียนส่วนใหญ่ค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องเรียน แต่เธอมักจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดงานพบปะกับนักเรียนชายจากโรงเรียนอื่น
เพราะโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนสายวิชาการ นักเรียนหญิงบางคนที่อยากพบเจอหนุ่มๆที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าก็มักจะพึ่งเธอเป็นสะพานเชื่อม
ดูจากคำพูดของเธอ แม้จะไม่ได้พูดตรงๆ แต่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าในคาราโอเกะนั้นจะมีเด็กผู้ชายจากโรงเรียนอื่นด้วย
“ขอโทษน้า~ ฉันต้องไปซ้อมน่ะ ตอนนี้คงไปไม่ได้หรอก…”
อาซาฮิซังพูดพร้อมกับถือกระเป๋าใส่ไม้แรคเก็ตยาวอยู่ในมือ และปฏิเสธโดยไม่ต้องเสียเวลาคิด
“งั้นวันไหนถึงจะไปได้หรอ? ช่วงโกลเด้นวีคมีวันไหนว่างบ้างไหม?”
ซากุระมิยะซังยังไม่ละความพยายาม
“อืม~ วันพรุ่งนี้กับมะรืนนี้ฉันมีนัดแล้ว…”
“แล้ววันถัดไปล่ะ!? ต้องมีสักวันใช่ไหม!? เดี๋ยวพวกฉันจะปรับเวลาให้เข้ากับตารางของฮิคารุเอง!”
ถ้าเธอสามารถพาฮิคารุซังไปได้ ระดับของผู้ชายในงานต้องยกระดับขึ้นไปอีกแน่นอน
เสียงความคิดภายในของเธอแทบจะหลุดออกมาให้ได้ยินอยู่แล้วนะเห้ย
“นี่ๆ บางครั้งการได้ไปเที่ยวเล่นกับทุกคน ปล่อยตัวให้สบายๆบ้างก็ดีไม่ใช่เหรอ? เขาบอกกันว่าพวกนักกีฬาน่ะนะ การพักก็เป็นส่วนสำคัญเหมือนกันนะ?”
“อืม… นั่นก็จริงอยู่หรอก…”
อาซาฮิซังดูเหมือนจะลำบากใจกับการโดนคะยั้นคะยอแบบนี้
ทุกคนต่างรู้ว่าเธอไม่ใช่คนที่ปฏิเสธใครแรงๆ ได้ง่ายๆ
“พอเถอะน่า… อย่าชวนจนน่ารำคาญเลย ฮิคารุน่ะใกล้แข่งแล้ว กำลังยุ่งมากเลยนะ…”
และอย่างที่เห็น ฮิโนะซัง เพื่อนสนิทของเธอ มักจะเป็นคนเข้ามาขัดจังหวะแบบนี้เสมอ
“หะ… ทำไมประธานนักเรียนต้องเข้ามายุ่งด้วยล่ะ…? ไม่เกี่ยวกันเลยนี่?”
“ก็ฮิคารุดูเหมือนจะปฏิเสธยากฉันเลยพูดแทนให้ไง ถ้าจะหาผู้ชายก็หากันเองเถอะ”
ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นที่สมกับชื่อของเธอ ฮิโนะซังเล่นเอาซากุระมิยะซังถึงกับถอยกรูด
ตามที่ฮายาโตะเคยบอกไว้ อาซาฮิซังเป็นคนที่เฟรนด์ลี่เกินไปกับทุกคนและฮิโนะซังก็เปรียบเหมือนเป็นตัวแทนจัดการเรื่องพวกนี้ให้
เหมือนบอดี้การ์ดของบอสตัวโหดที่ต่อให้สู้ตัวต่อตัวก็ชนะยากสุดๆ
“ไปเถอะ ฮิคารุ”
“อ๊ะ อื้ม… ขอโทษนะ! ไว้ค่อยชวนใหม่นะ!”
อาซาฮิซังโดนฮิโนะซังจับแขนแล้วลากออกจากห้องไป
“เฮ้อ… ป้องกันแน่นหนาจริงๆเลยแฮะ…”
“พอมีผู้ชายอยู่ปุ๊บ ก็ไม่เคยไปเลยเนอะ”
“ว่าแต่… หรือจริงๆแล้วเธอมีแฟนอยู่แล้วกันแน่?”
“ไม่รู้สิ แต่ประธานนี่น่ารำคาญเป็นบ้า… คิดว่าตัวเองเป็นผู้จัดการรึไง?”
“เห็นด้วย แบบนั้นมันออกจะโอเวอร์ไปหน่อยจนสงสารฮิคารุเลยแหละ”
พอเจ้าตัวเดินออกไป พวกซากุระมิยะซังก็เริ่มพูดอะไรกันตามใจ
แม้ผมจะไม่ใช่คนที่จะกล้าเข้าไปขัด แต่บรรยากาศชักจะทำให้รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ผมเลยตัดสินใจรีบออกจากตรงนั้น
ในตอนที่เดินไปตามทางเดิน ผมก็อดคิดไม่ได้ว่าเรื่องของผู้หญิงนี่มันน่ากลัวจริงๆ
ต่อให้ดูเหมือนจะสนิทกันดี แต่ถ้าผลประโยชน์ขัดกันก็เป็นแบบนี้สินะ
แต่ถึงอย่างนั้น คนที่เผชิญหน้ากับพวกนั้นตรงๆแบบไม่สะทกสะท้านอย่างฮิโนะซังก็ถือว่าแกร่งจริงๆ
ทุกคนรู้กันดีว่าถ้าคิดจะจีบอาซาฮิ ฮิคารุ ก็ต้องผ่านเธอไปให้ได้ก่อน
“…อย่างน้อยก็น่าจะเป็นแบบนั้นแหละนะ”
ผมหยุดเดินกลางทางก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา
เปิดแอปแชท ‘PINE’ ขึ้นมาเช็กข้อความที่ได้รับตอนกลางวัน
‘งั้นพรุ่งนี้เจอกันเวลาเดิมนะ! จะเล่น SEKIHYO ต่อล่ะ!’
สถานการณ์พิลึกๆ ไอแบบนี้… มันคืออะไรกันแน่นะ?
MANGA DISCUSSION