หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 425 กู้หลิวเฟิงคนที่สอง
ตอนที่ 425 กู้หลิวเฟิงคนที่สอง
เกอซีเลิกคิ้วสูง “เจ้ายังมีใจคิดละเว้นเดรัจฉานผู้นี้กระนั้นหรือ ?”
ขณะกล่าว อีกมือของเกอซียังหยิบยื่นอาภรณ์ ชุดยาวพร้อมโอสถขวดหนึ่งจากมิติเวทส่งให้กู้หลิวเฟิง
อาภรณ์ชุดนี้แท้จริงล้วนประกอบด้วยคุณสมบัติ การป้องกันที่ประสมประสานร่วมทั้งวารี และอัคคีธาตุ สิ่งนี้คือสมบัติที่นางได้รับจากกระบวนการแลกเปลี่ยนอันเป็นธรรมในสวนสมุนไพรคราก่อน มันคือหนึ่งในสมบัติเวทเปี่ยมอานุภาพการป้องกัน อันเป็นสมบัติล้ําค่าหาได้ยากยิ่ง เพียงเป็นชุดของบุรุษจึงค่อนข้างใหญ่โตเกินกว่าเกอซีจะสวมใส่ เช่นนั้นมันจึงถูกทิ้งกระทั่งแทบถูกลืมอยู่ในมิติเวท
ยามนี้สิ่งนี้ย่อมเหมาะสมจะมอบให้กู้หลิวเฟิง
เพียงคิดว่าเขาตกอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทั้งร่างต่อหน้าซีเยว่ ใบของหน้ากู้หลิวเฟิงพลันแดง
ชายหนุ่มรีบลนลานรับอาภรณ์ชุดนั้นเข้าสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะทอดถอนใจยาวเพื่อเอ่ยคํา “พวกมู่หรงถือข้อมูลสําคัญที่สามารถใช้ในการต่อรองกับท่านแม่ของข้า ทั้งท่านแม่ยังตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมัน…เช่นนั้นสมควรรวบตัวมู่หรงหลินฟงไว้ใช้เป็นตัวประกันต่อรองกับพวกมันในวันหน้า”
อีกฝ่ายผงกศีรษะเห็นพ้อง ด้วยพลังฝีมือของกู้หลิวเฟิง หากคิดหลบหนี ย่อมไม่ปรากฏผู้ใดในสกุลมู่หรงแห่งนี้สามารถกั้นขวาง
ก่อนหน้า โจวเหยียนอันบอกเล่าแก่นางว่าหลิวเฟิงถูกจับกุมอย่างง่ายดาย เพียงเพราะสุกลมู่หรงทําความลับบางอย่างไว้
หากทว่าภายในใจของเกอซียังนึกกังขา ยิ่งเมื่อก้มลงดูเป้าหว่างขาที่อยู่สภาพแสนทุเรศทุรังของมู่หรงหลินฟง นางยิ่งนึกเคลือบแคลงสงสัย พวกมู่หรงจะยินยอมน้อมรับเงื่อนไขการต่อรองของหลิวเฟิง เพียงเพื่อเจ้าเศษสวะผู้นี้กระนั้นหรือ ?
ทันใดนั้นเองเกอซีพลันฉุกคิดบางสิ่งขึ้นได้ นางจึงขวางกู้หลิวเฟิงผู้หมายจะรวบตัวมู่หรงหลินฟงกลับในฐานะตัวประกัน
“ช้าก่อน” มุมปากของนางยกโค้งเผยความชั่วร้ายให้ปรากฏเล็กน้อย “ข้ามีวิธีที่ดีกว่านั้น”
นัยน์ตาของนางเปล่งประกายแวววาวขึ้นวูบหนึ่ง ใบหน้าที่เดิมปรากฏเพียงความเย็นชาเหินห่างไม่แยแสสิ่งใดยามนี้กลับแลดูเจ้าเล่ห์สดใสมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างประหลาด
กู้หลิวเฟิงยืนนิ่งตะลึงค้างอยู่กับที่ ขณะจับจ้องมองเกอซีสาละวนกับการจัดการตรงหน้า
มิรู้ชุดเครื่องมือปรากฏในมือของเกอซีตั้งแต่เมื่อไร เห็นเพียงนางโน้มร่างลงปัดขีดเขียนใบหน้าเรื่อยตลอดลงไปทั่วร่างของมู่หรงหลินฟง
เพียงอึดใจ หลิวเฟิงผู้จับจ้องมองมู่หรงหลินฟงเขม็ง กลับต้องตกตะลึงตาค้างอีกครา “นี่….นี่มัน….”
เบื้องหน้าสายตาของเขานี้ ย่อมต้องยังเป็นมู่ห รงหลินฟงอย่างแน่แท้ หากแต่ยามนี้ บุรุษเบื้องหน้ากลับมีใบหน้าเฉกเช่นเดียวกับตัวเขา-กู้หลิวเฟิง
กระทั่งร่องรอยบาดแผลยับเยินกลางเป้ากาง เกงล้วนถูกแปรสถาพกลายเป็นรอยแผลทั่วไป ภายใต้ฝีมืออันชํานิชํานาญของเกอซี
กู้หลิวเฟิงคล้ายตะกุกตะกักอึกอักอยู่นานกว่าจะร้องอุทานอออกมาด้วยความเหลือเชื่อ “ซีเยว่ เจ้า……เจ้าทําได้เช่นไร ? กระทั่งข้าส่งกระแสจิตสัมผัสหยั่ง ยังไม่อาจล่วงรู้ว่ามันเป็นตัวปลอม!”
เกอซียปากอมยิ้มพลางยื่นหน้ายืนตากล่าว “ยังไม่รีบจับ มู่หรงหลิวเฟิง” ไปมัดไว้อีกรึ ? ขอ เพียงมู่หรงหลิวเฟิงยังไม่หลุดรอดพ้นคุกใต้ดิน พวกเราย่อมยังพอมีเวลาหลบหนี แม้ไม่อาจรั้งได้ยาวนาน ทว่าย่อมไม่ต้องคอยระแวงเกรงพวกมันจะเอาความลับพวกนั้นมาต่อรองเจ้าอีกมิใช่หรือ
แววตาของหลิวเฟิงเผยความยินดีอย่างเห็นได้ชัด เขารีบตรงเข้ารวบร่างของมู่หรงหลินฟงผู้ยังอยู่ในสภาพมึนงง คล้องตรวนร้อยโซ่เหล็กดําอย่างแน่นหนา
ครั้นจัดการจัดฉากให้มู่หรงหลินฟงเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองจึงพากันเคลื่อนออกจากสถานที่แห่งนั้น ทว่าหลิวเฟิงกลับรีบรวบร่างของเกอซีเข้ามา พลางกระซิบเสียงเบา “มีคนมา !”
ภายใต้การเยียวยารักษาด้วยฝีมือของเกอซี พลังของกู้หลิวเฟิงสามารถเรียกคืนกลับกระทั่งเกือบสมบูรณ์
ยามนี้พลังฝีมือของกู้หลิวเพิ่งสามารถล่วงถึงระดับสูงสุดขั้นปฐพีสะท้านสะเทือน เช่นนั้นแม้เขามิได้แผ่กระแสกําหนดจิตหยั่งรู้ ความเคลื่อนไหวภายใต้รัศมี 3 จ้างโดยรอบล้วนไม่อาจหลุดรอดสายตาของเขาไปได้
*1 จ้างคือ 3.3 เมตร 3 จ้างประมาณ 10 เมตร
ทั้งคู่หันมามองสบตาเป็นนัยให้กัน ก่อนรีบหาที่หลบซ่อนตัว
ทว่าสถานที่ซ่อนกายช่างคับแคบร่างของคนทั้งสองแทบแนบสนิทติดกัน กระทั่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสมุนไพรจากร่างของเกอซีโชยขึ้นคลอเคลียอยู่กับปลายจมูกชายหนุ่ม ให้รู้สึกมึนงงอื้ออึง คล้ายถูกยาสั่ง “รัก” ชุดใหญ่ที่ส่งให้หัวใจของเขาเต้นระทึกราวกลองศึกสีแดงฉานพลันกระจายลุกลามทั่วดวงหน้า
กระทั่งยามนี้ เขาจึงเฟิงตระหนักในความจริง
เบื้องหน้าที่ปรากฏแก่สายตาของเขานี้คือดวงหน้าที่งดงามขาวสล้าง ผิวพรรณที่นุ่มเนียนละเอียด ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ร่างน้อย ๆ บอบบาง ช่างก่อกวนจิตใจให้ว้าวุ่น…
***จอบตอน หลิวเฟิงคนที่สอง***