หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 417
ตอนที่ 417 ที่สุด เกิดเหตุใด ?
ใบหน้าของเกอซียุ่งย่นเล็กน้อย นางยกมือขึ้นเช็ดใบหน้าถอดหน้ากากแปลงโฉมพลางกดเสียงเบาต่ํา “โจวเหยียนอันมองให้ชัดสิว่าข้าคือผู้ใด
“ซี….คุณชายซี !”
เสียงกระบี่ร่วงกระแทกพื้น ขณะโจวเหยียนอันกลับดูคล้ายลูกหนังไร้ลม สองขาของเขาทรุดอ่อนแรงร่วงลงไปกองกับพื้น
ฉับพลันกลับคล้ายฉุกคิดบางสิ่งขึ้นได้ ใบหน้าผู้ดูแลโรงโอสถพลันตื่นตระหนก เขาละล่ําละลักกล่าวซ้ําไปมา “คุณชายซี มิได้! ท่านหมอซีผู้อัจฉริยะ ! ท่าน…ท่านรีบไปเถิด รีบไปจากที่นี่เสีย อย่าได้มาที่นี่อีก !”
“ก่อนคุณชายจะจากไป คุณชายกับข้าให้ บอกท่านว่าอย่าได้พบปะติดต่อคุณชายอีก คุณชาย…คุณชายไม่ต้องการให้ท่านพลอยติดร่างแหไปด้วย เช่นนั้นข้อตกลงต่าง ๆ ที่เคยมีก่อนหน้าถือเป็นอันสิ้นสุด คุณชายซี โปรดรีบไปจากที่นี่เสียเถิดขอรับ !”
ทว่ากลับกัน เกอซีไม่หลีกจาก หากกลับแค่นน้ําเสียงเย็นชา “น่าขัน เจ้าบอกให้มา ข้าก็ต้องมา ให้ไปข้าย่อมต้องไปกระนั้นหรือ ? ข้า ซีเยว่ เป็นผู้ยึดถือถ้อยคําของตนเหนืออื่นใด ที่ข้าชิงชังคือการไม่ตอบแทนน้ําใจ”
“บอกมา เกิดเรื่องใดกับกู้หลิวเพิ่ง”
โจวเหยียนอันยืนจ้องเกอซีจนตาค้าง หนุ่มน้อย เบื้องหน้าผู้หล่อเหลาสองคิ้วคมเข้ม สองนัยน์ตาหงส์ใสกระจ่าง ผิวเนียนละเอียดราวเนื้อหยก แน่ชัดว่าคนผู้นี้เป็นเพียงหนุ่มน้อยผู้อ่อนแอ ทั้งยังแน่ชัดว่าคนผู้นี้หาได้มีพลังฝีมือสูงส่งไปกว่าขั้น ปราณที่สอง ปฐมภูมิโลกันตร์ หากแต่กลับแผ่กลิ่นอายแห่งความสูงส่งสง่างามอยู่เสมอ
คล้ายดั่งแม้ต้องประสบเหตุเลวร้ายหนักหนาสักเพียงไร เขาย่อมสามารถแบกรับได้ทุกสิ่ง
คล้ายดั่งแม้ต้องเผชิญภัยอันตรายท้าทายความตายสักเพียงไร ตราบเท่าที่หนุ่มน้อยผู้นี้ยังอยู่ ย่อมสามารถข้ามผ่านฝ่าความยากลําบากทุกสิ่งอันตรายทุกประการไปได้
ครั้นเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในอาณาจักรกําบัง ยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเทพธิดาบัวเยือกแข็ง เขาผู้เป็นยอดฝีมือขั้นที่สี่ปฐพี สะท้านสะเทือนยังทําได้เพียงทอดอาลัยอย่างสิ้นหวัง เพื่อรอคอยความตาย ทว่าหนุ่มน้อยผู้นี้กลับ พยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อต่อสู้กับเทพธิดาบัวเยือกแข็ง กระทั่งสามารถทําให้นางได้รับบาดเจ็บในที่สุด
หาก…หากเป็นถ้อยคําจากปากของหนุ่มน้อยผู้นี้ อาจบางที โอกาสรอดปลอดภัยของคุณชายจะยังพอมีหวังใช่หรือไม?
กลุ่มก้อนแห่งความหวังพลันแตกตัวฟุ้งกระจาย เต็มดวงใจของผู้ดูแลโรงโอสถ เขาย่อมตระหนักดีกว่าผู้ใด ความรู้สึกเช่นนี้ล้วนพิสดารเกินประมาณ กระนั้น เขายังคงขอฝากความเชื่อ แรงอธิษฐานไว้กับหนุ่มน้อยผู้มีพลังฝีมือเพียงขั้นปฐมภูมิโลกันตร์ผู้นี้
“นับแต่ออกจากอาณาจักรกําบัง โรงโอสถเพิ่งเต่อของเราพลันประสบวิกฤตอย่างหนัก ไม่เพียง คนสกุลมู่หรงยังมีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลยิ่งใหญ่คอยสร้างแรงกดดันให้พวกเรา”
“ชาวเมืองทั่วเหยียนจึงต่างพูดคุยกันหนาหูเรื่องของคุณชาย กระทั่งเรื่องส่วนประสมโอสถที่ขาดแคลนของโรงโอสถยังกลับกลายเป็นหัวข้อพูดคุยกันอื้ออึง การค้าโอสถของเราจึงประสบวิกฤตอย่างหนัก”
“คล้ายคุณชายจะมีลางสังหรณ์ จึงย้ําข้าว่าหากเกิดเหตุใดขึ้นกับคุณชาย ให้ข้าเร่งส่งสารถึง คุณชายซี ห้ามมิให้ท่านมาเหยียบเยือนที่นี่ มิว่า ด้วยเหตุใด นั่นเพราะคุณชายไม่ต้องการให้เรื่องพัวพันไปถึงท่าน”
เกอซีตอบกลับหน้ายุ่ง “เท่าที่รู้ ตระกูลมู่หรงบังเกิดยอดฝีมือขั้นสูงระดับปฐพี่สะท้านสะเทือนเพียงหนึ่ง ซึ่งคนผู้นั้นก็คือมู่หรงฉ่าย ผู้สิ้นชีพในอาณาจักรกําบัง ส่วนพวกที่เหลือ แม้พวกมันจะมีฝีมือถึงขั้นปฐพี่สะท้านสะเทือน ทว่าย่อมหาใช่คู่ประมือกู้หลิวเพิ่งไม่”
“หากกู้หลิวเพิ่งมีใจคิดหนี ผู้ใดจะต้านทานคนผู้นั้นไว้ได้ ?”
โจวเหยียนอันยกมือขึ้นปาดหยาดน้ําตาที่เอ่อคลอ “แต่แรก คุณชายจัดการเจ้าพวกนั้นจนกระทั่งแทบหมดสภาพ ทว่าภายหลัง มู่หรงฟงผู้คล้ายจะ เป็นผู้นําตระกูลในยามนี้ ส่งแผ่นหยกบันทึกความ ชิ้นหนึ่งให้คุณชาย”
“เพียงได้เห็นแผ่นหยกบันทึกความชิ้นนั้น คุณ ชายกลับหน้าถอดสีในทันที มู่หรงฟงผู้นั้นยังขู่เข็ญอีกว่า หากคุณชายไม่ยอมติดตามมันกลับไปแต่โดยดี มันจะโพนทะนาสิ่งที่บรรจุอยู่ในแผ่นหยกบันทึกความให้ผู้คนทั่วหล้าได้ล่วงรู้ และนั่นย่อมทําให้คุณชายไม่มีหน้าจะมีลมหายใจต่อไปอย่างแน่นอน จากนั้น นายท่านจึงไม่ต่อต้านขัดขืน ยินยอมให้คนพวกนั้นเอาตัวไปอย่างง่ายดาย”
เกอซีขมวดคิ้วมุ่น “ข้อความที่อยู่ในแผ่นหยกคืออะไรกัน ?”
“ผู้น้อยเองก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับ ทว่า สิ่งนั้นย่อมต้องเป็นความลับที่คุณชายไม่ปรารารถนาให้ผู้ใดล่วงรู้ แม้จําต้องแลกด้วยชีวิต” โจวเหยียนอันยังจดจําใบหน้าสิ้นหวังของผู้เป็นนายครั้งต้องอําลาจากได้อย่างชัดเจน ความเย็นสะท้านพลันแผ่ ซ่านไปทั่วขั้วหัวใจน้ําเสียงของเขาสั่นเครือ “คุณชายซี ท่าน…. พอจะมีหนทางช่วยเหลือคุณชายบ้างหรือไม่ขอรับ ?”
***จบตอน ที่สุด เกิดเหตุใด ?***