หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 412
ตอนที่ 412 บรรลุข้ามผ่านขั้นพลังปราณ
เกอซึ่งนงงชั่วครู่ ทว่าเพียงไม่นานความครุ่นคิดทั้งปวงพลันถูกปัดเป่าเมื่อนางเริ่มเข้าสู่กระบวนการฝึกฝนเคล็ดวิชาหม่าฮ่าซึ่งนางเป็นผู้รับถ่ายทอดอย่างจริงจัง
*หม่าฮ่า หมายถึง มหา คือยิ่งใหญ่
พลังอันน่าสะพรึงคนคร้ามของหม่าฮ่าล้วนเป็นสิ่งที่นางได้ประจักษ์ชัดแจ้งเมื่อครั้งประฝีมือกับอาวุโสเจียงนั่นยิ่งเป็นเหตุให้เกอซกระหายมั่นใจใคร่ฝึกฝนเคล็ดวิชานี้ให้ถึงผลสําเร็จ
หากนางฝึกฝนสําเร็จ นางย่อมสามารถปลดปล่อยพลังฝีมือได้หลายคราต่อเนื่องทั้งขณะเดียวกันย่อมสามารถลอกเลียนเคล็ดวิชาของคู่ต่อสู้ได้อีกด้วย
และหากเป็นเช่นนั้น ย่อมมิเท่ากับนางสามารถอยู่ยงคงกระพันกระนั้นหรือ ?
ทว่าสิ่งที่ทําให้เกอชีกลับต้องสลดก็คือนับแต่นางเผาผลาญพลังปราณในจุดตันเถียนของตนนางกลับไร้สามารถจะข้ามขั้นพลังปราณเลื่อนขั้นพลังฝีมือ
นางกลับไปยังเรือนเบี้ย เพื่อให้อู่ซินแสดงเคล็ดวิชาสุดยอดของตนแม้นางพยายามลอกเลียนกระบวนท่าที่เห็นล้วนกลับไม่บังเกิดผล
เกอซีนั่งขัดสมาธิภายในห้องฝึกฝนในตําหนักเพลิงสวรรค์ภายในมิติเวท ยามนี้หญิงสาวกําลังนึกใคร่ครวญภาพฉากการต่อสู้ระหว่างนางกับอาวุโสเจียงในแต่ละกระบวนท่า
ตลอดช่วงเวลาที่กระบวนท่าการต่อสู้เคลื่อนขยับอย่างเชื่องช้าภายในหัว ขุมพลังปราณทั่วกายของหญิงสาวก็โคจรเคลื่อนติดตามอย่างไม่หยุดยั้ง
คลื่นพลังเริ่มหมุนโคจรเร็วขึ้น เร็วยิ่งขึ้นไม่ช้ากลับก่อกําเนิดคลื่นพลังที่หมุนวนขนาดน้อยกลางจุดตันเถียน
ทันทีที่คลื่นพลังหมุนวนบังเกิด เกอซีพลันรับรู้ได้ถึงจิตใจที่ปลอดโปร่ง กระจ่างแจ้งในทุกสิ่งปัญญาเฉียบคมลุ่มลึกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ทุกสิ่งโดยรอบกลับกลายงดงามแสนวิเศษสุดเปรียบปาน เสมือนหนึ่งทุกสิ่งที่ปรากฏล้วนเป็นส่วนหนึ่งแห่งร่างกายของนางไร้เครื่องปกปิดกั้นขวาง
สามารถสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังจิตวิญญาณกระทั่งสารอาหารซึ่งเอิบอาบในพฤกษาเวทที่ได้รับการเพาะปลูกอยู่ในสวนสมุนไพรทั้งยังสามารถ แยกแยะความแตกต่างตลอดทุกคุณสมบัติของผีนดินทุกตารางนิ้วในผืนธรณีลํานําศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล
ก่อนหน้า เกอซียังไม่เคยฝึกฝนเคล็ดวิชาเทวะเหล่านี้เพียงเผยอเปลือกตา ทุกสิ่งโดยรอบในรัศมี 3 จ้างทั้งภายในและภายนอกมิติเวทพลันปรากฏชัดเจนภายในใจ
*1 จ้างประมาณ 3.3 เมตร 3 จ้างประมาณ 10 เมตร
ความรู้สึกเช่นนี้ยอดเยี่ยมเกินประมาณไม่เพียงจิตวิญญาณจะแจ่มกระจ่างชัดกว่าก่อนหน้าเท่านั้นความรู้สึกเช่นนี้ยิ่งส่งให้นางกลับรู้สึกถึงความเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรนี้อย่างแท้จริง
หากเกอซีใช้เวลาอยู่กับโลกแห่งนี้ยาวนานกว่านี้อีกสักนิดย่อมสามารถตระหนักซึ่งว่าขั้นพลังฝีมือนี้มีนามว่า —- สมาธิจิตกระจ่าง1 – – สมาธิจิตกระจ่าง
ตลอดทั่วแถบทวีปหมีหลัวแห่งนี้กระทั่งยอดฝีมือผู้สามารถบรรลุถึงขั้นสูงสุดของพลังปราณขั้นห้าย้ายเคลื่อนจิตวิญญาณล้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถบรรลุถึงพลังฝีมือขั้นนี้ขั้นพลังทางจิตขั้นนี้คือสิ่งถูกกล่าวขานเพียงในตํานานเท่านั้น
กระบวนการฝึกปรือเคล็ดวิชาของผู้ได้รับการสืบทอดหม่าฮ่าล้วนสามารถส่งเสริมเร่งเร้าพลังปราณของผู้ฝึกยุทธให้ก้าวหน้ารวดเร็วฝ่าฝืนบังคับให้ปราณพลังของผู้ฝึกถูกผลักดันขับส่งกระทั่งก้าวล่วงข้ามพันขั้นพลังทางจิตขั้นนี้
เพียงทว่าพลังฝีมือของเกอซีในยามนี้คงสามารถรั้งอยู่ในพลังจิตขั้นนี้เพียงเสี้ยวนาทีก่อนจะหลุดออกจากพลังการรับรู้ทางจิตขั้นนี้
หนึ่งขวบเดือนผ่านไปเกอซีจึงออกมาจากมิติเวทด้วยความรู้สึกที่ท้อแท้
ตลอดช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้นางเร่งเร้าพลังปราณเพื่อฝึกฝนตามเคล็ดวิชาของทายาทผู้สืบทอดหม่าฮ่าอย่างต่อเนื่องไม่หยุดไม่พัก
หากแต่ผ่านไปร่วมเดือน นางกลับทําได้เพียงแตะขอบธรณีประตูของมหาเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่
ชุดนี้
ส่วนเคล็ดวิชาสมาธิจิตกระจ่างที่สามารถเสริมส่งให้นางลอกเลียนเคล็ดวิชาผู้อื่นก็คือสิ่งที่นางสามารถประคองรักษาไว้ได้เพียงชั่วสามวินาที เท่านั้น
สามวินาที เป็นช่วงเวลาที่สั้นเหลือประมาณหมายจะลอบลักเคล็ดวิชาผู้อื่นเพียงชั่วสามวินาทีล้วนเป็นเพียงความเพ้อฝัน
เพียงมังกรทองตัวจิ๋วผู้กําลังฝึกปรือพลังฝีมือของตนอยู่ไม่ไกลได้ยินเสียงเผลอบ่นพร่ําตัดพ้ออยู่คนเดียวของเกอซีมุมปากทั้งคู่ของเจ้ามังกรกลับต้องกระตุกนึกใบหน้าเหยเกท่าที่อีกอัก
นายท่านสามารถบรรลุขั้นพลังฝีมือรวดเร็วเกินขีดจํากัดถึงเพียงนี้กลับยังมิอาจสร้างความพึงพอใจให้บังเกิด !
ขั้นตอนการฝึกตนให้สามารถล่วงถึงปากประตูทางเข้าทายาทแห่งมหาเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่นั้นคือขั้นการฝึกฝนที่ยากเย็นลําบากอย่างที่สุดแล้วผู้ฝึกยุทธทั่วไปล้วนจะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝนร่วมขวบปีกว่าจะสามารถเห็นแม้เพียงขอบธรณีประตูของมหาเคล็ดวิชาชุดนี้
นายท่านคนก่อนของเขาคือผู้คิดค้นเคล็ดวิชาทายาทแห่งมหาเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่ซึ่งก็คือหม่าฮ่าชุดนี้หากแต่คราแรกที่นายท่านลอกเลียนเคล็ดวิชาของผู้อื่นกลับต้องประสบความล้มเหลว
หากแต่นายท่านผู้นี้ของเขาเล่า ? เพียงคราแรกที่ทดลองเคล็ดวิชานางกลับสามารถลอบลักเคล็ดวิชาคู่ต่อสู้มาได้ถึงสองเคล็ดวิชาทั้งยังเป็นเคล็ดวิชาซึ่งต้องใช้พลังสูงส่งแปลกประหลาดกระทั่งยามนี้ที่ขุมพลังปราณของนางยังอยู่เพียงขั้นที่สามพลิกผันอเวจี นางกลับสามารถแตะปากประตูของมหาเคล็ดวิชาอันยิ่งใหญ่นั่นคือวิชาสมาธิจิตกระจ่าง
ถึงเพียงนั้น นางกลับรู้สึกว่าตนฝึกฝนได้เชื่องชํานายท่าน ! หากเป็นเช่นนั้นผู้ฝึกยุทธท่านอื่นคงมิต้องมีชีวิตอยู่แล้วกระมัง !
***จบตอนบรรลุข้ามผ่านขั้นพลังปราณ***