หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 406
ตอนที่ 406 เรียกข้าว่าท่านพ่อ
ต้านต้านกระพริบดวงตากลมโตปริบ ๆ พลางยื่นหน้ายื่นตาตอบ “พี่ชายคนงามเป็นคนดี ยังเคยช่วยท่านแม่ไว้หลายต่อหลายครา”
“ยังมีต้านต้านเคยเห็นท่านแม่เล่นไล่จูบกับพี่ชายคนงามด้วย…..หลงหลง เอาเปรียบ” มันคืออะไรกระนั้นหรือ ?”
มังกรทองตัวจิ๋ว “…” เมื่อโลหิตหยินบริสุทธิ์ไหลซึมผ่านลงถึงช่องท้อง ความร้อนแรงในจุดตันเถียนของเกอซีพลันเพิ่มทวีคล้ายน้ําพุร้อน ยามนี้ขุมพลังภายในเริ่มค่อย ๆ กลับคืนสภาพดังปกติ
หนานกงยวทาบฝ่ามือซ้ายของตนลงบนแผ่นหลังของหญิงสาว เขาค่อย ๆ ถ่ายเทพลังปราณลงสู่ร่าง เพื่อฟื้นฟูจุดตันเถียนซึ่งกําลังถูกขุมพลังของนางแผดเผาอย่างระมัดระวัง
ผ่านไปกว่าชั่วเผาหนึ่งก้านธูป ความเจ็บปวดที่เคยปรากฏบนดวงหน้าของหญิงสาวเริ่มเลือนหายกลับกลายเป็นความเรียบสงบ
หากทว่าสีหน้าของหนานกงยวกลับซีดเซียวราวซากศพ นัยน์ตาที่เดิมที่แสดงถึงความอ่อนล้า ยามนี้ยิ่งกลับหมองคล้ํามืดหม่น
อู่ซินผู้ยืนเฝ้าอยู่ด้านข้างเริ่มกระวนกระวาย ครั้นเมื่อเขาขยับหมายสับเปลี่ยนเป็นผู้ถ่ายทอดพลังปราณให้เกอซี กลับถูกสายตาเย็นชาของผู้เป็นนายถลึงต้องใส่ทันควัน
หนานกงยวี่ยกฝ่ามือขึ้นสัมผัสหน้าผากของเกอซี เพื่อความมั่นใจว่ายามนี้อาการพิษไข้ของนางลดกระทั่งเป็นปกติ ชายหนุ่มจึงคลายมือถอนใจยาวก่อนจะเหยียดฝ่ามือขึ้นปาดเช็ดหยาดเหงื่อบนหน้าผากของหญิงสาว
บรรยากาศภายในห้องกลับกลายเงียบสงัดวังเวง ชายหนุ่มยังคงตระกองกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนอย่างแนบแน่น สายตาของเขาไม่เคยผละจากนางแม้เสี้ยวนาที
เขาปรารถนาจะอยู่กับนางเช่นนี้ตลอดไป มีนางอยู่เคียงข้างกายเช่นนี้ตลอดไป ทว่ายามนี้ย่อมมิอาจ
หากภารกิจในครานี้ยังไม่บรรลุผล แม้นเกอซีสามารถรั้งอยู่ข้างกายเขาได้จริง ย่อมต้องเผชิญต่อภัยอันตรายนับไม่ถ้วนในแต่ละคืนวัน ทั้งอาจถึงระดับที่นาง…..ต้องเผชิญหน้ากับความตายอันโหดร้าย
และนั่นล้วนเป็นสิ่งที่เขามิอาจทน เขามิมีวันยินยอมให้เป็นเช่นนั้น แม้การปกป้องนางต้องแลกด้วยชีวิตของตน เขาก็พร้อมยอมพลี
หนานกงยวี่ค่อย ๆ คลายท่อนแขนแกร่งก่อนขยับลุกขึ้น “ข้าจําต้องไปแล้ว ฝากเจ้าดูแลนางด้วย”
“ยังมี อย่าได้บอกเกอซีให้ล่วงรู้การมาเยือนของข้า ทั้งเจ้าย่อมมิได้รับอนุญาตให้บอกกล่าวแก่ผู้ใดอื่น”
สิ้นสุดเสียงสั่ง ชายหนุ่มบ่ายหน้ามาหาเจ้าตัวน้อย ผู้ยังคอยเฝ้าอยู่ข้างเตียงเกอซี “พวกเจ้าได้ยินข้าชัดเจนใช่หรือไม่ ?”
ทั้งมังกรทองตัวน้อย และต้านต้านต่างรีบผงกศีรษะรับหมึกหงักโดยพร้อมเพรียงท่าทางคล้ายทั้งคู่กําลังถูกขู่ให้เสียขวัญ หากแต่ท่าทางของเจ้าตัวน้อยทั้งสองกลับทั้งน่ารักน่าเอ็นดูอย่างเหลือประมาณ
หนานกงยี่โน้มกายลงประทับจุมพิตแผ่วเบาบนหน้าผากของเกอซี ก่อนจะหมุนกายคล้อยหลังเตรียมผละจาก
ทว่าเพียงฝ่าเท้าเฉียดใกล้ธรณีประตู ชายหนุ่มหันขวับกลับมาอีกครา สายตาที่เรียบสงบเย็นยะเยือกจับจ้องอยู่กับต้านต้านอย่างแน่วแน่ น้ําเสียงคมเข้มขุ่นมัวดังขึ้น “เจอกันคราหน้า จงอย่าได้เรียกข้าว่า “พี่ชายคนงาม” อีกเป็นอันขาด เจ้าต้องเรียกข้าว่า “ท่านพ่อ” ได้ยินชัดเจนหรือไม่?”
“ได้ยิน….ได้ยินชัดเลย” ใบหน้าผู้รับฟังยังดูงง ๆ เงอะ ๆ งะ ๆ ทว่าภายใต้แววตาดุเข้มของหนานกงยวี่ ต้านต้านจึงจําต้องพยักหน้าหงิกหงักรับอย่างเด็กว่านอนสอนง่าย
อู่ซินยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก นายท่าน ! นี่นายท่านถึงกับฉวยโอกาสแสดงอํานาจขู่เข็ญสัตว์เวทของพระชายา ยามที่นางสลบไสลมิได้สติด้วยพิษไข้เชียวหรือ ? เยี่ยม ! เยี่ยมมากนายท่าน ! ทว่าหากความทรงจําของเขามิได้ผิดเพี้ยน พระชายา ยังมิได้ตอบรับการตบแต่งเข้าวังมัจจุราชมิใช่หรือ ?
*****
เป็นการหลับใหลที่ยาวนานคล้ายไร้วันเวลาสิ้นสุด
ความเจ็บปวดร้อนรุ่มราวเพลิงผลาญติดตามรังควานนางกระทั่งในห้วงแห่งนิทรา ราวถูกจับโยนเข้าในเตาหลอมของไท่ซ่างเหล่าจวินเหมือนซุนหงอคง* มันร้อนไหม้แผดเผาทั่วทุกอณูกาย
*ตามตํานานการเดินทางของพระถังซ้ํารั่ง ซุนหงอคงถูกจับยัดใส่เตาหลอมโอสถของไท่ซ่างเหล่าจวินที่วังโตวลูกง ซุนหงอคงทําให้เตาหลอมโอสถระเบิดกลายเป็นสะเก็ดไฟตกลงมายังโลก จึงเป็นเหตุให้เกิดภูเขาไฟที่ร้อนระอุ
ทว่าขณะที่ความทรมานเช่นนั้นดําเนินต่อเนื่องยาวนานพอควร ใครบางคนกลับโอบประคองนางไว้ในอ้อมแขน
ช่างเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นชวนเพ้อฝันอย่างเหลือแสน หากทว่ากลับนําพาเศษเสี้ยวแห่งความคุ้นเคยบางประการติดตามมาด้วย นําพาร่างกายและจิตใจให้ผ่อนคลายเบาสบาย
เพียงมินาน สายธารใสเย็นเฉียบราวแท่งน้ําแข็งประสมกรุ่นกลิ่นหอมอายโลหิตพลันไหลซึมแทรกผ่านลําคอ ซึมซาบล่วงเลยเข้าสู่ฐานพลังแห่งจุดตันเถียน
ติดตามมาด้วยการเลื่อนสลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยของความเจ็บปวดทรมานที่แผดเผาร่างกายเมื่อครู่ก่อน กระทั่งขุมพลังในจุดตันเถียนกลับเอิบอาบชุ่มชื่นด้วยพลังปราณอันหนาแน่น ผ่านสายโลหิตจุดตันเถียนที่แห้งเหือดพลันค่อย ๆ ฟื้นพลังกลับคืนที่ละน้อย
แสงตะวันที่อบอุ่นสาดทอประดับดวงหน้างดงามที่ขาวสะอาดให้ทอประกายระยิบระยับพร่างพรายในยามรุ่งสาง มันลูบไล้ผ่านผิวพรรณเนียนละเอียดดั่งเนื้อหยก เคล้าคลอไปตามเรือนผมนุ่มที่เงางามดั่งไยไหม
แผงขนตายาวสั่นระริกเล็กน้อย เมื่อเปลือกตาทั้งสองของหญิงสาวค่อย ๆ เผยอเปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า
“ท่านแม่– !!” ยังมิทันทบทวนเข้าใจเรื่องราวใด เกอซีพลันรู้สึกถึงบางสิ่งที่หนักอึ้งอ้วนตันสั้นกลมพุ่งกระแทกเข้าใส่อ้อมอกของนาง เพียงมิช้า เสียงร่ําไห้ราวเด็กตัวน้อยที่คุ้นหูพลันดังกระทบโสตประสาท
***จบตอน เรียกข้าว่าท่านพ่อ***