หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 403
ตอนที่ 403 สถานการณ์พลิกผัน
เพียงได้ยินสิ่งที่บุตรชายเอ่ยกล่าว เฟิงเทียนป้าถึงกับสะดุ้ง เขาส่ายหน้า “บุญคุณช่วยชีวิตกระนั้นหรือ ? หึหึหึ…”
น้ําเสียงของเขาพลันเปลี่ยนผันเป็นอาการแห่งความเย้ยหยัน ทั้งที่ยังกล่าวคํามิทันจบ
ครั้นเมื่อเฟงอวิ่นจึงแสดงท่าที่คล้ายจะเอ่ยปากถาม เฟิงเทียนป้ากลับยกมือโบกปัดทันที “ทั้งหมดที่เจ้าจําต้องตระหนักมีเพียง อย่าได้คิดยั่วโทสะหนานกงยวี่ เท่านั้นย่อมเพียงพอ”
“ส่วนเรื่องซีเยวผู้นั้นจงไปติดตามสืบมาอย่างลับ ๆ หากเจ้าสามารถจงลอบติดต่อคนผู้นี้ไว้อย่าได้กระโตกกระตาก”
“หากมันฉลาด ด้วยสถานภาพของตระกูลเฟิงเรา ข้าไม่เชื่อว่าเพียงหนุ่มน้อยด้อยพลังฝีมือขั้นปฐมภูมิโลกันตร์จะไม่โอนอ่อน ขอเพียงซีเยรูผู้นี้ยินยอมเห็นพ้องกับพวกเราตระกูลเฟิง เช่นนั้นแล้ว หนานกงยี่ย่อมไม่อาจกระทําสิ่งใดได้ เจ้าว่าจริงหรือไม่ ?”
เฟิงอวิ๋นจิ่งกัดกรามแน่น “ทว่าท่านพ่อยามนี้ หนานกงยวี่กลับแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งยังไม่ยอมผูกสัมพันธ์กับพวกเราด้วยการสมรส ข้าเกรงว่า เบื้องหน้าต่อไป มันผู้นี้จะกลับกลายเป็นปัญหาหนักอกของพวกเราตระกูลเฟิง……”
“เอาเถิด เรื่องนี้เจ้าอย่าได้พะวงอีก !” เฟิงเทียนป้าโบกมือปฏิเสธอีกฝ่ายมิให้ไถ่ถามให้มากความ “หากไม่มีอะไร ก็ออกไปได้แล้ว”
สีหน้าของเฟิงอวิ๋นจิ่งยังคงงุนงง ทว่าเมื่อได้เห็นท่าที่หนักแน่นของผู้เป็นบิดา ถ้อยคําที่เหลือล้วนถูกกลืนกลับล่วงลําคอ ชายหนุ่มปลีกตัวออกจากห้องไปอย่างไม่รอช้า
เพียงเมื่อเฟงอวิ่นจึงล่าถอยไปชั่วระยะเผากํายานราวหนึ่งก้านธูป บุรุษในอาภรณ์สีขาวพลันปรากฏกายขึ้นบนทางเดินสู่ห้องตําราของเฟิงเทียนป้า
ชายผู้นี้ก็คือบุรุษในอาภรณ์สีขาวผู้ปรากฏกายที่เรือนนอกเมืองของตระกูลเจียง
ยามนี้เขาแบกถุงใบหนึ่งที่ดูคล้ายมีบางสิ่งดิ้น กระดุกกระดึกอยู่ด้านในทั้งยังสามารถได้ยินเสียงคนร้องโหยหวนด่าทอด้วยน้ําเสียงแหบแห้งบางเบาอยู่ภายใน
เมื่อคนผู้นี้ย่างกรายเข้าสู่ห้องตํารา เขาก้มลงแสดงความคารวะต่อเฟิงเทียนป้าอย่างนอบน้อม ก่อนกล่าวรายงานด้วยน้ําเสียงเบา “ท่านผู้นํา สถานการณ์พลิกผัน ห้องทดลองใต้ดินนอกเมืองเหยียนจึงฝั่งตะวันออกถูกใครบางคนทําลายสิ้น ผู้น้อยใช้พลังปราณสํารวจโดยทั่วจึงพบว่าพฤกษามนตร์ดําทั้งหมดล้วนถูกทําลายไม่เหลือ ทั้งยังมีสิ่งนี้…”
ชายในชุดขาวเขย่าถุงใบนั้นคราหนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ คลายปากถุงออก เพียงปากถุงถูกเปิดออก กลิ่นโลหิตเน่าเหม็นอย่างรุนแรงพลันจู่โจมเข้าใส่รูจมูกทุกผู้คนในที่นั้น
ปนเปมากับกลิ่นเหม็นคลุ้ง ก็คือสุ่มเสียงที่แหบแห้งย่าแย่
กองกระดูกปะปนชิ้นเนื้อเละคล้ายถูกสับ ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าสายตา อวัยวะภายในทั้งหมดคลุกเคล้ากองโลหิต พร้อมเศษกระดูก คือสิ่งถูกบรรจุภายในถุงใบนั้น ทว่าที่น่าตระหนก ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ แม้คนผู้นี้จะกลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาพิลึกถึงเพียงนี้ ทว่าส่วนกระโหลกศีรษะของมันยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ทั้งมันยังสามารถส่งเสียงร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้ได้
ภาพฉากที่ปรากฏเบื้องหน้า ทั้งน่าสยดสยอง ทั้งสามารถสร้างความประหลาดใจได้อย่างยิ่ง
เฟิงเทียนป้าตัวสั่นสะท้านไปกว่าครึ่งวันกว่าจะปริปากด้วยความเหลือเชื่อ “สิ่งนี้คือ….อาวุโสเจียง ?”
ทันทีที่เฟิงอวิ๋นจิ่งผละออกจากห้องตําราของเฟิงเทียนป้า ใบหน้าของชายหนุ่มพลันกลับกลายมืดมัว
ใบหน้างดงามทว่าเย็นชายังคงสะท้อนอยู่ในแววตาของเขา ทว่าดวงหน้านั้นกลับเผยความอ่อนโยนด้วยสีชมพูระเรื่อราวกลีบดอกท้อเพียงกับหนานกงยวี่ ช่างงดงามน่ารักยิ่งกว่าเหล่าบุปผาพรรณพฤกษาที่งดงามทั้งหลายทั่วโลกหล้า
นับแต่เยาว์วัย ทุกสิ่งที่เฟิงอวิ๋นจิ่งปรารถนาล้วนต้องได้ครอบครอง สตรีใดบ้างเล่าที่ไม่เกาะติดหมายพัวพันเพียงได้เห็นการปรากฏของเขา
มีเพียงซีเยวผู้นี้ !
ที่กล้าปฏิเสธคําเชื้อเชิญของเขาถึงสามครา กระทั่งยังต้อนรับเขาด้วยปลายกระบี่ยาว
หากมิใช่เพราะหนานกงยวคอยสนับสนุน นางผู้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธขั้นพลังปราณปฐมภูมิโลกันตร์ จะนําความกล้าแต่ที่ใดมาปฏิเสธเขา จะมีความสามารถใดมาปฏิเสธเขาได้ ?
แรงปรารถนาล็ก ๆ ภายในใจ ความหวัง ความริษยาที่แอบหลบซ่อนอยู่เบื้องลึกในจิตใจเริ่มเผาไหม้ร้อนระอุ กระทั่งสีหน้าของชายหนุ่มเรี่มบิดเบ่เคร่งเคียด
เฟิงอวิ๋นจิ่งผู้ยืนกําหมัดแน่นท่ามกลางแนวเสาศิลาพร่ําบ่นเพ้อกับตนเอง “ซีเยว่ เจ้าถูกกําหนดให้เป็นของข้า เจ้ามิอาจเลี่ยงหลบเงื้อมมือของข้าไปได้! เมื่อใดที่ข้าปลิดชีวิตหนานกงยวลงได้ เมื่อนั้นเจ้าจะกลับกลายเป็นคนของข้า ข้าจะทําให้เจ้าต้องคุกเข่าลงตรงหน้า ร่ําร้องขอให้ข้ามอบความรักให้แก่เจ้า !”
“คุณชาย ท่านกลับมาแล้ว” ฉับพลันน้ําเสียงอ่อนหวานนุ่มนวลของสาวน้อยผู้หนึ่งกลับดังแทรกขัดความคิดของเขา
สตรีงดงามผู้ประดับประดาด้วยชิ้นหยกเครื่องทองตลอดถึงเครื่องตบแต่งที่หรูหราพลันโผเข้าหาอ้อมอกของชายหนุ่ม “คุณชาย ครานี้ท่านจากไปนาน เยี่ยนเอ่อคิดถึงท่านเหลือเกิน”
***จบตอน สถานการณ์พลิกผัน***