หัตถ์เทวะธิดาพญายม - ตอนที่ 391 เหตุใดต้องขุ่นเคือง
นิยายหัตถ์เทวะธิดาพญายม ตอนที่ 391 เหตุใดต้องขุ่นเคือง
ย่อมเป็นธรรมดาความรู้สึกเช่นนี้ปรากฏเพียงชั่วพริบตาเมื่ออาวุโสเจียงคือยอดฝีมือผู้มีพลังปราณขั้นที่สีปฐพี่สะท้านสะเทือนเขารู้สึกตัวคืนสติอย่างรวดเร็วขุมพลังในกายถูกปลุกอย่างเร่งเร้าเพื่อต่อต้านกระแสพลังกดขี่ของหนุ่มน้อยเบื้องหน้า
ใบหน้าที่แสดงออกยังคงความเป็นชายชราผู้เปี่ยมเมตตาขณะคลี่รอยยิ้ม“เป็นความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงท่านหมอซีผู้อัจฉริยะอย่าทเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย”
“อาวุโสผู้นี้เคยได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถทางการแพทย์ที่น่าทึ่งของท่านหมอซีเช่นนั้นอาวุโสจึงอยากเชื้อเชิญท่านหมอซีมาเปรียบเทียบตราแลกเปลี่ยนความรู้”
เกอซีลอยหน้าขึ้นเสียงสูง “โอ้”
“เปรียบเทียบตราแพทย์กระนั้นหรือ?เพียงตามหาข้าเพื่อเปรียบเทียบความรู้เจ้าถึงกับสังหารเผาร่างผู้คนลักพาผู้อื่นเช่นนั้นหรือ?”
คิ้วทั้งสองของอาวุโสเจียงกดแน่นเข้าหากันพร้อมเสียงหัวเราะในลคอ“โอ้?มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ?”
กล่าวคไปเขาก็หันไปมองท่านหมอเซียผู้ยืนอยู่ด้านหลังด้วยสายตาตหนิ“ชงหมิงเจ้าไปทเรื่องใดมา?”
“ข้าสั่งให้เจ้าไปเชิญตัวท่านหมอซีผู้อัจฉริยะมามิใช่หรือ?เหตุใดเจ้าจึงกระทโดยพลการเช่นนี้
ท่านหมอเชียสบตาผู้เป็นนายมีหรือที่มันจะไม่เข้าใจความหมายของนายท่านผู้นี้?มันรีบหันกลับมาหาเกอซีด้วยดวงหน้าที่เต็มไปด้วยความสนึกเสียใจ
“ท่านหมอซีผู้อัจฉริยะเป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้นเดิมที่พวกเราหมายจะเข้าไปเรียนเชิญท่านด้วยความเคารพ
“ผู้ใดจะคาดคิดว่าผู้ใต้บังคัญบัญชาในเรือนของท่านกลับไม่อาจแยกแยะดีชั่วมิอาจแยกแยะถูกผิดพวกเขาล้วนเข้าใจว่าพวกเรามีเจตนาร้ายแม้คนของข้าจะปฏิเสธ”
“ทว่าผู้ใดจะทันคาดคิดถึงพวกเราจะกล่าวทัดทานเช่นนั้นพวกเขากลับไม่รู้มารยาท……ที่พวกเราต้องนตัวแม่นางเซี่ยวหลีมาด้วยก็เพียงหวังให้ท่านหมอซียอดอัจฉริยะมาเยี่ยมเยือนเรื่องนี้ต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง
“ส่วนเจ้าพวกไม่รู้จักกาละเทศะกล้าล่วงเกินท่านหมอซีผู้อัจฉริยะข้าได้สั่งสอนพวกมันเรียบร้อยแล้วหวังว่าท่านหมอซีจะมีจิตใจกว้างขวางไม่ถือสาคนพวกนั้นอีก”
ถ้อยคที่ท่านหมอเซียเอ่ยกล่าวล้วนเผยถึงความสุภาพทว่ากลับแฝงไว้ด้วยความข่มขู่ด้วยน้หนักที่เหมาะสมเช่นนั้นเมื่ออาวุโสเจียงได้ยินจึงพึงพอใจอย่างท่วมท้น
มันอดมิได้ที่จะยกมือขึ้นลูบเคราขยักยิ้ม”หากท่านหมอซีผู้อัจฉริยะยังรู้สึกขุ่นเคืองใจเช่นนั้นข้าจะสั่งการสังหารผู้ใต้บัญชาของข้าทั้งหมดเพื่อช่วยระบายความขัดเคืองใจของท่าน”ทว่า!ข้าเพียงมีถ้อยคอยากกล่าวผู้ที่สิ้นใจในเรือนเบี้ยของท่านล้วนเป็นเพียงเหล่าทาสหาได้สลักสคัญไม่หากลากตัวพวกมันไปเร่ขายตามท้องตลาดล้วนไม่อาจเรียกเงินทองได้มากไปกว่าสองหรือสามเหรียญท่านหมอซีผู้อัจฉริยะหากท่านยังรู้สึกไม่เป็นธรรมเช่นนั้นข้าพร้อมชดเชยคืนให้ท่านสิบเท่า!””ถูกแล้วพวกมันล้วนเป็นเพียงผู้รับใช้ไร้ค่าไม่กี่คนค่าของพวกมันก็เพียงสองหรือสามเหรียญเท่านั้น“รอยยิ้มบางเริ่มปรากฏบนมุมปากของหญิงสาวน้เสียงของนางหม่นมัวเชื่องช้า”สิ่งที่อาวุโสเอ่ยกล่าวล้วนถูกต้อง
เพียงได้ยินร่องรอยแห่งความสุขพลันปรากฏขึ้นภายในใจอาวุโสเจียงวูบหนึ่งมันรีบกล่าวโต้ตอบทันที”เมื่อท่านหมอซียอดอัจฉริยะมีน้ใจกว้างขวางทั้งยังเป็นผู้น้อมรับเหตุผลเช่นนี้ย่อมสมควรเชิญตามข้า….”
หากแต่ยังไม่ทันจบประโยคมันกลับเห็นเถาวัลย์สีม่วงพุ่งพรวดออกจากข้อมือของเกอซี
เส้นสายเถาวัลย์แตกแขนงกิ่งก้านนับสิบก่อนจะพุ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศทางอย่างรวดเร็วราวสายฟ้า
เพียงพริบตาแผ่นอกของผู้คุมนับสิบในที่นั้นล้วนถูกทะลวงผ่านยังไม่ทันที่พวกมันจะรู้ว่าเกิดเหตุใดขึ้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพวกมันก็นสุดลง
ปลายเถาสีม่วงลอยคว้างกลางอากาศคล้ายม่านปราการสีม่วงที่แผ่คลุมพร้อมกลิ่นคาวโลหิตที่ส่งกลิ่นฉุนคลัง
ใบหน้ายามนี้ของท่านหมอเซียพลันแปรเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์อย่างเหลือแสนมันยืนชี้หน้าใส่เกอซีด้วยความเดือดดาล”ซีเยว่เจ้าช่างไม่รู้จักละอายแก่ใจพวกเราล้วนเจตนาดีทั้งยังปฏิบัติกับเจ้าด้วยความเคารพกระทั่งท่านอาวุโสเจียงก็ยังกล่าวคกับเจ้าทว่าเจ้ากลับโอหังกล้าลงมือเห็นทีเจ้าคงหมดความอดทนที่จะหายใจแล้วกระมัง?”
รอยยิ้มที่เผยบนดวงหน้าของเกอซีแปรเปลี่ยนเล็กน้อยปลายนิ้วของนางลูบไล้เถาวัลย์สีม่วงอย่างอ่อนโยนขณะกล่าวถากถางคนผู้นั้นว่าอย่างไรนะ?มิใช่เจ้าหรือที่เพิ่งกล่าวว่าพวกมันล้วนเป็นเพียงผู้รับใช้ที่ต่ต้อยไร้ค่าไม่กี่คนกระทั่งค่าของพวกมันล้วนไม่เกินไปกว่าเศษไม่กี่เหรียญเหตุใดยามนี้เจ้ากลับขุ่นเคืองเล่า?”
***จบตอนเหตุใดต้องขุ่นเคือง***