ตอนที่ 487 – พลังเทพหงส์เพลิง
“พลังวิญญาณระเบิด!” เมื่อเห็นฉากนี้ ฉินซีพูดเบา ๆ หนึ่งประโยค
ถึงจะไม่ใช่พลังวิญญาณระเบิดที่แท้จริง แต่หลักการกลับเป็นเหมือนกัน
คันศรแห่งหงส์เพลิงเป็นอาวุธเวทสื่อวิญญาณ มีวิญญาณแต่กำเนิด คิดจะหยิบมันก็จะต้องได้รับการยอมรับเป็นนายของมัน ทว่าบนคันศรแห่งหงส์เพลิงมีลมหายใจแห่งหงส์เพลิงอันแข็งแกร่ง คิดจะปราบมันให้เชื่องก็จะต้องทนรับพลังเทพอย่างนี้ก่อน ลมหายใจแห่งหงส์เพลิงที่มากมายขนาดนี้เทเข้าไปในร่างกายของหลิงอวิ๋นเฮ่อคนเดียว หากเขาทนรับไม่ได้ เช่นนั้นผลลัพธ์ก็จะเหมือนกับพลังวิญญาณระเบิด
อาจารย์เต๋าหยวนมู่พุ่งขึ้นมา อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนก็ตามหลังไปติด ๆ โม่เทียนเกอสามคนมองดูอย่างตึงเครียด
หลิงอวิ๋นเฮ่อจะทนรับพลังเช่นนี้ได้ไหม สรุปแล้วเขาจะปราบคันศรแห่งหงส์เพลิงให้เชื่องหรือว่าถูกลมหายใจแห่งหงส์เพลิงบนนั้นฉีกเป็นชิ้น ๆ พูดตามหลักเหตุผล เขาเป็นผู้ฝึกตนก่อเกิดตาน ในร่างกายทนรับพลังเช่นนี้ไม่ไหว แต่สิ่งที่เขาฝึกคือศาสตร์น้ำแข็งอัคคีที่วังน้ำแข็งยะเยือกสำนักใหญ่โบราณกาลแห่งนี้เตรียมไว้เพื่อคันศรแห่งหงส์เพลิงโดยเฉพาะ ใครจะทราบว่าวิชาเวทนี้จะมีส่วนที่พิเศษอะไรที่สามารถสลายพลังอำนาจของลมหายใจแห่งหงส์เพลิงได้หรือไม่
พร้อมกับการเทเข้าไปของลมหายใจแห่งหงส์เพลิง หมอกน้ำแข็งรอบกายหลิงอวิ๋นเฮ่อยิ่งมายิ่งอ่อนจาง ค่อย ๆ ถูกเพลิงโหมกลืนกิน ส่วนสีหน้าบนใบหน้าของเขาก็ยิ่งมายิ่งเจ็บปวด ทั่วทั้งร่างกายกลายเป็นสีแดงช้า ๆ ประดุจจะกลายเป็นเหล็กที่ถูกเผาจนร้อนแดง แม้แต่การโคจรของลมหายใจวิญญาณในชีพจรปราณยังเห็นได้อย่างชัดเจนมาก
เมื่อเห็นว่าการขยายตัวของชีพจรปราณของหลิงอวิ๋นเฮ่อแทบจะไปถึงขีดจำกัด ทว่าพลังเทพบนคันศรแห่งหงส์เพลิงยังคงเทเข้าไป อาจารย์เต๋าหยวนมู่ขบฟัน ใช้ฝ่ามือตบไปที่กลางหลังของหลิงอวิ๋นเฮ่อ
หากปล่อยให้เรื่องราวพัฒนาไป คาดว่าหลิงอวิ๋นเฮ่อจะหลบเลี่ยงผลลัพธ์ของร่างกายระเบิดจนตายไปไม่ได้ และในเมื่อลมหายใจแห่งหงส์เพลิงได้เริ่มเทเข้าไปแล้วก็ไม่อาจหยุดยั้ง ดังนั้น อาจารย์เต๋าหยวนมู่จึงคิดวิธีการเช่นนี้ขึ้นมา ให้ลมหายใจแห่งหงส์เพลิงที่มากเกินในร่างกายหลิงอวิ๋นเฮ่อ ออกไปตามอีกทางออกหนึ่ง ทางออกนี้ก็คือตัวเขาเอง
เมื่อมีอาจารย์เต๋าหยวนมู่แบ่งเบา ความเจ็บปวดของหลิงอวิ๋นเฮ่อค่อย ๆ ทุเลาลงบ้าง แต่ว่า แม้จะเป็นอาจารย์เต๋าหยวนมู่ เมื่อเผชิญหน้ากับลมหายใจแห่งหงส์เพลิงก็ไม่ผ่อนคลาย
อาวุธเวทสื่อวิญญาณอย่างคันศรแห่งหงส์เพลิงนี้ ในยุคโบราณกาลก็ต้องเป็นผู้ฝึกตนระดับสูงจึงสามารถบังคับควบคุม ระดับสูงของโบราณกาลไม่ใช่ระดับจิตวิญญาณใหม่ของทุกวันนี้ ทว่าเป็นระดับระดับหลอมร่างไปจนถึงระดับมหายาน! เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนหลอมร่างมหายานแล้ว ระดับจิตวิญญาณใหม่ก็เป็นแค่รุ่นเยาว์ที่ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง แล้วไยจะสามารถทนรับพลังอำนาจของลมหายใจแห่งหงส์เพลิงได้? หากมิใช่ว่าตรงกลางมีหลิงอวิ๋นเฮ่อบรรเทา ตัวเขาเองไปหยิบตรง ๆ เช่นนั้นผลลัพธ์ก็จะไม่ต่างจากจิ่งสิงจื่อกับฉินซี
สีหน้าของอาจารย์เต๋าหยวนมู่ค่อย ๆ แดงขึ้นมา ชีพจรปราณและตานเถียนของเขา ก็ทนรับพลังเทพหงส์เพลิงอันแข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ไหว
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนเห็นแล้วก็ขึ้นหน้ามา
“ซือเกอ” อาจารย์เต๋าหยวนมู่กัดฟัน “รักษาความแข็งแกร่งไว้!”
สายตาภายใต้หน้ากากเหล็กดำของอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนวูบขึ้น หยุดลง พริบตาถัดมา จู่ ๆ หันไปจับโม่เทียนเกอ!
เสียงกรีดร้องแหลมคม กระบี่อัคนีสามพลังหยางหลุดจากมือ ฉินซีขวางอยู่เบื้องหน้านาง ตะโกนว่า “ท่านคิดจะทำอะไร?!”
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนปฏิกิริยาเร็วยิ่ง พอโจมตีไม่เข้า ในมือมีลำแสงวาบขึ้น แส้ยาวสีดำสนิทเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นในมือเขา เขาสะบัดมือ ม้วนไปหาโม่เทียนเกออีกรอบ
ฉินซีเห็นแล้วก็ขุ่นแค้นนัก เมื่อครู่นี้อาจารย์เต๋าหยวนมู่ให้คำสาบานจิตมาร ดังนั้นพวกเขาเชื่อแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนที่เงียบงันดุจเงามาโดยตลอด จะทำร้ายคนอย่างกะทันหัน!
เพียงอาศัยอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนคนเดียว เขากับจิ่งสิงจื่อร่วมมือกัน ไม่ได้เกรงกลัวเลย แต่อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนถึงอย่างไรก็เป็นตัวประหลาดเฒ่าที่มีชีวิตมาเกือบสองพันอีกแล้ว ประสบการณ์ต่อสู้เปี่ยมล้น ฝีมือซับซ้อน ภายใต้การโจมตีอย่างปุบปับ ทำให้คนตั้งตัวไม่ติด
ฉินซีได้แต่เปลี่ยนม่านพลังกระบี่ของกระบี่อัคนีสามพลังหยางให้กลายเป็นกระบี่ยักษ์ ฟันลงใส่อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยน ขวางกั้นการฟาดของแส้ยาว
โชคดีที่กระบี่บินของจิ่งสิงจื่อก็มาถึงแล้ว ปฏิกิริยาของเขาก็ไม่ช้า เพียงแค่อยู่ห่างไปไกลเล็กน้อย
เมื่อเห็นว่าการโจมตีถูกฉินซีแก้ไข และยังมีกระบี่บินของจิ่งสิงจื่อตามหลังมา ภายใต้การรุมโจมตีทั้งหน้าหลัง อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนกลับไม่ขยับร่าง เพียงสะบัดแขนเสื้อ ปล่อยพลังวิญญาณออกมาภายนอก ด้านหลังของเขาจู่ ๆ ปรากฏโล่ขนาดมหึมาโล่หนึ่งปกป้องตนเอง
จากนั้น เขาฝืนต้านรับการโจมตีของกระบี่บินจิ่งสิงจื่อ ยังคงลงมือใส่โม่เทียนเกออย่างไม่ลดละ
ฉินซีไม่เข้าใจว่าเขาคิดจะทำอะไร แต่พฤติกรรมเช่นนี้ของอีกฝ่ายทำให้เขาขุ่นเคืองแล้ว!
เปลี่ยนกระบี่กลายเป็นไร้สภาพ ปราณกระบี่สีทองถูกไฟแท้สามหยางห่อหุ้ม จากนั้นหนึ่งกลายเป็นสอง สองกลายเป็นสี่ ในพริบตาเดียวกลายเป็นปราณกระบี่นับร้อย แทงเข้าใส่อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยน
ครั้งนี้ ในที่สุดอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนไม่สามารถต้านรับแล้ว ถึงระดับการฝึกตนเขาจะสูง ประสบการณ์ก็ล้นเหลือ แต่ในผู้ฝึกตนจิตวิญญาณใหม่ขั้นปลายไม่นับว่ามีความแข็งแกร่งขั้นสุดยอดเลย การฝืนยันภายใต้การโจมตีของจิ่งสิงจื่อก็ไม่สามารถยันได้นานเกินไป ถึงอย่างไรความแกร่งกล้าของพลังโจมตีผู้ฝึกกระบี่ก็มิใช่ผู้ฝึกตนทั่วไปจะเทียบได้
เมื่อเผชิญกับการโจมตีของฉินซี เขาเลือกจะหลบเลี่ยง
แต่ในพริบตาถัดมา หลังจากหลบเลี่ยงคมกระบี่ บนร่างของอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนจู่ ๆ มีพลังสภาวะอันแข็งแกร่งปะทุขึ้น กลับใช้รับเป็นรุก! ผู้ฝึกตนระดับจิตวิญญาณใหม่ขั้นปลายหนึ่งคน ถึงแม้จะไม่ชำนาญวิชาต่อสู้เลย ตอนที่ทุ่มเทพลังวิญญาณสุดชีวิตก็ทำให้คนสะพรึงกลัว
สะบัดแส้ยาว ม้วนไปหาโม่เทียนเกอพร้อมเสียงลมหวีดหวิว ฉินซีเพิ่งจะถูกพลังสภาวะของเขาขู่จนตระหนก ในความรีบร้อน เพียงมีเวลาจี้ปราณกระบี่ขวางอย่างลน ๆ —
“ชิ้ง” ปราณกระบี่กับแส้ยาวพัวพันกัน พลังวิญญาณทับซ้อนต่อสู้กันและกัน ตกสู่ภาวะคุมเชิงในชั่วขณะ
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนคล้ายจะกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่แยแสว่าจิ่งสิงจื่ออยู่ข้างหลังสักนิด ระเบิดพลังสภาวะอีกรอบ
ฉินซีเห็นว่าเขาไม่แยแสสนใจ พลังวิญญาณผันผวนรุนแรง เกิดความกลัวว่าจะทำร้ายโม่เทียนเกอ รีบผลักนาง ตนเองขึ้นไปรับหน้า
“ตูม!” นี่เป็นการปะทะของพลังวิญญาณซึ่งหน้าหนึ่งครั้ง พลังวิญญาณอันผันผวนรุนแรงถึงขนาดผลักโม่เทียนเกอไปข้าง ๆ ทว่าหลิงอวิ๋นเฮ่อและอาจารย์เต๋าหยวนมู่ที่อยู่หน้าโต๊ะบูชาไม่ไกลกลับไม่ได้รับผลกระทบสักนิดเนื่องจากลมหายใจแห่งหงส์เพลิง
การปะทะของพลังวิญญาณอย่างนี้ ถึงแม้ฉินซีจะไม่ถึงกับรับไม่ไหว แต่ก็มิอาจไม่หลบปลายแหลมคมชั่วคราว
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนสะบัดแขนเสื้อ โยนหินก้อนเล็กที่เพิ่งจะใช้ในการต่อสู้ครั้งก่อนออกมาอีกรอบ กลายเป็นหินยักษ์ กดลงใส่เขา
ฉินซีกางแขน กระบี่อัคนีสามพลังหยางกลายเป็นแสงกระบี่ ปะทะกับหินยักษ์ พริบตาถัดมา ร่างสั่นไหว ร่ายทักษะเคลื่อนย้ายพริบตามาถึงตรงหน้าหลิงอวิ๋นเฮ่อแล้ว
“สหายเต๋าเถี่ยเมี่ยน!” เขาตะโกนเสียงเคร่งเครียด “หากท่านยังจะลงมือ เช่นนั้นจะสังหารรุ่นเยาว์คนนี้ของท่านเสีย!”
หลิงอวิ๋นเฮ่อกำลังรับการทดสอบของพลังเทพหงส์เพลิง ในร่างกายอาจารย์เต๋าหยวนมู่ก็เต็มไปด้วยลมหายใจแห่งหงส์เพลิง ทั้งสองคนล้วนขยับเขยื้อนไม่ได้ ฉินซีในขณะนี้ยืนอยู่ข้างกายพวกเขา พูดได้ว่า ชีวิตของทั้งสองคนแขวนอยู่บนมือของเขาแล้ว
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนหยุดไป ในดวงตามีแววสำนึกเสียใจวูบขึ้น การเอาชีวิตของหลิงอวิ๋นเฮ่อมาข่มขู่พวกเขา ก่อนหน้านี้จิ่งสิงจื่อเคยกระทำแล้ว น่าเสียดายที่เมื่อครู่เขากระวนกระวายเกินไป ทำให้ฉินซีคว้าจับช่องว่างได้อีก
เมื่อเห็นอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนหยุดมือ ฉินซีหันหน้าไปมองโม่เทียนเกอ เห็นว่านางเอาอาวุธเวทออกมาหมด ยืนอยู่ที่ไกล ๆ จึงได้วางใจลง ระยะห่างนี้ หากอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนยังกล้าลงมือ ไม่ว่าจะเขาหรือจิ่งสิงจื่อ ล้วนขัดขวางทันเวลา
“สหายเต๋าเถี่ยเมี่ยน สรุปว่าท่านหมายความว่าอย่างไร สหายเต๋าหยวนมู่ให้สาบานจิตมารแล้ว อาศัยท่านคนเดียวก็คิดจะสังหารพวกข้าเช่นนั้นหรือ”
สายตาอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนขยับไหว ไม่พูดจา
“ฉินโส่วจิ้ง จะเกรงอกเกรงใจเขาทำอะไร” จิ่งสิงจื่อมือถือกระบี่บิน ขึ้นหน้าพลางเอ่ยเสียงเย็น “ไม่ว่าเขาคิดจะทำอะไร ในเมื่อเขาลงมือแล้ว เช่นนั้นพวกเรายังไม่ฉวยโอกาสเข่นฆ่า? ผู้ฝึกตนจิตวิญญาณใหม่ขั้นปลายสองคนพวกเราสู้ไม่ได้ คนเดียวหรือยังจะกลัว?”
จิ่งสิงจื่อมีนิสัยแบบผู้ฝึกกระบี่ทั่วไป คว้าโอกาสเก่งที่สุด โจมตีทีเดียวต้องสังหาร ขณะนี้อาจารย์เต๋าหยวนมู่ยังไม่สามารถขยับเขยื้อน เหลือเพียงอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยน พวกเขาสองคนรวมพลัง โอกาสในการเข่นฆ่ามีสูงมาก ถึงเวลานั้น ถึงอาจารย์เต๋าหยวนมู่จะหนีรอดก็ทำอย่างไรกับพวกเขาไม่ได้ พวกเขาไม่จำเป็นต้องประนีประนอมไปทุกแห่งหนเพื่อชีวิตแล้ว!
แต่ฉันซีกลับไม่ได้อำมหิตเช่นเขา ก่อนหน้านี้เห็นชัด ๆ ว่าตกลงกันแล้ว พวกเขาก็มิได้เอาเปรียบในช่วงอันตรายของผู้คน เหตุใดอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนกลับทำร้ายคนอย่างปุบปับเล่า? อีกทั้งเป้าหมายชี้ไปที่โม่เทียนเกอตลอด ประหลาดเกินไปแล้ว
อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนหันร่างมาครึ่งหนึ่ง เสียงอันแหบห้าวดังว่า “หึ! อยากจะเข่นฆ่าเหล่าฟู ก็มิได้ง่ายดายขนาดนั้น!” เขาติดอยู่ที่ระดับจิตวิญญาณใหม่หลายปีขนาดนั้น ไยจะไม่มีทักษะลับรักษาชีวิตสักอย่างสองอย่าง? อีกฝ่าย ฆ่ากายเนื้อของเขาแล้ว จะฆ่าจิตวิญญาณใหม่ของเขาได้หรือ ถึงแม้ว่าจะถูกผู้ฝึกตนขั้นปลายเหมือนกันสองคนล้อมโจมตี จิตวิญญาณใหม่ก็มิได้เข่นฆ่าได้ง่ายดายขนาดนั้น เพียงแต่ว่า เขาอายุขัยจวนสิ้นสุดแล้ว ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณใหม่จะหนีออกไปก็ไม่มีความหมายแล้ว
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาทั้งคู่ที่โผล่ออกมาจากภายใต้หน้ากากเหล็กดำเล็กน้อยมืดหม่นลง มองไปที่อาจารย์เต๋าหยวนมู่และหลิงอวิ๋นเฮ่ออย่างเต็มไปด้วยความเสียใจ
มีชีวิตมาเกือบสองพันปี อายุขัยของเขามาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว ระยะเวลาร้อยกว่าปีที่เหลืออยู่นั้นก็ไม่พอให้เขาฝึกตนไปถึงขั้นปลายเต็มขั้น ถึงแม้ว่าจะได้รับวาสนาแปลงเทพ เขาก็ไม่มีโอกาสจะเลื่อนขึ้นแปลงเทพ การเดินทางมาทะเลกุยสวีครั้งนี้ เขาเดิมจะใช้แรงเฮือกสุดท้ายทำเรื่องสุดท้ายเพื่อสำนัก ถึงแม้จะทิ้งร่างอยู่ที่นี่ก็คุ้มค่า
แต่ว่า สถานการณ์แบบตรงหน้านี้กลับทำให้เขาเกิดความรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมา
ซือตี้ร่วมสำนักหยวนมู่ผู้นี้ เทียบกับเขาแล้วอายุอ่อนกว่ามาก ปีนั้นเขาเป็นผู้ฝึกตนจิตวิญญาณใหม่แล้ว ซือตี้คนนี้เพิ่งจะเข้าสำนัก แต่ผ่านไปไม่กี่ร้อยปีก็กลายเป็นผู้ฝึกตนใหญ่จิตวิญญาณใหม่ขั้นปลายเคียงบ่าเคียงไหล่กับตนเองแล้ว อายุขัยที่เหลือเกือบพันปี ซือตี้ผู้มีพรสวรรค์เกินคนผู้นี้เป็นไปได้มากว่าจะเลื่อนถึงแปลงเทพ ยิ่งบวกกับเด็กน้อยที่ฝึกศาสตร์น้ำแข็งอัคคีคนนี้ หยิบคันศรแห่งหงส์เพลิงจากวังใต้ดิน……
นี่ก็คือเป้าหมายของการเดินทางนี้ของพวกเขา หยวนมู่ซือตี้ได้รับวาสนาแปลงเทพ เด็กน้อยสกุลหลิงหยิบคันศรแห่งหงส์เพลิงไป แต่น่าเสียดายว่า ขณะนี้ดูท่าจะเป็นความจริงได้ยากมาก หากไม่อาจแก้ไขลมหายใจแห่งหงส์เพลิง พวกเขาสองคนเป็นไปได้ว่าจะสิ้นชีพอยู่ที่นี่ด้วยกัน แปลงเทพอะไร คันศรแห่งหงส์เพลิงอะไร ล้วนกลายเป็นฟองสบู่
เขาถอนหายใจหนึ่งคำ มิใช่เพื่อการเสียสละอันไร้ความหมายของตนเอง เพียงเพื่อรากฐานของสำนักจิ่วเยี่ยน……
แต่เรื่องที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นทำให้เขาตะลึงงันแล้ว “นี่คือ……”
“ซือเกอ!” โม่เทียนเกอก็ร้องตะโกน
ฉินซีตะลึงเล็กน้อย จู่ ๆ สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ก้มศีรษะลง เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
เพื่อจะข่มขู่อาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยน เขายืนอยู่ใกล้หลิงอวิ๋นเฮ่ออย่างยิ่ง ขณะนี้ ลมหายใจแห่งหงส์เพลิงบนร่างหลิงอวิ๋นเฮ่อกับอาจารย์เต๋าหยวนมู่ล้นทะลัก ชีพจรปราณและตานเถียนของพวกเขาล้วนกักเก็บไม่พอแล้ว ไม่มีทางออกแล้ว ลมหายใจแห่งหงส์เพลิงที่ติดอยู่บนร่างของหลิงอวิ๋นเฮ่อกับอาจารย์เต๋าหยวนมู่ถึงกับแพร่กระจายออกมา กลายเป็นเปลวเพลิง โอบล้อมบนร่างเขา
เจ็บปวดสาหัส! นี่เป็นความรู้สึกแรกของเขา เขามิใช่ไม่เคยได้รับบาดเจ็บ ในช่วงเวลาร้อยกว่าปีของระดับก่อเกิดตาน ได้รับบาดเจ็บน้อยใหญ่นับครั้งไม่ถ้วน ในนั้นยิ่งมีหลายครั้งที่ทำให้เขาระดับการฝึกตนเสื่อมถอยอย่างมาก แทบจะสิ้นชีวิต แต่ไม่ว่าครั้งไหนก็ไม่ทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดรวดร้าวของจิตวิญญาณถูกแผดเผาชนิดนี้!
นี่เป็นพลังอำนาจของลมหายใจแห่งหงส์เพลิง พลังเทพหงส์เพลิง
จู่ ๆ เขาเข้าใจการกระทำของอาจารย์เต๋าเถี่ยเมี่ยนเมื่อครู่นี้แล้ว เขาอยากจะจับโม่เทียนเกอ ให้หลิงอวิ๋นเฮ่อถ่ายเทลมหายใจแห่งหงส์เพลิงที่เหลืออยู่ไปบนร่างของนาง ใช้นางเป็นทางออก! น่าเสียดาย โจมตีครั้งเดียวไม่เข้าเป้า เขาล้มเหลวแล้ว
แต่อย่างที่ไม่ได้ตั้งใจ ตนเองกลับสร้างทางออกเช่นนี้ขึ้นมา
ทำอย่างไร เขาพยายามดิ้นให้หลุด แต่ลมหายใจแห่งหงส์เพลิงนี้กลับรัดพันเขาอย่างแน่นหนา ไม่อาจขยับเขยื้อนสักครึ่งส่วน สัมผัสได้ว่าชีพจรปราณถูกเปลวเพลิงยึดครองอย่างรวดเร็ว จากนั้นเทเข้าไปในตานเถียน ตนเองกลับไม่สามารถใช้กำลัง
ได้ยินเสียงตะโกนอันคุ้นเคย เขามองไปทางโม่เทียนเกอ เห็นนางพุ่งมาหา ทว่าตนเองกลับแม้แต่มือยังยกไม่ขึ้น มีเวลาแค่มองไปทางจิ่งสิงจื่อ
หยุดนาง……
เขาพูดอย่างไร้เสียง
……………….
ตอนที่ 488 – ลูกประคำวิญญาณพลังหยาง
MANGA DISCUSSION