บทที่ 255 ทายาทผู้สืบทอดวิชา

จากนั้นเขาก็สร้างกำแพงป้องกันใหม่ด้วยวิธีเดียวกัน ค่อย ๆ เข้าใกล้สถานที่ประหลาดที่มีกระแสดำพวยพุ่งออกมาอย่างมั่นคง

ทว่ากระบวนท่าดาบแสงนั้นแข็งแกร่งเกินไป ตั้งแต่แสงดาบสีขาวที่ปะทุออกมาอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงตาข่ายสีขาวที่ถักทอขึ้นอย่างแน่นหนา ไม่ว่าพลังใดๆ ก็เพียงพอที่จะทำลายฟ้าดิน เปลี่ยนร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อให้กลายเป็นผงธุลีในชั่วพริบตา หรือแม้กระทั่งทำให้หายสาบสูญไปในทันทีก็ใช่จะทำไม่ได้

ตอนแรกเหลียงเฟยยังสามารถรับมือ สร้างกำแพงป้องกันได้ แต่ต่อมาก็เริ่มดูเหนื่อยล้า กำแพงป้องกันที่สร้างขึ้นอ่อนแอลงตามไปด้วย

เมื่อเป็นเช่นนี้ไม่นาน กำแพงป้องกันที่เหลียงเฟยสร้างขึ้นก็ถูกกระบวนท่าดาบแสงทำลายลงในเวลาอันสั้น แสงดาบเริ่มเคลื่อนเข้าใกล้เหลียงเฟยทีละน้อย ใกล้จะทำร้ายร่างกายของเขาแล้ว

ครั้งนี้เขาตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง

เซี่ยซื่อทนไม่ไหวจึงร้องตะโกนขึ้นอีกครั้ง เอียงหน้ามองมารดาหวังให้นางออกมือช่วย

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ เย่าเหม่ยซือก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อใบหน้าของเซี่ยซื่อปรากฏรอยยิ้มแห่งความยินดี คิดว่ามารดาจะยอมออกมือช่วยในที่สุด นางกลับหยุดลงอย่างกะทันหัน

และเซี่ยเซียงเฉ่าทนไม่ไหว อยากจะพุ่งเข้าไปช่วยเหลียงเฟย แต่เย่าเหม่ยซือยื่นมือเรียวงามออกมาห้ามเอาไว้

เทพยุทธ์เย่าไม่รอให้พ่อลูกทั้งสองเอ่ยปาก ก็ยิ้มพลางกล่าวขึ้นก่อนว่า “การแสดงที่ยอดเยี่ยมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว เหลียงเฟยกำลังจะแสดงพลังทั้งหมดของเขาออกมา”

พ่อลูกทั้งสองงุนงงสงสัย แต่ก็หันไปมองเหลียงเฟย หวังว่าเขาจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้ง

แต่เห็นได้ชัดว่าม่านป้องกันที่เหลียงเฟยสร้างขึ้นเล็กลงเรื่อย ๆ ในขณะที่แสงดาบกลับยิ่งทวีความแข็งแกร่งขึ้น ในชั่วพริบตาก็ทำลายม่านป้องกันของเขาจนสิ้นซาก

เห็นแสงดาบอันทรงพลังอีกระลอกหนึ่ง รุนแรงยิ่งกว่าพายุฝน ราวกับคลื่นยักษ์ถาโถมเข้าใส่เหลียงเฟย เซี่ยซื่อมองดูแล้วอยากจะหลับตา แต่ก็กลัวว่าจะไม่ได้เห็นหน้าเหลียงเฟยเป็นครั้งสุดท้าย จึงตัดสินใจลืมตาอย่างสุดแรง มองดูเหลียงเฟยไม่ว่าจะสร้างปาฏิหาริย์หรือสิ้นใจตาย พินาศย่อยยับ สูญสลายไปกับสายลม

ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดคือในขณะที่แสงดาบสีขาวที่ใหญ่กว่าพุ่งเข้าใส่เหลียงเฟยอย่างบ้าคลั่ง รอบ ๆ ร่างของเขาก็พลันมีแสงสีแดงมหึมาพวยพุ่งออกมา

แสงสีแดงนี้เกิดขึ้นอย่างประหลาดแต่มีพลังมหาศาล ในชั่วพริบตาก็สั่นสะเทือนแสงดาบให้แตกกระจายไปเป็นวงกว้าง

สิ่งที่เห็นตามมาติด ๆ คือสิ่งที่อยู่ในมือของเหลียงเฟย มันไม่ใช่ดาบผีที่เปล่งแสงสีเขียวจาง ๆ เหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป แต่เป็นเส้นบางสีแดงเพลิง คมกริบ แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

เส้นบางนั้นก็คืออาวุธเทพอันดับหนึ่งของแดนเสินอู่ ดาบเทพมังกรสวรรค์!

มีเพียงการปรากฏตัวของดาบเทพมังกรสวรรค์เท่านั้นที่จะงดงามอลังการ ทรงพลัง และน่าตื่นตะลึงเช่นนี้ ทำให้ผู้คนตื่นเต้น เลือดเดือดพล่าน

“เจ้าหนูตัวเหม็น ในที่สุดก็ยอมใช้พลังที่แท้จริงเสียที” เย่าเหม่ยซือมองดูภาพนี้ ถอนหายใจยาว ๆ มุมปากผุดรอยยิ้มบาง ๆ

เซี่ยซื่อฟังคำพูดของเย่าเหม่ยซือแล้วมองไปที่เหลียงเฟย แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะตอบสนองได้ว่า “เส้นสีแดงสดบริสุทธิ์ในมือของเหลียงเฟยดูสวยงามและทรงพลังมาก”

เย่าเหม่ยซือได้ยินแล้วก็ยังคงยิ้ม ดูงดงามน่าหลงใหลยิ่งนัก

เซี่ยเซียงเฉ่าอดใจไม่ไหว ร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้นว่า “อาวุธเทพ นั่นคืออาวุธเทพชิ้นหนึ่ง! ช่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ เหลียงเฟยซ่อนอาวุธเทพไว้กับตัว”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่คาดคิดคือเย่าเหม่ยซือมองเส้นสีแดงสดในมือของเหลียงเฟยสักครู่ แล้วยิ้มพลางพูดว่า “หากข้าไม่ได้มองผิด นั่นไม่เพียงแต่เป็นอาวุธเทพเท่านั้น แต่ยังเป็นดาบเทพมังกรสวรรค์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาวุธเทพอันดับหนึ่งของทั้งแดนเสินอู่ อีกด้วย”

“ดาบเทพมังกรสวรรค์? อะไรนะ เจ้าบอกว่านั่นคือดาบเทพมังกรสวรรค์ ดาบเทพมังกรสวรรค์ปรากฏตัวในโลกมนุษย์อีกครั้งแล้วหรือ? ” เซี่ยเซียงเฉ่าพอได้ยินก็ตกตะลึงทันที

แต่ไม่นานก็กลับมาสงบนิ่งและพูดว่า

“ถูกต้อง นั่นคือดาบเทพมังกรสวรรค์จริง ๆ เหลียงเฟย… เหลียงเฟย! บางทีเขาอาจเป็นทายาทผู้สืบทอดวิชาของปรมาจารย์เหลียง ยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแดนเสินอู่ในอดีตก็ได้ ไม่เช่นนั้นทำไมถึงบังเอิญมีแซ่เหลียง และการปรากฏตัวของเขาถึงเป็นปาฏิหาริย์และตำนานไปเสียทุกที่ อีกอย่างเขตอาคมป้องกันห้าธาตุนี้แต่เดิมก็เป็นสิ่งที่ปรมาจารย์เหลียงสร้างขึ้นมา ตอนนี้เหลียงเฟยไม่เพียงแต่สามารถทำลายข้อจำกัด ใช้พลังระดับจ้าวยุทธ์ขั้นต้นจัดวางเขตอาคมป้องกันนี้ได้ แต่ยังสามารถทำให้สมบูรณ์แบบและสร้างสรรค์ใหม่ได้ด้วย ต้องเป็นเพราะเหตุผลนี้แน่ ๆ”

เย่าเหม่ยซือไม่ได้พูดอะไรต่อข้อสันนิษฐานของเซี่ยเซียงเฉ่า เก็บความคิดเห็นไว้เงียบ ๆ

เซี่ยซื่อมองดูเหลียงเฟยอย่างเหม่อลอยเป็นเวลานาน ในใจรู้สึกดีใจที่เขาได้รับอาวุธเทพชิ้นหนึ่ง ขณะเดียวกันก็รู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นกับคำพูดของบิดามารดา ด้วยหลังจากนั้นทุกคนก็หันไปมองเหลียงเฟยต่อ ดูว่าทำไมเขาที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสหนีออกจากเขาดาบแดงอย่างยากลำบากไม่เพียงแต่ไม่กลับมา แต่กลับพุ่งเข้าไปข้างในแทน

เหลียงเฟยหลังจากใช้ดาบเทพมังกรสวรรค์แล้วก็ยังคงใช้ดาบสวรรค์มนุษย์อย่างต่อเนื่องเหมือนก่อนหน้านี้ ปล่อยพลังดาบมหาศาลออกมาอย่างต่อเนื่อง ใช้ญาณสัมผัสสร้างเกราะป้องกัน

ความจริงที่ทำให้เขารู้สึกดีใจมากก็คือเนื่องจากวรยุทธ์การควบคุมสวรรค์ของเขามีความก้าวหน้า และวรยุทธ์ด้านเทพยุทธ์ก็บรรลุถึงขั้นจ้าวยุทธ์ระดับต้นแล้ว ตอนนี้การควบคุมดาบเทพมังกรสวรรค์ไม่รู้สึกเหนื่อยล้าเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป ค่อย ๆ สามารถควบคุมอาวุธเทพอันดับหนึ่งนี้ได้แล้ว

สุดท้ายเหลียงเฟยใช้ดาบได้เร็วขึ้นหลายเท่า ไม่นานก็สามารถทำให้แทบทุกคมดาบซ้อนทับกันสองชั้นได้

ด้วยเหตุนี้เอง เหลียงเฟยจึงย่นระยะเวลาในการสร้างเกราะป้องกันลงได้อย่างมาก ทำให้เกราะป้องกันเริ่มเปลี่ยนจากอ่อนแอเป็นแข็งแกร่ง กลายเป็นยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งทรงพลังขึ้นเรื่อย ๆ

แม้ว่าแนวดาบจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แต่ในตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากับท่าไม้ตายสั่นสะเทือนโลกที่เหลียงเฟยใช้ดาบเทพมังกรสวรรค์ปล่อยออกมา ก็ยังถูกกวาดล้างแนวดาบไปเป็นจำนวนมากอย่างไม่ต้องสงสัย

เหลียงเฟยจึงมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ยิ้มบาง ๆ แต่ไม่ปรานีแม้แต่น้อย ทันใดนั้นก็เรียกมังกรเพลิงแดงจากดาบเทพมังกรสวรรค์ออกมา

ไม่นานก็เห็นราชามังกรห้าเล็บขนาดมหึมาตัวหนึ่ง พุ่งออกมาจากรอบตัวของเหลียงเฟยแล้วกระโจนเข้าใส่แนวดาบอย่างบ้าคลั่ง

เล็บทั้งห้าที่แข็งแกร่งและแผ่รังสีสีแดงสะบัดไปมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับเสียงคำรามสนั่นฟ้าสะเทือนดินของมังกรเพลิง รังสีสีแดงมหึมาระเบิดออกมาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็แปรเปลี่ยนเป็นลูกไฟนับไม่ถ้วน พุ่งเข้าใส่แนวดาบ ทุก ๆ การโจมตีบ้าคลั่ง

ภายใต้การโจมตีของท่าไม้ตายสั่นสะเทือนโลกของเหลียงเฟยและมังกรเพลิงแดง ตาข่ายสีขาวของแนวดาบก็หายไปไม่เหลือร่องรอย แนวดาบทั้งหมดถูกทำลายไปเกือบหนึ่งในสี่แล้ว แม้ว่าเหลียงเฟยจะอาศัยพลังของดาบเทพมังกรสวรรค์ แต่ก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของกระบวนท่าแสงดาบได้ อย่างไรก็ตาม การโจมตีครั้งนี้ของเขาได้กวาดล้างแสงดาบจำนวนมาก เผยให้เห็นเส้นทางขนาดใหญ่อีกครั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้เซี่ยซื่อทั้งตื่นเต้นและกังวลก็คือ ปลายทางของเส้นทางนั้นไม่ได้อยู่นอกเขาดาบแดง แต่กลับเป็นสถานที่ที่อยู่ลึกเข้าไปในเขามากขึ้นต่างหาก

ทุกคนไม่เข้าใจว่าเหลียงเฟยต้องการทำอะไรกันแน่

เหลียงเฟยยังคงสงบนิ่งและมั่นคง เขาโบกดาบเทพมังกรสวรรค์แล้วพุ่งตรงไปยังปลายทางของเส้นทางอย่างรวดเร็ว

เพราะที่นั่นไม่ใช่ที่อื่นใด แต่เป็นดินแดนลึกลับที่มีแสงสีดำพลุ่งพล่านอยู่

ในขณะนี้เนื่องจากเหลียงเฟยไม่มีแรงต้านทาน จึงสร้างกระบวนท่าป้องกันห้าธาตุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วกลายเป็นลำแสงพุ่งไปยังที่นั่นอย่างรวดเร็ว ในพริบตาเดียวก็มาถึงจุดหมาย

แต่เมื่อมองเห็นจุดกำเนิดที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดบนเขาดาบแดง ก็พบว่าเป็นหลุมดำขนาดประมาณสามถึงสี่คน