บทที่ 55 ต้านทานพิษสมบูรณ์

ด้วยเหตุนี้ชายชุดคลุมจึงหัวเราะเบา ๆ สองที ก่อนจะกลับมาพูดจริงจัง “แม้ว่าเหลียงเฟย ผู้นี้จะมีวิชาต่ำ แต่กลับมีท่วงท่าวิชาที่แปลกประหลาดยิ่งนัก ยากจะรับมือจริง ๆ พวกเราต้องไม่ประมาทเหมือนครั้งก่อนอีก ทุกคนจงร่วมมือกันจัดการเขา!”

สามยอดฝีมือตระกูลโหลวในตอนนี้โกรธจนถึงขีดสุด แต่นอกจากชายหัวล้านที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่นแล้ว ชายหน้าขาวและชายร่างเตี้ยต่างก็ค่อนข้างหนักแน่นเยือกเย็น ยังขวางชายหัวล้านไว้ก้าวหนึ่ง

หลังจากขวางชายหัวล้านแล้ว ชายร่างเตี้ยก็ส่งสายตาให้สี่หญิงจากสำนักไป่ตู๋

สี่หญิงเข้าใจความหมาย จึงโบกแขนเสื้อสีขาวออกมาก่อน ควันพิษสีขาวพร้อมกับแขนเสื้อโบกมาปกคลุมเหลียงเฟยและอีกสองคนอย่างรวดเร็วก็ล้อมพวกเขาทั้งสามไว้ในควันพิษ

ชายหัวล้านถอนหายใจอย่างโล่งอก

คนอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็หัวเราะขึ้นมา ชายผมเรียบผู้นั้นอดไม่ได้ที่จะยิ้มเย็นชา “หากถูกพิษจากสำนักไป่ตู๋ไปล่ะก็ กลัวว่าแม้แต่เทพยุทธ์ก็คงช่วยพวกเจ้าไม่ได้!”

ขณะเดียวกันนั้น เสียงตะโกนของเหลียงเฟย ก็ดังออกมาจากในควันพิษสีขาว “น้องหนิงเสวี่ย ท่านพี่อู่เหยียน! พวกเจ้ารีบกลั้นหายใจ หนีออกไปนอกควันพิษเร็วเข้า!”

คำพูดของเหลียงเฟยนี้ช่างน่าชื่นชมยิ่งนัก ปัจจุบันนี้ยากนักที่จะมีผู้ใดทำได้ถึงขั้นไม่เกรงกลัวอันตรายถึงชีวิตเพื่อปกป้องมิตรภาพ

พี่น้องตระกูลเซียวได้ยินเช่นนั้น ก็เชื่อฟังอย่างยิ่ง รีบเหาะร่างกายขึ้น ตั้งใจจะหนีออกจากการล้อมของควันพิษ

ทว่าพวกตระกูลโหลวช่างน่าอับอายยิ่งนัก!

เห็นพี่น้องตระกูลเซียวทั้งสองจะหนีออกมา ก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ ใช้วิถีเทพ ส่งแสงระยิบระยับออกไปไม่หยุด บีบให้พวกเขาต้องถอยกลับไป

เหลียงเฟยเห็นดังนั้น ก็ตะโกนเสียงดัง จากนั้นก็อ้าปากเริ่มสูดควันพิษสีขาวเข้าไปไม่หยุด

เนื่องจากไข่มังกรอยู่กับตัวเขาอยู่แล้ว เมื่อควันพิษถูกเขาสูดเข้าไป มันก็ถูกไข่มังกรดูดซับ แม้จะมีแสงระยิบระยับจาง ๆ แต่ก็เพียงแค่หมุนวนอยู่ทั่วร่างของเขา

ดังนั้น ในสายตาของผู้อื่น ก็เพียงแค่คิดว่าเขากำลังใช้พลังภายใน ไม่อาจมองเห็นเลยว่าในร่างกายของเขายังซ่อนของวิเศษที่สามารถกลืนกินพิษนับร้อยชนิดไว้

ปรากฏการณ์อันแปลกประหลาดได้เกิดขึ้นอีกครั้ง

ชายหนุ่มใช้พลังของไข่มังกรนี้ดูดซึมพิษอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการดูดซับหมอกพิษก็ยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อย ๆ ในชั่วพริบตา หมอกพิษทั้งหมดที่สาดมาจากหญิงสาวทั้งสี่ ล้วนถูกเหลียงเฟยดูดซับจนหมดสิ้น บริเวณรอบกายของเขาก็กลับคืนสู่สภาพเดิม

เมื่อชายร่างเตี้ยเห็นดังนั้น อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าพลางหัวเราะเยาะ “เหลียงเฟยผู้นี้ช่างน่าชื่นชมในความกล้าหาญ แต่ก็โง่เกินไปจนไม่มีทางรอด!”

ในขณะเดียวกัน พวกคนอื่น ๆ ก็หัวเราะคลอตาม

ทว่าพวกเขาไม่ได้ดีใจอยู่นานนักก็ชะงักงัน

คนเหล่านี้ต่างคิดไปว่าเหลียงเฟยดูดซับหมอกพิษทั้งหมดเข้าไปเช่นนี้ ครั้งนี้ต้องตายแน่ สิ่งที่แปลกประหลาดคือ เขาดูดพิษเข้าไปมากมาย แต่กลับไม่มีเส้นสายสีดำไหลเวียนอยู่บนร่างแม้แต่น้อย ในขณะที่พี่น้องตระกูลเซี่ยที่กำลังจะหนีออกจากหมอกพิษ กลับมีเส้นสายสีดำไหลเวียนอยู่ในร่างกาย

เห็นได้ชัดว่าเหลียงเฟย ไม่ได้รับพิษ แต่พี่น้องตระกูลเซี่ยกลับได้รับพิษ

สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงที่สุดคือ เหลียงเฟยเมื่อเห็นพี่น้องตระกูลเซียวได้รับพิษ ก็รีบกระโจนขึ้นไปทันที วางมือทั้งสองข้างลงบนหลังของพวกเขา

ต่อมา แสงสว่างสีคล้ำสายหนึ่งก็ไหลออกมาจากแขนทั้งสองข้างของเหลียงเฟย หมอกพิษสีดำบนร่างของทั้งสองก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเหลียงเฟย ตามแสงสว่างบนมือของเขา สุดท้ายก็สลายหายไปในร่างของเขา

ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างงงงวยอีกครั้ง!

ต้านทานพิษได้งั้นหรือ!

ไม่นึกไม่ฝันเลยจริง ๆ ว่า เด็กหนุ่มผู้นี้ นอกจากจะมีท่วงท่าการต่อสู้ประหลาดแล้ว ยังมีร่างกายต้านทานพิษสมบูรณ์อีกด้วย!

บางคนที่ได้เป็นพยานถึงกายาไม่แตกสลายของเหลียงเฟยก่อนหน้า ต่างก็ยิ่งตกตะลึง!

กายาไม่แตกสลายแล้วยังสามารถต้านทานพิษร้ายได้อีก!

คน ๆ นี้ช่างแข็งแกร่งเกินไปหรือไม่?

เหลียงเฟยไม่ได้สนใจสีหน้าของพวกเขา หลังจากให้ไข่มังกรกลืนกินพิษในร่างของพี่น้องตระกูลเซียวจนหมดสิ้นแล้ว ก็ใช้พลังควบคุมวัตถุอีกครั้ง

พื้นทั่วทั้งถนนลอยขึ้นเหมือนหมดแรงโน้มถ่วง ทันใดนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น รวมตัวกันอย่างรวดเร็วกลายเป็นเสาหินสิบต้น

เขาพยายามทำให้ปลายเสาหินคมกริบ แต่หลังจากลองหลายครั้ง พบว่าอาจเป็นเพราะระดับการฝึกฝนยังคงต่ำเกินไป หรือพลังควบคุมวัตถุยังไม่เพียงพอ สุดท้ายจึงทำไม่สำเร็จ

ช่างเถิด ขอแค่นี้ก็พอ!

ในชั่วพริบตานั้น ดวงตาของเหลียงเฟยก็ปล่อยประกายเย็นยะเยือก เสาหินทั้งสิบต้นพุ่งเข้าใส่ศัตรู

สามยอดฝีมือจากตระกูลโหลวลอยตัวขึ้นฟ้า ชายหัวล้านเป็นคนแรกที่ใช้กระบวนท่าพันพฤกษาผลิบาน แสงสว่างสีเขียวอันทรงพลัง ราวกับคลื่นยักษ์สีเขียวไหลบ่าเข้าใส่เหลียงเฟย

ในสามคนนี้ ชายร่างเตี้ยและชายหน้าขาวมีความสุขุมรอบคอบ มีเล่ห์เหลี่ยมอยู่บ้าง ยิ่งเมื่อครั้งก่อนพวกเขากับฝ่ายตระกูลโหลวส่งยอดฝีมือมาต่อสู้กับ เหลียงเฟย แต่กลับพ่ายแพ้ ครั้งนี้ยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

เห็นพวกเขาสามคนผลัดกันใช้กระบวนท่าพันพฤกษาผลิบาน ให้ชายเสื้อคลุมผู้มีความแข็งแกร่งระดับจ้าวยุทธ์คอยปล่อยพลังเติมเต็มช่องโหว่ของกระบวนท่าพันพฤกษาผลิบาน ส่วนตัวเองก็เก็บกำลังรอจังหวะใช้กระบวนท่าพันพฤกษาผลิบานต่อ

ผลที่ตามมามันกลับทำให้เหลียงเฟยรับมือได้ง่ายขึ้น

สาเหตุหลักเป็นเพราะ ถึงแม้ท่วงท่าของชาวตะวันตกจะลึกลับน่าเกรงขาม แต่เมื่อต้องประสานกับกระบวนท่าพันพฤกษาผลิบานของตระกูลโหลว เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับกระบวนท่าพันพฤกษาผลิบานและวิชากำลังภายในของตระกูลโหลวดีพอ ท้ายที่สุดก็ยังสู้การประสานกำลังอย่างกลมกลืนของตระกูลโหลวแท้ ๆ ไม่ได้

แน่นอน พลังก็ไม่รุนแรงถึงเพียงนั้น!

ส่วนเหลียงเฟยนั้น เพราะเพียงแค่ควบคุมเสาหินสิบต้นที่ประกอบขึ้นจากแผ่นพื้น จึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง ทั้งยังเร็วขึ้น มุมและทิศทางก็แม่นยำกว่าเดิม

ยิ่งกว่านั้น เขายืนอยู่บนพื้นเช่นนี้ พื้นที่แคบ ยิ่งทำให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีได้ไม่สะดวก พลังที่ส่งมาจริง ๆ แล้วตกลงบนตัวเขาได้ก็น้อยนิด

เห็นพลังของกระบวนท่าพันพฤกษาผลิบานที่ไม่สมบูรณ์และพลังของชายเสื้อคลุมประสานกันส่งมาที่เหลียงเฟย เขาก็ควบคุมเสาหินอย่างคล่องแคล่ว บ้างก็ล้อมรอบตัวเอง บ้างก็ปัดป้องออกไป รวมตัวกันต้านทานแสงสว่างที่โจมตีมา

บางครั้งก็มีพลังที่แข็งแกร่งผิดปกติพุ่งเข้ามา ทำให้เสาหินที่เหลียงเฟยป้องกันรอบตัวแตกกระจายในพริบตา อย่างไรก็ตาม เศษซากที่ระเบิดออกมายังไม่ทันกระจาย เหลียงเฟยก็ใช้พลังควบคุมวัตถุควบคุมพวกมันขึ้นมา และก่อตัวเป็นเกราะป้องกันได้อย่างง่ายดาย และหลังจากที่ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเป็นระลอกเสร็จสิ้น เขาก็โต้กลับไปในทันที

ด้วยเช่นนี้ เพียงไม่กี่ยก ความได้เปรียบของเหลียงเฟยก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ

ชัยชนะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม!

ในขณะที่ฝ่ายเหลียงเฟย กำลังได้เปรียบอย่างมาก สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เซียวอู่เหยียน ด้วยเพียงกำลังภายในระดับยอดยุทธ์ เมื่อต้องเผชิญกับฝ่ายตรงข้ามจำนวนมาก เขาก็รับมือไม่ไหวอย่างรวดเร็ว

ในช่วงแรก เซียวหนิงเสวี่ยพยายามเข้ามาปกป้องเขา ทำให้เขายังสามารถรับมือได้พอสมควร และสังหารชายชาวตะวันตกไปได้สองคน

แต่ต่อมา คนอื่น ๆ ก็บีบคั้นเซียวหนิงเสวี่ยอย่างหนัก ทำให้นางเสียใจที่ตัวเองไม่สามารถแบ่งกายช่วยเหลือพี่ชายได้ เซียวอู่เหยียนจึงยิ่งรับมือไม่ไหวและถูกโจมตีสองครั้งอย่างรวดเร็ว จนอาเจียนเป็นเลือด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ย่อมอันตรายอย่างยิ่ง!

เหลียงเฟยรีบใช้พลังควบคุมวัตถุ ช่วยป้องกันให้เซียวอู่เหยียนอยู่สองสามครั้ง แต่ก็เกือบเจออันตรายเช่นกัน จึงได้แต่มองอย่างสิ้นหวัง ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้

แม้ว่าตอนนี้เขาจะสามารถรับมือกับพลังของจ้าวยุทธ์ทั้งสี่ได้อย่างสบาย ๆ แต่ก็ไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย ไม่สามารถใช้พลังควบคุมวัตถุเพื่อช่วยเซียวอู่เหยียนได้เลย