บทที่ 23 อีกห้าสิบกระบวนท่า
เหมือนเก่า อาสามยังคงมองว่าการที่เหลียงเฟยข้ามสองขั้นติดกันนั้นล้วนเป็นเพราะโชค ต่อไปนี้ก็คงจะฆ่ามันตายได้แล้วกระมัง แต่กลับกลายเป็นว่าเขาสามารถข้ามไปอีกขั้น ข้ามสามขั้นกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง!
ทุกคนแทบสิ้นคำพูด!
รู้สึกราวกับว่าเหลียงเฟย ไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปีศาจ!
แต่ที่ไม่คาดคิดก็คือ เหลียงเฟยยังคงไม่หยุดยั้ง ขั้นการฝึกฝนพุ่งขึ้นอีกขั้น กลายเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นต้นแล้ว!
ข้ามไปสี่ระดับเลยหรือ?
บางคนไม่อาจจะยืนหยัดได้อีกต่อไปและทรุดนั่งไปกับพื้น
บัดนี้ทุกคนเริ่มรู้สึกไปในทางเดียวกันว่าหากเหลียงเฟยเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ เขาก็น่าจะเป็นสัตว์ประหลาดที่เป็นตัวประหลาดในหมู่ปีศาจด้วยกันเอง!
“เขาพัฒนาขึ้นไปอีกแล้ว!? เหลือจะเชื่อ!” ผู้คนจากตระกูลเย่และเซียวหนิงเสวี่ยส่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น หวังให้ฉากที่น่าตื่นเต้นนี้คงอยู่ไปตลอดกาล
ทว่าเมื่ออาสาม รวบรวมพลังอีกครั้งเพื่อโจมตีเหลียงเฟย กลับไม่คิดว่าร่างของเหลียงเฟยจะเปล่งประกายอีกครั้ง เขายังไม่หยุดพัฒนาตนเอง
ห้าขั้นรวดเลย! เขาพัฒนาขั้นถึง 5 ขั้นในคราเดียว!
เมื่อครู่เหลียงเฟยยังเป็นเพียงผสานกายาขั้นสูง เพียงชั่วเวลาไม่ถึงครึ่งควันธูป เหตุใดเขาจึงได้กลายมาเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นกลางไปเสียแล้ว!?
ในเวลานี้ แม้แต่ยอดฝีมือของตระกูลเย่และตระกูลโหลวบางส่วน ก็รู้สึกแทบจะทนทานความประหลาดใจและมหัศจรรย์นี้ไม่ไหว ต่างพากันทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยอาการขาล้าไร้เรี่ยวแรง
หากว่าก่อนหน้านี้เขาคือสัตว์ประหลาดในหมู่สัตว์ประหลาด เห็นทีตอนนี้จะกลายเป็นเซียนในหมู่อสูรแล้วกระมัง
“พัฒนาขั้นต่อไปเลย! พัฒนาต่อไปอีก!” เวลานี้ ไม่เพียงแค่ผู้คนตระกูลเย่เท่านั้น แม้แต่บุคคลบางคนในตระกูลโหลวก็ต่างพากันตะโกนตาม
อาสามก็แสดงอาการไม่เชื่อเช่นกัน เขาได้แผดเปลืองพลังที่เหลือทั้งหมดใน “พันพฤกษาผลิบาน” มุ่งตรงเข้าใส่เหลียงเฟย
น่าเสียดายที่ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้นเมื่ออยู่บนร่างของเด็กหนุ่มคนนี้
ใช่แล้ว เหลียงเฟยได้เลื่อนขั้นอีกครั้ง
เลื่อนขั้นหกรอบรวด
ภายในชั่วพริบตา เหลียงเฟยได้เปลี่ยนผสานกายาขั้นสูงไปเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูง
น่ากลัวกว่าเซียนเมื่อครู่เสียอีก
เวลานี้ นอกจากเย่เทียนฉงและโหลวอิงป้าแล้ว บุคคลอื่น ๆ ต่างพากันทรุดนั่งลงกับพื้นด้วยอาการสิ้นหวัง ที่จริงแล้ว แม้แต่ยอดฝีมือทั้งสองคนนี้ก็ยังรู้สึกราวกับอยู่ในความฝันเช่นกัน
ต่างกันที่สำหรับโหลวอิงป้านั้นเป็นฝันร้าย ส่วนสำหรับเย่เทียนฉงกลับเป็นความฝันที่ดีเสียยิ่งกว่าสิ่งใด
ได้ยินมาว่าผู้ที่เลื่อนขั้นได้สามระดับในเวลาไม่กี่วัน ล้วนมีพรสวรรค์ที่จะได้เป็นเทพยุทธ์ในภายภาคหน้า ซึ่งมิได้มีเพียงหยิบมือ หากแต่หาได้ยากยิ่ง
เช่นนั้นเหลียงเฟยผู้นี้ ผู้ที่เลื่อนขั้นได้ถึงหกขั้นในชั่วพริบตา หากเลื่อนขั้นไปถึงเก้าระดับในเวลาเดียวกันจะเป็นเช่นไร
ไม่มีผู้ใดอาจจินตการได้ ถึงความสำเร็จอันพึงมีในภายภาคหน้าของเขาเลย!
เหลียงเฟยถูกกักขังในเกาะหมื่นอสูรมานานหลายปี บัดนี้การบ่มเพาะในที่สุดก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น กลายเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงแล้ว!
แม้มองในแง่ความแข็งแกร่งจะถือว่าไม่เท่าไหร่ แต่เขาก็ยังดีใจนัก อย่างน้อยในฐานะปรมาจารย์ยุทธ์ เขาก็สามารถโบยบินในอากาศได้อย่างอิสระ เฉกเช่นเหล่าศิษย สำนักเซียนหยูฮั่ว
ครั้นคิดดังนี้เหลียงเฟยจึงแลไปที่อาสามผู้เพิ่งจะใช้กระบวนท่าพันพฤกษาผลิบานจนสิ้นเปลืองพลังไปเมื่อครู่ด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง ปราศจากความหวาดกลัวใดๆ!
“ยังเหลืออีกสิบหกกระบวนท่า!” เหลียงเฟยเอ่ยประโยคหนึ่ง แล้วก็พุ่งตัวขึ้นไปลอยอยู่กลางอากาศ เขาใช้โอกาสนี้ในการปลดปล่อยวิถีเทพของตนใส่อาสามบ้าง!
ยิ่งกว่านั้น ในขณะนี้เหลียงเฟยกำลังได้ปลดปล่อยวิถีเทพออกมาควบคู่ไปกับกระบวนท่าหมื่นกระบี่ทิ้งนภาที่เพิ่งจะเข้าใจเมื่อครู่นี้ มันทำให้เขาสามารถเนรมิตกระบี่นับไม่ถ้วนดั่งสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาใส่อาสามได้!
อาสามกัดฟัน กลิ้งตัวหลบไปมาไม่หยุด พร้อมทั้งใช้วิถีเทพ เพื่อขวางกระแสพลังของเหลียงเฟยไว้
ในทันใดนั้น แสงก็สาดส่องกระจาย กระแสลมก็พัดแรง เสียงดังสนั่นไม่ขาดสาย ทั้งสองประลองกันในอากาศอย่างรวดเร็วสิบหกกระบวนท่า!
หนึ่งร้อยกระบวนท่า อาสามได้ปลดปล่อยกระบวนท่าครบหนึ่งร้อยกระบวนท่าแล้ว!
เซียวหนิงเสวี่ยนับอยู่ตลอดเวลา นางเป็นผู้ที่เอ่ยขึ้นก่อนว่า “หนึ่งร้อยกระบวนท่า ครบหนึ่งร้อยกระบวนท่าแล้ว รีบหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
ต่อมาเหล่ายอดฝีมือของตระกูลเย่ก็ต่างพากันร้องโหวกเหวกขึ้นมา บอกให้ชายร่างกำยำหยุดเสียโดยเร็ว!
แต่อาสามกลับไม่ฟัง เขายังคงปล่อยวิถีเทพใส่เหลียงเฟยต่อไปไม่ขาดสาย แสงสีเขียวครามเข้มปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เสมือนม้าหมื่นพุ่งทะยาน คลื่นยักษ์ตระหง่าน พุ่งเข้าใส่เหลียงเฟยอย่างบ้าคลั่ง!
ลุงหัวทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงทะยานขึ้น ทว่าเขาถูกเย่เทียนฉงขวางเอาไว้
“นายท่าน!” ลุงหัวร้องออกมาด้วยความไม่ยินยอมนัก แต่ก็พูดไม่ออก จนได้แต่เฝ้ามองเหลียงเฟยถูกอาสามกลั่นแกล้งด้วยความกระวนกระวายยิ่งนัก!
เย่เทียนฉงพยักหน้าเล็กน้อย แล้วก็หันศีรษะไปทางด้านข้าง “โหลวอิงป้า ตระกูลโหลวของพวกท่านไม่รักษาสัญญาอย่างนี้หรือ หรือคิดว่าพวกเราตระกูลเย่ไม่กล้าลงมือกันแน่?”
โหลวอิงป้าเฝ้าเงียบงัน ในชั่วขณะนั้นเขาไม่รู้จะทำเช่นไรดี!
แต่แล้วเหลียงเฟยกลับยังคงกล้าหาญอย่างเดิมพูดว่า “ท่านลุงเย่ ไม่ต้องสนพวกนั้นหรอก ขอให้ข้าได้ประมือกับเขาอีกสักห้าสิบกระบวนท่าก็พอ ข้าไม่กลัวเขาหรอก!”
โหลวอิงป้าเฝ้าคาดเดาได้ว่าเหลียงเฟยพูดอย่างนั้น จึงรีบปรบมือชม “เหลียงเฟยแท้จริงเป็นวีรบุรุษผู้กล้าหาญ มีจิตวิญญาณงดงาม! ดี งั้นก็ให้ต่อสู้กันอีกห้าสิบกระบวนท่า หากเหลียงเฟยผ่านไปได้ ข้าจะไม่เพียงแต่ให้ยาถอนพิษแก่พวกเจ้าเท่านั้น แต่ยังจะให้ยาบำรุงร่างกายแก่เหลียงเฟยหนึ่งเม็ดเพื่อรักษาบาดแผลด้วย!”
“พูดจริงหรือ?” เย่เทียนฉง แสดงความไม่เชื่อเล็กน้อย จึงหันศีรษะถามกลับไป!
โหลวอิงป้าตอบอย่างเปิดเผย “ข้าขอยอมปิดผนึกพลังของข้าหนึ่งวัน ถ้าข้าผิดคำ ท่านจะฆ่าจะแกงก็ได้ ตามใจท่านเถิด!”
ทันทีที่พูดจบ โหลวอิงป้าก็ใช้แรงตบร่างกายตนเองหลายครั้ง ปิดผนึกพลังอันแข็งแกร่งของตนเองไว้!
เหล่ายอดฝีมือตระกูลโหลวเมื่อเห็นดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้า พร้อมกับร้องเรียก “พี่ใหญ่” ออกมา!
เย่เทียนฉงและเหล่ายอดฝีมือที่เหลือ เมื่อเห็นว่าโหลวหยิงป้าได้ปิดผนึกจุดหยางกวน จุดเสินเหมิน และจุดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนพลังลมปราณ ก็รู้สึกได้ถึงความจริงใจอย่างแท้จริง!
ทุกคนล้วนเข้าใจดีว่าเขาทำเช่นนี้ก็เพื่อเปิดโอกาสให้อาสาม ใช้พลังอันแข็งแกร่งของตนสังหารเหลียงเฟย
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตระกูลโหลวได้ก่อตัวเป็นศัตรูกับเหลียงเฟย ซึ่งเป็นยอดอัจฉริยะแห่งแดนเสินอู่ไปแล้ว หากปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ ก็คงจะกลายเป็นภัยในภายภาคหน้าอย่างแน่นอน!
แม้ว่าทุกคนจะรู้ดีแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ได้แต่หวังให้เหลียงเฟยสามารถต้านทานอีกห้าสิบกระบวนท่าได้!
เซียวหนิงเสวี่ยก็รู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตระกูลเย่ไม่ออกโรง เธอก็ยิ่งไม่มีโอกาสที่จะลงมือ จึงได้แต่ให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ “ พยายามเข้านะเหลียงเฟย! เจ้าผ่านมาแล้วถึงหนึ่งร้อยกระบวนท่า อีกแค่ห้าสิบกระบวนท่าจะทำอะไรเจ้าได้!”
อาสามเมื่อเห็นพี่ชายผนึกพลังของตน ก็รู้ในเจตนาจึงทุ่มเทมากยิ่งขึ้น โจมตีเหลียงเฟยอย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม!
ราวกับว่าในห้าสิบกระบวนท่านี้จะต้องสังหารเหลียงเฟยให้สิ้นซากเท่านั้น!
แม้ว่าเหลียงเฟยจะสามารถเลื่อนขั้นตนเองถึงเก้าขั้นภายในหนึ่งวัน แต่ในด้านวรยุทธ์แล้ว ก็ยังคงเป็นปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงเท่านั้น ในแง่ของความแข็งแกร่งนั้นยังคงห่างไกลจากอาสามเป็นอย่างมาก
MANGA DISCUSSION