สาวใช้ตัวป่วนของท่านแม่ทัพ - ตอนที่ 16
แม้ว่านายท่านจะเล่นกู่เจิงผ่านไปหลายบทเพลงแล้ว แต่เหม่ยหวายังคงนั่งคุกเข่าตากแดดอยู่ที่เดิม นางรอลุ้นว่านายท่านจะมีเมตตาสั่งให้เข้าไปนั่งในศาลาหรือไม่ แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่มีทีท่าว่านายท่านจะสนใจ ยิ่งทำให้ความน้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณขึ้น จู่ ๆ แดดก็หายไปนั่นเพราะมีก้อนเมฆสีคล้ำเคลื่อนเข้ามาบดบังดวงสุริยา ลมพัดแรงจนต้นไม้ใบหญ้าต่างก็เริงระบำ ราวกับดีใจที่ในอีกไม่ช้าจะมีหยาดพิรุณร่วงหล่นลงมาชุบเลี้ยงชีวิต
ในส่วนของหยางจื่อถงนั้น โทสะที่มีในใจยังคงไม่ลดละ อยากจะให้นางยอมเอ่ยปากขอร้องเสียเอง คนอย่างเขาไม่มีทางเสียศักดิ์ศรีไปง้องอนสาวใช้เป็นแน่
ซ่า….
เม็ดฝนกระหน่ำลงมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ชายหนุ่มหยุดทุกการเคลื่อนไหว เงยขึ้นมองดูสตรีที่นั่งอยู่เบื้องหน้า ทั้งสองสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร นางยังคงมีแววตาที่เด็ดเดี่ยว ส่วนเขาก็ไม่ละความยโสและถือตัว
ใครใจอ่อนก่อนคนนั้นเป็นฝ่ายแพ้!
ดูเหมือนว่าคนขับรถม้าที่มาด้วยจะทนไม่ไหว เดินเข้ามากระซิบเกลี้ยกล่อมให้ท่านแม่ทัพหยางใจเย็นลง แต่โดนตอกหน้ากลับไป แถมยังไล่ให้ไปเฝ้ารถม้าให้ดี แต่หลังจากคนขับรถม้าเดินไปแล้ว คนที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้กลับเป็นหยางจื่อถงเสียเอง เขาทนเป็นห่วงนางไม่ไหว จึงตะโกนสั่งให้กลับเข้ามาหลบฝน แต่นางไม่ยอมลุกขึ้น ไม่ยอมขยับเขยื้อน เขาจึงลุกพรวดพราดขึ้นเดินไปหาแล้วกระชากแขนให้เดินตามหลังเข้ามาในศาลา
“ทำไมถึงได้ดื้อด้านอย่างนี้ ไม่กลัวฟ้าผ่าตายเลยหรือไง”
“บ่าวไม่กลัวเจ้าค่ะ” นางยังคงนั่งคุกเข่า ไม่ยอมแม้แต่จะมองหน้าเขา นั่นทำให้แม่ทัพหยางยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“ดื้อ! หามีผู้ใดเปรียบ คิดหรือว่าคนอย่างข้าจะง้อเจ้า สำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า”
“บ่าวไม่เคยคิดว่าตนเองมีความสำคัญ บ่าวมันก็แค่สตรีชั้นต่ำเจ้าค่ะ”
“ประชดประชันเก่งเหลือเกิน ข้าไม่รู้จะทำอย่างไรกับเจ้าดีแล้ว” คนที่ยืนตะโกนว่านั้นถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า พยายามควบคุมอารมณ์ตนเองให้เย็นลง แต่เมื่อเห็นว่านางกำลังนั่งตัวสั่นเทาเพราะความหนาวเหน็บจากหยาดฝนเมื่อครู่ ก็ทำให้ความเป็นห่วงพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง จึงตัดสินใจถอดเสื้อคลุมตัวหนาไปห่มให้นาง
“บ่าวไม่ต้องการเจ้าค่ะ”
“เจ้าไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ”
ในเมื่อนางไม่ยอมรับความหวังดี เขาจึงจำเป็นจะต้องจับร่างน้อย ๆ ให้ขึ้นมานั่งบนตักแล้วโอบกอดไว้ แม้ว่านางจะพยายามดิ้นรนเพื่อออกจากวงแขนแกร่ง แต่เขาไม่มีทางยอมเด็ดขาด ถึงอย่างไรจะต้องปราบพยศนางให้จงได้
ด้วยความอ่อนล้าเหม่ยหวาจึงหลับภายในอ้อมกอดของนายท่าน เมื่อเห็นว่านางสิ้นฤทธิ์แล้วหยางจื่อถงก็ก้มลงไปมองใบหน้าสวยให้ถนัดตา ในยามที่นางหลับก็เป็นเพียงแค่ลูกแมวตัวน้อยที่เขาจะทำอันใดก็ย่อมได้ แม้แต่ริมฝีปากนี้หากต้องการจุมพิตก็หามีสิทธิ์ปฏิเสธ
“ข้าไม่เคยเห็นสตรีนางใดดื้อด้านเช่นเจ้ามาก่อน”
เหมือนใบหน้าเรียวสวยนั้นมีมนตร์สะกด ให้สายตาของชายหนุ่มไม่อาจะละไปที่ไหนได้ ริมฝีปากน้อย ๆ นั่นทำให้คนที่กำลังจ้องมองเกิดกิเลสขึ้นมาเสียดื้อ ๆ หยางจื่อถงไม่อาจห้ามตัวห้ามใจได้ โน้มลงไปตักตวงความหอมหวานริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเนิบนาบ ค่อย ๆ โลมเลียลิ้มลองไม่ให้นางรู้สึกตัว แต่ทว่าในช่วงเวลาแห่งความหวามไหว กลับรู้สึกได้ว่าผิวกายนางอุ่นกว่าปกติราวกับคนกำลังมีไข้
เมื่อฝนหยุดตกแล้วหยางจื่อถงก็รีบสั่งให้คนขับรถม้ามุ่งตรงกลับไปที่จวนทันที พอไปถึงเขาก็อุ้มร่างของนางเข้าไปที่เรือนนอนของตนเอง แทนที่จะพานางไปยังเรือนนอนของนาง ท่านแม่ทัพหยางอุ้มนางขึ้นบนเตียงแล้วเตรียมชามน้ำและผ้ามาเพื่อเช็ดตัวให้ เขาเป็นห่วงแม่สาวใช้ตัวดีจนลืมไปว่านางเป็นสตรี ไม่ควรจะปลดเปลื้องอาภรณ์ของนางโดยพลการเช่นนี้ จึงตัดสินใจเดินไปขอร้องให้น้องสาวมาช่วยทำหน้าที่นี้แทน
“ท่านพี่เรียกข้ามา มีอะไรหรือคะ”
“ข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วย”
“เรื่องอะไร ทำไมท่านพี่ถึงได้ดูร้อนรนเช่นนี้ เรื่องสำคัญหรือคะ”
“ตามมาแล้วก็จะรู้เอง”
นางเดินตามเข้าไปในห้องนอนพี่ชายจนพบว่ามีร่างของเหม่ยหวานอนอยู่ อาภรณ์ของนางยังคงเปียกชุ่มอยู่บ้าง
“เหม่ยหวาเป็นอะไรคะท่านพี่”
“นางมีไข้ เพราะนั่งตากฝนนาน เจ้าช่วยเช็ดตัวให้นางหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวข้าจะไปรอข้างนอก”
“ได้ค่ะท่านพี่”
แม้จะรู้สึกงุนงงอยู่ แต่นางก็ยอมทำตามคำร้องขอของพี่ชาย ปกติแล้วท่านแม่ทัพหยางไม่เคยใส่ใจสาวใช้เช่นนี้ ถึงขนาดให้นอนบนเตียงตนเอง แถมยังเป็นห่วงเป็นใยผิดปกติ จนนางคิดได้ทางเดียวว่าพี่ชายตนเองคงจะมีใจให้สาวใช้คนนี้เข้าให้เสียแล้ว
เช็ดตัวเสร็จแล้วซินอวี่ก็เดินออกมาหาพี่ชายด้านนอก วันนี้นางจะต้องถามให้รู้ความ ว่าพี่ชายนางรู้สึกอย่างไรกับเหม่ยหวา
“เสร็จแล้วค่ะท่านพี่”
“ขอบใจเจ้ามาก”
“ทำไมท่านพี่ไม่พานางไปยังเรือนนอนของนางคะ”
“เอ่อ…ข้าคิดว่าที่นี่น่าจะสะดวกกว่า เพราะถึงอย่างไรนางก็เป็นคนของข้า เจ้ามีอะไรข้องใจงั้นหรือ”
“ปกติแล้วท่านพี่ไม่เคยใส่ใจกับสาวใช้คนไหนนี่คะ”
“ใครบอก ข้าใส่ใจกับทุกคนที่เข้ามารับใช้ เพียงแต่เจ้าไม่รู้เท่านั้น” คนเป็นพี่ชายยังคงตีสีหน้าเรียบเฉย เพื่อไม่ให้น้องสาวผิดสังเกต เพราะที่ซินอวี่กล่าวมานั้นมันคือเรื่องจริง เขาไม่เคยใส่ใจกับใคร โดยเฉพาะสาวใช้ยิ่งแล้วใหญ่ แต่สำหรับเหม่ยหวานั้นกลับรู้สึกห่วงใยเป็นพิเศษอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“เช่นงั้นหรือคะ ท่านพี่ว่าเหม่ยเหมยเป็นอย่างไรบ้างคะ”
“อย่างไรของเจ้าหมายความว่าอย่างไร” คนพูดขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำถามที่ครุมเครือของน้องสาวสุดที่รัก
“ก็หมายถึงนางสวยถูกใจท่านพี่หรือไม่ ข้าว่าท่านพี่อาจจะหลงเสน่ห์นางไปแล้วก็ได้ ไม่เช่นนั้นคงไม่ยอมให้นางขึ้นไปนอนบนเตียงแน่นอน” ซินอวี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชาย ซึ่งตอนนี้ทำตาเลิ่กลั่กราวกับคนที่กำลังปกปิดความลับสำคัญไว้