สามีข้า คือพรานป่า - ตอนที่ 254 กลับไป
ตอนที่ 254 กลับไป
หยุนเถียนเถียนยังคงความรู้สึกชอบธรรมใน ฐานะที่เคยเป็นตํารวจมาก่อน เมื่อพบหลี่เฟิงลง มือภายในจิตใต้สํานึกจึงตระหนักว่าควรกระโดดลงไปห้ามปราม! แต่ขณะนั้นเองหยุนเคอกลับ กอดนางและยื่นมือออกไปปิดปากของนางไว้แน่น
จนกระทั่งหลี่เฟิงพาคนออกไป หยุนเคอจึงปล่อยหยุนเถียนเถียนออกจากตัว
หยุนเถียนเถียนโกรธมาก เมื่อนางยืนทรงตัวบนพื้นอย่างปลอดภัย หยุนเถียนเถียนสะบัดมืออก พร้อมจ้องมองเขาอย่างโกรธเคือง
“ท่านคิดอันใดอยู่? อย่างไรเขาก็คือมนุษย์ หากเขาต้องโทษก็ควรให้ทางการจัดการเสีย!! ท่านจะทนดูเขาโดนวางยาพิษตายอย่างไรกัน?
แม้หยุนเคอจะไม่เข้าใจว่าการกระทําหยุนเถียนเถียนเช่นนี้มาจากที่ใด? แต่ยังอดทนต่ อการเหตุการร์เช่นนี้เสมอมา
“สาวน้อย ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้าคิดสิ่งใดอยู่!? สัญญาขายตัวของพ่อบ้านหวังยังอยู่ในมือของหลี่เฟิง นั่นหมายถึงสัญญาแห่งความตาย! ต่อให้หลี่เฟิงวางยาพิษต่อหน้าทุกคน พวกเราก็ทําได้แค่มองเท่านั้น ไม่มีแม้แต่ข้ออ้างที่จะหยุดเขา!”
หยุนเถียนเถียนตกตะลึงอยู่กับที่ โลกใบนี้สิทธิมนุษยชนเบาบางเช่นนี้เลยหรือ?
“ถ้าพ่อบ้านหวังไม่ได้ทําอันใดผิด ก็ไม่เป็นไรหรอก เช่นนั้นเราอาจกล่าวโต้แย้งความจริงได้บ้าง ทว่านี่เห็นได้ชัดว่าเขากระทําโดยแอบมีชู้กับนางหญิง บัดนี้หลี่เฟิงจึงสามารถจับตัวเขาได้ ในฐานะทาสที่กําลังหลบหนี! เช่นนั้นหากทางการเป็นผู้จับได้ เขาก็จะมอบทาสให้หลี่เฟิงจัดการเองอยู่ดี!”
“ที่ข้าหยุดเจ้า เพราะข้าไม่ต้องการให้หลี่เฟิงทําเจ้าขายหน้า! เจ้าเร่งออกหน้าแทนเกินเหตุ หลี่เฟิงสามารถใช้ข้อนี้ดูถูกเจ้าได้ถึงครานั้น เจ้าจะสิ้นหนทางที่จะช่วยเขาแน่!”
หยุนเถียนเถียนถูกความจริงโจมตีอย่างช่วยไม่ได้! ปรากฎว่านี่ไม่ใช่สังคมที่ปกครองโดยกฎหมายอีกต่อไป ชีวิตมนุษย์สามารถตัดสินได้เพียงกระดาษแผ่นเดียว หลี่เฟิงไม่ได้สั่งให้ใครประหารชีวิต แต่ในความเป็นจริงเขาเมตตาแล้วด้วยซ้ํา
หยุนเถียนเถียนทําให้ทุกคนตกใจ หยุนเคอถอนหายใจและเอื้อมมือดึงหญิงสาวเข้าไปร้านหนังสือ แน่นอนว่าเฉินเฉินตระหนักดีว่าตนยังเด็ก ไม่สามารถไปไหนกับผู้ใหญ่ได้ ทําให้ตัวเฉินเฉินเองก็เต็มใจที่จะอยู่ร้านหนังสือรอ ด้วยเงินบางส่วนทําให้เขาสามารถอ่านหนังสือได้อย่างเพลิดเพลิน
หยุนเคอพาหยุนเถียนเถียนกลับไปที่ร้านหนังสือเพื่อรับเฉินเฉิน ทั้งสามกลับไปยังเรือนตระกูลหลื่อย่างเงียบ ๆ
ใกล้จะปีใหม่แล้ว อีกไม่นานก็จะสอบซิ่วไฉ ดังนั้นเฉินเฉินยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทํา
หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้ว นางเพียงนึกถึงชีวิตของพ่อบ้านหวังที่ถูกทิ้งไว้ในตรอกนั้น ในใจนางรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แม้ว่าหยุนเคอจะหาข้อแก้ต่างซ้ําแล้วซ้ําแล้ว แต่นางก็ยังไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร
ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็ตัดสินใจบอกลาหลี่ชื่อฮวา วันตรุษจีนเขาต้องกลับไปยังหมู่บ้านเทพธิดา เฉินเฉินเพิ่งเข้ามาในบ้านมหาเทพพร้อมคนอื่น ๆ ได้ไม่นาน! การกลับไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีนจึงเป็นสิ่งที่ควรทํา ทว่าสิ่งที่สําคัญที่สุดคือเวลาที่รอคอยจะหลบหนีคนตระกูลหลีปล่อยให้พวกเขาจัดการเรื่องตนเอง เพราะอย่างไรก็ไม่สามารถช่วยอันใดได้
หลี่ซื่อฮวารู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อไม่กี่วันก่อน เขายังช่วยเขาอยู่ แต่ตอนนี้กลับกําลังจะจากไปแล้ว
“ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าอยู่ที่นี่ดีก็ดีแล้วหรอกหรือ? เหตุใดจู่ ๆ ถึงต้องจากไปเล่า?”
หยุนเคอมองไปที่หยุนเถียนเถียนที่ไม่ต้องการกล่าวอันใด จนในที่สุดเขาก็กล่าวต่อไปว่า “เราอยู่ที่นี่มานานแล้ว แม้ว่าเฉินเฉินต้องสอบเข้าซิ่วไฉก็ตาม ทว่าเฉินเฉินก็พอมีความรู้อยู่บ้าง เนื่องด้วยร้านหนังสือในเมืองนั้นถูกเขาอ่านจนแทบหมด เช่นนั้นไม่มีเหตุอันใดที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป! ”
“เจ้าก็รู้ว่าตระกูลหลี่มีความกตัญญมาก ตระกูลข้าอยู่ที่นี้มานาน แต่เพื่อการสอบสวนสาเหตุการตายของนายท่านลี่ เจ้าจึงต้องอยู่ต่ออย่างไร้กําหนด เจ้าควรเผชิญหน้ากับมันเสีย แผนการที่ข้าสอนเจ้าน่าจะได้ผลดี เช่นนั้นอีกสักวันสองวันเจ้า ต้องอธิบายทุกอย่างให้ฟังได้แล้วกระมัง”
“เถียนเถียนเป็นเพียงหญิงสาวจากครอบครัว ชาวนา และข้าเป็นนายพรานในภูเขา นางจึงไม่ชินกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน เมื่อไม่กี่วันที่หลี่เฟิงจัดการเรื่องทาสหลบหนี นางตกใจจนแทบสิ้นสติ! เมืองแห่งนี้มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดมากมาย ข้าว่าหมู่บ้านเล็ก ๆ นั่นเหมาะกับพวกเราเสียมากกว่า! หากนายน้อยหล่อยากพักผ่อนก็สามารถมาเยือนหาพวกเรา! เราจะต้อนรับเป็นอย่างดี! ”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ หลี่ซื่อฮวาก็ไม่สามารถหยุดเขาได้อีกต่อไป ตระกูลหลี่ยังมีเขาอยู่ ส่วนหยุนเคอก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก โดยเฉพาะสาวใช้ที่เขาสนใจมากที่สุด หลายวันมานี้แม้แต่กินข้าวก็ยังต้องใจลอยนึกหา เขามองเห็นเช่นนี้ จึงรู้สึกเจ็บแปลบในใจ แต่ความปวดร้าวเหล่านี้ไม่สามารถกล่าวได้
ช่วงบ่าย รถม้าที่มีแขกสามคนกลับมายังเมืองเถาหัวจากฝูเฉิง!
เรือนว่างในเมืองได้รับการทําความสะอาด โดยทั้งสองเพื่อให้สามารถพักอาศัยได้อย่างสุขสบาย แต่ทั้งสามเพิ่งได้พาลูกชายของเฉินไปไปยังหมู่บ้านเทพธิดาครู่หนึ่ง เฉินฉือก็มาถึงแล้ว
แท้จริงเขาทําตามคําสั่งของพ่อ จึงได้มาที่นี่ เพื่อตามหาหยุนเถียนเถียน! เพราะรู้ว่าหยุนเถียนเถียนไปเป็นแขกที่เมืองหลวง เขาจึงมาถามไถ่ หานางทุกวัน จนกระทั่งวันนี้ได้เจอครอบครัวของ หยุนเถียนเถียน
“แม่นางหยุน เวลาผ่านไปก็หลายเดือนแล้ว! พ่อของข้าฝากเชิญเจ้ากลับไปดูผลผลิตเพื่อรับเงินปันผลของปีนี้ให้ชัดเจน ที่สําคัญปีนี้เป็นครั้งแรกที่เฉินเฉินเข้าร่วมพิธีบวงสรวงบรรพบุรุษ เช่นไรก็ควรให้เกียรติกันบ้าง”
หยุนเถียนเถียนพยักหน้า “อย่างไรเล่าเหตุผลที่แท้จริง! เจ้ากลับไปบอกพ่อเจ้าว่าอีกไม่นาน เราจะกลับไป! เราจะนําของฝากไปให้พ่อเจ้าด้วย เช่นกัน! ที่นี่มียาสูบที่ดีกว่านี้เจ้านํามันกลับไปให้ ปู่เจ้าบอกว่ามันมาจากเฉินเฉิน!”
เฉินฉือพยักหน้าพร้อมยืนอยู่เพียงบริเวณลานบ้าน แล้วจึงรีบเดินกลับไปเนื่องด้วยค่ํามากแล้ว ไม่ดีนักหากต้องเดินทางยามดึกเช่นนี้!
ช่วงชีวิตก่อนหยุนเถียนเถียนกลับมาเกิด นางอาศัยอยู่ในเมืองทางตอนเหนือ พอถึงเดือนตุลา คมอากาศจึงเริ่มหนาวอย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้นาง อยู่ทางใต้ แม้จะอยู่ในเดือนตุลาคมแต่อากาศนั้นไม่เย็นมากนัก จึงพอสวมชุดเพียงชุดเดียวก็เพียงพอ
แต่เมื่อย้อนนึกถึงความทรงจําครั้งก่อน ในช่วง เทศกาลตรุษจีนนี้เช่น นางจะต้องเตรียมรับหน้าหนาวด้วยเสื้อกันหนาวครบชุด!
เฉินเฉินสามารถเรียนรู้จากเฉินซิ่วไฉเรื่องการเซ่นไหว้บรรพบุรุษ จึงต้องตื่นเช้ราวหนึ่งถึงสองเดือน! เฉินไปกล่าวเมื่อครู่นี้เพื่อเตือนนาง
หากกล่าวถึงบัดนี้ เฉินเฉินเติบโตขึ้นทุกวัน เด็กอายุแปดขวบมีวุฒิภาวะมากกว่าคนทั่วไป กล่าวตามตรงหยุนเถียนเถียนรู้สึกปวดใจเล็กน้อย เนื่องจากยิ่งเฉินเฉินเติบโตขึ้นค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้นตามเช่นกัน