วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่38 คนรักของคุณช่างรู้ใจจริงๆ
ตอนที่38 คนรักของคุณช่างรู้ใจจริงๆ
วัจสาที่นั่งรออยู่ในห้องรับแขกคอยมองไปที่ประตูบานนั้นอยู่บ่อยๆ ในมือถือแก้วเอาไว้ น้ำชาในแก้วนั้นดื่มไปหมดแล้ว ป้าอ้อยจึงเปลี่ยนเอาน้ำร้อนมาให้
ป้าอ้อยบอกให้เธอเข้าไปนอน แต่ว่าเธอก็ยังนั่งอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ป้าอ้อยก็จนปัญญา จึงทำได้เพียงเติมน้ำร้อนในแก้วของเธอให้
วัจสารู้สึกว่าผู้ชายคนนั้นไม่แน่อาจจะเจอกับฟ้าฝ่าก็ได้ ช่างเป็นเหตุการณ์ที่น่าอึดอัดอะไรขนาดนี้ พอคิดถึงร่างกายที่ดูบึกบึนล่ำสันของเขา ถือของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงเดินไปเดินมาก็รู้สึกน่าขำไม่น้อย ก็ไม่รู้ว่าจะถือของพวกนั้นกลับมาได้อย่างราบรื่นหรือเปล่า
เธอหัวเราะคิกคักขึ้นมา เกือบจะพ่นน้ำชาออกมาแล้ว
ในตอนที่เธอกำลังแอบหัวเราะกับตัวเอง ก็มีเสียงเปิดประตูเข้ามาพอดี วัจสาเงยหน้าขึ้นไปมอง ก็เห็นผู้ชายรูปหล่อตัวเปียกไปทั้งตัว ในมือถือถุงสิ่งของใบใหญ่ยืนอยู่ตรงประตู
วัจสาตกใจแทบตาย คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนั้นจะซื้อของเหล่านั้นกลับมาจริงๆ!
ธัชชัยค่อยๆ เดินเข้าไปหาวัจสา เส้นผมยังมีหยดน้ำฝนไหลติ๋งๆ ลงมาอยู่ เห็นได้ชัดว่าฝ่าฝนมา สายตาของวัจสาอดไม่ได้ที่มองหยาดฝนที่ไหลเต็มใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา
“อ่ะ ให้เธอ” ธัชชัยพูดอย่างเย็นชา เพราะว่าเสื้อเชิ้ตของเขาเปียกหมดดังนั้นเสื้อของเขาจึงแนบเนื้อไปหมด กล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ และเส้นกล้ามเนื้อที่ดูราบเรียบนั้นมันทำให้คนมองโดยไม่รู้ตัว
วัจสาตะลึงกับถุงที่อยู่ในมือของเขา รู้สึกหวาดผวาขึ้นมานิดหน่อย ในเวลาเดียวกันก็มีความซาบซึ้งใจอยู่บ้าง มองดูธัชชัยเป็นแบบนี้ ภายในใจก็ไม่รู้ว่ารู้สึกอบอุ่นขึ้นมาได้อย่างไร
“ธัชชัย ขอบคุณนะ” เธอกล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ
ริมฝีปากรูปกระจับที่สวยงามได้รูปของเขาก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะให้เธอใช้การกระทำจริงๆ ของเธอเพื่อมาตอบแทนฉันอย่างแน่นอน”
เขาพูดอย่างนี้กับวัจสา เธอสำลักออกมานิดหน่อย รู้สึกว่าผู้ชายนี้เหมือนจะรู้แผนการชั่วร้ายของตัวเอง อีกทั้งยังตระเตรียมที่จะหาโอกาสแก้แค้นเธอแล้ว เธอไม่มีสามารถโต้แย้งอะไรได้ ทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆ สองทีเท่านั้น
“ชุดคุณเปียกหมดแล้ว รีบไปเปลี่ยนเถอะ” เธอเตือนเขาด้วยความหวังดี
ธัชชัยเองก็รู้สึกเหนียวหนึบไม่สบายตัวนิดหน่อย ก่อนที่จะไปก็ไม่ลืมที่จะแกล้งลวนลามวัจสาสักหน่อย “อยากช่วยฉันเปลี่ยนไหม? ก็ถือซะว่าเป็นการตอบแทนฉันก็แล้วกัน เป็นไง?”
วัจสาอดทนเอาไว้ได้ไม่โยนถุงของใช้ส่วนตัวผู้หญิงทิ้งไป เพราะว่ากองทัพประจำเดือนได้บุกออกมาอย่างรุนแรงจนใกล้จะต้านเอาไว้ไม่ไหวแล้ว ถ้าหากว่าเธอไม่รีบไปห้องน้ำตอนนี้เกรงว่าจะไม่ทันแล้ว
เธอกอดถุงของใช้ส่วนตัวสำหรับผู้หญิงเอาไว้แล้วพุ่งตัวไปยังห้องน้ำทันที ผ้าอนามัยแผ่นนั้นสามารถทำให้เธอหลับอย่างสนิทได้แล้ว วัจสาก็โชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ประจำเดือนเธอไม่ได้เลอะโซฟา ไม่อย่างนั้นโซฟาตัวนั้นคงต้องโยนทิ้งแน่นอน
เธอพลิกดูถุงไปมา ในถุงนั้นทั้งหมดล้วนเป็นยี่ห้อและของที่ต้องการที่เธอเขียนลงไปในกระดาษแผ่นนั้น เธอก็พลันนึกถึงผู้ชายคนนั้นที่อยู่ตรงกลางระหว่างของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงและรูปร่างหน้าตาของทุเรียน อดไม่ได้ที่จะหลุดหัวเราะออกมา ผู้ชายรูปร่างบึกบึนและหน้าตาหล่อเหลาของเขาไปซื้อของแบบนี้ คิดว่านี่คงเป็นครั้งแรกของเขาสินะคิดมาถึงตรงนี้ จิตใจของวัจสาถึงได้ค่อยๆ สงบลง เป็นครั้งแรกที่ธัชชัยซื้อของแบบนี้ให้กับเธอก็เข้าใจเรื่องนี้ทันทีจึงทำให้เธอตกใจขึ้นมา คิดอะไรก็ยุ่งเหยิงไปหมดในตอนที่ตระเตรียมของเสร็จแล้ว ก็เห็นข้างล่างถุงนอกจากกระดาษแผ่นนั้นที่เธอเขียนให้ธัชชัยแล้วยังมีเงินทอน และกระดาษโพสอิทอีกแผ่นหนึ่ง“คุณโชคดีจริงๆ ที่มีคนรักที่เอาใจใส่คุณขนาดนี้ ขอให้พวกคุณทั้งสองคนมีชีวิตที่โชคดีและมีความสุขนะคะ”ตัวหนังสือที่เขียนได้อย่างสวยงาม โลโก้ของกระดาษโพสอิสแผ่นนี้เป็นชื่อของร้านสะดวกซื้อร้านนั้น ตรงชื่อผู้รับของขวัญก็เขียนเอาไว้ว่า “พนักงานผู้เลือกของใช้ส่วนตัวแทนท่าน”วัจสาถลึงตาหนึ่งครั้ง ที่แท้ก็ไม่ใช่ธัชชัยที่เลือกซื้อของด้วยตัวเอง เธอคิดว่าตัวเองทำเรื่องที่ไม่ดี และคิดแผนชั่วร้ายมาตลอด คิดไม่ถึงว่าเขาจะฉลาดขนาดนี้ ถึงขั้นบอกให้คนอื่นเลือกซื้อของแทน หลีกเลี่ยงความกระอักกระอ่วนแล้วยังรักษาชื่อเสียงที่ดีเอาไว้อีกด้วยคนรักที่เอาใจใส่ ธัชชัยเหรอ?วัจสายิ้มน้อยๆ ถ้าหากพนักขายคนนั้นรู้ว่าคนรักที่เอาใจใส่คนนี้เป็นน้องชายสามีของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะมีท่าทางที่ตกใจแบบไหนกันแน่เธอพับกระดาษโพสอิทแผ่นนั้นอย่างระมัดระวังแล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกง ถือว่าเป็นของที่ระลึกครั้งแรกก็แล้วกันทว่าพอคิดถึงธัชชัยขึ้นมา ในสมองก็พลันปรากฏประโยคหนึ่ง “ซ่อนเสือร้ายในใจ แต่ดมดอมดอกกุหลาบ”ประโยคที่โรแมนติกประโยคนี้ ก็แขวนเอาไว้บนหัวธัชชัยชั่วคราวก่อนก็แล้วกันวันต่อมาบนโต๊ะอาหาร ผู้ชายที่น่าตาหล่อเหลาและดวงตาดอกท้อที่เปล่งประกายลึกซึ้ง และพละกำลังที่มั่นคง ถึงแม้ว่าว่าจะมีสีหน้าที่ความระทมทุกข์ แต่ก็ยังทำให้คนเคลิบเคลิ้มหลงใหลไม่น้อยดวงตาน้อยๆ ของธัชชัย เป็นสายตาที่เฉียบคมระคนไปด้วยความอบอุ่นมองไปยังอาหารเช้าโจ๊กสีขาวอ่อนๆ และไข่ดาวที่ทอดสุกได้ที่ และอีกอย่างรูปร่างคล้ายกับขนมงาทอดมันม่วงของคราวที่แล้ว และสุดท้ายก็เป็นผลไม้ที่ถูกจัดจานมาอย่างสวยงาม มีผลไม้ที่แปลกประหลาดที่เขาชอบกินที่สุดด้วยไม่ยากที่จะเห็นอาหารเช้าที่ถูกเตรียมไว้เป็นอย่างดี ไม่เหมือนกับวันปกติที่เขากินอาหารที่กินในยามปกติ เพื่อดูแลผิวพรรณและควบคุมโภชนาการเป็นพิเศษ เพราะว่าเพื่อดูแลผิวหนังของพี่ใหญ่วรพลด้วยวัจสาสวมกระโปรงผ้าฝ้ายสีขาว เรือนร่างอ้อนแอ้นอรชร ที่ยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนออกเธอไม่พลาดสายตาของธัชชัยที่มองไปยังขนมงามันม่วงทอดอย่างหงุดหงิด“วางใจได้ ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบกินหวาน เพราะฉะนั้นขนมงาทอดมันม่วงในครั้งนี้ฉันก็เลยทำรสชาติเค็มหน่อย” วัจสาพูดเบาๆ น้ำเสียงนี้เหมือนกับกำลังรอคอยเหตุการณ์อย่างใจจดจ่อราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง ใบหน้าแดงระเรื่อ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตระเตรียมอาหารเช้ามื้อนี้นานเกินไปหรือเปล่าธัชชัยได้ยินสิ่งที่เธออธิบาย ในเวลาเดียวกันเธอชอบที่จะเอาใจใส่ตัวเขาอีกด้วย ก็รู้สึกสบายใจไม่น้อย สายตาที่ดุร้ายนั้นก็ลดลงไปได้มาก ทว่าคำพูดที่เขาพูดอกมานั้นกลับไม่ใช่สิ่งที่ใจคิด“เห็นความดีของฉัน ก็เลยเตรียมจะล่อลวงฉันไปอีกคนเหรอ” น้ำเสียงที่ดูดุดันทว่ากับมีเสน่ห์ ทำให้รู้สึกไม่ชัดเจนไปหน่อยวัจสากระพริบตาปริบๆ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้พูดจาอะไรเหลวไหนแบบนี้ออกมาได้? เธอคิดถึงตอนที่กัดเขาแบบนั้นในครั้งที่แล้วมาตลอด ดูเหมือนว่าความจำจะไม่ดีไหร่นะการพิสูจน์ความจริง คงจะไม่ดีกับธัชชัยเท่าไหร่ ให้มันค่อยๆ หายไปก็ดีแล้ว หางของผู้ชายคนนี้ชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้ว จะไปล่อลวงตูดหมาอะไร ก็ไม่คิดหน่อยเหรอว่าตัวเองมีค่าพอให้เธอล่อล่วงขนาดนั้นหรือเปล่า!วัจสากระทืบเท้าเร่าๆ เข้าไป ยื่นมือจะหยิบอาหารจานนั้นไป แต่กลับถูกธัชชัยจับแขนเอาไว้ “เธอบ้าไปแล้วเหรอ เธอคิดจะทำอะไร?”วัจสาพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเบาๆ ว่า “อาหารเช้ามื้อนี้ฉันเป็นคนทำเอง อยากให้ใครกินก็จะให้คนนั้นกิน ไม่อยากให้ใครกิน คนนั้นก็อย่าหวังว่าจะได้กิน!”“เหอะ เหอะ อุตสาห์ใช้ใจตัวเองทำมันขึ้นมา ตอนนี้มาหลอกให้ตายใจเล่นเหรอ? มีความหมายอะไรรึเปล่า? จริงๆ แล้วก็ตั้งใจทำมันมาให้ฉันกินนั้นแหละ ยังจะเก็บไปไหนอีกเหรอ?” น้ำเสียงของธัชชัยฟังดูเย็นชาทว่าแฝงเอาไว้ด้วยความด้วยความอิ่มอกอิ่มใจไม่น้อย“คุณคิดมากเกินไปแล้ว คุณชายธัชชัย ฉันก็แค่วางมันเอาไว้ตรงนี้ ไม่ได้จะให้คุณกินสักหน่อย บางทีเจ้าแจ็คอาจจะชอบอาหารเช้าจานนี้ก็ได้”สีหน้าของธัชชัยก็เปลี่ยนไป ผู้หญิงคนนี้ถึงกับเอาเขามาเอ่ยขึ้นพร้อมกันกับเจ้าหมาตัวนี้ อยากโดนตีหรืออย่างไร?“ผู้หญิงปากไม่ตรงกับใจ!”วัจสาเอามือออกจากมือหนาๆ ของธัชชัยเก็บกลับมาแล้วพูดว่า “ฉันเป็นพี่สะใภ้ของเธอ อย่าลืมความจริงในข้อนี้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไหน อีกอย่าง ระหว่างเราสองคนควรมีความเคารพซึ่งกันและกันนั่นถึงจะเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าหากว่าฉันเคารพให้เกียรติคุณ ก็ได้โปรดให้คุณเคารพและให้เกียรติฉันที่เป็นพี่สะใภ้ของคุณด้วย”ธัชชัยฟังเธอพูดคำว่าพี่สะใภ้ไม่ขาดปากก็ทำให้เขารู้สึกร้อนใจไม่เป็นสุขจึงพูดกลับไปว่า “ใครบอกว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ของฉัน? แต่ไหนแต่ไรมาฉันไม่เคยพูดว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ของฉันเลย อย่าเอาเรื่องนี้มากดดันฉัน?”วัจสาพูดอย่างไม่พอใจว่า “ความจริงก็คือความจริง คุณไม่ยอมรับ ทว่าสุดท้ายฉันก็ยังเป็นพี่สะใภ้คุณอยู่ดี!”“ใช่เหรอ? ฉันจะพูดชัดๆ กับคุณตรงนี้เลยว่า วัจสาเธอไม่ใช่พี่สะใภ้ของฉัน ธัชชัย!” ความจริงที่พูดออกไปในวันนี้ก็ไม่เป็นอะไร ผู้หญิงคนนี้ช่างร้ายกาจเกินไปแล้ว! สายตาของเขาเต็มไปด้วยความดุร้ายวัจสาขมวดคิ้วมุ่น ไม่อยากมีเรื่องกับเขาอีกแล้ว ไม่ว่าจะพูดอะไรก็พูดออกมาไม่ชัดเจน คนอย่างธัชชัยถือทิฐิมากเกินไป “ถ้าคุณไม่กินก็ช่างมันเถอะ อย่ามาพูดเพ้อเจ้อแบบนี้อีก” พอวัจสาพูดเสร็จก็ถอดเสื้อกันเปื้อนออก และเดินตรงไปยังบันไดทันทีวัจสาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมทุกครั้งที่อยากจะทำดีกับธัชชัยด้วยความจริงใจ เขามักจะทำร้ายตัวเธอตลอด? ทำอะไรก็กลายเป็นว่าจะล่อลวงเขาอย่างนั้นเหรอ? ตัวเองไม่สงบเสงี่ยมเจียมตัวเอง เอาความจริงใจของตัวเองไปให้คนอื่นเหยียบย่ำฟรีๆ ถึงหน้าประตูดวงตาดอกท้อของธัชชัยกำลังครุ่นคิดอยู่เงียบๆ มองดูอาหารบนโต๊ะที่ทำให้อยากอาหารมากขึ้น ภายในใจจึงเริ่มสงบขึ้นมา หรือว่าผู้หญิงคนนั้นจะมีเวทมนตร์? ถึงทำให้เขาจิตใจสงบลงได้ง่ายๆเขาหยิบช้อนขึ้นมา และเริ่มกินข้าวเช้าที่อยู่บนโต๊ะไปทีละคำทีละคำวัจสาที่เดินไปยังบันไดจริงๆ แล้วไม่ได้จะขึ้นไปบนตึก เธอเพียงแค่ไปหลบซ่อนตัวอยู่ใต้บันได มองดูผู้ชายคนนั้นเริ่มกินอาหารเช้าที่เธอทำ หัวใจที่เย็นชาก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้งวัจสาอดที่จะทอดถอนหายใจออกมายาวๆ ไม่ได้ หรือว่าตัวเองที่เป็นพี่สะใภ้จะมีความรู้สึกหวั่นไหวเหรอ? รู้อยู่เต็มอกว่าทำแบบนี้ก็เท่ากับฉีกหน้าเขา ทว่าอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อมาแสดงความของคุณเรื่องเมื่อคืน อีกอย่างอาหารเช้าพวกนี้ก็ให้ป้าอ้อยยกออกมา…วัจสาที่เพิ่งจะจิตใจสงบลงได้ก็รู้สึกแย่ลงไปอีกภายในห้องรักษาตัวจริงๆ แล้วป้าอ้อยจะนำการพัฒนาความสัมพันธ์และปัญหาของธัชชัยและวัจสามาเล่าให้วรพลฟังทุกวันรวบรวมข้อมูลและนำมารายงานวรพลวันนี้ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เพราะว่าการรักษาของวรพลนับวันยิ่งแย่ลง ตอนนี้จะพูดก็ยังไม่ไหวแล้ว“เมื่อคืนนี้ธัชชัยกับวัจสาไม่ได้เข้าหอกันเหรอ?” พอเขาได้ยินก็รีบถามขึ้นป้าอ้อยส่ายหน้า ทอดถอนหายใจยาวๆ หนึ่งครั้งพูดว่า “ไม่ค่ะ เมื่อคืนนี้ประจำเดือนคุณผู้หญิงมาค่ะ คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต ทางไปสู่ความสุขนั้นย่อมเต็มไปด้วยอุปสรรค บางทีเขาทั้งสองคนอาจจะไม่มีวาสนาต่อกันก็ได้นะคะ”วรพลถอนหายใจอย่างจนปัญญา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เรื่องของพวกเขาจะมีโอกาสเหมาะๆ ได้จริงๆ สักที น่างกายของตนในตอนนี้นับวันยิ่งแย่ลง การพัฒนาความสัมพันธ์ของพวกเขาสักนิดก็ไม่มี กลัวว่าตัวเองจะตายก่อนแล้ว ธัชชัยไม่มีทางให้ใจกับวัจสาแน่นอนป้าอ้อเห็นท่าทางของวรพลอย่างนี้แล้ว ก็ทำได้เพียงปลอบใจ “คุณชายใหญ่คะไม่ต้องกังวลไป วันที่ประจำเดือนของคุณผู้หญิงมาป้าจำเอาไว้แล้วค่ะ ช่วงไข่ตกรอบถัดไป พวกเราจะสร้างโอกาสให้พวกเขาอีกทีค่ะ คุณผู้หญิงจะต้องมีคุณชายน้อยอย่างแน่นอนค่ะ” เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ วรพลพอได้ฟังแล้ว ชั่วขณะนั้นอารมณ์ก็กลับมาเป็นปกติ “ป้าอ้อยพูดถก ความคิดนี้ดีที่สุด ในเมื่อพวกเขามีโอกาสน้อย ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็สร้างโอกาสให้เขาซะเลย เรื่องข้างนอกคงต้องให้ป้าอ้อยกับพ่อบ้านภูษิตจัดการแล้ว ถึงเวลาที่วัจสาต้องมีลูกให้ธัชชัยแล้ว ความรู้สึกของพวกเขาจะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาของธัชชัยจะได้ไม่มีแต่ความเกลียดชังแล้ว”