วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 91 เหตุเกิดบนรถ
ตอนที่ 91 เหตุเกิดบนรถ
มีอะไรบางอย่างค่อยๆสัมผัสใบหน้าของเธออย่างแผ่วเบา แล้วลามมาตรงใบหูหยกงาม ลำคอเด่นระหง และสุดท้าย….ก็มาสัมผัสริมฝีปากของเธอ เขาประทับรอยจูบอย่างแผ่วเบาแต่แฝงไปด้วยความแนบแน่น
ชายหนุ่มค่อยๆเปิดริมฝีปากของเธอช้าๆ ลมหายใจของเขาสอดแทรกเข้าไปผ่านกลีบปากช่องงามของวัจสา มือทั้งสองของเธอเกร็งเล็กน้อย
แม้ว่าเป็นขณะที่เจ้าดาวกระต่ายตัวน้อยอยู่ในอ้อมกอดของเธอ แต่นั่นก็ยังเป็นสัมผัสที่ไม่เลวเลย
ริมฝีปากอันเร่าร้อนอบอุ่นของชายหนุ่ม ร่างของหนุ่มสาวทั้งสองระอุร้อนไปทั่วร่าง แต่วัจสาก็ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนโยน และอ่อนหวาน
จูบเยี่ยงชายฉกรรจ์ของธัชชัยที่มอบให้เธอนั้น ทำให้วัจสาตกอยู่ในห้วงอารมณ์และหลงระเริงไปชั่วขณะ ยิ่งไปกว่านั้นเธอลืมไปอย่างสนิทว่าเธอควรที่จะต่อต้าน
ชายหนุ่มพยายามควบคุมความกระสันของตน เขากระซิบข้างหูของวัจสาอย่างแผ่วเบา “ให้ฉันเถอะนะ วัจสา”
วัจสารู้สึกราวกับว่าตัวเองลอยอยู่ในคลื่นทะเลเต้นรำกับชายหนุ่มในห้วงของความฝัน
สำหรับวัจสามันเป็นความทรมานแทบระเบิด แต่สำหรับธัชชัยแล้วนั้น มันแนบแน่นไปหมด
“ยังไหวมั้ย?” เมื่อได้ยินเสียงอู้อี้ของวัจสา ชายหนุ่มก็ถามมาอย่างอ่อนโยน มันเป็นความอ่อนโยนที่ไม่เหมือนกับตัวเขาเลยสักนิด
วัจสารู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้ว่าไม่สบายตัวตรงไหน เพราะมันมีความหอมหวานแทรกซึมเข้ามามากกว่า
“ฉันไม่เป็นไร…คุณเร่งหน่อย…..” เสียงวัจสาตกร่อง เธอค่อยๆปิดตาที่พรมไปด้วยละอองน้ำลง เธอเองคาดไม่ถึงว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของเธอ นั่นทำให้เธอรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย
นี่มันต้องเป็นความฝันแน่ๆ
วัจสาจับไหล่ของชายหนุ่มด้วยสองมือ “ธัชชัย….พอแล้ว….ฉันไม่ไหวแล้ว….”
ชายหนุ่มยิ้ม เขาหอบตอบกลับมา “ใกล้แล้ว อ้าา…..”
เธอรู้สึกสว่างวาบในตาอย่างฉับพลัน วัจสารู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากนั้นก็สลบไป
ชายผู้นั้นอุ้มร่างที่เปียกชื้นและละเอียดอ่อนของเธอเอาไว้แล้วกระชับเธอไว้ในอ้อมกอดอย่างช้าๆ
เมื่อวัจสาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยแสงสว่างแล้ว
ภายนอกเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้ หมอกจางๆปกคลุมไปทั่วฟ้า
ความฝันนั้น….มันไม่ใช่ความฝันสินะ ดวงอาทิตย์ค่อยๆโผล่พ้นจากขอบฟ้า
วัจสาไม่ได้รู้สึกถึงผู้ชายเย็นชาคนนั้น ใช่แล้วหล่ะ ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ด้วย มีเพียงเสื้อที่เขาทิ้งไว้เท่านั้น และก็ยังมีชุดนอนของเธอ วัจสาจึงค่อยๆเอื้อมมือลง ร่างงามทั้งร่างเปลือยเปล่า
หน้าของเธอแดงระเรื่อเล็กน้อย รีบหยิบชุดนอนขึ้นมาใส่โดยพลันเธอไม่อยากจะคิดจริงๆว่าเธอเพิ่งจะทำอะไรบางอย่างกับชายหนุ่มบนรถ ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องเหล่านี้ ……บนรถอ่ะ…… นี่มัน c…ar sexชัดๆวัจสารู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดมหันต์ ที่เพิ่งจะถูกชายหนุ่มเปิดบริสุทธิ์บนรถและแน่นอนว่าเธอก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ข่มขืนเธอแต่มันเป็นเพราะเธอเองที่ไม่ได้ขัดขืนเขาแต่นั่นมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่ดีอยู่ดี? แล้วศีลธรรมในตัวเธอเองหล่ะ? มันหมดไปแล้วหรอ!วัจสาขยับเรียวขา รู้สึกได้เพียงว่าร่างกายครึ่งร่างของเธอมันไม่ได้เป็นของเธออีกต่อไปรถของธัชชัยนั้นเป็นรถหรูทีเดียว แต่ว่ากลับมาทำอะไรแบบนี้ มันทำให้รู้สึกไม่สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นที่ที่ฉันเพิ่งถูกกดร่างลงไปวัจสามองลงมาที่เนื้อเบื้องล่างที่น่าสงสารของตัวเอง พอนึกไปถึงตอนนั้น เธอก็ยังคงรับมันไม่ได้จริงๆเธอคิดว่าเมื่อคืนเธอคงจะตาบอดไปที่คิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษที่อ่อนโยน เห็นได้ชัดว่าที่แท้ก็เป็นแค่เสือร้ายที่หยาบคายนั่นเองแต่เหตุผลหลักที่เธอต้องทำใจรับ ก็คือเธอเป็นฝ่ายสมยอมเขาเองแต่เรื่องที่วัจสาเองควรจะยินดีอยู่อย่างก็คือเมื่อคืนเธอใส่ชุดนอนที่ค่อนข้างมิดชิด เสื้อกับกางเกงคนละชิ้น ถึงข้างในจะไม่ได้ใส่เสื้อในไว้แต่มันก็ไม่ถึงกับเห็นอะไรข้างในหรอกเมื่อวัจสาแต่งตัวเสร็จแล้วเธอก็เริ่มที่จะมองหาร่างผู้ชายร้ายกาจเมื่อคืนนี้บนก้อนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง วัจสาพบร่างของผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ เขาสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่สีดำ กำลังนั่งปล่อยอารมณ์ให้ลมยามเช้าพัดผ่านร่างกายของเขา มองจากบนยอดเขา นั่นทำให้เขาดูราวกับชายผู้คุมพื้นดินรอบด้านบริเวณนั้น ดูมีสง่าและแข็งแกร่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์เล็ดลอดลงมาผ่านต้นไม้กระทบมาที่ดวงตาของชายหนุ่ม ธัชชัยชอบความรู้สึกแบบนี้ ความรู้สึกที่เขานำทุกอย่างมาไว้บนมือเมื่อมองลงไปยังต้นไม้สีเขียวที่ตีนเขา เขารู้สึกเหมือนทิ้งความเจริญรุ่งเรืองและโลกทั้งหมดไว้ภายหลัง ปัญหาทั้งหมดทั้งมวลดูราวกับปลิวหายไปกับลมวัจสาไม่อาจบอกได้ว่าชายหนุ่มนั่งรับลมมานานแค่ไหนแล้ว รู้เพียงแต่ว่าตัวเธอเองพลาดการดูพระอาทิตย์ขึ้น เธอพยายามขยับและพลิกร่างที่ระบมไปทั้งตัวของเธอ และก็เข้าใจในคำพูดของชายหนุ่มทันทีที่ว่า: ความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เสพติดโดยง่ายแต่สิ่งที่ทำให้เธอหลงใหลมันไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงแต่มันคือความอบอุ่นที่หายากของผู้ชายคนนี้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกถึงการถูกรักอย่างสุดหัวใจจากเขาคนนั้นต้นไม้ทำให้เกิดภูเขา ต้นไม้บนภูเขาทำให้เกิดกิ่งก้านใบไม้ ส่วนคุณทำให้เกิดความหลงใหลในหัวใจของฉัน โดยที่ฉันเองไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำอย่างครั้งที่แล้วก็อาจจะพูดได้ว่าเธอโดนวางยาแต่ครั้งนี้หล่ะ? มันเป็นเพราะเธอเต็มใจที่จะให้เขาทำ วัจสารู้สึกขมขื่นกับตัวเอง แล้วยังหวาดกลัวในใจ เธอเหมือนทำให้ตัวเองค่อยๆจมลงไปอย่างช้าๆวัจสารู้สึกว่าตัวเธอเองต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ เธอไม่อาจยับยั้งชั่งใจตัวเองได้เลย ผู้ชายคนนี้ต้องมีเวทมนตร์อย่างนั้นหรอ เขาถึงได้ควบคุมร่างกายของเธอได้เช่นนี้บนยอดเขาในตอนเช้าตรู่เช่นนี้อากาศเย็นสบาย แต่แดดก็ยิ่งร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิในรถก็เริ่มสูงขึ้นตามไป เธอไม่รู้ว่าเขาจะตากลมไปอีกนานแค่ไหน แต่ตัวเธอเองที่เหมือนกับอยู่ในห้องซาวน่านี้ร้อนจะตายอยู่แล้วเธอพยายามจะหาวิธีเปิดแอร์ แต่โดยที่ไม่ระวังมือก็พลันไปโดนปุ่มแตรเข้า นั่นทำให้เธอตกใจเล็กน้อยเสียงแตรดังสั้นๆนั้นก็มีประสิทธิภาพมากพอที่จะปลุกชายหนุ่มที่กำลังนั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างให้หันไปมองหญิงสาวในรถเจ้าดาวกระต่ายเมื่อคืนก็ตื่นขึ้นเช่นกัน มันกำลังพลิกตัวไปมาอยู่บนรถของธัชชัยเขาเดินไปที่รถอย่างรวดเร็ว วัจสาเองที่กำลังยืนขึ้นไม่รู้ว่าเขาเดินเข้ามา เมื่อหันตัวไปด้านหน้าก็เป็นสีดำ เธอค่อยๆเงยหน้าขึ้น ก็พบกับชายร่างสูงคนนึงกำลังยืนอยู่ด้านหน้าก็พลันตกใจราวกับกระต่ายตื่นตูม วัจสาก็พลันนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา กะพริบตาปริบๆ ไม่อาจสบตาชายหนุ่มเมื่อคืนได้ประตูรถถูกเปิดออกทำให้ลมธรรมชาติพัดเข้ามาด้านใน นั่นทำให้วัจสารู้สึกเย็นขึ้นเล็กน้อย และหดร่างอันผอมเพรียวอย่างไม่ค่อยสบายตัวธัชชัยมองไปยังหญิงสาวผู้ซึ่งยังคงกระดากอายแต่เก็บอารมณ์ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ รอยยิ้มของเขาก็กระตุกขึ้นมาอย่างน่าสนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกับหญิงสาว ใบหน้าที่ละเอียดอ่อนเต็มไปด้วยความเย็นชาที่ไม่สามารถเข้าใจได้เสียงคำรามของรถสปอร์ตดังขึ้น เฟอร์รารี่สีดำคันงามก็วิ่งลงเนินเขาไปวัจสาเปลี่ยนสายตาหันไปมองชายหนุ่มที่นั่งข้างๆ ใบหน้างดงามราวเทพเจ้าเจือไปด้วยความหม่นหมอง คิ้วขมวดเล็กน้อยวัจสารู้สึกแปลกใจ เขาคงเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปเมื่อคืนหล่ะมั้ง อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกผิดกับพี่ชายของตัวเอง ก็เลยเศร้าอย่างนั้นหรอ?เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา วัจสาก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที ในวันนั้นเธอก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นอีก แต่นี่ยังผ่านมาไม่เท่าไหร่เธอก็ต้องรู้สึกผิดกับสามีตัวเองอีกแล้วเมื่อวัจสานึกถึงเรื่องของความถูกต้องขึ้นมาเธอก็แทบจะอยากบีบคอผู้ชายข้างๆเสียจริงเธอต้องตกลงไปอยู่ในสถานะผู้ไม่มีศีลธรรมอีกครั้ง เหมือนเธอได้ทำร้ายตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ใครจะไปรู้หล่ะว่าคนที่เป็นสามีที่แท้จริงของเธอคือเขาคนนี้แหงหล่ะวัจสาไม่ได้ขอให้เขาไปส่งเธอกลับมหาลัย หัวสมองของเธอตอนนี้เต็มไปด้วยความว่างเปล่า หลังจากที่ลงจากรถหรูคันโตแล้วเดินเท้าเปล่ากลับไปที่หอ หากมีใครเห็นเธอเข้าก็ตายหน่ะสิ คงโดนนินทากระฉ่อนไปทั้งมหาลัย ! ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ก็แค่กลับไปยังบ้านตระกูลศรีทองอย่างไรก็ตามธัชชัยเองก็ขับตรงดิ่งไปยังบ้านตระกูลศรีทองทันทีที่รถจอด วัจสาก็เปิดประตูออก และวิ่งเท้าเปล่าตรงเข้าบ้านไปราวกับมีสัตว์ร้ายวิ่งตามมาทางด้านหลังธัชชัยมองจับจ้องไปยังหญิงสาว เขาก็พลันนึกถึงเรื่องราวที่เกิดในค่ำคืนที่ผ่านมา เสียงอ่อนหวานที่หวานราวน้ำตาลในอ้อมแขนของเขาปลุกความกระสันที่อยากทำให้เขาอยากจะละลายเธอทั้งตัว ดวงตาทั้งสองของเขาในตอนนั้นพร่ามัวเหมือนเพิ่งผุดขึ้นมาจากใต้น้ำมันเป็นสิ่งล่อลวงใจชายหนุ่มชั้นดีเลยทีเดียวป้าอ้อยที่กำลังทำความสะอาดอยู่ในห้องรับแขกเห็นวัจสาวิ่งเท้าเปล่าผ่านมา จึงถามแปลกใจ “เกิดอะไรขึ้นคะคุณผู้หญิง? รองเท้าของคุณหล่ะคะ? ใส่รองเท้าก่อนนะ เดี๋ยวจะหนาวเอานะคะ!”ป้าอ้อยพูดในขณะที่ไปหยิบรองเท้าให้เธอและเมื่อคุณผู้หญิงของเธอตื่นตระหนกเมื่อเห็นชายร่างสูงเดินตามมาทางด้านหลัง ป้าอ้อยก็เข้าใจในทันที ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเมื่อคืนทั้งสองท่านอยู่ด้วยกันอีกครั้งแล้วอย่างนี้ก็ดีเลยหล่ะสิ ต้องรีบไปเล่าคุณชายใหญ่ฟังป้าอ้อยยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่ไล่ตามเอารองเท้าไปให้วัจสาแต่วัจสาก็กลับตรงดิ่งไปที่ห้องนอนตัวเอง “ไม่เป็นไรค่ะๆ ฉัน…ฉันว่าฉันกลับห้องก่อนดีกว่า”เธอกลัวว่าป้าอ้อยจะคิดเยอะ ดังนั้นเธอจึงไม่กล้าอยู่ข้างนอกนาน ด้วยที่เธอสวมเสื้อผ้าแบบนี้ อีกทั้งยังมากับผู้ชายคนนั้น ใครๆก็คงคิดไปในทางไม่ดีแต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คิดแบบนั้นเมื่อวัจสากลับถึงห้องก็เอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเองเธอหล่ะอยากตายจริงๆ วัจสานะวัจสา เธอควรจะเอาตัวไปจุ่มอยู่ในต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงถึงจะพอ!พอคิดดีๆแล้วมันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้ ไม่มีใครรู้หรอกว่ามันมีเรื่องเลยเถิดอะไรขนาดนี้ไปพอเธอคิดได้มาถึงตรงนี้ก็เอาตัวเองลงมาจากเตียง มานั่งค้นลิ้นชักในขณะที่บนตัวก็ยังพันด้วยผ้าห่มอยู่ แต่ว่าค้นจนหมดเก๊ะแล้วก็ยังไม่เจอLevonorgestrel Tabletsไม่จริงอ่ะก็เธอเองเป็นคนเก็บเอาไว้ด้วยตัวเอง แล้วมันจะไม่มีได้ยังไงกัน?แล้วก็มีความคิดถึงแวบเข้ามาในหัวของวัจสา คงไม่ใช่ว่าป้าอ้อยทิ้งมันไปแล้วนะ นั่นมันคงไม่ได้หมายถึงว่าป้าอ้อยรู้เรื่องระหว่างตัวเธอเองกับธัชชัยแล้วใช่มั้ย?สีหน้าของวัจสาทั้งเรื่อแดงทั้งซีดเผือด ถ้าถูกค้นพบเข้าจริงๆ เธอจะมีหน้าอยู่ในบ้านตระกูลศรีทองได้อย่างไรกัน!ในขณะที่เธอนั่งกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ป้าอ้อยก็เคาะประตูเข้ามา“คุณผู้หญิงกำลังหาของอยู่หรอคะ”ในมือของเธอนั้นถือซุปรากบัวที่ซึ่งเป็นยาบำรุงเลือดไว้ในมือ แหงหล่ะเพื่อที่จะไม่ให้เธอรู้ว่าเราสองคนอยู่ด้วยกันอีก ถ้าพูดออกไปก็เหมือนกินปูนร้อนท้อง หลังจากนี้ก็จะยิ่งเลยเถิดไปกันใหญ่วัจสาไม่จำเป็นต้องถามป้าอ้อยแล้วแหละว่าLevonorgestrel Tabletsเธออยู่ที่ไหน เธอจึงตอบบิดเบือนความจริงไป “เปล่าค่ะเปล่า ไม่ได้หาอะไรเลย ฉันแค่จะเก็บของเท่านั้น”ตัวเธอเองนอนบนเตียงเดียวกับวรพลนับครั้งได้เลย อีกทั้งยังไม่เคยทำอะไรแบบนั้นด้วยซ้ำทำไมต้องกิน Levonorgestrel Tabletsด้วยหล่ะจริงมั้ย?อีกทั้งตัวเธอเองเพิ่งกลับมากับธัชชัยในตอนเช้า แล้วก็ตรงเข้ามาหาLevonorgestrel Tablets แหงหล่ะว่าต้องโดนป้าอ้อยสงสัยแน่ๆ แต่คำพูดที่ป้าอ้อยตอบกลับมานั้นทำให้เธอช็อคแทบจะเป็นลม