วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 909 ดูท่าเด็กน้อยจะรักธัชชัยมากทีเดียว
ตอนที่ 909 ดูท่าเด็กน้อยจะรักธัชชัยมากทีเดียว
“อาร์มคุณมันเลวมาก ให้พ่อผมกินยานอนหับได้ยังไง! เลวทีสุดเลย”
เด็กน้อยเริ่มตะโกน “ผมจะให้คุณกินยานอนหลับสักกาละมังหนึ่ง ให้คุณหลับไม่ตื่นเลย! หลับไปเลยร้อยปี ไม่สิ! หลับไปพันปีหมื่นปีเลย!”
“นั่นฉันก็คงจะหลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเลยหละมั้ง!”
ไม่คิดเลยว่าอาร์มจะยังยิงมุกออกมาได้
หลังจากว่ากล่าวไปอีกกว่าสินนาทีเด็กน้องก็ทนความหิวไม่ไหว เมื่อกรดลโน้มน้าวที่จะให้ไปกินข้าว เด็กน้อยจึงรับคำ เพื่อจะได้มีแรงไปจัดการกับอาร์มต่อ
แต่แค่เด็กน้อยกินไปได้แค่คำเดียว ก็หันหน้ากลับไปมองธัชชัยที่โดนยานอนหลับ ก่อนจะเคี้ยวอาหารพลางไปอย่างไม่สบายใจนัก เขายื่นมือไปอังที่จมูกของพ่อเขา
โชคดีที่พ่อของเขายังคงหายใจอยู่นั่นก็สามารถบอกได้ว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร
เขาจึงยกมือขึ้นอังหน้าผาก อือ ไม่ร้อน แสดงว่าพ่อของเขาไม่ได้ป่วย นี่คงจะเป็นเพราะโดนยานอนหลับไปมากอยู่ทำให้ยังคงไม่ตื่น
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยดูจะรักและเป็นห่วงธัชชัยมากแบบนี้กรดลก็โล่งใจ แล้วก็ยิ่งชอบเด็กน้อยที่ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจตนแต่ก็เต็มไปด้วยความกตัญญูที่ยิ่งยวด
“กรดล พ่อผมกินข้าวแล้วหรือยัง?” เด็กน้อยวิ่งกลับมาพร้อมกีบคีบกับข้าวคำใหญ่และเคี้ยวเพื่อรอคำตอบจากกรดล
“แน่นอนสิ ไม่เชื่อนายก็ไปลูบท้องของพ่อนายได้เลย” กรดลยกมือขึ้นเช็ดปากให้กับเด็กน้อยก่อนจะตอบเสียงนุ่ม
แน่นอนหล่ะว่าเด็กน้อยก็ทำตามบอกคือวิ่งไปนั่งข้างๆพ่อของเขา ก่อนจะยกมือขึ้นเอาไปวางไว้บนท้องของคนเป็นพ่อ
เจ้าเด็กน้อยขมวด “ทำไมมันไม่เป็นนุ่มเลยหล่ะ”
“ก็พ่อนายมีกล้ามเนื้อหน่ะสิ เขาไม่ได้ไขมันนะ”
กรดลย้ายโต๊ะมายังข้างๆโซฟา ดูจากการที่เด็กน้อยเทียวไปเทียวมาระหว่างโซฟากับโต๊ะกินข้าวนั้นมันค่อนข้างจะยากลำบาก
เด็กน้อยนั่งลงตรงข้างโซฟา มือหนึ่งก็ลูบหน้าของคนเป็นพ่ออีกมือหนึ่งก็ตักข้าวกินเป็นครั้งเป็นคราว
จู่ๆกรดลก็รู้สึกว่าลูกชายของธัชชัยคนนี้นั้นช่างดีจริงๆ
เขาคีบเนื้อปลาวางไว้ที่ชามของเด็กน้อย เด็กน้อยเองก็ดูจะแฮปปี้ราวกับแมวน้อย
แต่เมื่อเขาเอาผักใส่ในชามให้นั้น เด็กน้อยกลับเขี่ยไปไว้ข้างๆ
กรดลจึงพูดเสียงนุ่ม “พ่อกับแม่นายไม่ได้บอกให้นายกินอาหารให้ครบห้าหมู่อย่างนั้นเหรอ? ไม่กินผักไม่ได้นะ”
“แล้วพ่อแม่นายไม่ได้บอกให้เคารพผู้ใหญ่และรักเด็กอย่างนั้นเหรอ? ทำไมต้องมาแกล้งเด็กอย่างผมด้วย?”
กรดลหมดคำจะตอบโต้อีกครั้ง
เมื่อทำให้ท้องอิ่มแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงเด็กน้อยก็ไม่ยอมไปอาบน้ำกับกรดล
“เล่นมาทั้งวี่ทั้งวันแล้ว ถ้านายไม่อาบหล่ะก็นายจะตัวเหม็นเอานะ”
กรดลพูดพลางมองไปที่ธัชชัยที่นอนอยู่บนโซฟา “ฉันว่าถ้าพ่อนายตื่นมา บางทีอาจะสลบไปอีกรอบเลยก็ได้”
“เหอะ เป็นไปไม่ได้หรอก พ่อผมหน่ะออกจะรักผม ไม่ว่าผมจะเหม็นยังไงเขาก็ชอบทั้งนั้น”
เด็กน้อยเตะรองเท้าถอดออกก่อนจะปีนขึ้นไปบนโซฟา จากนั้นก็กอดธัชชัยพ่อของเขาแน่นราวกับหมีโคอาล่าเบาอยากที่จะคอยมองพ่อของเขาตลอดเวลา อยากที่จะอยู่เป็นเพื่อนพ่อของเขา อาบน้ำจะไปมีประโยชน์อะไร!เมื่อเห็นพ่อลูกนอนกอดกันแบบนั้น กรดลก็ไม่ได้พูดอะไร หลังจากเทียวมองอยู่ไม่กี่ที เขาก็เดินกลับออกไป……นับว่าวัจสานั้นเลือกหาคนได้ถูกทีเดียวรูปลักษณะที่ลูกชายบอกมานั้นมันไม่ใช่ว่าจะมีเกลื่อนในเมือง อีกทั้งด้วยรูปลักษณ์ที่บอกนั้นเหมือนสร้างในเวลาราวๆเดียวกับหมูบ้านดาวโสธรถามถึงที่อยู่ของบ้านดาวจากคุณปู่วัตสินของเขาแล้ว ก็รีบแจ้นไปบอกตำแหน่งให้แก่วัจสา“พี่สะใภ้ ธัชชัยโดนกรดลนั่นหักหลังไปจริงๆอย่างนั้นเหรอ?”สำหรับกรดลแล้ว โสธรนั้นไม่ได้รู้จักอะไรมากนัก เพียงแค่ได้รับฟังมาบ้างจากปากของบุรีด้วยเพราะบุรีนั้นยกให้กรดลเป็นดั่งไอดอลของเขา เป็นคนที่ยิ่งกว่าคนปกติทั่วไปแต่ตอนนั้นโสธรก็คิดแค่ว่าบุรีก็คงจะโม้ไปเรื่อยวัจสาถอนหายใจยาว “ใช่แล้วหล่ะ ตอนนี้แม้แต่ตะวันเองก็ตกอยู่ในมือของกรดล”“ว่ายังไงนะ? ไอ้เวรนั่นเอาตัวตะวันไปด้วยอย่างนั้นเหรอ? ผมเป็นลุงของเขาเชียวนะ เดี๋ยวได้เห็นดีกันแน่!” จู่ๆโสธรก็โกรธขึ้นมา พลางเหยียบคันเสียมิดในตอนที่โสธรพาวัจสารีบเร่งมาจนถึงบ้านของกรดลนั้น พวกสามพวกแปดก็ได้กลับไปเป็นที่เรียบร้อยประตูวิลล่านั้นเปิดอยู่ สามารถเห็นได้ถึงแสงสว่าง ภายในเป็นแปดที่เปิดไฟโคมทิ้งเอาไว้ ด้วยเพราะเขาต้องการที่จะดึงดูดคนเข้ามาดู หากมีใครเข้ามาหล่ะก็ก็จะได้ตามไปจนถึงตัวของวิศาล“เวรละ เรามาสายเกินไป มีคนมาที่นี่ก่อนแล้ว!”โสธรรีบบึ่งเข้าไปทันที ฝาเพดานตรงห้องนั่งเล่นเหมือนจะมีใครมาระเบิดนิดหน่อยวัจสาเดินตามหลังเข้าไปจากนั้นก็สำรวจไปทั่ว เธอคิดไม่ถึงเวลาว่ากรดลจะละเอียดละอ่อนถึงขนาดเลี้ยงกล้วยไม้แบบนี้“พี่สะใภ้ ทำไมไม่กลับไปรอที่รถก่อนหล่ะ ฉันรู้สึกว่านี่มันมีบางอย่างผิดปกติอยู่นะ” โสธรเอ่ยปาก“ไม่สำคัญหรอก เราช่วยกันดูไปรอบๆกันเถอะ”วัจสาแน่ใจว่าที่ว่าที่นี่โดนระเบิดออกนั้นเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นคนของอำเภอพัดรักหรือไม่ก็คนของวิศาล แต่ไม่ว่าจะฝั่งไหน เพียงแครู้ว่าธัชชัยอยู่ที่ไหน เขาก็จะต้องมาบอกให้แก่ภรรยาของเขาสิถึงจะถูกแต่นี่เธอไม่ได้รับข่าวสารอะไรเลยโสธรเดินไปทั่วบ้านรอบหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นอีกครั้ง “เรามาช้าไป ที่นี่ไม่มีใครอยู่สักคน”การที่ห้องนั่งเล่นถูกทำให้เป็นแบบนี้ก็สามารถมองออกว่าพวกเขามาสายเกินไปแต่ในตอนที่โสธรกำลังพาวัจสากลับไป อยู่ๆวัจสาก็หยุดฝีเท้าลง“โสธร เรามาหากันอีกสักรอบมั้ย ยังไงซะก็มาแล้ว อีกอย่างเราก็ยังไม่ได้หาพวกห้องใต้ดินอะไรแบบนี้เลย”วัจสานั้นอยู่กับอำเภอพัดรักมาหลายปี ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับกรมีห้องใต้ดินดี“ที่นี่มันจะมีเหรอห้องใต้ดินหน่ะ?” โสธรถามอย่างสงสัย แต่ก็เห็นด้วยกับวัจสา เริ่มที่จะสอดส่ายมองหาไปทั่วหลังจากนั้นห้านาที จู่ๆวัจสาก็ร้องขึ้น“โสธร! มาที่นี่เร็วเข้า! ตรงนี้มีทางเข้าห้องใต้ดิน!”“โอเคได้ครับ พี่สะใภ้รออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันลงไปก่อน”ถึงแม้โสธรจะพูดแบบนั้น แต่วัจสาก็ยังตามลงไปด้วยใต้ล่างนั้นมือสงัดไปหมด โสธรจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดไฟฉายในขณะนั้นเองจมูกก็สูดได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง ทั้งยังมีกลิ่นสนิมที่ทำให้คนได้กลิ่นรู้สึกไม่ดีโสธรจึงปิดจมูกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว“พี่สะใภ้ทำไมไม่รออยู่ข้างบนเล่า ขึ้นไปข้างบนเถอะ มีบางอย่างผิดปกติที่นี่”ดูเหมือนว่าเขาจะรู้สึกว่าห้องนี้มีบรรยากาศแปลกๆ เขาจึงรู้สึกว่าวัจสาจะไม่ปลอดภัยด้วยเพราะพี่รองธัชชัยก็หายไป ดังนั้นเขาก็จะต้องดูแลผู้หญิงของพี่ให้ดี”ไม่เป็นหรอก ไปต่อเลย”ตั้งแต่แต่งงานเข้าไปที่บ้านตระกูลศรีทอง วัจสาก็เจออะไรที่ยิ่งกว่าเลือดอีกไม่ใช่เหรอ? แค่เลือดแค่นี้ เธอค่อนข้างมีภูมิคุ้มกันวัจสายืนยันที่จะลงไป ดังนั้นโสธรจึงจำต้องลงไปต่อ“โสธร ดูสิ ตรงนั้นเหมือนมีคนอยู่เลย!”วัจสาชินตากับความมืดได้เร็วยิ่งกว่าโสธรเรื่องนี้ต้องขอบคุณอำเภอพัดรัก ที่ชอบขังวัจสาเอาไว้ในห้องมืดไม่ว่าใหญ่หรือว่าเล็ก สามวันสองคืนบ้าง นั่นทำให้แม้วัจสาจะไม่อยากจะเคยชินก็ยาก“พี่สะใภ้ยืนรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวฉันไปดูเอง”โสธรแม้ว่าจะไม่ชอบพวกศพหรือว่าอะไร แต่เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว ดังนั้นเขาจึงไม่อาจให้วัจสาผู้เป็นพี่สะใภ้ทำได้แต่ไม่ได้รอให้โสธรพูดจบ วัจสาก็เข้าไปคุกเข่าก่อนเขาเสียอีก“เป็นวิศาล!” วัจสาร้องออกมาอย่างตกใจ “โสธร! มาดูเร็วเข้า! เขาคือวิศาล!”โสธรตกใจสุดขีด เขานั่งคู้เข่าลงก่อนจะใช้ไฟจากโทรศัพท์ส่องไปที่ใบหน้าของคนที่อยู่ตรงนั้นไม่ผิดเลย นี่คือวิศาล!“พี่วิศาล! พี่ศาล ตื่นเร็วเข้า ผมธรเอง!”โสธรเรียกเขาอยู่สองสามครั้ง แต่วิศาลไม่หือไม่อือ เขาจึงเอื้อมมือไปอังดูลมหายใจยังโชคดีอยู่…“ยังมีลมหายใจอยู่! พี่สะใภ้เดี๋ยวเราออกไปส่งพี่ศาลกันด่อนเถอะ”โสธรพูดพลางใช้ไฟที่อยู่ในมือส่องไปที่ร่างของวิศาลเขาสวมเสื้อผ้าอยู่แต่ส่วนเอวลงไปนั้น..มันเต็มไปด้วยเลือด ยังไม่แห้งด้วย ด้วยเพราะเอวของเขาค่อนข้างยาวนั่นทำให้เลือดไหลลงไปข้างหลังด้วยเพราะโสธรเองก็เป็นผู้ชายดังนั้นเขาจึงพอจะรู้ว่าวิศาลนั้นเจ็บตรงไหนที่ทำให้เขาถึงขนาดเป็นหมดสติไปดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นสำรวจดู“เอื้อ…..”วิศาลที่ไม่มีสตินั้นร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดหัวใจของโสธรเหมือนถูกมีดกรีด เขารู้สึกว่ามันยากที่จะรับได้ว่าวิศาลจะมาเจออะไรที่อัปยศกับชีวิตเขาแบบนี้เจ้าสิ่งนั้นมันไม่มีแล้ว ดังนั้นตอนนี้วิศาลก็กลายเป็นไร้ประโยชน์คนหนึ่งจู่ๆโสธรก็ล้มเข่าลงแล้วร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้“โสธร เราต้องรีบพาเขาไปส่งโรงบาลก่อนนะ ไม่อย่างนั้นเขาจะตายเอา”วัจสาเห็นว่าโสธรเอามือไปบังตรงนั้น เธอจึงรู้ทันทีว่าทำไมโสธรถึงได้ร้องไห้แต่ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของวิศาลนะ!เมื่อถูกวัจสาเตือนสติเข้า โสธรก็หยุดร้องไห้ลงทันที เขาถอดเสื้อออกก่อนจะห่อเอวของวิศาลเอาไว้“พี่ศาลไม่ต้องกลัวนะ ผมจะพาพี่ส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย”เดิมทีโสธรนั้นเป็นคนร่างเล็กเพียงนิดเดียว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยกอุ้มวิศาลที่ใหญ่กว่าสามเท่าได้แต่ว่าไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เขาจึงสามารถยกวิศาลขึ้นหลังเขาไปได้“พี่สะใภ้ ตรงนั้นของพี่ศาลบาดเจ็บ ช่วยพยุงเขาด้วยนะ”ตอนนี้นั้นไม่สามารถที่จะอุ้มวิศาลได้ ด้วยแรงของเขานั้นแต่ถ้าจะเอาขึ้นหลังก็เกรงว่าส่วนนั้นจะบาดเจ็บ“วางใจได้คุณแบกเขาไปเลยเดี๋ยวฉันพยุงไว้ให้”เมื่อสิ้นเสียงน้ำตาของวัจสาก็ไหลรินบนโลกใบนี้ไม่ใช่เพียงแค่เธอคนเดียวที่ห่วงชีวิตความเป็นความตายของธัชชัย แต่ยังมีหลายคนที่จ่ายหลายิ่งหลายอย่างด้วยราคาที่แพงเพื่อเขาเช่นเดียวกันจนถึงตอนนี้เธอจึงเข้าใจว่าทำไมธัชชัยจึงต้องแบกหนี้ที่คนเหล่านั้นทำเพื่อเขาวรพลที่จริงๆแล้วก็ไม่ใช่พี่แท้ๆของเขาเลยก็ใช้ชีวิตทั้งชีวิตเพื่อที่จะช่วยเขาตอนนี้ยังมีวิศาล ที่ดูเหมือนจะจ่ายมันด้วยราคาที่แสนแพงมาก….โสธรมุ่งมั่นแบกร่างใหญ่ออกจากบ้านไป ก่อนจะวางวิศาลไว้ที่เบาะหลังรถแต่ตัวเขาเองไม่ได้ขึ้นรถ