วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 899 ลูกและภรรยาที่ยืนรออยู่เมื่อยามแสงรุ่งอรุณ
ตอนที่ 899 ลูกและภรรยาที่ยืนรออยู่เมื่อยามแสงรุ่งอรุณ
จนกระทั่งได้ยินเสียงรถวิ่งไกลออกไป อาร์มจึงออกมาจากห้องใต้ดิน
“บอสบอกธัชชัยจนถึงขนาดนี้แล้ว เขาจะเริ่มสงสัยแล้วขัดขวางพวกเราไหม? ถ้าเขาสงสัยแล้วจริงๆ พวกเราจะจับเขากลับไปเป็นหมากเหมือนเดิมยังไง?”
กรดลดูเหมือนไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องนี้ จึงไม่ได้ตอบอะไร จนผ่านไปซักพักใหญ่ จึงพูดขึ้น “โถมนะตรงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?”
ตั้งแต่ที่มีข่าวของวิศาลหายตัวแพร่กระจายออกไป ที่โพร์ทองก็วุ่นวายไปหมด กับการเลือกคนมาดูแล
“น่าจะได้อยู่ครับ เพราะโถมนะค่อนข้างสนิทกับคนที่โพร์ทอง น่าจะสนิทกว่าวิศาลด้วยซ้ำ คงมีคนคอยช่วยเหลือประมาณ 60-70%”
“ให้โถมนะออกเสียตอนนี้ซะ!”
“อะไรนะ? ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดที่จะสืบทอดโพร์ทองต่อไม่ใช่เหรอ? และยังมาถึงขั้นนี้แล้ว…”
กรดลเหลือตามอง แล้วพุดเสียงเรียบ “ฉันเรียกนายว่าบอสดีไหม?”
อาร์มหน้าซีด “ผมจะไปบอกโถมนะเดี๋ยวนี้เลยครับ!”
……
ตอนที่ธัชชัยขับรถไปถึงโพร์ทองนั้น วุ่นวายไม่มีชิ้นดี
เพราะ “โถมนะ” ลาออกแล้ว ดังนั้นนักเลงตัวเล็กตัวน้อยในโพร์ทองจึงอยากจะเป็นใหญ่เป็นโต
จนขณะที่ธัชชัยปรากฏตัวขึ้น เสียงต่อยตีทะเลาะกันจึงเงียบไป
“ลูกพี่พวกแกยังไม่ตาย พวกแกซักคนก็อย่าคิดจะก่อวอร์ดเลย!”
ธัชชัยตะคอก และคนอื่นที่ร่วมโวยวายก็เริ่มต่อยตีกันอีกครั้ง
จนเมื่อยมือ จึงหยิบเก้าอี้มาฟาดกัน
ธัชชัยเหนื่อยจนนั่งพิงกับกำแพง
ไม่มีใครกล้าสู้เขากลับ
หนึ่งเพราะความสัมพันธ์ของวิศาลและธัชชัย อีกด้านหนึ่งต่อให้พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกันแล้ว ธัชชัยยังคงเป็นนักธุรกิจชื่อดังในเมืองเอส มีหน้ามีตา
ธัชชัยเดินไปยังห้องนอนวิศาลในสภาพโชกเลือด
ห้องที่เคยถูกไฟไหม้ ได้ทำขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงตกแต่งแบบเดิม แม้กระทั่งโซฟายังวางอยู่ที่เดิม
ธัชชัยยืนมองตรงที่เดิมซักพัก แล้วเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียง มองโคมไฟระย้าด้านบน
เขาสัมผัสได้ว่า ครั้งนี้วิศาลคงจะโชคร้ายจริงๆ!
……
ไม่รู้ว่าสวรรค์แกล้งรึเปล่า เพราะหลังจากที่ทุกอย่างสงบลง แล้วัชชัยเลือกให้โถมนะเป็นคนดูแลแทน เขาก็ดันมาถอนตัวอีก
โถมนะเป็นเพียงฉายาของเขา แต่ธัชชัยก็ไม่ได้สนใจที่จะรู้ชื่อจริง
ถ้ามองจากหลายๆด้าน การที่ธัชชัยเลือกโถมนะ ก็ไม่ได้ต่างไปจากความคาดเดาซักเท่าไหร่
โถมนะเดิมทีก็เป็นเหมือนมือรองในโพร์ทองอยู่แล้ว
และยังคงต้องนับถือการวางแผนของกรดล เขาเดินมาบนเส้นทางแก้แค้นนี้ยาวไกลมาก และชนะมันมาตลอดทางธัชชัยออกมาจากโพร์ทองในตอนที่ตะวันเริ่มขึ้นก่อนเดิมที่เคยเจริญรุ่งเรือง กลับกลายมาเป็นความร้างในตอนนี้ธัชชัยขับรถมายังอ่าว ก็พบสองแม่ลูกที่ยืนรอเขาอยู่วัจสายิ้มบางๆ จูงมือหนูน้อยอยู่ พวกเธอยืนรอการมาถึงของธัชชัยอยู่ที่นี่รถเพิ่งจะดับเครื่องลง ธัชชัยออกมาจากรถ แล้วเดินมุ่งไปยังคนทั้งสองที่เขารักมากที่สุดพระอาทิตย์ที่เพิ่งขึ้นมานั้น ทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นธัชชัยกอดทั้งสองคนเอาไว้ แล้วเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา“ธัชชัย นายนี่ช้าจริง! พวกเรารอตั้งนาน!”หนูน้อยโวยวาย ที่จริงก็ไม่ได้รอนานมาก เพียงแค่หนุน้อยคิดว่าในเมื่อพ่อตกลงว่าจะมารับพวกเขา ก็ต้องมารอตั้งแต่เช้า“ขอโทษนะครับลูกชายสุดที่รัก เพราะคุณพ่อขี้เซามากไปหน่อย” ธัชชัยอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แล้วหอมไปที่หน้าของหนูน้อย เคราที่ขึ้นมาอ่อนๆเคลียคลอกับใบหน้าของหนูน้อย“หึ รับลูกเมียกลับบ้านเรื่องใหญ่ขนาดนี้! แล้วยังจะขี้เซาอีก ได้สนใจกันบ้างไหมเนี่ย?”อนุบาลที่ส่งไปเรียนนี่ไม่เปล่าประโยชน์ อย่างน้อยการแสดงออกโดยการใช้ภาษานั้นเก่งขึ้นจริงๆ“คุณพ่อขอโทษแล้วนี่ครับ? คุณลูกชายอย่าถือสาคุณพ่อตัวเล็กๆเลย”ธัชชัยพูดหว่านล้อมหนูน้อยอย่างอารมณ์ดี เหมือนกับไม่ว่าหนูน้อยจะพูดอะไร เขาก็จะอ่อนโยนอยู่เสมอวัจสาเห็นเส้นเลือดฝอยในดงตาธัชชัย ก็รู้ได้ว่าเขาคงอดหลับอดนอนมาทั้งคืนวัจสารู้แค่ว่าเขาไปหากรดล แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเท่านั้นเมื่อเห็นธัชชัยย่อลงไปคุยกับหนุน้อย วัจสาก็เอ็นดูจนอยากจะประคองใบหน้าของเขาขึ้นมา“เมื่อคืนนอนไม่หลับใช่ไหม? ในตาถึงมีเส้นเลือดเยอะขนาดนั้น”ธัชชัยกุมมือของวัจสาเอาไว้ แล้วกระซิบ “ฉันไปหากรดลมา”“อืม…เมื่อคืนนายบอกฉันแล้ว แต่เรื่องอะไรล่ะ? ถึงไม่ได้นอนทั้งคืน” วัจสาเม้มปากที่แดงระเรื่อนั้น“ให้เขาช่วยฉันเรื่องหนึ่ง เขาก็บอกปัดอย่างอ้อมๆ บอกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยว่าง”ชายหนุ่มเอนตัวไป พิงกับไหล่ของหญิงสาว เหมือนกับต้องการการปลอบโยนจากเธอวัจสาจึงพูดด้วยความอ่อนโยน “อย่างนั้นก็รอก่อน ช่วงนี้เขาอาจจะยุ่งอยู่จริงๆ”“ฉันแค่คิดว่า…ต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพวกเธอ”ธัชชัยยื่นมือมาสัมผัสเอวของวัจสา และลูบเบาๆ มันช่างเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยและอ้อยอิ่ง“ได้ ฉันเชื่อสามีฉัน!”วัจสาเขย่งเท้า แล้วหอมลงไปบนหน้าที่อ่อนล้าของธัชชัยเบาๆคำว่า “สามี” นั้น ฟังแล้วรู้สึกดีมาก“หม่ามีเปลี่ยนไปแล้ว! ไม่งามเลย! หอมพ่อสารเลวต่อหน้าลูก น่าอาย!”หนูน้อยไม่พอใจที่ตัวเองไม่ได้รับความสนใจ จึงดึงชายเสื้อหม่ามี๊“ตะวัน รู้ว่าอะไรคืองามไหม? ใครสอนมาเนี่ย?” วัจสาสอนลูกชายขี้หวงของเธอหนูน้อยเบ้ปาก “ยังไงซะผู้หญิงก็ไม่ควรไปหอมผู้ชายก่อน!”“แต่ที่หม่ามี๊หอมคือสามีของหม่ามี๊นะ”วัจสาพูดอย่างมีความสุข แล้วมองด้วยสายตาที่อ่อนโยน“หึๆ ไปหอมอีกสิ! พ่อเลี้ยงกำลังมองพวกเราอยู่นะ!”หนูน้อยโบกมือไปทางคฤหาสน์ที่อ่าว แล้วก็เห็นว่าพ่อเลี้ยงกำลังมองพวกเขาจากชั้นสามวัจสาจึงมองตามไป ถึงแม้จะไม่เห็นร่างของอำเภอพัดรัก แต่กลับสัมผัสถึงความอบอุ่นจากแววตานั้นได้เพียงแค่ความอบอุ่นนั้น มันสายเกินไปแล้ววัจสาหันกลับไปมองธัชชัย ก็พบว่าเขากำลังอุ้มหนูน้อยเข้าไปในรถด้วยสายตาเย็นชาอย่าได้พูดถึงคนดื้อๆอย่างธัชชัยเลย แม้แต่วัจสาที่เป็นผู้หญิงอ่อนโยน ยังยากที่จะยอมรับพ่อแท้ๆแบบนี้ดังนั้นบนเส้นทางที่พวกเขาสองพ่อลูกจะมาบรรจบกัน คงจะไม่ง่ายนักกลับไปยังภูเขาฟ้าที่เมืองเหนือ ธัชชัยขับรถนิ่งมากเมื่อหนูน้อยเห็นว่าไม่ใช่ทางที่จะไปโรงเรียน เขาก็ยิ้มร่าขึ้นมา เพราะสำหรับเขาแล้ว อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องไปโรงเรียน“ธัชชัย ฉันว่าพวกเราย้ายกลับไปบ้านศรีทองดีกว่า! ยังไงซะที่นั่นก็ใกล้โรงเรียนของตะวัน และมหาวิทยาลัยของฉันมากกว่า!”หลังจากพูดจบ วัจสาก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้ว ที่พูดเรื่องย้ายกลับไปที่บ้านศรีทองออกไปกลับไปที่นั่นมีแต่เพิ่มความวุ่นวายให้ตัวเอง?ทำไมรู้สึกเหมือนกับกนิษฐาไม่อยู่ แล้วเธอกลับไปทวงตำแหน่งอย่างนั้น?ดังนั้นเมื่อพุดออกไปแล้ว วัจสาจึงรู้สึกผิด มองไปที่ใบหน้าด้านข้างของธัชชัย“ของต่างหน้าแบบนี้…เธอไม่กลัวตัวเองอึดอัดเหรอ?” ธัชชัยสบตาวัจสา สีหน้ายังคงเรียบเฉย“มี…มีอะไรน่าอึดอัด? ก็แค่ใกล้มหาวิทยาลัยฉันกับโรงเรียนตะวันก็แค่นั้น? ตอนนี้ครอบครัวของพี่ชายนายก็ไม่อยู่ รอจนพวกเขากลับมา พวกเราค่อยย้ายออกก็ได้!”วัจสาพูดจบ ก็รู้สึกน้อยใจลึกๆเธอคิดว่าตัวเองล้มที่ไหน ก้อยากจะลุกขึ้นมาจากตรงนั้น?ธัชชัยจึงตอบเสียงเรียบ “ถ้าเธอไม่มีปัญหาอะไร ฉันก็ไม่ถือ”“ไม่มีปัญหาแน่นอน แค่คิดว่าสะดวกดีเท่านั้น!”วัจสาทำเป็นพูดอย่างสบายๆ “แล้วอีกอย่าง ตอนนี้มิ้นก็ไม่อยู่ไม่ใช่เหรอ? ป้าอ้อยกับพ่อบ้านภูษิตแจจะคิดถึงเจ้าหญิงตัวน้อย ถ้าตะวันอยู่ คงจะทดแทนได้”“ก็ดี ตามใจเธอ กลับไปอยู่บ้านศรีทอง”ธัชชัยยื่นมือไปเล่นผมของวัจสา“ไม่ก็ช่างมันเถอะ ฉันกลัวบางคนเห็นสิ่งของต่างหน้า แล้วจะคิดถึงพี่สะใภ้ขึ้นมา แล้วฉันจะรู้สึกแย่และอึดอัดเอง”วัจสาตัดพ้อ และแฝงด้วยความออดอ้อน“ทำไมใจน้อยอีกแล้ว? เป็นสามีที่ละเลยภรรยาไปเอง!”ธัชชัยยิ้มด้วยความรัก แล้วหยิกเบาๆ“ตะวันเลือกดีกว่า! ว่าพวกเราจะกลับไปอยู่บ้านศรีทอง หรือภูเขาฟ้าดี?”วัจสาอุ้มหนูน้อยขึ้นมา แล้วตัดสินใจให้หนูน้อยเลือก“หม่ามี๊อยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น! แต่ถ้าให้ผมเลือก ผมจะเลือกบ้านพ่อเลี้ยง”หนูน้อยมีตัวเลือกของตัวเองแล้ววัจสาจึงถามด้วยความสงสัย “ทำไมถึงอยู่กับพ่อเลี้ยงล่ะ?”“หึๆ คุณพ่อสารเลวนี้จะได้เข้ามาแย่งหม่ามี๊ไม่ได้ ผมจะได้นอนกอดหม่ามี๊อย่างสบายใจ!”ความคิดของหนูน้อยมีแต่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของหม่ามี๊แค่คนเดียว!“ฮ่าๆๆ…” วัจสาเมื่อได้ยินว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของหนูน้อย จึงหัวเราะร่าออกมาแต่คำพูดของชายหนุ่มเพียงวูบเดียวก็ทำให้เธอใจเต้นแรงขึ้นมา“หัวเราะมีความสุขจริง?”ธัชชัยเห็นหญิงสาวหัวเราะร่า จึงถามขึ้น“แน่นอนอยู่แล้ว!” วัจสาตอบกลับ “แค่มีตะวันอยู่ นายก็อย่าหวังว่าจะรังแกฉันเลย!”“หึๆ ใช่แล้ว! ฉันจะปกป้องหม่ามี๊เอง!”สองแม่ลูกแสดงความรู้สึกต่อธัชชัยออกมาเหมือนกับไม่อยากให้ลูกชายได้ยิน ธัชชัยดึงตัวหญิงสาวมา แล้วเอาหัวเธอไปพิงไว้ที่ไหล่ของเขา แล้วพูดด้วยความเคร่งขรึม “ลูกชายเธอนี่รักแม่จริงๆเลย!”เพื่อ”ความสุข”ของตัวเอง ธัชชัยได้พยายามแล้ว และคำพูดนี้ได้ทำให้วัจสารู้สึกใจเต้นแรงคิดไปคิดมา ตะวันก็ดูติดเธอที่เป็นแม่มากจนเกินไป“ไม่…ไม่หรอก อะไรจะเวอร์แบบที่นายพูด ตะวันเพิ่งจะห้าขวบเองนะ!”วัจสาพูดตัดสินให้ลูกชาย“ก็แค่ยังห้าขวบ ถึงติดเธอขนาดนี้ เขาเป็นเด็กผู้ชายนะ!”ธัชชัยตั้งใจเน้นตรงนี้ เพราะเขารู้ว่าวัจสาต้องการให้ลูกชายตัวเองเป็นลูกผู้ชายผู้ยิ่งใหญ่