วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 876 ไปส่งพวกเขา
ตอนที่ 876 ไปส่งพวกเขา
ธัชชัยเปลี่ยนรถที่ใช้ในคืนนั้นเพื่อไม่ให้สะดุดตา เดิมทีคิดอยากจะรอลูกชายที่หน้าโรงเรียน แต่รอไปหลายชั่วโมงแล้วก็ไม่เห็นลูกชายมาโรงเรียน
ตอนนั้นเองเขาจึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าบางทีวัจสาอาจจะไม่ได้ให้ลูกชายมาที่โรงเรียน
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนั้นระวังเขามากแค่ไหน
แบบนี้คือต้องเกลียดพ่อของลูกอย่างเขาแค่ไหนกันเชียว?
ตอนนั้นเองที่ธัชชัยคิดถึงคำพูดของวัจสาเมื่อเย็นวานขึ้นมาได้
“แน่นอนหล่ะว่าฉันไม่ได้ต้องการที่จะให้คุณสละอะไรไป ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายคุณหรืออะไรก็แล้วแต่ ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น แต่สิ่งที่คุณควรจะรู้นั่นก็คือสิ่งที่พี่ชายคุณต้องการคือร่างกายที่แข็งแรงเพื่อจะอยู่กับสิ่งที่เขามี หรือว่าคุณอยากที่จะให้เขาเอาแต่ต่อสู้เพื่อสิ่งที่แม้จะต่อสู้ไปอีกห้าสิบปีเอื้อมไม่ถึง?”
เมื่อเขาเอาคำพูดของเธอมาวิเคราะห์ดูแล้ว มันมีหลายอย่างที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล แต่ก็มีบางอย่างที่ยังคงทำไม่ได้อยู่ดี
คนเรานั้นมันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเลือกไม่ได้ และมีหลายสิ่งหลายเรื่องที่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดอย่างที่หวัง
เมื่อธัชชัยแน่ใจแล้วว่าลูกของเขาไม่ได้มาที่โรงเรียน เขาจึงกลับออกมา ด้วยเพราะมันยังมีเรื่องมากมายที่ยุ่งยากยิ่งกว่าที่เขาจำต้องจัดการ
ในคืนที่มืดมิด ธัชชัยหลบซ่อนตัวอยู่ในรถที่ปกคลุมไปด้วยความมืด มองของในบ้านตระกูลศรีทองที่กำลังถูกขนเข้าย้ายออก
รออยู่ได้ถึงยี่สิบนาทีเต็ม ธัชชัยจึงเห็นวรพลที่อุ้มลูกสาวไว้ในอ้อมกอดเดินออกมา และด้านหลังเขานั้นก็มีกนิษฐาที่ใส่กระโปรงสีฟ้าเดินตามออกมาด้วย
“พ่อคะ ถ้าพวกเราไปแล้ว แล้วพ่อเล็กคิดถึงเรา เราจะทำยังไงกันหล่ะคะ?
เด็กน้อยยุกยิกตัวอยู่บนไหล่ของวรพล ดวงตาของเธอชุ่มไปด้วยน้ำตา
วรพลจึงปลอบๆเบาๆ “พ่อเล็กก็จะโทรมาหาลูกยังไงหล่ะคะ”
“ถ้าตอนนี้มิ้นโทรไปบอกลาพ่อเล็กจะได้รึเปล่าคะ?”
แน่นอนหล่ะว่าการที่ธัชชัยรักเด็กน้อยคนนี้มันไม่เสียเปล่าเลย
วรพลลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า “ได้สิ”
โทรศัพท์มือถือด้านหน้ารถสั่นอยู่หลายทีก่อนที่ธัชชัยจะเอื้อมมือไปหยิบมัน และจะกดปุ่มรับ
“พ่อเล็ก…มิ้นจะต้องไปแล้วนะคะ จะต้องไปที่ที่มันไกลเอามากๆเลยด้วย….พ่อเล็กมาส่งน้องมิ้นได้มั้ยคะ?”
เสียงน่ารักใสๆของมิ้นตราตรึงหัวใจของธัชชัย “ตอนนี้พ่อเล็กยุ่งมากเลย ไม่มีเวลาเลย ไว้มิ้นถึงแวนคูเวอร์แล้ว เดี๋ยวพ่อเล็กจะโทรหานะ พ่อเล็กต้องไปทำงานก่อนแล้วหล่ะ”
ไม่รอให้เด็กน้อยได้เอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง ธัชชัยก็ชิงวางสายไปเสียก่อน
“พ่อเล็ก….พ่อเล็ก!”
เมื่อได้ยินเสียง ตู๊ด ตุ๊ด จากปลายสาย เด็กน้อยก็อดรนทนกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว
“พ่อคะ พ่อเล็กวางสายใส่มิ้น….เขาไม่รักมิ้นแล้ว!”
“แต่มิ้นยังมีพ่อนะลูก….ไม่ว่ายจะเกิดอะไรขึ้นพ่อก็จะรักมิ้นตลอดไป”
วรพลปลอบประโลมลูกสาวที่น้ำตาน้องหน้า เขาจูบไปเบาๆที่แก้มของเธอ ทั้งยังจูบซับน้ำตาที่ปรกหน้า
ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏชัดในสายตาของธัชชัย แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ได้ลงจากรถไป
ห้านาทีหลังจากนั้น ก็มีรถอเนกประสงค์สองคันก็เรียงแถวกันออกจากบ้านตระกูลศรีทองเพื่อตรงดิ่งไปที่สนามบินรถของธัชชัยติดตามรถสองคันนั้นไปอย่างรวดเร็วเพราะเขารู้ว่าไม่ว่ายังไงเขาจะต้องไปส่งเพราะว่าเขารู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ ไม่มีทางที่จะไปได้อย่างราบรื่น!……ด้วยความเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์ที่ผ่านมา บวกเข้ากับกายใจที่ไร้เรี่ยวแรง วัจสาจึงนอนอยู่ในอ่านตื้นทั้งวันทั้งคืนในตอนเช้าเด็กน้อยยังตื่นเต้นกับการที่เขาไม่ต้องไปโรงเรียนอยู่เลย เขาจึงนอนคุดคู้อยู่ข้างๆแม่ของเขาแต่เมื่อตกเข้าเวลาบ้าน เด็กน้อยที่ยังอยู่ในที่นอนก็เริ่มเบื่อ เขาจึงจูบแม่ของเขาก่อนจะเดินออกจากห้องมา เพื่อไปหาอะไรเล่นกับสิบสองแก้เซ็งแต่ไม่คิดเลยว่าพอเดินไปถึงห้องโถงแล้วเขาจะไม่เจอสิบสอง มองๆไปก็เห็นเพียงแค่สี่ที่ยืนหน้าโง่คุ้มครองอำเภอพัดรักอยู่ เขาหน่ะเป็นคนที่ไม่น่าเล่นด้วยที่สุดแล้ว!“สี่ แล้วสิบสองหล่ะ?”ตะวันยังไม่ลืมว่าเขายังไม่ให้อภัยอำเภอพัดรัก ดังนั้นเขาจึงจงใจไม่คุยด้วย ดังนั้นจึงถามสี่แทนแต่สี่นั้นก็เพียงแค่ฟังออกบ้าง แต่ไม่รู้จะตอบยังไง“ออก….ออกไปแล้ว” แน่นนอนหล่ะว่านั่นอาจจะทำให้คนฟังไม่เข้าใจแต่เด็กน้อยเข้าใจอย่างดี “ไปไหน?”สี่ส่ายศีรษะซึ่งก็ไม่รู้ว่าความหมายของเขาคือฟังเด็กน้อยไม่รู้เรื่องหรือเป็นเพราะไม่รู้ว่าสิบสองไปไหน“ฉันให้เขาออกไปตรวจสอบอะไรบางอย่าง เวลากินข้าวก็น่าจะกลับมา”อำเภอพัดรักไม่ดื่มชาแล้ว เขายืดตัวยืนขึ้นก่อนจะเดินมาอยู่ข้างๆเด็กน้อย โค้งตัวไปเตรียมจะกอดเด็กน้อย ความหยิ่งที่หวั่นเกรงต่อการเสียศักดิ์ศรีของเขาดูเหมือนจะพลันหายไปแล้ว“ยังโกรธพ่อบุญธรรมอยู่อีกเหรอ?”อำเภอพัดรักที่ผ่านลมผ่านหนาวมาหลายปี จะมายอมแพ้ตามใจถือหางเด็กน้อยคนนี้เนี่ยนะ?“ถ้าไม่ให้พ่อบุญธรรมกอด วันนี้หม่ามี๊ของนายก็ไม่ต้องกินข้าวก็แล้วกัน ให้หม่ามี๊ของนายหิวโซไปเลย นายโอเคมั้ยหล่ะ?”แน่นอนแหล่ะว่าเขาไม่โอเค เด็กน้อยเบ้ปากตัวเองเล็กน้อย เพื่อแม่ของเขาแล้วนั้นเขาจึงยอมเดินเข้าไปให้อำเภอพัดรักกอด“นายนี่มันดื้อจริงๆ เหมือนกับพ่อเฮงซวยของายอย่างกับแกะ”อำเภอพัดรักกอดเด็กน้อยที่ไม่ร่าเริงเข้ามาแนบอกพลางลำพันกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ยืดตัวมองใบหน้าที่เหมือนกับธัชชัยราวกับแกะ“สิบห้า เรามาตกลงกันเรื่องหนึ่งจะได้มั้ย?” อำเภอพัดรักยกมือขึ้นลูบใบหน้าของเด็กน้อย“พ่อบุญธรรมพูดเลย สิบห้าจะฟัง แต่อย่าใจร้ายกับหม่ามี๊โดยการให้หม่ามี๊หิวข้าวนะ”“ฮ่าๆๆๆๆ นายนี่มันเด็กยอดกตัญญูจริงๆ”อำเภอพัดรักพูดพลางถอนหายใจ “ถ้าถึงเวลาไหนที่ พ่อของนายกตัญญูได้เหมือนนายก็คงจะดีนะ แต่พ่อบุญธรรมก็ไม่ได้คาดหวัง….”หลังจากความโศกเศร้าได้ผ่านพ้นไปอำเภอพัดรักก็กลับมาจริงจังอีกครั้ง “สิบห้า นายว่าพ่อบุญธรรมแกหรือยัง?”“ก็ยังไม่เท่าไหร่นะ แก่นิดเดียวเท่านั้น”เด็กน้อยชื่่นชมอำเภอพัดรักอย่างที่เขาทำมาโดยตลอด“ฮ่าๆๆๆ….” อำเภอพัดรักหัวเราะยกใหญ่ กอดจะเอาหนวดของตัวเองเช่นถูกับเด็กน้อยในอ้อมกอด“จริงๆด้วยอายุของพ่อบุญธรรมหน่ะควรจะเป็นปู่ของนายได้แล้ว เอาอย่างนี้มั้ยสิบห้า นายลองเปลี่ยนมาเรียกฉันว่าคุณปู่สิ?”อำเภอพัดรักเริ่มพยายามที่จะแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์กับหลานของเขาเองแต่ไม่คิดเลยว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดจะมีปฏิกิริยาตอบกลับที่รุนแรงแบบนั้นเด็กน้อยเกือบจะดันตัวออกจากอ้อมแขนของอำเภอพัดรัก ดวงตาของเขาเบิกกว่าก่อนจะพูด “ผมไม่เอา”อำเภอพัดรักได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ใจตุ้มๆต่อมๆ “ทำไมหล่ะ?”“เพราะว่าถ้าผมเรียกพ่อบุญธรรมว่าคุณปู่ แต่พวกสิบสองยังเรียกพ่อบุญธรรมได้ ผมก็จะไม่เหนือกว่าพวกเขาหน่ะสิ ผมไม่ยอมหรอกนะ”ที่แท้เด็กน้อยไม่อยากที่จะให้ตัวเองด้อยกว่าเดิมนั่นเอง“ฮ่าๆๆๆๆๆ นายนี่ฉลาดจริงๆเลยนะ”อำเภอพัดรักหอมแก้มของเด็กน้อยซ้ายทีขวาที หัวเราะอย่าปะเหลาะในตอนที่่วัจสาตื่นขึ้นมานั้น ก็เป็นเวลากับที่ได้ยินอำเภอพัดรักหัวเราะยกใหญ่ ทั้งยังทันได้ยินเรื่องการถกอะไรไร้สาระของปู่หลานด้วยแต่การที่พยายามที่จะแก้ไขความสัมพันธ์ให้ถูกต้องนั้นคุยกันเพียงไม่พอจะสองประโยคด้วยซ้ำในเวลาอาหารเย็นนั้น แปดและสิบสองก็กลับมาเมื่อสิบสองถ่ายทอดเรื่องราวให้อำเภอพัดรักที่ข้างหูเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าที่สรวลเสเฮฮาของอำเภอพัดรักก็กลับกลายเป็นมืดทึมขึ้นทันที“เจ้าเจ็ดนี่มันกล้าดียังไงที่มาสร้างเรื่องทำให้บ้านฉันเสื่อมเสียแบบนี้!? นี่เธอคงคิดว่าที่ฉันสั่งไปนี่เป็นแค่ลมเป่าหูเท่านั้นอย่างนั้นเหรอ! รนหาที่ตายจริงๆ!”อำเภอพัดรักสบถเสียงต่ำ ดูเหมือนในทุกๆพยางค์ที่เอ่ยมานั้น จะทำให้รอยตีนกาของตาของเขาเพิ่มมากขึ้นและนั่นก็ยิ่งดูน่ากลัว“พ่อบุญธรรมครับ เจ็ดนี่คือใครกัน? ผมไม่เคยเห็นได้ยินมาก่อนเลย?” เด็กน้อยถามอย่างไม่ประสีประสา“ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าเป็นใคร เพราะยังไงซะเธอคนนั้นก็จะต้องตาย!”แน่นอนหล่ะว่าอำเภอพัดรักจะไม่มีทางปล่อยวิศาลไปได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว แต่ที่เขาจะไม่ปล่อยไปยิ่งกว่านั้นก็คือกนิษฐา!“เอาตัวเจ็ดมาหาฉันที่นี่!”“ในตอนนี้เธอน่าจะรีบไปที่สนามบินพร้อมกับวรพลแล้วหล่ะครับ”“สนามบินเหรอ?”“ใช่ครับ ธัชชัยเป็นคนช่วยกนิษฐาออกมาจากน้ำมือของวิศาลด้วยตัวเขาเอง”“อาชัยเนี่ยนะช่วยเธอ? มันเป็นสิ่งที่ควรทำหรือยังไงกันเนี่ยฮะ?”“น่าจะไม่ใช่ทั้งหมดนะครับ น่าจะเป็นเพราะเจ็ดเป็นภรรยาของวรพล ซึ่งก็เป็นพี่สะใภ้ของธัชชัย”“สิบสอง นายกำลังจะบอกเจ็ดก็คือแม่ของมิ้นใช่มั้ย? นั่นแสดงว่าเธอก็คือยัยแม่มดที่ชั่วร้ายกนิษฐาหล่ะสิ?”เมื่อได้ยินมาถึงตงนี้เด็กน้อยก็รู้ได้ในทันทีสิบสองไม่ได้ตอบอะไร เขากำลังรอให้อำเภอพัดรักเอ่ยปากอธิบาย้วยตัวเอง“แต่ก่อนหน่ะใช่ แต่กำลังจะไม่แล้วหล่ะ!”อำเภอพัดรักออกคำสั่งเสียงเย็นเฉียบ “สิบสอง นายไปพร้อมกับสี่และห้า ไปขวางเธอเอาไว้ อย่าปล่อยให้เธอพ้นมลทินไปแบบนั้น อย่าได้แม้แต่คิดฝันเลยทีเดียว!”สิบสองรับคำก่อนจะออกไป “ได้ครับ”“อ้อจริงสิ” อำเภอพัดรักร้องทักสิบสองที่กำลังเตรียมจะออกไปเอาไว้ “พยายามอย่าได้ทำร้ายวรพล อย่างน้อยเขาก็เคยช่วยชีวิตของอาชัยเอาไว้”อำเภอพัดรักแม้จะเป็นคนที่ดุร้ายแต่ก็มีความเมตตาที่ค่อนข้าชัดเจน“ครับ”วัจสาได้แต่ฟังอำเภอพัดรักส่งการอยู่ข้างๆหลายวันมานี้เธอเอาแต่ครุ่นคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับอำเภอพัดรักดีมั้ย การที่กนิษฐารนหาที่ตายโดยการทำเรื่องท่เป็นการดูถูกธัชชัยลูกชายของอำเภอพัดรักนั้น เขาจะจัดการเธอไปหรือไม่ดังนั้นเธอจึงครุ่นคิดอยู่ว่าเธอจะยืมมืออำเภอพัดรักจัดการกับกนิษฐาดีมั้ยแบบนี้กนิษฐาก็จะได้ไม่สามารถมาทำร้ายลูกของเธอได้อีก…แต่ท้ายสุดเธอก็ไม่ได้พูดออกมา ด้วยเพราะความเมตตาในหัวใจของเธอไม่อนุญาตให้เธอทำแบบนั้นลงไปแต่ในตอนนี้อำเภอพัดรักก็ได้สืบสวนจนได้รู้ความจริงออกมาแล้ว นั่นทำให้เธอโล่งใจมากพอสมควรกนิษฐาห้าปีมานี้ อะไรก็ตามที่เธอเคยทำมา มันควรจะได้รับการตอบสนองสักทีแต่วัจสาก็รู้สึกผิดปกติบางอย่าง เธอรู้สึกว่าการที่อำเภอพัดรักจะจัดการกับกนิษฐานั้นไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่ายดายด้วยเพราะระหว่างกลาง ยังมีธัชชัยอยู่อีกคน ยกเว้นแต่ว่าครั้งนี้เขาจะไม่ลงมือ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างนั้นเหรอ?เพื่อการเป็นทาสของพี่ที่เขาเป็นอยู่ตลอดนั้นแล้ว ธัชชัยจะไม่ลงมือขัดขวางอย่างนั้นเหรอ?มันเป็นขั้นสุดท้ายแล้วที่ไม่ว่ายังไงเขาก็จำจะต้องปกป้อง……จากบ้านตระกูลศรีทองไปถึงสนามบิน เส้นทางค่อนข้างแห้งแล้ง ด้วยเต็มไปด้วยสุสานถ้าหากว่าจะมีใครลงมือในชั่วจังหวะนี้ คาดว่าเป็นสิ่งที่พอเหมาะพอควรทีเดียวมันเป็นเส้นทางไม่กี่กิโล และเป็นเศษเสี้ยวของเส้นทางที่จะต้องเดินทางผ่านธัชชัยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ดังนั้นเขาจึงเร่งความเร็วตาม เพื่อที่จะตามติดรถอเนกประสงค์ที่อยู่ด้านหน้านิ้วมือกระชับกับพวงมาลัยสีขาวแน่นระหว่างทางที่เร่งรถไปนั้น ธัชชัยเต็มไปด้วยความตึงเครียดไปหมดและอยู่ๆทันใดนั้นเองด้านขวาของทางก็มีรถออฟโรดแทรกเข้ามา ชนเข้าเป็นเสียงดัง ‘ปัง’ มันชนเข้ากับรถคันข้างหน้าเข้านั่นทำให้รถอเนกประสงค์คันหลังจำต้องเบรกอยู่ฉุกละหุก จนทำให้คนในรถเสียการทรงตัวไปด้านหน้า“ฮื่อออ”มันไม่ง่ายเลยที่จะไม่ทำให้เด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของวรพลตกใจ เธอตื่นขึ้นมา และแม้ว่าวรพลจะกอดเธอเอาไว้อย่างแน่น แต่ก็ยังชนเข้ากับเบาะหน้าอยู่ดี