วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 857 เธอไม่ได้นอนด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว
ตอนที่ 857 เธอไม่ได้นอนด้วยกันมานานแค่ไหนแล้ว
“สิบสอง การที่นายมาดูถูกฉันแบบนี้เนี่ย พ่อบุญธรรมเขารู้มั้ย? ”
วัจสาเพียงแค่ต้องการจัดการกับเขาด้วยความกลัวของเขาที่มีต่ออำเภอพัดรัก
พ่อบุญธรรมของฉันรู้ และหัวข้อของวันนี้มันเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย! วัจสา ตามฉันมา"
เธอไม่อยากขึ้นรถของเขา แต่ก็จำต้องไป เดิมทีครั้งที่แล้วเธอพยายามจะรั้นสักหน่อยแต่ก็กลัวว่ามันจะมีผลกระทบกับสถาบันเต้น
ถ้าเกิดว่าแม่ของสิบห้าอย่างเธอเกิดก่อกบฏ ขึ้นมาโดยการเมินเฉยต่ออำเภอพัดรัก เขาก็จะพาลไปโวยวายกับคนอื่น
เธอไม่อยากจะมีปัญหา และยิ่งไม่อยากให้คนอื่นต้องเดือดร้อน
เมื่อเธอมาถึงอ่าวตื้น อำเภอพัดรักกำลังอยู่ในโหมดดุดัน ทิ้งอะไรบางอย่างในมือลง เหมือนสิงโตที่กำลังโกรธ
เธอร้องทักเบาๆ "คุณพรมมินคะ…" เพื่อแสดงตัวว่าเธอมาถึงแล้ว
“มาแล้วเหรอ? นั่งก่อนสิ”
เมื่อเห็นว่าวัจสามาแล้ว อำเภอพัดรักก็ค่อยๆ เก็บสิ่งนั้นลงไป
วัจสาถามอย่างหยั่งเชิง" คุณเรียกหาฉันมีอะไรรึเปล่าคะ? "
แน่นอนหล่ะว่าจะต้องมีอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ให้สิบสองไปที่สถาบันเต้นรำเพื่อรอเธอหรอก
"ช่วงนี้เธอมีปัญหากับอาชัยรึเปล่า? "
มีแววเล็กๆ น้อยๆ ของความไม่พอใจในดวงตาของเขา ทั้งยังส่อไปด้วยการตำหนิด้วย
"ไม่นะ ไม่มีนี่คะ เราก็อยู่กันด้วยดีมากๆ เลย เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า? "
เธอตอบอย่างรวดเร็วและช่วงนี้เธอกับธัชชัยอยู่กันด้วยดีมากๆ จริงๆ ด้วย
เขาถามย้ำอีกครั้ง "ดีมากจริงๆ เหรอ? "
วัจสาพยักหน้า แต่เมื่อเห็นสายตาของเขาที่เหมือนเหยี่ยวเธอก็รู้สึกไม่ค่อยดี
“พวกเธอนานแต่ไหนแล้วที่ไม่ได้นอนด้วยกัน? ” อำเภอพัดรักถามขึ้นอีก
นานแค่ไหน….ไม่ได้นอนด้วยกัน? วัจสาไม่เข้าใจในคำถามของอำเภอพัดรัก
“ก็อยู่ด้วยกันทุกวันนะ แล้วก็มีตะวัน….”
“ฉันไม่ถึงว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้นอนเตียงเดียวกัน”
อำเภอพัดรักพูดถามออกไปตรงๆ
“……”
วัจสาถุงกับตกใจไปในทันที หน่ะ… นี่มันเป็นคำถามที่อำเภอพัดรัก…ควรถามมั้ย?
วัจสาไม่อยากจะตอบแต่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังนั้นเธอจึงตอบแบบกลางไปว่า "เมื่อคืนนี้ลูกคุณนอนกับหลานคุณหน่ะค่ะ"หลังจากพูดจบประโยคนี้เธอลุกขึ้นยืนเล็กน้อยอย่างผิดธรรมชาติ เธอแค่อยากออกไปจากที่นี่ ถ้านั่นคือสิ่งที่เขาอยากจะถามเธอหล่ะก็ คำถามที่น่าอับอายแบบนี้เธอก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว"คุณพรมมิน ฉันต้องไปทำงานแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับไปทำงานก่อน""แน่นอนหล่ะว่ามี มันเป็นเรื่องใหญ่ด้วย! " เสียงของเขาฟังดูเย็นเฉียบ"เริ่มอาทิตย์นี้เป็นต้นไปเธอจะต้องส่งสิบห้ามาหาฉันวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วเธอกับอาชัยจะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันแค่สองคนบ้า อย่าแยกกับสามีของเธอบ่อยนักนะเข้าใจมั้ย?"วัจสาไม่มีอะไรจะพูดเลยจริงๆ เธอแยกอะไรกับใครนะ?ก่อนที่วัจสาจะเข้าใจคำพูดของเขา อำเภอพัดรักก็ยังคงบ่นต่อไป “ฉันรู้ว่าเธออาจจะอยากบ่นอยากว่าที่แรกเริ่มเขาเลือกพี่ชายและหลานของเขา แต่ว่ามันเป็นความผิดของฉันเองนั่นแหละ ถ้าเธออยากจะโทษก็มาโทษฉันเถอะ ถ้าหากว่าเธอแยกตัวอยู่กับอาชัยหล่ะก็ มันจะต้องเกิดปัญหาในเร็ววันนี้แน่นอน”วัจสาเงียบ ท้ายสุดเธอก็รู้ว่าอะไรคือ ‘เล่นงานใคร ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอ’ เธอจึงได้แต่ฟังอำเภอพัดรักบ่นเงียบๆรอจนกระทั่งอำเภอพัดรักบ่นเสร็จแล้ว เธอถึงได้ตอบช้าๆ “คุณพรมมินคะ คุณจะต้องเข้าใจอย่างหนึ่งก่อน ฉันกับลูกชายของคุณหน่ะหย่ากันได้เดือนกว่าแล้วนะ”เธอต้องการให้อำเภอพัดรักรู้ ว่าตัวเธอเองไม่มีความสัมพันธ์กับธัชชัยอีกต่อไปแล้วอำเภอพัดรักตกใจมาก คิดๆ แล้วแล้วมันก็คงจะเพราะอย่างนั้น จากนั้นเขาจึงพูดต่อ “นี่ไงหล่ะคือปัญหา เพราะตอนนี้เธอแยกกับอาชัยไปเป็นเดือนกว่าแล้ว ไม่น่าหล่ะเขาถึงได้…..”“เขาทำไมนะ? ” วัจสาถามอย่างไม่แยแสนัก“เห้อ” อำเภอพัดรักถอนใจยาว “สา เธอต้องสนใจอาชัยให้ได้มากกว่านี้หน่อย อ่อนโยนและมีน้ำใจอีกนิด ถ้าทำแบบนั้นอาชัยเขาจะได้ไม่….ไม่ไปทำผิดศีล นอกใจอะไรแบบนั้น! ”พอเธอได้ยินแบบนั้นเธอก็เข้าใจทันที มันเป็นเพราะว่าลูกชายของเขาเองไปมีความสัมพันธ์นอกบ้าน ดังนั้นเขาจึงเรียกเธอมาว่า นี่เธอผิดอะไรหล่ะเนี่ย?ทำไมเขาถึงได้ไม่ชอบแบ่งผิดแบ่งถูกอย่างนี้นะ?“คุณพรมมิน คุณกำลังพูดว่าลูกชายของคุณไปทำผิดศีล นอกใจเหรอ? ”วัจสาถามอำเภอพัดรักตอบกลับทันที “มันเป็นเพียงข่าวลือ เพราะมีคนใส่ร้ายเขา เธออย่าไปคิดเล็กคิดน้อยอะไรนะ”เธอเงียบไป ไม่คิดจะถามอะไรต่ออีก“สา เธอรีบแต่งงานกับอาชัยใหม่เถอะนะ ลูกก็มีด้วยกันแล้วไม่ใช่เหรอ? อย่าทะเลาะกันต่อไปเลยต้นปีหน้าก็ทำน้องชายน้องสาวให้กับสิบห้าได้แล้ว เขาเป็นลูกคนเดียวเหงาแย่แล้ว! ”คำพูดของเขาไม่เพียงแต่ทำให้เธอเงียบ แต่แทบอยากจะร้องไห้ทีเดียวตอนนี้เธอต้องการที่จะโยนถังน้ำใส่เขาซักถัง เพื่อที่จะให้เขารู้ว่าตัวเธอเองนั้นก็มีศักดิ์ศรีเขาไม่ได้เป็นเครื่องมือผลิตลูกของลูกชายเขานะ!หลังจากออกมาจากอ่าวตื้น ท้องฟ้าข้างนอกเต็มไปด้วยเมฆสีขาวโทรศัพท์มือถือมีเสียงเตือนขึ้นมา เธอหยิบมันขึ้นมา แน่นอนหล่ะมันเป็นข้อความเข้าอีกแล้วครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภาพ แต่มันเป็นวิดีโอด้วย แต่ว่าเนื้อหาด้านในมันก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่วัจสาไม่รู้ว่าใครส่งมา แต่เธอรู้ว่าคนคนนั้นรู้จักเธอ ทั้งยังรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับธัชชัยอย่างดีเธอไม่ได้ต้องการที่จะรู้ว่าเขาคือใคร และไม่ต้องการรู้เหตุผลที่ส่งมันให้กับเธอและเธอก็ทำเหมือนเมื่อสองวันก่อน นั่นก็คือลบข้อความไปอีกครั้งในบางครั้ง การแกล้งทำเป็นโง่มันก็เศร้าใจอย่างไม่มีทางเลือกเธอใส่โทรศัพท์มือถือกลับเข้าไปในกระเป๋า ก่อนเธอจะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีฟ้าและเมฆสีขาว ดูเหมือนว่าโลกของเธอจะถูกแช่แข็งไปในความเป็นจริงวัตถุประสงค์ของการส่งข้อความมาให้เธอนั้นชัดเจนมาก และวัจสาก็ไม่ได้โง่ เธอได้รับข้อมูลบางอย่างจากคำพูดของอำเภอพัดรักไม่มีใครควรที่จะตัดสินเธอ ไม่มีใครควรที่จะตำหนิเขา แต่อำเภอพัดรักนั้นเหมือนจะโกรธเธออย่างไรอย่างนั้นเธอยิ้มด้วยความเศร้าเล็กน้อย ดูเหมือนว่าการที่เธอหย่ากับธัชชัยมันก็ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น เพราะอย่างไรเสียเธอก็ต้องอาศัยอยู่ในเงาของเขาอยู่ดีเธออยากที่จะพาตะวันลูกชายของเธอบินหนีออกไปไกลๆ แต่ว่าเธอจะสามารถไปที่ไหนได้บ้างหล่ะ? แม้แต่พื้นฐานชีวิต เธอก็ให้แก่ลูกชายไม่ได้ในขณะที่เดินอย่างไร้จุดหมายบนถนนอยู่นั้น เธอเห็นเด็กผู้หญิงตัวน้อยกำลังร้องไห้อยู่ ขณะที่แม่ของเขากำลังจับตัวเธอไว้“ดีแต่ร้องไห้ทุกวันๆ แม่ไม่ได้ทำงานมาเพื่อจะเอาเงินมาซื้อของเล่นให้ลูกนะ? ”เด็กน้อยยังคงร้องไห้ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปที่ร้านของเล่นจู่ๆ เธอก็อยากซื้อของเล่นให้ลูกชายของเธอขึ้นมา ดังนั้นเธอจึงเดินเข้าไปในร้านของเล่นร้านนั้นใหญ่มาก มีพวกของแบรนด์เนมต่างๆ แต่เพราะวันนี้ไม่ใช่วันหยุด ดังนั้นจึงมีคนเพียงไม่กี่คนที่เข้ามาเธอเห็นหุ่นยนต์เข้าตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่อำเภอพัดรักซื้อให้ลูกชายของเธอ รูปร่างคล้ายกัน แต่ราคา…… เธอเอามือของเธอกลับมาของเล่นชิ้นนั่น เธอจะต้องใช้เงินเดือนของเธอเลยทีเดียวอยู่ๆ ก็มีความเศร้าโศกลึกเข้ามาในจิตใจของเธออย่างไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นอำเภอพัดรักหรือธัชชัย พวกเขาต่างก็สามารถซื้อของเล่นแพงๆ ให้ลูกชายได้โดยไม่กะพริบตา มีเธอที่เป็นแม่คนเดียวนี่แหละ….ที่ใจแม้อยากจะทำมากแค่ไหน แต่ก็ทำไม่ได้วัจสาจมูกแดงน้ำตาเรื่อขึ้นมา เธอเดินออกห่างจากหุ่นยนต์ตัวนั้นไปมีความสามารถแค่ไหน และต้องทำงานอย่างมาก เธอไม่สามารถซื้อหุ่นยนต์ราคาแพงให้ลูกชายของเธอได้ เธอจึงเปลี่ยนเป็นสิ่งที่เธอพอจะซื้อได้แทนเธอเห็นตุ๊กตาล้มลุกที่เป็นหมีแพนด้า สีดำและสีขาวน่ารักมากๆ ที่สำคัญคือคุณภาพดีและราคาก็ถูกอีกด้วยวัจสาชอบมันมาก ก็เลยซื้อมันมา ถึงแม้ว่าลูกชายจะรู้ว่าเขาไม่ชอบของเล่นที่ปัญญาอ่อนแบบนี้ เพราะเขาบอกว่ามันจะลดไอคิวของเขาก็ตามทีแต่ถ้าเจ้าตัวเล็กนั่นไม่ชอบ เธอก็เอาคืนมาก็ได้หลังจากที่เธอให้เจ้าของร้านเอาใส่กล่องเรียบร้อยแล้ว ดูเหมือนกับว่าเธอก็ได้พบเป้าหมายของเธอทันที เธอเดินไปตามถนนและเรียกแท็กซี่ เธออดไม่ได้ที่จะรีบไปที่โรงเรียนของลูกเมื่อถึงเวลาพักอาหารกลางวัน เธอก็จะได้เห็นลูกชายของเธอเมื่อเธอมาถึงโรงเรียนเธอก็โดนขวางไว้ไม่ให้เข้า เพราะยามไม่ให้เธอเข้าไป และเธอก็ไม่อยากให้ยามต้องลำบาก เธอจึงรออยู่ที่ประตูหน้าไม่จำเป็นต้องเจอลูกชายก็ได้ เพียงแค่ได้ใกล้ชิดเขาอีกหน่อยเท่านั้น แค่อยู่ใกล้อีกหน่อยก็พอแล้วเธอนั่งอยู่สวนดอกไม้ด้านนอก เพื่อที่จะรอลูกชายเลิกจากโรงเรียนจู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น มันเป็นธัชชัยที่โทรมาจนโทรศัพท์ดังถึงสามครั้ง เธอถึงจะเลื่อนรับสาย“อยู่ที่ไหนหน่ะ? ”เสียงของชายหนุ่มทุ้มต่ำ แต่ฟังดูอบอุ่นมาก แต่เธอสามารถฟังออกถึงความหงุดหงิดในกระแสเสียงของเขา“ตอนนี้เดินเล่นอยู่บนถนนไปเรื่อยๆ ” วัจสาตอบกลับเขาๆ“บอกผมสิว่าอยู่ไหน ผมจะไปเดินเล่นกับคุณด้วย” เสียงของชายหนุ่มฟังรื่นหูและเธอก็ชอบฟังมันมาก ระยะห่างของพวกเขาเหมือนใกล้แต่เดี๋ยวๆ ก็ไกลไม่รู้ว่าเพราะอะไร อยู่ดีๆ น้ำตาของเธอก็กลิ้งตกลงมา“ไม่ต้องมา หาเงินให้ลูกชายคุณไปเถอะ”ตอนนี้เธอแค่อยากอยู่คนเดียว ไม่อยากให้ใครมารบกวน“แต่ว่าผมอยากจะไปเดินที่ริมถนนกับผู้หญิงของผมแบบนี้ผมจะต้องทำยังไงหล่ะ? บอกผมมาคุณอยู่ที่ไหน? ”ชายหนุ่มพูดเสียงต่ำ แต่เป็นเสียงที่เธอไม่อาจจะหลีกเลี่ยงตอบได้เธอเงียบไปสักพัก เพียงแค่ถือโทรศัพท์เอาไว้ อยู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงถอนใจของชายหนุ่ม“คุณทำอะไรอยู่หน่ะ? ทำไมถอนหายใจเสียงดังจัง”เธอยังไม่อยากวางสาย แต่ไม่อยากให้ชายหนุ่มมาหา ดังนั้นเธอจึงหาเรื่องคุย“ตอนนี้ผมอยู่ที่สถาบันสอนเต้นรำ แต่หาคุณไม่เจอ ก็เลยออกมาแล้ว บอกพ่อหน่อยสิว่าแม่อยู่ไหน? ”เมื่อได้ยินคำว่า แม่ มันก็ทำให้หัวใจเธอเต้นแรง ผู้ชายคนนั้นมักจะมีพลังวิเศษ ที่คอยแต่จะฉีกหัวใจเธอออกเล็กๆ น้อยๆ เสมอ“ตอนนี้ฉันกำลังนั่งหน้างงอยู่หน้าโรงเรียนอนุบาล”วัจสาพูดพลางหัวเราะเยาะตัวเองอย่างโดดเดี่ยว“รอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมจะไปนั่งงงๆ กับคุณเดี๋ยวนี้แหล่ะ”ธัชชัยวางสายไป จากนั้นก็พุ่งรถเบนซ์เหมือนเป็นลูกศรมุ่งฉิวไปที่โรงเรียนอนุบาลในสวนดอกไม้ข้างนอก ธัชชัยก็เห็นหญิงสาวที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียวเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินตรงมาหาเธออย่างรวดเร็วนั้น ดวงตาที่เดิมทีไม่มีน้ำตานั้นก็พร่ามัวขึ้นมาอีกครั้งธัชชัยไม่พูดอะไร ก็ตรงเข้าไปกอดหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนแน่น"หลังจากนั้นพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกได้ถึงเสียงร้องไห้ของหญิงสาวในอ้อมกอด จึงเอื้อมมือของเอวของเธอเอาไว้