วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 845 กล้าใช้ลูกของฉันเป็นส่วนหนึ่งของแผน
ตอนที่ 845 กล้าใช้ลูกของฉันเป็นส่วนหนึ่งของแผน
กรดลยังคงง่วนอยู่กับการแกว่งชาในมือของเขา พูดเรียบๆ “ทำไมหล่ะ? ร่างกายนายยังไม่ทันจะฟื้น ก็ไปคิดเรื่องของหมอนั่นแล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
ทุกคำที่กรดลพูดออกไป มันดูเหมือนจะไปขัดใจความเป็นผู้มียศอย่างธัชชัย บางทีธัชชัยก็คิดนะว่าไอ้เจ้านี่นี่ใช่คนที่ช่วยชีวิตเขาในหลายๆ ครั้งรึเปล่า?
“ถ้านายจะฆ่าอำเภอพัดรักตอนนี้ นายมั่นใจว่าจะทำได้กี่เปอร์เซ็นต์?”
ธัชชัยถามอย่างจริงจัง
กรดลมองหน้าเขา ก่อนจะค่อยๆ เลิกคิ้ว เดิมทีจะหัวเราะ แต่เมื่อเห็นสายตาของธัชชัย เขาก็หยุดรอยยิ้มนั้นไปทันที
ดูเหมือนจะตัดสินใจอะไรบางอย่าง แววตาเต็มไปด้วยความสับสนซับซ้อน
จนท้ายสุดกรดลก็พูดตอบไปเพียงสามคำเบาๆ “ไม่มั่นใจ”
“ตอนนี้นายมีฉันพ่วงไปด้วยแล้ว ก็ยังไม่มั่นใจเหรอ?” ธัชชัยยังคงพูดด้วยเสียงเย็นกร้าว
กรดลมองไปที่ดวงตาของธัชชัยอีกครั้ง ก่อนจมองไปที่เด็กน้อยที่นอนอยู่บนโซฟา
“ฉันว่าถ้าเพิ่มลูกชายของคุณไปด้วยถึงจะมั่นใจมากกว่า ใช้เขาเพื่อที่จะหลอกล่อสิ”
กรดลพูดเรื่องการที่จะให้ลูกชายของเขาเป็นตัวประกัน ต่อหน้าคนเป็นพ่ออย่างเขาได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนหล่ะว่าธัชชัยเถียงเสียงแหลม “ถ้านายกล้าที่จะใช้ลูกของฉันเป็นส่วนหนึ่งของแผน ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไป”
“คุณสู้ฉันไม่ได้ แล้วจะเอาอะไรมาบอกว่าจะไม่ปล่อยฉันไป” กรดลพูดเรียบๆ
นั่นทำให้ธัชชัยอยากที่จะชกหน้าเขาขึ้นมา วิ่งดิ่งตรงไปด้วยแรงโทสะ
“แกนี่มัน! คุยกันดีๆ อยู่ๆ ก็อยากตายขึ้นมาหรือยังไง? ”
ธัชชัยอยากที่จะบีบคอกรดล ตอนแรกเขาคิดว่าจะไม่ได้ แต่กลับทำได้ซะงั้น!
กรดลที่ถูกบีบคอนั้น จึงผลักพวกน้ำชาต่างๆ ออกไป ด้วยคิดว่าธัชชัยบุ่มบ่ามขึ้นมา จะต้องกวาดของทุกอย่างลงพื้นอย่างแน่นอน และนั่นก็จะเป็นการปลุกเด็กที่กำลังกลับอยู่ให้ตื่นขึ้น
เขาผลักพวกน้ำชาออกไป ก่อนธัชชัยจะจับคอเขามาบีบไว้ได้
แต่ธัชชัยนั้นคิดผิดที่คิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะกรดลได้
ด้วยเพราะกรดลนั้นจวบทั้งรูปร่างและความแข็งแรงของเขานั้นเมื่อเทียบกับธัชชัยแล้ว ธัชชัยก็ดูผอมแห้งแรงน้อยไปเลยในตอนที่ร่างกรดลตกจากเก้าอี้นั้น ธัชชัยหยิบกระถางต้นไม้ใกล้มือขึ้นมา หวังจะเอามาทุบใส่หัวของกรดล แต่ก็ถูกกรดลดึงออก และนั่นจึงทำให้ร่างของธัชชัยเสียสมดุลและล้มลงในที่สุด
ท้ายสุดหลังจากตกลงมาอยู่ใต้โต๊ะกันหมด กรดลก็ใช้แขนตัดผ่าแขนของธัชชัย จากนั้นจึงกดธัชชัยไว้ได้ด้วยมือเพียงแค่ข้างเดียว โดยที่ทำให้ธัชชัยไม่สามารถที่จะขยับตัวได้
“กรดล ไอ้เวรนี่ นี่แกเอาจริงเลยหรือไงฮะ?” เมื่อถูกกดเอาไว้ธัชชัยก็เริ่มด่ากราดขึ้นมา ร่างกายที่ยังฟื้นฟูได้ไม่เต็มร้อยของเขาเริ่มจะทวีความเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น
“ก็ดูเหมือนว่าคุณก็ไม่ได้จะเล่นๆ นี่” กรดลพูดด้วยแรงโมโหเช่นเดียวกัน แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยธัชชัยไป
สิบนาทีหลังจากนั้น ธัชชัยก็นอนพะง้าบๆ เหมือนกับคนแก่อยู่บนเตียงกรดลที่ร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อนั้นกำลังใช้ไอน้ำรักษาเขาอยู่
“คอยดูอำเภอพัดรักให้ฉันด้วย ถ้าเกิดว่าเขาเคลื่อนไหวอะไรเมื่อไหร่ นายก็ช่วยจัดการให้หนักๆ ก่อนฉันเลย”ธัชชัยปิดตาดูราวกับกำลังพักผ่อน แต่คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นกลับร้ายกาจ“ฉันอาจจะทำไม่ได้ ไอ้อำเภอพัดรักมันร้ายกาจมากอยู่ ฉันอยากจะมีชีวิตให้มันยาวนานออกไปหน่อยยังไม่อยากจะให้เขาทำให้ฉันกลายเป็นมัมมี่ซะก่อน”กรดลกำลังนวดตัวให้กับธัชชัยพลางลงยาไปพลางมัมมี่อีกแล้ว ไอ้เวรนี่จะไม่พูดอะไรที่มันไม่ระคายหูเขาไม่ได้เลยรึยังไงนะ?“ถ้าเป็นคำสั่งของฉันหล่ะ? ยังไงนายก็ต้องทำ” ธัชชัยเปิดตาขึ้นมา ก่อนจะมองไปที่กรดลอย่างเด็ดขาด“หน้าที่นี้ คุณเอาให้วิศาลทำยังจะเหมาะสมซะกว่าอีก!” กรดลปากก็พูดไป ในมือก็ยังไม่หยุดที่จะลงยานวดให้แก่ธัชชัย“นี่นายคิดดีแล้วใช่มั้ยที่พูดแบบนี้? ธัชชัยถาม“อือคิดดีแล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่เอาชีวิตเดิมพันละก็ ขอไม่ยุ่งด้วยดีกว่า”ธัชชัยเย้ยอย่างเย็นชา “นี่แกกลัวตายด้วยหรือไง? ”“แน่นอนสิ!” กรดลผลักเอวของธัชชัยออกไป ก่อนจะตอบเพื่อยืนยันคำพูด” ไม่รู้ว่าฉันกลายเป็นคนกลัวตายตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่กลัวมาก จริงๆ ”ด้วยเพราะตลอดทั้งร่างกายได้รับการรักษาดีแล้ว นั่นทำให้ธัชชัยหลับได้อย่างสบาย ดูเหมือนได้พลังกลับคืนมามากกว่าเดิมด้วยไม่รู้ว่าจะพูดยังไง กรดลนั้นมีความสามารถที่จะรักษาและยับยั้งทั้งความรู้สึกแย่ทางกายและทางใจของเขาได้จนหมดสิ้นเมื่อเด็กน้อยลืมตาตื่นขึ้นมา พ่อของเขานั้นยังคงหลับอยู่ เด็กน้อยได้กลิ่นสมุนไพรคั่วกับเขมาควันเล็กน้อยจนทำให้เขาต้องบีบจมูกเด็กน้อยรู้ทันทีว่าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านผีสิงของกรดลเขาจึงค่อยๆ ลงจากเตียง โดยที่ไม่ได้ปลุกพ่อของเขา เดินตามกลิ่นบางอย่างไปที่ด้านใน sky dream มีทั้งดอกไม้ดอกสมุนไพร แต่เด็กน้อยไม่เคยเห็นต้นไม้ต้นสมุนไพรอะไรที่เหมือนกับที่กรดลปลูกเลยเขาเดินผ่านแถวสมุนไพรที่เรียงราย จนเดินเข้ามาถึงในครัวเขาเห็นแผ่นหลังของกรดลกำลังง่วนอยู่กับอะไรในครัวผ่านประตูกระจก ดูเป็นพ่อบ้านมากทีเดียว นั่นทำให้เขาขยับเข้าใกล้ความเป็นคนมากขึ้นในสายตาของเด็กน้อยตะวันเปิดประตูกระจกเข้าไป เดินเข้าไปอยู่ข้างตัวของกรดล ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง“กรดล ทำไมคุณถึงได้เจ๋งแบบนี้หล่ะ?”สามารถมองออกได้อย่างง่ายๆ เจ้าเด็กน้อยนั้นค่อนข้างจะชอบกรดลที่เจ๋งคนนี้อยู่พอสมควร เดิมทีเขาไม่เคยที่จะชมใครง่ายๆ เลย“จริงเหรอ?” กรดลตอบเรียบๆ ใช้หลังมือที่สะอาดอยู่ถูเบาๆ ที่แก้มเด็กน้อยและอยู่ๆ เด็กน้อยก็ถามขึ้น “กรดล คุณเก่งกว่าสิบสองอีกใช่มั้ย?”“เทียบไม่ได้หรอก แต่ถ้าเรื่องทำอาหารฉันเก่งกว่าแน่!”กรดลไม่ได้ให้เด็กน้อยได้รับรู้อะไรที่มันไม่ดีเท่าไหร่ อย่างที่เคยได้ยินสำนวนที่ว่า อยู่ใกล้ใครก็จะเป็นแบบคนนั้น แล้วอยู่ที่นี่ เด็กน้อยก็ใกล้เขาเขาอยากที่จะให้เด็กน้อยเห็นอะไร เขาก็จะเห็นอย่างนั้น“สุดยอดไปเลย ขนาดเรื่องทำกับอาหารยังเจ๋ง กรดล ผมชอบคุณมากๆ เลย” เด็กน้อยมองเบค่อนม้วนด้านหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะแลบลิ้นเลยปาดแผล่บๆ“เป็นเกียรติของฉันแล้วหล่ะถ้าอย่างนั้น” กรดลเพียงรับคำชมเรียบๆ ไม่ได้ดูเหมือนว่าจะพอใจอะไรที่เด็กน้อยชอบเขา “รีบไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วก็มากินข้าวเถอะไป”เมื่อเด็กน้อยอาบน้ำเสร็จแล้ว กรดลก็ตั้งสำรับเช้าเสร็จพอดี“ให้ผมปลุกพ่อผมมั้ย?”เด็กได้เห็นอาหารโอชะอยู่ตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงธัชชัย“ไม่ต้องเรียกหรอก ไม่ต้องไปปลุกเขา ให้พ่อนายได้นอนจนถึงสิบโมงไปเลย” กรดลเอาจานให้เด็กน้อย “ปกติใช้อันไหนหล่ะ?”มันคือช้อนส้อมกับตะเกียบเมื่อเด็กน้อยมองไปที่อาหารแล้วเขาก็ทำปากแจ๊บๆ “ผมขอใช้มือได้มั้ย? เพิ่งล้างมาสะอาดๆ เลย”“ได้สิ เอาที่ชอบเลย”เมื่อได้รับการอนุมัติจากกรดลแล้ว เด็กน้อยก็เอื้อมมือไปหยิบเบค่อนม้วนเข้าปากทันทีจริงๆ แล้ววิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีและเหมาะสำหรับเด็ก เพราะเขาจะได้ใช้นิ้วของเขาทดสอบความร้อนของอาหารก่อนที่จะเอาเข้าปาก มันจึงค่อนข้างจะสะดวกสบายพอกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว กรดลก็ไม่ได้ตอบรับคำขอที่อยากจะอยู่ต่อของเด็กน้อย แล้วให้อาร์มไปส่งเขาที่โรงเรียนบางอย่างไม่เพียงแต่จะเอาแต่ความสะดวกสบาย แต่มันต้องมีหลักมีเกณฑ์ด้วยในตอนที่ธัชชัยตื่นขึ้นมาบนเตียงนั้น เวลาก็ได้ล่วงเลยไปกว่าบ่ายแล้วพอเมื่อคืนได้รับการรักษา ทั้งร่างของเขาจึงสบายปลอดโปร่งไปหมด“ตะวัน!”เดิมทีเขาอยากที่จะหันไปกอดลูกชาย แต่กลับพบว่าไม่มีคนอยู่แล้ว ธัชชัยจึงตื่นขึ้นมาในทันที“เอาไปส่งที่โรงเรียนให้แล้ว” กรดลพูดพลางใช้เข็มฉีดยาดูดยาขึ้นมาแน่นอนหล่ะว่าธัชชัยเชื่อกรดล ถึงแม้ชายหนุ่มจะปากไม่ดี แต่ก็ทำดีกับเขามาโดยตลอด“ทำไมไม่ปลุกฉันหล่ะ? นี่กี่โมงแล้วเนี่ย? ”ธัชชัยหยีตามองเวลาที่โทรศัพท์ ก่อนจะพบว่ามันบ่ายกว่าแล้ว!ของเหลวสีฟ้าถูกฉีดเข้าสู่ร่างกายของธัชชัย ความเจ็บปวดทำให้เขาบิดคิ้วไปเล็กน้อย“หิวมั้ย?” เมื่อกรดลฉีดยาให้ธัชชัยเรียบร้อยแล้ว จึงเอ่ยถามขึ้นเมื่อถูกถามแบบนั้น เขาจึงรู้สึกหิวจริงๆ ขึ้นมาเมื่อกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ธัชชัยก็หยิบบัตรเครดิตขึ้นมาจากกระเป๋า“ในนี้มีเงินหลายสิบล้าน นายเอาไปและออกไปจากนี่ซะ นี่เป็นถิ่นของวิศาล แกไม่ควรทำอะไรที่ประมาทแบบนี้ ชาเร็วเขาก็จะรู้ว่านายอยู่ที่นี่”จากการกระทำตอนนี้เมื่อเทียบกับเมื่อคืนแล้ว มันค่อนข้างจะขัดแย้งอย่างเห็นได้ชัดเมื่อคืนยังบอกให้เขาคอยดูอำเภอพัดรักให้ ตอนนี้ก็ให้บัตรเครดิตเพื่อที่จะให้เขาออกจากเมือง S ไปเนี่ยนะ?“ช่วงนี้ขาดเงิน งั้นบัตรนี่…ฉันรับไว้ก่อนละกัน" กรดลรีบเอาบัตรเครดิตของธัชชัยไป“ฟังดูจากน้ำเสียงแล้ว ไม่อยากจะออกจากเมือง S รึยังไง? นี่นายกะจะสู้กับวิศาลให้ตายไปข้างเลยเหรอ? ” ธัชชัยขมวดคิ้วกรดลสบตาธัชชัยลึก ดูเหมือนจะจ้องให้เข้าไปเห็นความคิด “ช่วยฉันพูดกับวิศาลสิ ว่าถ้าเขาคิดที่จะทำร้ายฉันอีกสักครั้งเดียว มันก็จะเท่ากับการที่เขาฆ่าตัวตาย”กรดลไม่ได้พูดด้วยความเจตนาที่ไม่ดี แต่ทุกพยางค์ที่ออกมานั้นก็ทำเอาคนฟังถึงกับขนลุกความหมายของเขาค่อนข้างจะชัดเจน ถ้าวิศาลมาทำร้ายเขาอีกครั้ง เขาจะไม่ถอนแล้วซ้ำยังจะเริ่มตอกกลับอีกด้วยธัชชัยมองกรดลเงียบๆ บางเวลาเขาก็รู้สึกเหมือนว่ากรดลนั้นเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่งธัชชัยถอนหายใจก่อนจะถามต่อ “นี่นายคิดที่จะฆ่าเขาจริงๆ อย่างนั้นเหรอ? ”“ฉันแค่ปกป้องตัวฉันเองเท่านั้น!” กรดลตอบเสียงเย็นชาฟังแล้วมันก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะวิศาลนั้นคิดที่จะฆ่ากรดลจริงๆ แต่ใครจะรู้หล่ะว่าจะฆ่าเขาไม่ได้!“นายมีความแค้นอะไร….กับเขากันแน่? ทำไมถึงได้คิดเกลียดกันเข้ากระดูกดำแบบนี้?” มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถามคำถามนี้กับกรดลและวิศาลแต่ทั้งสองคนก็ต่างไม่ยอมตอบเมื่อรู้ว่ากรดลไม่ตอบ ธัชชัยจึงลุกขึ้นยืน “ฉันไม่ยุ่งเรื่องพวกแกแล้ว อยากตายกันยังไงก็ตายกันไปเลย! ”แต่เมื่อเดินไปถึงหน้าประตูแล้ว อยู่ๆ ธัชชัยก็ถามขึ้นมาอีก “กรดล นายว่าถ้านายกับวิศาลตกน้ำไปพร้อมกัน ฉันจะเลือกช่วยใคร? ”……แวววัยที่อยู่โรงพยาบาลยังไม่สามารถกลับบ้านได้ ดังนั้นวัจสาจึงทำซุปไก่แล้วเอามาให้เธอ ได้ยินว่าเมื่อวานคุณปู่ที่ป่วยอยู่นั้นมาเยี่ยมแวววัยที่โรงพยาบาล นั่นก็แสดงให้เห็นว่าตระกูลดาราจักรนั้นดีกับแวววัยมากพอสมควรแต่วัจสาไม่คิดเลย การที่เธออยู่โรงพยาบาลนั้นเธอจะเจอกนิษฐาได้ หรือจริงๆ แล้วอาจจะต้องพูดว่าสามคนครอบครัว เพราะมีวรพลกับมิ้นอยู่ด้วยเด็กน้อยที่กอดคอวรพลไว้ ส่งเสียงร้องอย่างอารมณ์ดีเรียกแม่ของเธอ “แม่คะ มาจับมิ้นเร็วเข้า! ”มิ้นนั้นเป็นเจ้าหญิงของบ้านตระกูลศรีทองจริงๆ ไม่เพียงแต่เธอจะได้ความรักจาพ่อและแม่ของเธอ แม้แต่ธัชชัยที่เป็นพ่อเล็กก็รักเธอสุดหัวใจเมื่อนึกไปถึงลูกชายตะวันของเธอแล้ว วัจสาก็อดที่จะรู้สึกเจ็บหัวใจขึ้นมาไม่ได้