วิวาห์ร้อน แต่งผิดรักจริง - ตอนที่ 839 เป็นน้องชายหรือว่าน้องสาว
ตอนที่ 839 เป็นน้องชายหรือว่าน้องสาว
วิศาลไม่ได้สนใจกับคำเตือนของธัชชัย ถ้าหากว่าเขาลงไปตายอยู่ข้างถนน สิ่งที่เขาเสียใจก็แค่ว่าเขาไม่อาจจะพิชิตใจธัชชัยได้เท่านั้น
“ฉันไม่อยากได้อะไร ฉันอยากได้แก”
“ไสหัวไป ภายในครึ่งชั่วโมงลูกฉันจะต้องถึงโรงแรม ไม่อย่างนั้นหล่ะก็….นายเองก็รู้ดี!”
โดยไม่รอว่าวิศาลจะตอบอะไรกลับมา ธัชชัยก็วางสายไป
วัจสาที่เดินออกมาจากห้องน้ำ นั้นดูสวยงามบริสุทธิ์ที่ทำให้คนมองไม่อาจจะถอนสายตาออกไปได้
เพียงแต่ในเวลากันนั้นใบหน้าของเธอกลับเปื้อนไปด้วยความเคืองโกรธ
ทำไมยังโกรธอยู่อีกเล่า? หรือว่ายังให้คุณกินไม่พอ? ”
เสียงของธัชชัยฟังดูชั่วร้าย ในตาลูกท้อสวยเต็มไปด้วยความหรรษา นั่นทำให้ใบหน้าของหญิงสาวมึนตึงลงไปอีก
วัจสามองขวางจ้องไปยังธัชชัย ก่อนจะหยิบเอารองพื้นมาจากกระเป๋าก่อนจะโบกลงไปที่หน้าบริเวณแก้มที่เขาทำรอยเอาไว้อย่าง‘ตั้งใจ’
นี่เขาจะไม่ปล่อยให้เธอไปเจอหน้าใครเลยหรือยังไง?
“ไม่ต้องทาหรอกน่า อีกเดี๋ยวก็โดนผมกินเข้าไปอีกไม่ใช่เหรอ อีกอย่างมันก็เป็นสารเคมีด้วย ผิวธรรมชาติของคุณหน่ะสวยที่สุดแล้ว!”
ท่าทางของชายหนุ่มดูเกียจคร้าน แต่สายตากลับราวกับหาป่าเตรียมจู่โจม
วัจสารู้สึกว่าใบหน้าของเธอเรื่อร้อนขึ้น ไม่คิดเลยว่าประเดี๋ยวเดียวก็โดนชายหนุ่มตกเอาอีกแล้ว จากที่โกรธๆ อยู่ก็ละอายจนโกรธไม่ลง
แต่พอเสี้ยววินาทีถัดมา เธอก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คิดจะทำมาก่อน
เธอหยิบแบงก์สีแดงในกระเป๋าขึ้นมาสองใบ ก่อนจะโยนมันไปยังบนเรือนร่างของชายหนุ่ม
“อ่ะนี่ ค่าบริการ! ”
ชายหนุ่มตกตะลึงไปชั่วครู่ ก่อนจะหยิบแบงก์สองใบนั้นขึ้นมา แล้วก็ห่อปากน้อยๆ “เฮ้ ค่าตัวผมแค่สองร้อยเองเหรอเนี่ย? ”
“สองร้อยเนี่ยก็มากพอสำหรับค่าแรงของคุณแล้ว!”
วัจสาไม่อยากจะหน้าแดงใจเต้นรัวเลยจริงๆ แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นทั้งสองอย่างที่เธอไม่อยากเลย
คำพูดที่กล้า ที่ออกมาจากคนรักษ์นวลสงวนตัวอย่างวัจสาที่ไม่เคยคิดจะพูดมาก่อน
ธัชชัยพินิจใบหน้างามของหญิงสาวเหมือนกำลังเฟ้นหาความหมาย “แล้วคุณวัจสาคิดว่าการบริการของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ? ”
“กะ…ก็ดี! ทำได้ดีเลย! ”
วัจสารีบปิดตาลงทันที เธอไม่อยากที่จะเห็นแววตาที่ชั่วร้ายแบบนั้นของเขา
เมื่อเปรียบเทียบเซ็กกับผู้ชายคนนี้ ตัวเธอเองก็เหมือนเป็นเด็กใหม่ที่เปรียบกับปรามจาร เหมือนดูถูกตัวเองชัดๆ!
“เป็นผมที่ไม่ดีเอง ที่ทำให้คุณวัจสาพอใจไม่ได้ใช่มั้ยครับ?”
ยิ่งพูด ชายหนุ่มก็ยิ่งเคลื่อนตัวมาใกล้ๆ เธอเธอรู้สึกถึงความร้อนที่ออกมาจากกายชายหนุ่มจากด้านหลัง พร้อมๆ กับที่เห็นร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มสะท้อนจากกระจกวัจสาปิดตาทันทีด้วยความตกใจ เพื่อไม่ให้ตัวเองมองภาพเขาบนกระจก “ธัชชัย ช่วยไปใส่เสื้อผ้าที่ได้มั้ย? ”นี่เขาเป็นฮิสทีเรียหรือเปล่าเนี่ย?“ไม่ใช่ว่าเคยเห็นมาแล้วหรือไง ยังอายอยู่อีกเหรอ? หืม น่ารักจังเลย คุณภรรยา”ธัชชัยลุกขึ้นไปนั่งที่เก้าอี้ยาว ที่สามารถคล้องเอวหญิงสาวได้อย่างพอดิบพอดี“ธัชชัยพอได้แล้วน่า รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเราจะได้ไปรับตะวันกัน!”ที่โพร์ทองนั้นไม่ใช่สถานที่ที่ผู้หญิงจะไปได้แต่เพียงผู้เดียว ดังนั้นวัจสาจึงให้ธัชชัยไปด้วย“ให้วิศาลมาส่งแล้วหล่ะ รู้ว่าคุณหน่ะคิดถึงลูกของเรา”ธัชชัยใช้หนวดที่ขึ้นใหม่เป็นตอนั้นลูบไล้ตรงบริเวณสันคอของวัจสา นั่นทำให้เธอจั๊กจี๋ยุบยิบแต่กลับทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างเห็นได้ชัด“ธัชชัย…ถ้าาา…ถ้าเกิดว่าฉันไม่ใช่แม่ของตะวัน คุณก็จะไม่เป็นเหมือนกับตอนนี้ ที่เอาแต่ไล่ตามตื๊อฉันไปที่บ้านตระกูลเดิมขุนทดเหมือนอย่างตอนนี้ใช่มั้ย?”วัจสาค่อยๆ หันศีรษะของเธอไปจ้องมองใบหน้างามของเขา ด้านชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะลูบไล้ใบหน้าของหญิงสาว“สำหรับผมแล้วหน่ะ ความรักมันต้องดูกันที่ขั้นตอน ไม่ใช่ดูเอาตอนผลลัพธ์ ที่พวกเรามาถึงทุกวันนี้ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คือความรักความเข้าใจทั้งนั้น….มันไม่ใช่เรื่องที่อาจจะอธิบายได้อาจเป็นเหมือนดั่งโชคชะตา”ชายหนุ่มพูดเสียงแผ่วเบา แต่มันราวกับสามารถดึงดูดจิตใจของหญิงสาวให้ร่องได้น้ำตาของหญิงสาวร่วงเผาะๆ“ธัชชัยจริงๆ …..แล้วฉัน……”จริงๆ แล้วเธออยากจะบอกกับธัชชัยมากๆ เลยว่า เธอรักเขามานานแสนนานแล้ว ตั้งแต่ได้เจอครั้งแรกที่บ้านตระกูลศรีทอง จริงๆ อาจจะเรียกได้ว่ารักแรกพบ เพียงแต่ตอนนั้นเธอยังไม่รู้ตัวต่อมาเธอก็ต้องคอยโฮลตัวเองจากการที่ถูกทำให้รู้สึกต่ำต้อย ทั้งยังเผชิญกับความเป็นความตาย เพื่อที่จะปกป้องตัวเธอเองกับลูกของเขาแต่ชายหนุ่มก็ไม่หยุดที่จะหลอกลวงเธอ นั่นทำให้เธอไม่มั่นใจในความรักระหว่างเราทั้งคู่ ไม่กล้าที่จะไปต่อแต่เด็กนั้นเป็นผลแห่งความรักของเธออยู่ๆ เธอก็พูดอะไรไม่ออกขึ้นมา ทำได้เพียงกอดชายหนุ่มแน่น กัดไปที่บริเวณคอเขาก่อนจะร้องไห้ออกมา……วิศาลเป็นคนพาตะวันมาส่งด้วยตัวเองจริงๆ แล้ววิศาลนั้นเป็นคนใหญ่คนโตและมีชื่อเสียง มันไม่ค่อยจะดีนักที่เขาจะมาที่โรงแรม ซึ่งธัชชัยก็ได้เตือนเขาไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เหมือนว่าเขาจะแสร้งทำว่าตัวเองหูหนวกไปซะอย่างนั้น“หม่ามี๊….หม่ามี๊ที่รัก” มีเสียงดังขึ้นจากหน้าประตู นั่นทำให้วัจสามีความสุขขึ้นทันที เธอจึงรีบออกไปเปิดประตูให้“ตะวัน!” วัจสารับเด็กน้อยเข้ามากอดแน่นๆ ไม่รู้ว่าทำไมแค่ไม่กี่ชั่วโมงที่ไม่ได้เจอ เธอถึงได้คิดถึงลูกมากขนาดนี้“คุณวิศาล ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่เอาตะวันมาส่งให้”วัจสารู้ว่าวิศาลนั้นไม่ใช่คนที่จะไปเล่นด้วย เธอจึงค่อนข้างจะนอบน้อมกับเขาวิศาลเพียงพยักหน้าอย่างไม่ได้สนใจอะไร ก่อนจะมองไปที่ในห้องแล้วถามขึ้น “ธัชชัยหล่ะ? ”วัจสามองไปที่ห้องน้ำก่อนจะตอบ “อาบน้ำอยู่ค่ะ”วิศาลจึงเดินผ่านเข้าไปเด็กน้อยพินิจมองไปที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างใกล้ชิด ก่อนจะพึมพำออกมาอย่างไม่พอใจ “หม่ามี๊ ธัชชัยจูบหม่ามี๊จนกลายเป็นแบบนี้เลยเหรอเนี่ย? บวมไปหมดแล้ว! ”นั่นทำให้เธอรู้สึกอายมาก “มะ…ไม่ใช่นะจ๊ะ ก็แค่หอมสองสามครั้งเท่านั้นเอง”“ผมไม่เชื่อ วิศาลบอกว่าพ่อกับแม่กำลังปั๊มลูก แล้วยังบอกผมอีกว่าอีกเดี๋ยวผมจะมีน้องชายไม่ก็น้องสาว แล้วพ่อกับแม่ก็จะไม่รักผมอีกแล้ว”เด็กน้อยพูดอย่างหัวเสียเล็กน้อย“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงหล่ะจ๊ะ? ยังไงซะตะวันก็จะเป็นยอดดวงใจของหม่ามี๊อยู่ดี”ทำไมวิศาลถึงได้พูดอะไรแบบนี้กับเด็กห้าขวบได้นะ!“ไม่ใช่ว่าในท้องตอนนี้มีเด็กน้อยอยู่ข้างในแล้วเหรอครับ?” เด็กน้อยใช้มือเล็กๆ ลูบที่หน้าท้องของเธอเบาๆ ดูเหมือนจะกลัวหน่อยๆ ว่าความรักของพ่อกับแม่ที่ให้เขามันจะถูกแบ่งไปให้คนอื่นไป“ตะวันจ้ะ ถ้าแม้ว่าหม่ามี๊จะมีน้องใหม่จริงๆ หม่ามี๊ก็จะร้องลูกเหมือนเดิมอยู่ดีวัจสาสามารถรับรู้และเข้าใจถึงความรู้สึกสูญเสียของเด็กน้อยได้อำเภอพัดรักเลี้ยงเด็กน้อยมาด้วยการปลูกฝังความคิดที่มันโหดร้าย เด็กน้อยจึงยอมรับไม่ได้ที่จะรู้สึกสูญเสียอะไรสักอย่าง ดังนั้นเด็กน้อยจึงรู้สึกสูญเสียมากกว่าที่เด็กน้อยวัยเดียวกันรู้สึก“หม่ามี๊….ตะวันก็รักหม่ามี๊มากๆ เลยนะครับ”เด็กน้อยคล้องคอกอดวัจสาผู้เป็นแม่ สายตาค่อยข้างผิดหวังวัจสาเพียงตบหลังปลอบ “ตะวันกินข้าวเย็นมาแล้วหรือยังครับ? ”“กินแล้วครับ หม่ามี๊หล่ะ?” เด็กน้อยถามกลับอย่างระมัดระวังที่ในห้องน้ำน้ำอุ่นโรยสายผ่านเนื้อแกร่งของธัชชัย และเมื่อได้ยินเสียงดังจากด้านหลัง ธัชชัยก็หันกลับไปอย่างระแวดระวัง“แกเองเหรอ? นี่มีมารยาทบ้างหรือเปล่าเนี่ย? ” ธัชชัยกรอกตามองวิศาลวิศาลเพียงพิงประตู มองธัชชัยด้วยแววตาลึก ดูเหมือนกำลังประทับใจในเรือนร่างของธัชชัย“นี่มากกว่าที่ฉันจินตนาการไว้อีกนะเนี่ย!” วิศาลพูดขึ้น ดวงตาของเขาหรี่ลดลง“ไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหน ถ้าไม่ได้ใช้มันก็เหมือนแค่ของตกแต่งเท่านั้นหล่ะ” ธัชชัยพูดเสียงเย็นชา “และของฉันก็ไม่เล็กด้วย เป็นแกนั่นแหล่ะที่ตาบอด!”เขาหยิบผ้าเช็ดตัวที่อยู่ด้านข้างเอามาพันตัวธัชชัยไม่ใช่คนไม่รู้เรื่องอะไร ดังนั้นความรู้สึกอะไรก็ตาม เขารู้ แต่ในสายตาเขานั้นถ้าไม่ล้ำเส้นหล่ะก็ นั่นไม่เป็นไร”“มันคงจะยากสำหรับคุณวิศาล ที่มาส่งลูกชายผมไกลถึงที่นี่”ธัชชัยได้ยินเสียงของลูกชายจากด้านนอกสายตาของวิศาลหรี่ลงเล็กน้อย เพื่อจะพินิจใบหน้าของธัชชัยได้อย่างชัดเจนก่อนจะพูดขึ้น ธัชชัย ถ้าฉันจัดการแกขึ้นมา มันจะเกิดอะไรขึ้น? ”“แกทำไม่ได้หรอก เพราะแกรู้แม่น้ำไม่มีทางไหลกลับ ถ้าจะให้เทียบ ทำไมแกไม่ลองทำกับแม่ของแกหล่ะ”ธัชชัยพูดเสียงแผ่วเบา แต่กลับรู้สึกเหมือนสายฟ้าฟาด“…เวรเอ้ย จะเปรียบอะไรก็เปรียบแต่มาเปรียบกับแม่ฉันเนี่ยนะ?”ในขณะที่ธัชชัยเดินผ่านไป วิศาลก็กระแทกแขนซ้ายของเขาอย่างตั้งใจ “ได้ยินว่าไอ้เจ้าโสธรจะออกมาแล้ว เดี๋ยวเรามารวมตัวกันหน่อยมั้ย? ”“ฉันก็ต้องดูแลลูกเมียฉัน ถ้าจะไปแกก็ไปสิ”ธัชชัยเดินผ่านออกไปอย่างไม่มองหน้าหลังจากที่เดินออกไปแล้ว เขาก็เห็นว่าสองแม่ลูกกอดกันแน่น วัจสานั้นเหมือนกับกำลังก้มกระซิบอะไรเด็กน้อยอยู่ ซึ่งเด็กน้อยก็มีใบหน้าหมองเศร้ากอดรอบคอของวัจสาไว้“ลูกรัก เป็นอะไรครับ? มาให้พ่อกอดหน่อยเร็ว”ธัชชัยอยากที่จะใกล้ชิดกับลูกชายสักหน่อย แต่เด็กน้อยกลับหันมา ดูสีหน้าเหมือนไม่อยากเข้าใกล้พ่อเขา“วิศาล แกทำอะไรลูกฉันเนี่ย?”ธัชชัยคิดไปถึงว่ามันเป็นเหตุผลจากที่เขาให้ลูกชายอยู่กับวิศาลในช่วงบ่าย“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ก็แค่ตีเขาไปทีนึงเท่านั้น”วิศาลไม่ได้เป็นคนที่ยอมแพ้อะไร เขาถึงแกล้งเอาเรื่องนี้มาพูดเพื่อที่จะให้ธัชชัยหันมาสนใจเขา และนั่นจะยิ่งทำให้เขามีความสุข“โอ้โหพ่อมึงเหอะ” หัวใจดวงน้อยๆ ของธัชชัยแทบจะแตกสลาย เดินเข้าไปอยากจะต่อยวิศาลสักหมัดวัจสาเองก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ถามลูกชายเบาๆ “ตะวันเราไปกันเถอะ ปล่อยให้พ่อของลูกกับลุงวิศาลตีกันให้เสร็จก่อนค่อยคุยกัน”เด็กน้อยพยักหน้า แต่ดวงตายังจ้องมองไปที่พ่อของเขาที่กำลังจะจัดการกับวิศาลในขณะที่สองแม่ลูกกำลังก้าวไปที่ทางเดินนั่นเอง เด็กน้อยก็ถามขึ้นอย่างไม่ค่อยสบายใจ “หม่ามี๊ ธัชชัยจะเอาชนะวิศาลได้มั้ย ร่างกายเขายังอ่อนแอขนาดนี้? ”“ไม่ต้องห่วงหรอก ถึงสู้ไม่ได้ เขาก็หาวิธีจนได้หล่ะน่า”